ย้อนกลับไปเล็กน้อย...
ลีอันทูสเดินอย่างสบายอารมณ์ไปเรื่อย ๆ ทว่าเมื่อพ้นเขตที่มีผู้คนแล้ว เขาก็เปลี่ยนมาวิ่งด้วยความเร็วสูงทันที ความเร็วระดับนี้แม้แต่นกที่กำลังสยายปีกบนฟากฟ้ายังอาย สมัยเป็จอมมารเขาเคยวิ่งเล่นไปทั่วเมืองโดยไม่มีใครจับได้มาแล้ว
แน่นอนว่าตัวเขาในตอนนี้สามารถข่มขู่คนขับรถม้าให้พาไปส่งได้ แต่นั่นคงทำให้เื่วุ่นวายจนเรียกพวกน่ารำคาญมาเป็โขยง ที่สำคัญ เบ็ตตี้จะเดือดร้อนเพราะไปโรงเรียนสายเอาน่ะสิ
เขากลับมาสร้างความปั่นป่วนก็จริง แต่คนที่เขารักทุกคน เขา้าช่วยไว้ทั้งหมด ไม่สร้างปัญหาให้ใครอีก
ส่วนภาพลักษณ์ ชื่อเสียงหรือแม้กระทั่งชีวิต ก็ช่างมัน ยังไงก็จะตายอยู่แล้ว
ร่างสูงเดินเข้าห้องเรียนยามเช้าตรู่อย่างรวดเร็ว ทว่าเมื่อกวาดสายตามองไปรอบ ๆ กลับไม่พบใครสักคน ทั้ง ๆ ที่ปกติเมื่อเขามาถึง ทุกคนจะนั่งโต๊ะกันหมดแล้ว
“เรี่ยวแรงของจอมมารเยอะชะมัด ข้าเร็วกว่าเบ็ตตี้อีกเหรอเนี่ย”
พูดไม่ทันขาดคำ เสียงหวานก็ดังขึ้นด้านหลัง
“อ้าว ท่านพี่มาแล้วเหรอคะ”
“เบ็ตตี้ เ้ามาเร็วนะเนี่ย”
“ท่านพี่มาเร็วกว่าข้าอีกค่ะ ถ้าไม่เห็นตอนเดินออกมา ข้าคงนึกว่าท่านเกาะหลังคารถม้ามาโรงเรียน”
“ข้าจะไปเกาะหลังคารถม้าได้ยังไง ปีนหลังคาบ้านมาต่างหาก”
“คะ เมื่อกี้ท่านพี่พูดว่าอะไรนะ”
“อ๋อเปล่า บอกว่ารีบวิ่งมาสุดชีวิตน่ะ”
“พอไม่ต้องทำงานหนักท่านพี่คงมาโรงเรียนเร็ว ๆ แบบวันนี้ได้ จอร์แดนใจร้ายจริง ๆ” หญิงสาวหน้างอ “ข้าขอโทษนะคะที่ช่วยท่านพี่ไม่ได้เลย”
“ไม่ใช่ความผิดของเ้าหรอก แค่เ้าเอาตัวรอดในคฤหาสน์หลังนั้นคนเดียวโดยไม่โดนคุณหญิงเพ่งเล็งข้าก็ดีใจมากแล้ว”
“นางคิดจะส่งข้าออกไปแต่งงานหลังเรียนจบ จึงเมินข้าเพราะเห็นว่าไม่อันตรายค่ะ คล้ายกับหมูที่ถูกขุนจนอ้วนเพื่อรอเชือดเลย”
“ใครว่าเ้าคือหมูรอเชือด นางถูกเรียกว่าคุณหญิง ๆ เพราะยังไม่แต่งงานกับเ้านั่นสักที ยังไม่ถูกยอมรับเข้าตระกูลก็วางอำนาจแล้ว ถ้าจอร์แดนทำตัวไม่ได้เื่ นางก็แค่รอวันโดนเขี่ยทิ้ง”
“นางจะถูกท่านพ่อเขี่ยทิ้งเหรอคะ”
“ไม่เ้านั่นก็ข้า ที่จะเขี่ยนางออกไป” ลีอันทูสยกยิ้ม “ถึงวันนั้นคงได้รู้ว่าใครคือคนที่เชือดนาง”
ระหว่างที่กำลังพูดอยู่เบ็ตตี้กลับเงียบไป เขาจึงหันไปมองนาง เห็นน้องสาวกำลังอมยิ้มเล็ก ๆ ไม่ได้เอ่ยเถียงออกมา หัวคิ้วของเขาจึงขมวด
