บทที่ 22 ข้าจะกอดเ้าไว้
ดวงตาของหมีลายโลหิตนั้นดุร้าย บนร่างกายมีร่องรอยการาเ็หลายแห่ง ทำให้มันคำรามเสียงดังด้วยความเ็ป
“ข้าจะใช้กระบี่เจาะาแของมัน ส่วนเ้าก็ยิงธนูไปที่าแพวกนั้นซ้ำ ทำได้หรือไม่?” ฉู่อวิ๋นถามมู่หรงซิน
“เชอะ! วางใจเถอะ ต่อให้มือขวาข้าจะหัก แต่ลูกศรพลังิญญาของข้ายังคงแม่นยำไม่พลาดเป้า!” มู่หรงซินไม่พอใจเล็กน้อยที่ฉู่อวิ๋นสงสัยในความสามารถของนาง
นางพิงต้นไม้ใหญ่พยุงร่างกายเอาไว้ แล้วพูดว่า "เ้า...เ้าต้องระวังด้วยนะ!"
อย่างไรก็ตาม หมีลายโลหิตก็ยังคงเป็สัตว์ปีศาจระดับหก อีกทั้งความแข็งแกร่งและการป้องกันของมันก็เทียบได้กับสัตว์ปีศาจระดับเจ็ด ด้วยความแข็งแกร่งในตอนนี้ของฉู่อวิ๋น แม้จะเทียบได้กับนักรบระดับห้าของขอบเขตควบแน่นพลังปราณ แต่ก็ยังคงยากและอันตรายกับการต่อกรกับเ้าหมีร้ายตัวนั้น สัตว์ปีศาจระดับหกธรรมดามีพลังส่งเพียงสองพันจิน แต่หมีลายโลหิตมีพลังมหาศาลถึงสี่พันจิน!
พูดได้ว่าหากฉู่อวิ๋นโดนโจมตีเข้าที่จุดสำคัญ ด้วยพลังของเขาในตอนนี้แล้ว เขาจะต้องตายแน่นอน
ฉู่อวิ๋นมองไปข้างหน้า เขากัดฟันแล้วก้าวเท้าวิ่งพุ่งไปหาหมีลายโลหิตอย่างรวดเร็ว!
"โฮก!"
หมีลายโลหิตคำรามด้วยความโกรธ ยกอุ้งเท้าหมีขนาดใหญ่ขึ้น เหยียดกรงเล็บอันแหลมคมของมันออก แล้วรีบวิ่งไปหาฉู่อวิ๋น
"ชิ้งชิ้ง!"
หนึ่งมนุษย์หนึ่งสัตว์ปีศาจพุ่งเข้าหากัน ฉู่อวิ๋นะโขึ้นไปในอากาศ ยกกระบี่ขึ้นฟันในแนวนอน ลากปราณกระบี่แสงดาวสามคลื่นออกมา และฟันเข้าหาร่างของหมีลายโลหิตด้านล่าง!
เมื่อสักครู่นี้ ฉู่อวิ๋นใช้กระแสดาราสามครั้งเพื่อสังหารพยัคฆ์เตโช ตอนนี้ เขาพยายามทำเคล็ดลับเดิมซ้ำอีกครั้ง
เห็นปราณกระบี่แสงดาวซ้อนทับกันสามคลื่นกระทบร่างกายของหมี ด้วยเสียง "ฉึก" เนื้อก็ฉีกออกเป็าแและมีเืกระเซ็น
“กระแสดาราใช้ได้!”
ณ กลางอากาศ ตอนแรกฉู่อวิ๋นยกยิ้มด้วยความยินดี แต่จากนั้นเขาก็เห็นกรงเล็บั์สองอันโจมตีมาจากด้านล่างด้วยพลังอันท่วมท้น เขาฟันกระแสดาราใส่อีกหลายที ก่อนจะถอยกลับไปหลายสิบหมี่แล้วร่อนลงสู่พื้น
“เกือบไปแล้ว! ถ้าถูกกรงเล็บนี้ฟาดเข้า เกรงว่าร่างกายคงจะขาดเป็ท่อนๆ!”
