“เ้าหนุ่ม ทำได้ดีจริงๆ!” ที่ด้านนอก ดวงตาของผู้าุโจ้าวเป็ประกาย! ระยะครึ่งทางของรายการทดสอบนี้ เซียวหลิงอวิ๋นยังไม่ถูกกับดักใดๆ เล่นงานเลย อีกทั้งตัวเขายังสามารถหลบเลี่ยงท่อนไม้กีดขวางทั้งสามจุดมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ!
ความว่องไวในการตอบสนอง และััรับรู้ถึงภัยอันตรายอันทรงพลังเช่นนั้น แทบจะเทียบเคียงได้กับััรับรู้ของผู้ใช้พลังิญญาเลย สุดยอดมาก นี่คือสุดยอดอัจฉริยะอย่างแท้จริง! ในสายตาของเหล่าผู้าุโหลายคน รวมถึงเ้าสำนักชื่อล้วนเป็ประกาย!
พวกเขาเองก็เคยผ่านการทดสอบเหล่านี้มาก่อนเช่นเดียวกัน แต่ด้วยระดับที่สามารถผ่านไปครึ่งทางโดยที่ยังไม่ได้รับาเ็ใดๆ เช่นนี้ อย่าว่าแต่พวกเขาในเวลานั้นจะทำไม่ได้เลย ต่อให้เป็สุดยอดอัจฉริยะในเวลานั้น ก็ใช่ว่าจะทำได้ถึงระดับนี้!
เซียวหลิงอวิ๋นในเวลานี้มีสมาธิสูงมาก เขาทิ้งห่างจากอีกเก้าคนที่เหลือไว้ข้างหลัง ไม่ว่าจะเป็ท่วงท่าเสือกระโจน ปลาแหวกว่าย กลิ้งม้วนตัว หรือหลบฉากไปด้านข้าง แต่ละการเคลื่อนไหวของเขาล้วนดูลื่นไหลอย่างน่าพิศวง!
กลไกของลู่วิ่งนี้ราวกับถูกยั่วโมโห หรือไม่ก็มันอาจจะเข้าใจรูปแบบของการหลบหลีกของเขาแล้วก็เป็ได้ ทำให้พวกกับดักและผนึกอาคมซ่อนเร้นตนเอง และทวีอำนาจคุกคามยิ่งขึ้น
ผนึกอาคมหนึ่งเฉียดหน้าผากเขาไป ความเฉียบคมของผนึกอาคมดังกล่าว ทำให้มันฝากรอยเืจางๆ ทิ้งเอาไว้บนหน้าผากของเขาทันที!
ด้วยการตั้งสมาธิอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ทำให้เกิดลางสังหรณ์แจ้งเตือนปรากฏขึ้นในหัวของเขาอีกครั้ง คราวนี้ตัวเขาแทบจะปล่อยร่างกายไปตามสัญชาตญาณ หลบไปด้านข้างทันที!
เขาหลบกับดักจุดสุดท้ายนี้ไปได้อย่างหวุดหวิด! ชั่วขณะนั้นตัวของเขาะโลอยอยู่ในอากาศ!
จังหวะนี้เองที่ผนึกอาคมทั้งสามส่งเสียงที่น่ากลัวออกมา ปล่อยพลังพุ่งตามกันมาในลักษณะของตัวอักษร 品 โจมตีใส่เซียวหลิงอวิ๋นที่กำลังลอยตัวอยู่กลางอากาศ
ั์ตาของเซียวหลิงอวิ๋นหดเล็กลง ทันใดนั้นทั้งมือ แขน และลำตัวของเขาก็ขดเข้าหากันกลางอากาศจนกลายเป็ลูกบอล ลอดผ่านช่องว่างตรงกลางระหว่างผนึกอาคมทั้งสามที่พุ่งมาในลักษณะอักษร品 จนผ่านไปได้!
“เยี่ยม!” เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว แม้แต่เ้าสำนักชื่อยังอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงชื่นชม!
