“จะลักลอบขนส่งสินค้าไม่ได้หรอก เพราะแม้ว่าอวี้เหิงของพวกเรากับต้าอวี้ของพวกท่านจะมีแม่น้ำสายเดียวกัน แต่บริเวณชายแดนลั่วโจว ทั้งสองแคว้นต่างมีทหารคุ้มกันอย่างเข้มงวด หากคิดลักลอบขนส่งสินค้า มันยากยิ่งกว่าการทะยานขึ้นสู่ฟ้าเสียอีก”จิงอวิ๋นคลี่ยิ้มหวาน
ทว่าประเด็นการสนทนาพลันเปลี่ยนไปบนใบหน้างามกลับมีรอยยิ้มที่ไม่อาจกลบเกลื่อน “แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้วต้าอวี้กำลังจะขุดคลองขนส่ง”
“แม่น้ำมีชีวิต บวกกับต้าอวี้เป็แคว้นขนาดใหญ่หากโครงการครอบคลุมพื้นที่กว้างก็ควบคุมดูแลได้ยากมาก พอดีบริเวณตอนใต้หวงหลงมีทางน้ำเล็กๆ มากมายที่ขยายลงมาด้านใต้หากพวกเราแอบขุดทางน้ำสองสายไปทางใต้ส่วนพวกท่านก็ให้ความร่วมมือโดยการขุดแม่น้ำสายย่อยขึ้นไป้าสองสามสายโดยไม่ให้ใครรู้ถึงตอนนั้นเพื่อให้ความร่วมมือระหว่างพวกเราดำเนินต่อไป พวกเราสามารถส่งเรือของตนถึงชายแดนแล้วแลกเปลี่ยนสินค้าด้วยกันจากนั้นต่างคนต่างขนสินค้ากลับแคว้นตัวเอง ทำอย่างลับ ๆ โดยไม่มีใครรู้”
“เ้าก็คิดไปไกลมาก เพียงแต่เื่นี้มีความเสี่ยงสูงมากข้าไม่สามารถทำเื่ที่เป็อันตรายแอบแฝงต่อแคว้นข้า” กงอี่โม่ส่งยิ้ม
ความหมายของนางชัดเจนมาก หากให้ข้าทำเื่เสี่ยงขนาดนี้อย่างน้อยเ้าก็ต้องจ่ายค่ามัดจำบางส่วนมาก่อนสิ?!
“แน่นอนอยู่แล้วในเมื่ออวี้เหิงเป็ผู้ใช้แม่น้ำที่เป็ความลับเหล่านี้ ดังนั้นข้ายินดีเป็ฝ่ายรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการขุดทั้งหมด”จิงอวิ๋นกัดฟันเล็กน้อย จากนั้นจึงเอ่ยขึ้น
“ถึงเป็สาวงามอันดับหนึ่งในใต้หล้า มีชื่อเสียงมากมายแต่คงไม่มีทรัพย์สินมากมายขนาดนั้นหรอกกระมัง” กงอี่โม่หรี่ตามองอีกฝ่าย นอกจากต้องแอบขุดแม่น้ำในอวี้เหิงแล้วยังต้องออกค่าใช้จ่ายในการขุดแม่น้ำสายย่อยฝั่งของนางทั้งหมด อำนาจผลประโยชน์และความกล้าเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ที่เป็ชิงก่วนสามารถทำได้แม้จะเป็ชิงก่วนที่มีชื่อเสียงในใต้หล้าก็ตาม
“องค์หญิงไม่จำเป็ต้องกังวลเื่นี้เลย”จิงอวิ๋นขึงตาอย่างมีเสน่ห์ใส่กงอี่โม่ความงามจับตาเช่นนี้ทำให้กงอี่โม่ถึงกับลูบจมูก
“ใช้เสน่ห์กับข้าไม่ได้ผลหรอก” นางก้มหน้ากล่าวขึ้น
“เกือบลืมไปว่าท่านเป็สาวน้อยคนหนึ่ง ยังดีที่เป็สาวน้อยหากเป็องค์ชาย อวี้เหิงของพวกเราคงต้องกลัดกลุ้มเป็แน่” จิงอวิ๋นมองนางด้วยสายตาประหลาดพร้อมถอนหายใจ
กงอี่โม่ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ นางเดินตรงไปนั่งขอบเตียงของจิงอวิ๋นกวาดตามองอีกฝ่ายอย่างพิจารณา จากนั้นจึงคลี่ยิ้ม “ความจริงแล้วก็ได้ผลอยู่บ้างแม้ว่าข้าอายุยังน้อย แต่ข้าก็ชอบสาวงามนะ”
“อย่างนั้นหรือ? แล้วท่านว่าข้างามไหม?” จิงอวิ๋นชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นจึงคลี่ยิ้มพร้อมเอ่ยขึ้นสองขาของนางซ้อนเข้าด้วยกันเรียวขาขาวเนียนสม่ำเสมอ ไม่มีเนื้อส่วนเกินแม้แต่น้อย เวลานี้ถูกคลุมด้วยผ้าโปร่งกงอี่โม่จึงเห็นเรียวขารำไร
ช่างสวยงามสุดยอดจริงๆ
“น่าเสียดาย แม่นางจิงอวิ๋นงามยิ่งนัก ทว่ากลับขาดไปอย่างหนึ่ง” กงอี่โม่รำพึงในใจ
“อ้อ?” สายตาของนางดูสนใจขึ้นมาไม่ว่าใครก็อยากสวยขึ้นใช่ไหม?