เมื่อสักครู่นี้ ฉู่อวิ๋นถือกระบี่ไว้ในมือทั้งสองข้าง ตั้งรับการโจมตีจากกรงเล็บของหมีลายโลหิต มันยังคงส่งเสียงเ็ปตลอดเวลา
“ไม่ าแไม่ลึกพอ! าแพวกนี้ทำอะไรเ้าหมีน่าตายนี่ไม่ได้เลย!”
ฉู่อวิ๋นเงยหน้าขึ้นมองอย่างเคร่งเครียดก็เห็นหมีั์วิ่งเข้าหามู่หรงซิน
"อ๊ะ!"
เขาทนต่อความเ็ปที่ข้อมือ รีบยกกระบี่ขึ้นแล้ววิ่งตามไปสกัด!
“ประกายทมิฬ!”
"ควั่บ!"
ปราณกระบี่แสงดาวจำนวนมากถูกปล่อยออกมา มันงดงามและคมปลาบ พุ่งแทงเข้าที่ร่างของหมีลายโลหิตโดยตรง!
“ชิ้ง——”
ทันใดนั้น หมีลายโลหิตก็ถูกปกคลุมไปด้วยปราณกระบี่แสงดาวสามสิบหกมรรคา ร่างกายถึกใหญ่เปื้อนเืพยายามดิ้นรนที่จะเคลื่อนไหว
แต่าแจากประกายทมิฬกลับไม่ได้ลึกกว่ากระแสดารา
“นี่! ทำไมล่ะ?”
เมื่อมองดูาแเล็กๆ เ่าั้ ฉู่อวิ๋นก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ตระหนักได้ในทันใด
ท้ายที่สุดแล้ว ประกายทมิฬนั้นก็เป็การโจมตีแบบกลุ่ม มันสามารถออกแรงฟันสูงสุดได้ในระยะใกล้เท่านั้น แต่การเผชิญหน้ากับหมีลายโลหิตที่ทรงพลัง หากอยากเข้าใกล้ก็นับว่าหาเื่ตาย
"โฮก--"
เห็นได้ชัดว่าหมีลายโลหิตไม่พอใจฉู่อวิ๋นอย่างมาก มันหันกลับมาแล้วยื่นกรงเล็บั์ออกมาคว้าตัวฉู่อวิ๋นไว้ทันที!
“ฟิ้ว——”
ในขณะที่ฉู่อวิ๋นกำลังยกกระบี่ขึ้นป้องกัน ศรพลังปราณห้าดอกก็พุ่งข้ามความว่างเปล่าและแทงทะลุแผลที่หมีลายโลหิตได้รับาเ็เมื่อครู่นี้
"ฉึก!"
าแฉีกออกในทันที กลิ่นเืเข้มข้นโชยแตะจมูก
"โฮก!"
หมีลายโลหิตคำรามและถอยกลับไปหลายก้าว แน่นอนว่าคราวนี้มันเจ็บแล้วจริงๆ!
มู่หรงซินเหลือบมองไปที่ฉู่อวิ๋นอย่างอวดโอ้ เป็ทีว่า "ดูสิ ศรข้าแม่นยำมากใช่หรือไม่?"
ฉู่อวิ๋นพูดไม่ออกอยู่พักหนึ่ง ใน่เวลาวิกฤตินี้ ลูกสาวเ้าเมืองกลับยังคงคิดแค่เื่แพ้ชนะอยู่เต็มหัว
ฉู่อวิ๋นกัดฟันเดินต่อไป เขารีบะโไปข้างหน้า ปรากฏแสงสามสายพุ่งออกมาในอากาศราวกับสายฟ้า ประกายความดุร้ายถูกแผ่ออกมาเต็มที่!
"ควั่บ ควั่บ ควั่บ!"