“แย่แล้ว!” ทว่าชั่วครู่ต่อมา ใบหน้าของผู้าุโจ้าวกลับเปลี่ยนไป!
เพราะในขณะที่เซียวหลิงอวิ๋นกำลังขดตัวเป็ลูกบอลและลอดผ่านช่องว่างระหว่างผนึกอาคมทั้งสามอยู่ แสงสีแดงแวบขึ้นในอากาศอีกครั้ง และพุ่งพรวดอย่างฉับพลันมาตรงหน้าของเซียวหลิงอวิ๋นแล้ว!
เซียวหลิงอวิ๋นกำลังลอยตัวอยู่กลางอากาศ ทำให้ไม่สามารถรับมือกับพลังอาคมนี้ได้อย่างทันท่วงที หนำซ้ำร่างของเขาก็ยังไม่คลายจากการขดตัวเลย! ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ย่อมเป็ไปไม่ได้ที่จะหลบเลี่ยงการโจมตีด้วยแสงสีแดงของผนึกอาคมซ้ำสอง!
เมื่อเห็นว่าแสงสีแดงกำลังจะพุ่งเข้าใส่ตัวเขา เซียวหลิงอวิ๋นจึงจำต้องเคลื่อนไหวกลางอากาศ! มือขวากำหมัดแน่น ง้างหมัดแล้วต่อยออกไปในแนวทแยงจากบนลงล่าง!
หมัดพลันปะทะเข้ากับแสงสีแดงทำมุมสามสิบองศาโดยไร้ซึ่งวรยุทธ์ใดๆ!
พลังอันแข็งแกร่งที่ส่งออกมาจากหมัด ทำให้เซียวหลิงอวิ๋นส่งเสียงร้องออกมาเบาๆ ิัส่วนนอกของหมัดถูกฉีกออก แต่ดูเหมือนมันจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ กับตัวเขามากนัก กลับกัน ด้วยแรงส่งจากการกระแทกเมื่อครู่นี้ ทำให้ตัวของเขาพุ่งขึ้นไปในอากาศ
พลังของผนึกอาคมรอบนี้รุนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับการทดสอบของเหล่าศิษย์ในรอบก่อนๆ! ผนึกอาคมนี้แทบจะเทียบเท่ากับหมัดของนักยุทธ์ระดับหกที่ใช้วรยุทธ์ระดับสูงเลย ไม่ใช่แค่ทรงพลังเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยังอัดแน่นไปด้วยพลังมหาศาลอีกด้วย หากเซียวหลิงอวิ๋นไม่ใช้ไหวพริบอันฉลาดเฉลียวของตนเองแล้ว เห็นทีตัวเขาคงไม่จบแค่ผิวถลอกเป็แน่
ถึงกระนั้น ด้วยความทรงพลังของผนึกอาคมนี้ เซียวหลิงอวิ๋นจึงอาศัยแรงสะท้อนจากการโจมตี ทำให้ตัวของเขาลอยขึ้นไปในอากาศ หลบหลีกท่อนไม้กีดขวางที่กำลังจะฟาดเขาตามมาติดๆ ได้!
เป็ความสำเร็จที่ได้มาโดยไม่ได้ตั้งใจ!
ณ จุดนี้ การโจมตีทั้งหมดได้สิ้นสุดลงแล้ว!
แต่เซียวหลิงอวิ๋นยังไม่รู้เื่นี้! ตัวเขายังคงตั้งสมาธิอย่างเต็มที่ให้กับการทดสอบ ทั้งตัวราวกับเป็แมวดาวที่ปราดเปรียว เคลื่อนไหวอย่างว่องไว ตัวเขายังคงวิ่งต่อไปจนกระทั่งเห็นแสงสว่างปรากฏขึ้นตรงหน้า จึงรีบวิ่งออกไปจากลู่วิ่งทดสอบ! แม้กระทั่งเซียวหลิงอวิ๋นเองยังใเมื่อรู้ตัวว่าตนเองได้ทำการทดสอบเสร็จสิ้นแล้ว!
