ตึก!!
“ซาโนะ!!!”ฉันร้องออกมาด้วยความใ สองตาเบิกโตขึ้นจ้องเขม่นไปยังภาพเบื้องหน้า ชายชุดดำนับร้อยกำลังรุมล้อมตัวของนายซาโนะที่เสียการทรงตัวล้มทั้งยืนเพราะเขาถูกของมีคมบาดตรงที่บริเวณหน้าท้อง แค่คนเดียวต้องเอาคนมารุมขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย
“เห้ย!นายบอกว่าอย่าฆ่ามัน!!”เสียงชายชุดดำร้องทักเพื่อนของมันขึ้นเป็ภาษาญี่ปุ่น เพราะพวกมันกำลังจะรุมกระทืบนายมิซาโนะน่ะสิ
“แล้วเอาไง? ”
“เดี๋ยวกูโทรถามนายก่อนแปป”
“เค”เสียงชายชุดดำสนทนากันและหนึ่งในพวกมันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาผู้เป็นาย อีตาซาโนะก็นอนครวญครางเอามือจับหน้าท้องตัวเองที่บัดนี้มีเืสีแดงสดไหลทะลักออกมาไม่ขาดสาย เืจะไหลหมดตัวแล้วตายรึเปล่าว่ะนั้น?
“นายบอกให้เอาตัวมันขึ้นเรือไปที่เกาะฮาชิมะ”เกาะอะไรน่ะ?
“จะถ่อไปถึงที่นั้นทำไมว่ะ ไกลจะตาย!”ชายชุดดำล่นอุ๊บ ซึ่งฉันยิ่งเบิกตาโตขึ้นไปเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเกาะฮาชิมะที่คนพวกนี้พูดถึงคือสถานที่น่ากลัวของคนญี่ปุ่นที่จะไม่พูดถึงเกาะนี้ไม่ได้ เพราะเกาะนี้เป็เกาะร้างและมีผีสิง
“เห้ยยยแค่คิดก็ขนลุกแล้ว โชคดีละกันนะอีตาซาโนะ!”ฉันยกมือขึ้นมาลูบแขนทั้งสองข้างที่ขนลุกซู่ขึ้นมาซะดื้อๆเมื่อนึกถึงภาพถ่ายของเมืองร้างของเกาะใหญ่โตที่มีแต่ซากของดึกเก่าๆหักๆดำๆแค่คิดก็ขนหัวลุก ขนาดฉันเป็คนไทยยังรู้ประวัติความเป็มาของที่นั้นเลยแล้วนับประสาอะไรกับคนที่นี้ที่ย่อมรู้ดีกว่าฉัน
“นายให้เอามันทำไมว่ะ? ”
“นาย้าให้มันหายสาบสูญไป”
“ก็แค่โยนมันลงทะเลก็หมดสิ้นแล้วป่ะว่ะ!”
โพล๊ะ
ชายชุดดำตบหัวของชายคนที่บอกให้เอาซาโนะโยนลงทะเลจนหน้าของคนนั้นหันขวับหัวทิ่มไปเลย
“ไอ้โง่ถ้าโยนมันลงทะเลก็ต้องมีคนพบซากศพมันสิว่ะ แต่ที่เกาะนั้นไม่มีใครเข้าไปถึงถ้าเกิดมันตายก็ไม่มีใครพบศพมันถึงต่อให้พบก็อีกหลายสิบปีข้างหน้าโน่น!”ชายชุดดำเอ่ยพูดขึ้นด้วยนำ้เสียงเยือกเย็นอำมหิต คงถึงเวลาตายของนายแล้วแหละ พวกมันทำท่าปรึกษากันอยู่สักพัก ซึ่งฉันก็ไม่ค่อยได้ยินและฉันก็ไม่สนใจด้วย เพราะไม่ใช่เื่ของฉัน แต่เอ๊ะถ้าไม่มีอีตาซาโนะ ฉันก็ไปไม่ถึงท่าเรือสินค้าของอีตาบ้านั้นน่ะสิ เห้อ!