คลื่นกระบี่รูปโค้งหลายลูกกระทบร่างกายของหมีั์อีกครั้ง ทำให้เกิดาแตื้นๆ เพิ่มขึ้น
กลางอากาศ ฉู่อวิ๋นะโบอกมู่หรงซินทันที "รีบยิงเร็วเข้า!"
“ได้!” มู่หรงซินพยักหน้า ยกคันธนูหยกขึ้นด้วยมือซ้าย และสร้างปัญจศรด้วยพลังจิต จากนั้นลูกศรก็พุ่งขึ้นไปในอากาศ!
“ฟิ้ว——”
ปัญจศรถูกยิงอย่างแม่นยำ กระทบเข้ากับาแที่เกิดจากดาราจรัสแสง เืพุ่งกระฉูดออกมา หมีลายโลหิตถอยกลับไปสองสามก้าว และคำรามซ้ำแล้วซ้ำอีก ราวกับว่าวิธีการเช่นนี้ใช้ไม่ได้ผล
ฉู่อวิ๋นเผยรอยยิ้มบนใบหน้า เขาไล่ตามหลังไปและฟาดกระแสดาราไปอีกหลายสิบครั้ง ส่งปราณกระบี่หักไปทีละระลอกๆ จากนั้นศรธนูจากพลังปราณอีกหลายดอกก็เริ่มทยอยยิง หมีลายโลหิตทำได้เพียงจ้องมองและถอยกลับเพราะตนเองมีาแเพิ่มมากขึ้น
หลังจากนั้นไม่นาน หมีลายโลหิตก็เต็มไปด้วยเื จะเรียกว่าเป็ "หมีอาบโลหิต" ก็ยังได้
"ดี! ข้าจะจัดการเ้าซะ!" เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ดีขึ้น ฉู่อวิ๋นก็ประมาทขึ้นมาและกำลังจะฟันกระแสดาราอีกครั้ง
แต่ในตอนนี้ ฉู่อวิ๋นกลับเหนื่อยล้าและพบว่าพลังปราณในจุดตันเถียนของเขาว่างเปล่า
“บ้าเอ๊ย! ไม่มีทาง! ข้าจะไม่มีพลังปราณใน่วิกฤติหรือนี่?!”
ความจริงแล้วฉู่อวิ๋นใช้ประกายทมิฬสองครั้งติดต่อกันไปแล้ว ทำให้ไม่มีพลังปราณเหลืออยู่มากนัก จากนั้นเขาก็ใช้กระแสดาราโดยไม่ยับยั้งชั่งใจ จนในที่สุดตอนนี้ พลังปราณได้หมดลงแล้ว
เขารีบถอยกลับไปหามู่หรงซินอย่างรวดเร็ว และพูดด้วยความอับอาย "เอ่อ...เอ่อคือ คุณหนูมู่หรง พลังปราณข้าหมดแล้ว"
"อะไรนะ?!"
มู่หรงซินที่ตอนแรกยังยิ้มออก แต่เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของฉู่อวิ๋น ดวงตาของนางก็เบิกกว้างขึ้นทันที เหมือนไม่อยากจะเชื่อ
สถานการณ์กำลังไปด้วยดี แต่เมื่อหมีลายโลหิตกำลังจะตาย ชายคนนี้กลับบอกว่าเขาไม่มีพลังปราณแล้ว
นี่เท่ากับว่ายกปัญหายากๆ มาให้นางอย่างนั้นหรือ?
ในเวลานี้ จู่ๆ หมีลายโลหิตที่อยู่ไกลก็คำรามก้องท้องฟ้า เส้นเืแดงก่ำบนตัวมันไหลออกมาพร้อมเปล่งแสงสีแดง
เมื่อมองดูการเคลื่อนไหวแปลกๆ ของหมีั์ ทั้งคู่ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างเริ่มไม่ดี ฉู่อวิ๋นรีบถาม "นี่ ทักษะธนูเ้าดีขนาดนั้น ทำไมไม่ลองยิงไปที่แผลมันต่อล่ะ?"