แทบจะในขณะเดียวกัน เสียงอันตื่นเต้นของบรรดาผู้เข้ารับการทดสอบคนก่อนหน้าดังขึ้นจากปลายทางของลู่วิ่ง: สิบหกชั่วอึดใจ! สิบหกชั่วอึดใจ! นี่มันเท่ากับสถิติที่ดีที่สุดซึ่งอดีตศิษย์ของสำนักสามารถทำได้ในรอบหลายร้อยปีเชียวนะ!
ดวงตาของผู้าุโที่อยู่ ณ ที่นั้นล้วนเป็ประกาย! พวกเขาเห็นการทดสอบทั้งหมดด้วยตาของตนเอง รู้ดีว่าผลสรุปเวลาของเซียวหลิงอวิ๋นที่ได้สิบหกชั่วอึดใจ แท้จริงแล้วควรจะเป็สิบห้าชั่วอึดใจด้วยซ้ำ เนื่องจากพลังของผนึกอาคมสุดท้ายนั้นสูงกว่าปกติหนึ่งระดับอย่างเห็นได้ชัด! ทว่าภายใต้สถานการณ์เช่นนั้น ชายคนนี้ยังอุตส่าห์ทำเวลาได้เท่ากับสถิติสูงสุดนับั้แ่ก่อตั้งสำนักมา แสดงให้เห็นว่าตัวเขามีความสามารถมากเพียงใด!
“ฮ่าๆๆ ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม!” ผู้าุโจ้าวะโเสียงดัง เอ่ยคำว่ายอดเยี่ยมสามครั้งติดต่อกัน!
ดวงตาของเ้าสำนักชื่อ หวังจงเอิน และจ้าวพยัคฆ์ชิวเทียนฉี่เองก็เต็มไปด้วยความยินดีเช่นกัน ดวงตาของพวกเขาเริ่มลุกเป็ไฟเมื่อมองไปที่เซียวหลิงอวิ๋น!
เด็กหนุ่มคนนี้ได้ถูกกำหนดให้เป็ยอดอัจฉริยะผู้โดดเด่นที่สุดของสำนักิญญาเมฆาในอนาคตเรียบร้อยแล้ว! อัจฉริยะคนนี้ก็ถือกำเนิดในสำนักของพวกเขา นั่นหมายความว่าสำนักศึกษาที่ค้นพบเขา จะได้รับเกียรติประวัติยกย่องเชิดชู และถูกบันทึกเอาไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของสำนักตลอดไป
เวลานี้ เซียวหลิงอวิ๋นกลายเป็เกี๊ยวนึ่งแสนอร่อยในสายตาของผู้าุโทั้งสี่คนไปแล้ว! กลายเป็ดั่งสมบัติล้ำค่าที่สุดสำหรับพวกเขา
...
“เฮ้ นี่มันเกิดอะไรขึ้น? นั่นเ้าสำนักชื่อมิใช่หรือ? เหตุใดทั้งหัวหน้าเขต หัวหน้าคณะอาจารย์ และบุคคลสำคัญอีกหลายท่านถึงได้มารวมตัวกันที่นี่เล่า?” ไม่นานนักก็มีคนรับรู้ถึงความผิดปกติของกลุ่มที่สิบเก้า
“มีอะไรอย่างนั้นหรือ?”
“ข้าได้ยินมาว่าพวกเขาพบสุดยอดอัจฉริยะน่ะ คนผู้นี้ได้คะแนนเต็มในการทดสอบพลังยุทธ์ด้วย ไม่สิ ได้มากกว่าหนึ่งพันสองร้อยชั่งเลยด้วย!” ศิษย์ผู้รอบรู้คนหนึ่งกล่าว!