“เอาไงดีเนี่ย? ”ฉันเอามือมาทึ่งศีรษะตัวเองอย่างคนคิดหนักและตอนนี้อีตาซาโนะมันก็สลบไปแล้วเพราะเจอสินทีนของชายชุดดำร่างั์เสยคางเข้าให้เต็มๆเืไหลทะลักออกมาจากปากของเขาเลย สยองจัง คนพวกนี้มันช่างมีจิตใจที่โหดอำมหิตและที่สำคัญอีตาซาโนะมีศัตรูเยอะเหมือนกันน่ะเนี่ยและดูเหมือนพวกเขาจะเกลียดนายซาโนะเอามากๆเลยนะถึงขั้นเอาให้ตาย
“ตกลงจะพามันไปไหน? ”
“เกาะร้างที่อยู่ในเขตเมืองนี้แหละ เพราะกูไม่มีทางถ่อไปเกาะผีสิงนั้นเด็ดขาด!”
“ใช่ กูก็ว่าแบบนั้นแล้วนายจะไม่ว่าอะไรเหรอว่ะ? ”
“ถ้ามึงไม่พูด พวกมึงทุกตัวไม่พูดกูไม่พูดนายก็ไม่มีทางรู้!!”
“เออ ตกลงตามนั้น เอาตัวมันขึ้นรถ!!”สิ้นเสียงคำสั่งก็มีชายชุดดำสองคนเดินมาช่วยกันหามร่่างของนายซาโนะไปขึ้นรถตู้คันสีดำ ฉันก็แอบดูจนชายชุดดำนับร้อยพากันขึ้นรถที่พวกมันมาตอนแรกกันไปจนหมด และค่อยๆเคลื่อนรถไปจากที่นี้ ฉันจึงรีบผุดร่างตัวเองขึ้นมาและเปลี่ยนไปนั่งที่นั่งคนขับแทนและออกรถขับตามพวกมันไปอย่างห่างๆ รถกะบะนับสิบคันที่บรรจุชายชุดดำแยกไปอีกทางเหลือรถตู้คันสีดำที่มุ่งหน้าไปอีกทาง ซึ่งฉันต้องเลือกขับตามรถตู้ที่มีร่างของอีตาซาโนะนั้นไป
“แขนก็ยังไม่หายดีเจ็บก็เจ็บ!บ้านก็ไม่ได้กลับ!”ฉันบ่นไปขับรถไปตามทางที่อีรถตู้มันขับพาไปซึ่งเป็สถานที่นอกเมืองสองข้างทางเป็ป่ารกร้างซึ่งไกลพอสมควร
“นี่ฉันขับรถมาเกือบยี่สิบนาทีแล้วน่ะเนี่ย!!”ฉันบ่นออกมาเมื่อยังไม่ปลายทางสักที
“เห้ย!จอดแล้ว!”ฉันร้องออกมาด้วยความดีใจเมื่อรถตู้คันสีดำนั้นจอดลงที่ท่าเรือร้างแต่มีเรือขนาดใหญ่คล้ายๆเรือของชาวประมงบ้านฉันแต่มันลำใหญ่กว่ามากจอดอยู่เหมือนเป็เรือขนของเพราะมีลังไม้อยู่มากมาย ฉันเลือกที่จอดรถแอบๆจอดเข้ามาในโพรงหญ้ารกร้างเพื่อให้พวกต้นหญ้าปกคลุมรถของอีตาซาโนะเพื่อไม่ให้คนพวกนั้นสงสัย และฉันก็ค่อยๆเดินลงมาจากรถไปแอบมองคนพวกมันที่กำลังแบกร่่างของอีตาซาโนะลงมาจากรถมุ่งหน้าลงเรือ พวกมันมีกันไม่ถึงสิบประมาณห้าคน
ซึบๆๆๆ
ฉันรีบวิ่งเร็วๆแต่กดนำ้หนักฝีเท้าให้เบาที่สุดเพื่อไปให้ถึงเรือขนของลำใหญ่นั้น และก็โชคดีที่พวกมันไม่ได้สนใจอะไรฉัน ฉันจึงเดินลงเรือและไปนั่งแอบอยู่หลังลังไม้ที่วางทับกันสูงขึ้นเพื่อบดบังร่างฉันได้พอดี
“ออกเรือ!!”หนึ่งในห้าชายชุดดำเอ่ยขึ้น ทำให้ชายชุดดำที่นั่งอยู่ท้ายเรือออกตัวเรือพาแล่นไปตามนำ้ทะเลสีใส โชคดีที่คนขับเรือเพิ่งเดินกลับไปที่ท้ายเรือหลังจากที่ฉันเข้ามาซ่อนได้แล้ว
“เกาะฮาชิมะ? ”ฉันพูดถึงเกาะที่นายของคนพวกนี้สั่งให้เอาร่างของซาโนะไปทิ้งที่เกาะนั้น เกาะอาถรรพ์แห่งนั้นไม่มีใครกล้าเข้าไปเหมาะกับการซุกซ่อนศพมากที่สุด
“ถ้าพวกมันพานายไปที่นั้น ฉันก็ไม่ตามมาหรอก!”ฉันพึมพำขึ้นเมื่อนึกถึงบรรยากาศชวนสยองของเกาะแห่งนั้น เกาะฮาชิมะเกาะที่คนญี่ปุ่นรู้จักดีทุกคน
“บรึ๊ยยย”ฉันร้องออกมาพลางยกมือขึ้นมาลูบแขนตัวเองที่ตอนนี้บรรยากาศรอบข้างเริ่มหนาวเย็นะเืขึ้นมา ผีญี่ปุ่นน่ากลัวกว่าผีไทยรึเปล่าว่ะ?