มู่หรงซินพูดอย่างโกรธๆ "ที่ข้ายิงได้เพราะมีเ้าคอยหยัดกำลังเอาไว้ให้! ขืนข้ายิงตอนนี้จะไม่โดนฝ่ามือมันตบปลิวหรือ?!”
“โฮ! โฮก!”
ในขณะที่ทั้งคู่กำลังคุยกัน หมีลายโลหิตก็คำรามขึ้นอีกครั้ง แสงสีแดงเืปกคลุมไปทั่วร่างของมัน
“นี่คือ...คำสาปลายโลหิต! หมีลายโลหิตจะไม่เจ็บไม่ปวดอีก มันยอมสู้สุดชีวิต!” เมื่อมองไปที่หมีลายโลหิตที่แดงไปทั่วทั้งตัว มู่หรงซินก็เผยความหวาดกลัวออกมา
ฉู่อวิ๋นก็กังวลเล็กน้อยและพูดว่า "เราควรทำอย่างไรดี?"
มู่หรงซินถอนหายใจ "เฮ้อ ตอนนี้หมีลายโลหิตพยายามเพิ่มความแข็งแกร่งเต็มที่ การป้องกันของมันในตอนนี้จะต่ำที่สุด ถ้ามือของข้าไม่หัก ข้าคงฆ่ามันด้วยลูกศรดอกเดียวได้เลย น่าโมโหนัก!"
ตอนนี้มู่หรงซินได้แต่ใช้พลังจิตสร้างลูกศรยิงออกไป แต่พลังก็อ่อนลงเรื่อยๆ
นางยังไม่ถึงขั้นที่ควบแน่นคันธนูด้วยพลังปราณได้ ยังต้องใช้มือในการยิงธนูเพื่อให้ได้พลังที่แข็งแกร่งที่สุด
“หืม?”
ทันใดนั้นฉู่อวิ๋นก็คิดอะไรออก เขามองไปที่มือขวาของมู่หรงซิน แล้วถามว่า "เ้ายิงธนูด้วยมือซ้ายได้หรือไม่?"
มู่หรงซินกลอกตาไปที่ฉู่อวิ๋นและพูดอย่างเ็า "เชอะ! ในฐานะผู้ฝึกธนู ข้ายิงได้ทั้งมือข้างซ้ายและข้างขวา เ้ากำลังดูถูกข้าอยู่หรือ?"
“โอ้! ดีเลย ข้ามีวิธีหนึ่ง เอาธนูให้ข้า!”
“เอ่อ...เอ่อ?”
มู่หรงซินกำลังตกตะลึง ฉู่อวิ๋นถือธนูของนางด้วยมือขวา ยกแขนและลำตัวขึ้น หันหน้าไปทางหมีลายโลหิต
“ข้า...จะเป็มือขวาให้เ้า!”
"ฮะ!?"
เมื่อได้ยิน มู่หรงซินก็ตกตะลึงจนอ้าปากค้าง ต้องใช้เวลาสักครู่จึงจะเข้าใจ
ฉู่อวิ๋นคิดจะให้คนหนึ่งถือคันธนู อีกคนง้างสายธนู พวกเขาจะร่วมมือกันเพื่อยิงธนู!
“ถ้าเช่นนั้น...ได้! จับไว้ให้แน่น ข้าจะดึงสายธนูด้วยมือซ้าย!”
ทันใดนั้น มู่หรงซินก็ก้าวเข้าไปใกล้ฉู่อวิ๋นมากขึ้น ใบหน้าของนางแดงเล็กน้อย นางไม่เคยเข้าใกล้ชายอื่นขนาดนี้มาก่อน แม้จะคิดว่าต้องทำเช่นนี้เพื่อประสานพลัง แต่หัวใจนางก็ยังคงเต้นระรัว
"อยู่ห่างขนาดนั้นจะปล่อยพลังได้อย่างไร? เข้ามาใกล้อีก! มันจะมาแล้ว!"