“ยิ้มอะไร ข้านึกว่าเ้าจะบอกว่าข้าโม้”
“ข้าคิดว่าท่านพี่อาจจะทำได้ก็ได้ วันนี้ท่านกล้าเล่นงานจอร์แดน แถมยังมาโรงเรียนก่อนข้าอีก น่าเหลือเชื่อจะตาย”
ลีอันทูสเลิ่กลั่ก “น่าเหลือเชื่อตรงไหน ข้าเดินมาตามปกติ ม้ามันอ่อนแอต่างหากถึงได้ช้ากว่าข้า”
“ม้าของเราน่ะหรือจะอ่อนแอ วิ่งเร็วจนหัวข้าะเืน่ะสิคะ”
“น้องสาวของข้าพูดเกินจริงไปแล้ว ถ้าวิ่งจนหัวะเื ม้าตัวนั้นก็มีปัญหาแล้วล่ะ”
เบ็ตตี้หรี่ตาพยายามจับผิดพี่ชายแต่สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรกลับมา นางจึงยอมแพ้ในที่สุด ไม่ใช่เพราะไม่มีพิรุธ แต่เพราะไม่รู้จะเค้นถามจากคนมีพิรุธขนาดนี้ยังไงต่างหาก
ม้าตระกูลเราไม่วิ่งเร็วเกินไปก็จริง มันรู้หนักเบา เวลานั่งบนรถจึงไม่เจ็บก้นนัก กระนั้นก็ไม่มีทางที่มนุษย์จะวิ่งเร็วกว่าม้า อย่างน้อยถ้าพี่ชายวิ่งมา เขาควรจะเหงื่อแตก
“แบบนี้ก็ดีแล้ว พี่โดนคนอื่นนินทาว่ามาสายตลอด ไม่ได้รู้เลยว่าพี่ทำงานหนักขนาดไหน”
“อ๊ะ จะว่าไป โดนนินทาต่อก็ดีนะ”
“คะ?”
“เบ็ตตี้ ไว้เจอกันตอนครูอ้าปากสอนได้สองคำนะ”
ว่าแล้วร่างสูงก็โบกมือลาแล้วเดินออกจากห้องเรียนไป ไม่อธิบายนางสักคำ
เบ็ตตี้ “…”
ลีอันทูสแอบหัวเราะกับท่าทางของฝาแฝดคนน้อง เขาไม่อยากสร้างความลำบากให้เพื่อนในกลุ่มตัวเองก็จริง แต่ข่าวลือแย่ ๆ ยังต้องมี ไม่อย่างงั้นเวลาเป็จอมมารจะลำบากตอนโน้มน้าวให้ทุกคนฆ่าเขาน่ะสิ
“แต่ถึงไม่พยายาม ทุกคนก็เกลียดข้าอยู่แล้วนี่นา”
บางทีคงมีแต่น้องสาวที่ชอบเขา เราเกิดมาพร้อมกัน หน้าเหมือนกัน ถูกผูกติดกันด้วยคำว่าฝาแฝด แต่เขากลับทำให้เบ็ตตี้ลำบากมากมายจริง ๆ นางคงจะมีชีวิตที่ดีถ้าไม่มีพี่ชายแบบนี้
ลีอันทูสเดินเรื่อยเปื่อยอย่างสบายใจ เพื่อถ่วงเวลาให้เข้าเรียนสายแล้ว นี่ถือเป็เื่ที่ทำให้เขาอารมณ์ดี! อาจเพราะเขามาสายด้วยตัวเองไม่ใช่เพราะทำงานหนัก
“คิก ๆ บางทีคนรับใช้ที่บ้านอาจจะรอคิดบัญชีกับข้าอยู่ก็ได้”
ขณะนั้นเอง ั์ตาสีแดงโกเมนของลีอันทูสก็เหลือบไปเห็นคาริสกำลังฝึกดาบอยู่ภายในสวนของโรงเรียน
เส้นผมสีทองที่เปียกเหงื่อเล็กน้อยรับกับใบหน้าหล่อเหลาที่จริงจังกับทุกสิ่ง คาริสจะเป็ผู้กล้าเพียงคนเดียวที่จบการศึกษาด้วยคะแนนสูงสุดในประวัติศาสตร์ แถมยังบรรลุชีพจรเวทระดับห้าแล้วด้วย