“ใกล้ถึงแล้ว เอาเรือเข้าไปจอดเลย”
“เค!”เสียงของคนขับเรือรับคำสั่งและมันก็เร่งเครื่องเรือเข้าไปใกล้เกาะที่อุดมสมบูรณ์ที่อยู่เบื้องหน้าฉัน
“เอายังไงต่อ? ”เมื่อเรือจอดลงชายชุดดำหนึ่งในห้าก็เอ่ยขอความคิดเห็นเพืื่อนชายชุดดำของมัน
“ยกร่างมันไปแล้วเอาเข้าไปในป่าให้สัตว์ป่ากัดกินร่างของมัน”
“ได้”พวกมันคุยกันเสร็จก็พากันขนย้ายร่างที่ไร้ิญญาเอ้ยไม่สิอีตานั้นมันยังไม่ตายนิหว่า!พาลงจากเรือเดินมุ่งหน้าเข้าไปทางเกาะที่มีูเาและต้นไม้สีเขียวชะอุ่มมากมาย ฉันเมื่อเห็นพวกมันไปหมดแล้วก็ค่อยๆะโลงมากจากเรือและมองสำรวจไปรอบๆเกาะแห่งนี้
“นี่เกาะร้างหรือเนี่ยทำไมสวยจัง^_^”ฉันหันไปรอบๆและเอ่ยออกมาด้วยความตื่นตกตะลึง เกาะนี้ไม่เหมือนเกาะร้างในหนังเลยสักนิดเหมือนเกาะส่วนตัวของพวกคนมีเงินซะมากกว่า
“อ้าวอีตาซาโนะล่ะ!”ฉันที่ห่วงมัวแต่ชื่นชมบรรยากาศและวิวสวยๆของเกาะอย่างเพลิดเพลินจนลืมว่าฉันตามอีตาซาโนะมา
พรึบๆๆๆ
ฉันเมื่อนึกขึ้นได้ก็รีบวิ่งตามรอยเท้าหลายคู่นั้นเข้าไปในป่าลึกจนไปถึงจุดหมายที่ตอนนี้ชายชุดดำกำลังยืนคุยเสียงกันอยู่พวกมันวางร่างของอีตาซาโนะลงตรงที่พื้นว่างๆกลางป่าพงไพรและพวกมันก็พากันเดินออกมาตามทางเดิม ฉันรอจนพวกมันเดินลับสายตาไปแล้วจึงรีบเดินไปหาอีตาซาโนะที่ตอนนี้นอนสลบไสลไม่ได้สติ
“นี่นายมีแผลเยอะขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย? ”ฉันร้องออกมาด้วยความใเมื่อได้เห็นร่างของเขาเต็มๆสองตาก็พบว่าเนื้อตัวของเขามีาแเต็มตัวที่เกิดจากรอยฟกช้ำจากการโดนกระทืบอย่างหนักและของมีคมที่กรีดไปตามร่างของเขาแต่ที่ใหญ่และน่ากลัวที่สุดก็คือตรงที่หน้าท้อง เป็แผลลึกน่าดูเลยนะนั้น
“ซาโนะ!”
“คุณ คุณได้ยินฉันไหม!”