เมื่อมองดูหมีลายโลหิตที่พุ่งตัวมาจากระยะไกล ฉู่อวิ๋นก็กังวลอย่างมาก เขาจะตายที่นี่ไม่ได้!
แต่มู่หรงซินที่อยู่ตรงหน้านี้ นางยังคงสะบัดสะบิ้ง ท่าทางไม่เป็ธรรมชาติ
จนฉู่อวิ๋นหมดความอดทน เขาเหยียดแขนออกแล้วกระชากนางเข้ามาในอ้อมกอด “ดูเหมือนว่าข้าต้องกอดเ้าไว้เพื่อให้ยิงธนูได้! ไม่เช่นนั้น...หากเราใกล้กันไม่พอจะประสานพลังกันได้อย่างไร!” ฉู่อวิ๋นดุ
"อ๊ะ!"
มู่หรงซินร้องออกมาด้วยความเขินอายที่ถูกฉู่อวิ๋นกอด “เร็วเข้า...รีบยิง!” ฉู่อวิ๋นจ้องหมีลายโลหิตตาไม่กะพริบ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ มู่หรงซินก็ค่อยๆ กลับมามีสติอีกครั้ง
“ฉู่อวิ๋นผู้นี้ กล้าดีอย่างไรมากอดเอวข้า เดี๋ยวต้องสั่งสอนเขาให้หนักๆ !” มู่หรงซินกัดริมฝีปาก จากนั้นก็หรี่ตาลง นางรวบรวมพลังปราณเพื่อควบแน่นเป็ปัญจศรและวางไว้บนมือของฉู่อวิ๋นที่ถือคันธนูหยกอยู่
“ไม่ได้...ส่งพลังไม่ได้เลย!”
มู่หรงซินพยายามอยู่พักหนึ่ง แต่ก็พบว่าไม่สามารถประสานพลังกับฉู่อวิ๋นได้และเป็การยากที่จะปรับสมดุลระหว่างจุดที่เล็งและเป้าหมาย
ตอนนี้ หมีลายโลหิตได้ร่ายคำสาปลายโลหิตเสร็จแล้ว มันยกกรงเล็บั์คู่นั้นไว้แล้วรีบวิ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว ในชั่วพริบตาอีกเพียงร้อยเมตรเท่านั้นมันก็จะมาถึง!
เมื่อมองดูหมีปีศาจ ฉู่อวิ๋นและมู่หรงซินก็กังวลมาก แต่พวกเขาไม่สามารถหาท่าทางที่ดีที่สุดได้
“เร็วเข้า! ถ้ามันมาถึงพวกเราตายแน่!” ฉู่อวิ๋นเร่งเร้า
“เ้ายกมือขึ้นสูงอีกหน่อย...” มู่หรงซินกระซิบ
“สูงขนาดนี้หรือ?”
“หมีตัวนั้นจะมาแล้ว เร็วเข้า!”
“ไม่ได้...ยังส่งพลังไม่ได้เหมือนเดิม เ้า...เ้าต้องเข้ามาชิดข้าอีกหน่อย...”
"เช่นนี้หรือ?"
ขณะที่ทั้งสองทะเลาะกันเสียงคำรามก็ดังขึ้น หมีั์รีบวิ่งมาด้วยความเร็วสูง พื้นดินสั่นะเืและมันก็เข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ!
เมื่อเห็นกรงเล็บั์ที่น่าสะพรั่นสะพรึงกำลังจะโจมตี ฉู่อวิ๋นก็กลัวมากจนไม่สนใจความรู้สึกของมู่หรงซินอีก เขาแค่นเสียงออกมาหนึ่งคำ!
"ไม่สนแล้ว!"
จู่ๆ ฉู่อวิ๋นก็ดึงนางเข้าไปหา จากนั้นก็ะโเสียงดัง
"ยิงสิ!"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้