ชาติก่อนเขาตามติดคาริสทุกวันอย่างไม่ลดละ เพราะชอบมากจนถึงขั้นหลงใหลจึงสร้างความรำคาญให้คาริสและเพื่อนในกลุ่มมากมาย อีกทั้งยังทำให้น้องสาวลำบากนับครั้งไม่ถ้วน นางเป็คนขอร้องทุกคนให้เอาเขาเข้ากลุ่ม กลัวว่าพี่ชายฝาแฝดจะเอาตัวไม่รอด
ถ้าเขาสร้างปัญหาอะไรขึ้นมา คนที่เดือดร้อนก็คือเบ็ตตี้
“ต่อจากนี้จะไม่มีอีกแล้วล่ะ แม้จะชอบมาก ข้าก็จะอดทน”
ลีอันทูสพยักหน้ากับตัวเองในใจ ทว่าเขาเผลอเดินเข้ามาในรัศมีของคาริสแล้ว เดินหลบออกไปตอนนี้อาจจะถูกเห็นตัวได้ ไม่อยากถูกเข้าใจผิดว่ามาตามติดเหมือนเมื่อก่อนเท่าไร
คงเพราะเรียนจบไปนานเลยลืมสนิทว่าคาริสมักจะมาฝึกดาบที่นี่
“จะเดินหลบออกไปยังไงล่ะเนี่ย” เขาเกาหัว
ฉับพลันสายตาก็เหลือบไปเห็นห้องเก็บของอยู่แถวนั้นพอดี ในสวนอันสวยงามนี้มีห้องเก็บของเล็ก ๆ วางแหมะไว้ด้วยเหตุผลจากผู้อำนวยการว่า ‘ภายในโรงเรียนไม่มีห้องเหลือแล้ว’ ตอนแรกเขาคิดว่ามันมองแล้วไม่สบายตาเอาซะเลย ตอนนี้กลับอยากขอบคุณผู้อำนวยการ
เขาได้ที่หลบแล้ว!
เมื่อเห็นทางรอด ร่างสูงก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องเก็บของโกโรโกโสนั่นทันที ทว่าเสียงปิดประตูน่าจะดังไปหน่อย คาริสที่กำลังฝึกดาบอย่างตั้งใจจึงหันขวับ!
“นั่นใคร!”
แมวจ้า
“ถ้าไม่ตอบข้าจะลากเ้าออกมา!”
จบสิ้นแล้ว!!
แอ๊ด...
เสียงเปิดประตูเหล็กที่เต็มไปด้วยสนิมส่งเสียงประหลาดออกมา ชายเ้าของเส้นผมสีทองเดินเข้ามาอย่างช้า ๆ แล้วกวาดสายตาไปทั่ว ห้องเก็บของเล็ก ๆ นี้มีฝุ่นจับหนา ข้าวของที่ไม่ได้ใช้วางกองกันเต็มไปหมด ทว่ากลับมีบางอย่างผิดปกติ...ขากางเกงของใครบางคนโผล่ออกมาจากผ้าคลุมเล็กน้อย บางทีอาจไม่ต้องเดาตัวคนร้ายแล้วก็ได้
“ออกมาซะ ในตอนที่ข้ายังใจดี”
พรวด!!
ทันใดนั้นลีอันทูสก็ยืนขึ้นด้วยความลนลาน
“ขะ...ขอโทษข้าไม่ได้—เหวอ!!”
เพราะเขาลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว คาริสจึงใจนล้มลงไปส่วนเขาที่เห็นอีกฝ่ายล้มแถมยังลุกขึ้นมาแบบไม่มีอะไรประคองจึงล้มตามลงไปอย่างรวดเร็ว
ตึง!!!
เนื้อตัวของเราแนบชิดติดกัน หากมันมีแค่นั้นเขาคงพอจะรอดชีวิตไปได้ ทว่าริมฝีปากของเราก็ประกบกันด้วย ให้ตายเถอะเหมือนรำลึกถึงเื่เก่า ๆ สมัยที่ดาบเสียบทะลุท้องจนเขาใกล้ตาย...แต่ตอนนี้เขากำลังจะตายอีกรอบแล้ว!!!