“คุณซาโนะ!!”ฉันเอามือตบไปที่หน้าเขาเพื่อเรียกเขาให้ได้สติและดูเหมือนเขาจะได้ยินเสียงฉันน่ะ
“โยโกะ? ”เขาค่อยๆลืมตามองมาที่ฉันและเอ่ยเรียกชื่อฉัน ฉันก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจที่เขายังไม่ตาย
“อย่าเพิ่งตายน่ะคุณ!”ฉันบอกเขา เขาก็พยักหน้ารับรู้คำพูดของฉัน
“คุณตามมาช่วยผมทำไม? ”เขาเอ่ยถามฉันมาด้วยนำ้เสียงติดขัด
“ฉันไม่อยากติดหนี้คุณ คุณเคยช่วยฉันหนีคนที่จะมาจับตัวฉันเมื่อตอนที่เราเจอกันครั้งแรก”ฉันบอกเขาไปตามความจริง ใช่ที่ฉันมาช่วยเขาก็เพราะไม่อยากติดหนี้เขาเท่านั้นแหละ
“ขอบใจนะที่ไม่ทิ้งผม”เขาบอกฉันมาด้วยนำ้เสียงแหบพร่าและเขาก็ค่อยๆคลี่ยิ้มออกมาและเขาก็หมดสติไป
“คุณ คุณ ซาโนะ!!”ฉันเขย่าร่างเขาเพืื่อให้เขาตื่นแต่ก็ไม่เป็ผลเพราะตอนนี้เขาไม่ได้ยินฉันแล้ว
“ไหนคุณบอกว่าจะไม่ตายยังไงเล่า คุณต้องพาฉันกลับเมืองไทยก่อนสิค่อยตายน่ะ อีตาบ้า!!”ฉันเขย่าร่างของซาโนะไปด้วยเรียกบอกเขาไปด้วย ฉันจะทำยังไงดี เขาต้องตายแน่ๆเลย และฉันเองก็คงจะไม่รอดเหมือนกัน
“ฮืฮๆๆๆตื่นสิ ซาโนะ ไอ้คนบ้า ไอ้คนเห็นแก่ตัว ไอ้คนหลอกลวง!!!”ฉันร้องไห้กอดร่างของซาโนะเหมือนคนเสียสติ ฉันไม่อยากมาตายที่นี้ ฉันอยากเจอแม่ ฉันคิดถึงแม่!
“คุณ คุณหนูครับ!!”เสียงของผู้ชายเอ่ยขึ้นเป็ภาษาญี่ปุ่นทำให้ฉันรีบเอามือปาดนำ้ตาและหันไปมองตามเสียงนั้นทันที ก็พบกับผู้ชายอายุประมาณ50ต้นๆแต่งตัวเหมือนชาวบ้านนอกเมืองธรรมดาๆข้างกายเขาสะพายกรงดักสัตว์ทั้งสองข้างเขาค่อยๆเดินเข้ามาหาฉันอย่างช้าๆ
“คุณลุง ช่วยด้วยค่ะ”ฉันร้องขอความช่วยเหลือจากคุณลุง
“นายท่านมิซาโนะ!!”เมื่อคุณลุงคนนั้นเดินมาถึงฉันกับซาโนะเขาก็ร้องออกมาด้วยความใ
“ท่านซาโนะเป็อะไรเหรอครับ? ”คุณลุงลงมานั่งข้างฉันกับอีตาซาโนะอย่างไวพลางจับร่างของซาโนะไปสำรวจดูอาการาเ็ของเขาด้วยความเป็ห่วง
“เขาโดนทำร้ายนะคะ เราต้องรีบพาเขาโรงพยาบาลไม่งั้นเขาไม่รอดแน่”
“ไม่มีทางหรอกครับคุณหนู ที่นี้ไม่มีโรงพยาบาลและที่นี้ไม่มีเรือเราไม่สามารถพาท่านมิซาโนะไปโรงพยาบาลได้หรอกครับ”คุณลุงเงยหน้าขึ้นมาบอกฉันด้วยนำ้เสียงเเผ่วเบา
“แล้วเขาต้องตายอย่างงั้นเหรอคะ? ”
“ไม่หรอกครับ คนดีๆอย่างท่านมิซาโนะต้องไม่ตาย ผมไม่ปล่อยให้ท่านซาโนะตายเด็ดขาด!!”คุณลุงพูดขึ้นด้วยนำ้เสียงและแววตาที่จริงจังจนน่ากลัว ฉันก็มองคุณลุงสลับกับซาโนะเพราะมองไม่เห็นหนทางที่จะ
รอดของซาโนะได้เลย