“กล่าวเกินจริงน่า พลังยุทธ์ที่มากกว่าหนึ่งพันสองร้อยชั่ง ต่อให้เป็นักยุทธ์ระดับเจ็ดยังไม่อาจทำคะแนนได้ถึงระดับนั้นเลย หวังอี้ในกลุ่มของพวกเราเองก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ตัวเขาได้รับการยอมรับเป็เสียงเดียวกันว่าจะต้องติดหนึ่งในสิบอันดับแรกของงานประลองครั้งนี้แน่ๆ แต่เขายังได้เพียงแปดร้อยหกสิบเจ็ดชั่งเท่านั้น!” ศิษย์อีกคนที่อยู่ข้างๆ เขาก็โต้กลับด้วยความดูถูกทันที
“พี่ชายไม่เชื่อก็อย่าเชื่อเลย หวังอี้เป็เพียงอัจฉริยะธรรมดาทั่วไปที่เพิ่งแตะเส้นขอบของอัจฉริยะเท่านั้น แต่ชายคนนั้นเป็ที่รู้จักกันในฐานะอัจฉริยะอันดับหนึ่งของสำนักิญญาเมฆาในรอบหลายร้อยปีไปแล้ว หากเขามีพลังยุทธ์ไม่เกินหนึ่งพันชั่ง พวกเ้าคิดว่าเขาจะดึงดูดความสนใจเหล่าผู้าุโในสำนักหลายท่านอย่างหัวหน้าคณะอาจารย์ หัวหน้าเขต หรือแม้แต่เ้าสำนักให้มารับชมได้หรือ?”
“เื่จริงรึ? หากเป็เื่จริง เช่นนั้นก็เป็อะไรที่ยอดเยี่ยมมาก แม้แต่หลิวิฉวนในกลุ่มของเราที่แข็งแกร่งถึงขั้นที่จะต้องติดสิบอันดับแรกเป็แน่ ยังทำได้เพียงแปดร้อยแปดสิบเอ็ดชั่งเท่านั้นเอง!”
“ลำพังด้วยพลังยุทธ์เกือบเก้าร้อยชั่ง ก็เรียกได้ว่าเป็อัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะแล้ว อย่างอันดับหนึ่งในกลุ่มของเราเอง ยังทะลุแปดร้อยชั่งมาเล็กน้อยด้วยคะแนนแปดร้อยสองชั่งเอง!”
ไม่นานนักข่าวนี้ก็แพร่สะพัดไปทั่ว!
...
“ว่าอย่างไรนะ มีคนทำคะแนนได้มากกว่าหนึ่งพันสองร้อยในรายการทดสอบพลังยุทธ์งั้นหรือ? เ้าแน่ใจนะว่าคนคนนั้นไม่ใช่ศิษย์จากกลุ่มระดับสูง แต่มาจากระดับกลางของพวกเรา” หลิวิฉวนตกตะลึงทันใด!
“พลังยุทธ์มากกว่าหนึ่งพันสองร้อยชั่งงั้นหรือ? พวกเ้ารู้หรือไม่ว่ามันเป็ใคร” ใบหน้าของจ้าวิเจี้ยนเองก็มืดดำเช่นกัน เดิมทีตัวเขาทำได้ถึงเก้าร้อยสิบสามชั่ง ซึ่งถือเป็คะแนนอันดับหนึ่งในรอบสิบปี ยังไม่ทันที่ความยินดีในใจของเขาจะหมดไป เขาก็ได้ยินข่าวดังกล่าวเสียก่อน ทำให้หัวใจของเขาจมดิ่งลงสู่ก้นมหาสมุทรในทันที!
“พลังยุทธ์มากกว่าหนึ่งพันสองร้อยชั่งอย่างนั้นหรือ น่าสนใจจริงๆ หวังว่าเ้าจะเป็ได้มากกว่าโล่มนุษย์ที่แข็งแกร่งนะ!” รอยยิ้มจางๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเยี่ยเฟิง ไฟแห่งการต่อสู้ก็เริ่มลุกโชนขึ้นในใจเขา!