“ขะ...ขอโทษ!”
เขารีบผละออกแล้วลุกจากตัวของคาริสอย่างลนลาน กระนั้นมันก็ไม่อาจดับความโกรธในใจของคาริสลงได้ มือหนาจับแขนของเขาอย่างแรงราวกับไม่อยากให้เหยื่อหนีไปไหน
“ข้าบอกแล้วไงว่าอย่าใช้วิธีน่ารังเกียจแบบนี้อีก”
“ไม่ใช่นะ! ข้าไม่ได้ชอบเ้าแล้ว ไม่ได้ตั้งใจทำแบบนี้จริง ๆ!”
“จะแก้ตัวว่ามาเดินเล่นแถวห้องเก็บของรึไง คิดว่าข้าจะเชื่อเหรอ!”
“ข้ามาเดินเล่นจริง ๆ นะ”
“ลีอันทูส!”
“ข้ารู้ว่าเ้าโกรธและไม่เชื่อข้า แต่ข้าสัญญา ต่อจากนี้จะเป็เพื่อนกับเ้าแทน ไม่สร้างปัญหาในกลุ่มอีกแล้ว”
“หึ คนอย่างเ้าคงวางแผนอะไรอีกล่ะสิ เ้าพูดเพื่อให้ผ่านสถานการณ์นี้ไปงั้นเหรอ”
ลีอันทูสทำหน้างอ “เ้าไม่เชื่อข้าเหรอ”
คาริสชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวต่อ “ข้าไม่เชื่อ แล้วใครบอกจะเป็เพื่อนกับเ้า ฝันไปเถอะ!”
เ้าของผมสีทองเหวี่ยงแขนของลีอันทูสออกอย่างแรงราวกับเขารังเกียจคนที่ตัวเล็กกว่าจนไม่อยากเข้าใกล้ กระนั้นลีอันทูสก็ไม่ยอมแพ้ มือขาวจับมือหยาบของคาริสไว้แน่นแล้วยิ้มกว้าง
“งั้นไม่เป็เพื่อนก็ได้ เ้าจะคิดว่าข้าเป็ส่วนเกิน เป็คนนอกเหมือนที่ผ่านมาก็ได้ ขอแค่ให้ข้าอยู่ในกลุ่มอย่างเงียบ ๆ ก็พอ ข้าจะไม่สร้างปัญหาแล้วจริง ๆ นะ ๆ น้า...”
เขามองอีกฝ่ายอย่างมีความหวังว่าการขอร้องครั้งนี้จะสำเร็จ ทว่าคาริสกลับสะบัดมือเขาทิ้งอย่างไม่ไยดีพลางหันหน้าไปอีกทาง
“ถ้าเ้ายังสร้างปัญหาอยู่อีก ข้านี่แหละจะกำจัดเ้าก่อนจอมมาร”
กล่าวจบก็เดินถือดาบออกไป ทิ้งจอมมารหนุ่มไว้คนเดียวในห้องเก็บของ หารู้ไม่ว่าจอมมารคนนั้นกำลังอมยิ้มดีใจอยู่
“เขาบอกจะฆ่าข้าเหรอ แทบจะรอไม่ไหวแล้ว” เขากุมแก้มแดง ๆ ของตัวเองเอาไว้ พยายามซ่อนความตื่นเต้นอย่างสุดความสามารถ ถึงจะไม่มิดก็ตาม
การตายด้วยน้ำมือของชายที่รัก แม้จะเ็ปมันก็ดีกว่าตายด้วยมือของใครไม่รู้ไม่ใช่เหรอ!
แน่นอนว่าลีอันทูสไม่ถือสาที่คาริสทำท่าทางรังเกียจเขา มันเป็เื่ที่เกิดขึ้นบ่อยจนชินแล้วและเขาก็ทำตัวน่ารังเกียจกับอีกฝ่ายไปมากมายจริง ๆ
ขณะเดียวกัน คาริสที่กำลังตรงไปห้องเรียนก็ขมวดคิ้วพลางลูบริมฝีปากของตัวเองอย่างไม่รู้ตัว
“ไม่ชอบแล้วอย่างงั้นเหรอ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้