กงอี่โม่โน้มตัวไปด้านหน้าการเข้าใกล้ของนางอย่างกะทันหันทำให้จิงอวิ๋นที่ไม่ทันตั้งตัวถอยหลังอัตโนมัติทว่ากงอี่โม่กลับคว้าลำคอของอีกฝ่ายไว้อย่างแม่นยำ นางสูดกลิ่น ใบหน้าแสดงอาการเสียดาย
“โดยทั่วไปร่างกายของสตรีย่อมมีกลิ่นหอมเป็ผลลัพธ์จากการใช้ผงแป้งจนซึมเข้าิั แต่น่าเสียดายบนร่างของพี่สาวก็มีกลิ่นหอม ทว่า...”
“ภายใต้กลิ่นหอมนี้กลับเป็กลิ่นของบุรุษ เ้าว่าไหม?” นางทำหน้าบูด
“เ้าว่าใครเป็บุรุษ?!” จิงอวิ๋นขึงตา นางใจนหลุดปากเมื่อรู้ตัวจึงทิ้งสายตายั่วยวนพร้อมกล่าวอย่างโกรธเคือง
“ท่านเห็นว่าข้าเป็บุรุษหรือ? ช่างน่าขันยิ่งนัก”
กงอี่โม่ก็หัวเราะตามไปด้วยดวงตาของนางจ้องตรงไปยังหน้าตักของอีกฝ่ายด้วยท่าทางเ้าเล่ห์
“จะเป็บุรุษหรือไม่ เ้าก็เปิดกระโปรงขึ้นไปหน่อยสิ?”
นางกล่าวตรงไปตรงมาทว่ากลับทำให้ใบหน้าของจิงอวิ๋นเปลี่ยนจากขาวกลายเป็ดำ และจากดำกลายเป็ม่วง! สุดท้ายนางจึงฝืนหัวเราะออกมา
“ท่านคิดอยากเป็คนใกล้ชิดของข้าหรือ? แต่ไม่ได้หรอก ข้าไม่ได้ชอบสาวน้อย”
ทว่าสายตาของกงอี่โม่เคลื่อนขึ้นอย่างช้าๆมันเป็สายตาร้อนแรงแกมใคร่รู้ทำให้จิงอวิ๋นรู้สึกราวกับมีบางสิ่งบางอย่างััร่างของนางจริงๆตอนนี้นางรู้สึกเสียใจที่สวมชุดกระโปรงผ้าโปร่งเช่นนี้
“ไม่เปิดด้านล่างก็ได้นะ แต่เมื่อสักครู่ข้าอยากรู้จริงๆ ว่าเ้าใช้อะไรยัด้าของเ้าเพราะเหตุใดตอนที่เ้าเต้นระบำยังส่ายไปมาได้อีก”
“ลามก!”
จิงอวิ๋นกัดฟันกรอด! สองมือกอดอก ถลึงตาคู่สวยใส่กงอี่โม่ปฏิกิริยาของจิงอวิ๋นก็เหมือนสตรีจริงๆ นางมองสาวน้อยเบื้องหน้า ทั้งๆที่อีกฝ่ายหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูแต่ท่าทางหื่นกระหายเช่นนี้กลับทำให้รู้สึกเสียสายตายิ่งนัก
ดูเหมือนว่าต้องแกล้งอีกฝ่ายให้ใ จิงอวิ๋นหรี่ตามอง
“สาวน้อย! ท่านรู้จักมารยาทความชอบธรรม ความซื่อสัตย์และความละอายไหม? หากข้าเป็บุรุษจริงๆ ประโยคนี้ของท่านอันตรายมากนะ”
กงอี่โม่ส่งเสียง “อ้อ” ลากยาว ความนัยมากมายนักท่าทางของนางก็จริงจังมาก พวกเขาสองคนอยู่ใกล้ชิดกันบนเตียง คนหนึ่งโน้มไปด้านหน้าคนหนึ่งหงายไปด้านหลัง ท่าทางเช่นนี้ดูอันตรายมาก ทว่ากงอี่โม่เป็ใคร นางเหลือบตามองอีกฝ่าย
“เ้าสู้ข้าไม่ได้”
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกันหากเ้าบอกข้าว่าเ้าใช้อะไรดันหน้าอก ข้าก็จะรับปากเ้า เป็อย่างไร?”
กงอี่โม่ไม่ได้รอให้จิงอวิ๋นเจ็บใจกับประโยคนี้จนแทบกระอักเืแต่นางชี้ไปที่หน้าอกของจิงอวิ๋น ปากกระจุ๋มกระจิ๋มคลี่ยิ้ม คำพูดของนางทำให้ท่าทีของจิงอวิ๋นเปลี่ยนไปนางค่อยๆ กลืนความเจ็บใจลงไป จากนั้นจึงลองเอ่ยถามหยั่งเชิง
“ท่านพูดจริงหรือ? หากให้ท่านดูท่านจะรับปากข้า?”
กงอี่โม่พยักหน้าว่าเป็ความจริง ท่าทางของนางจริงจังมาก
จิงอวิ๋นกลอกตา นางรู้สึกว่าช่างน่าขันจริงๆไม่รู้ว่านางถูกจับได้จากตรงไหน ทว่านางคิดจะเอาคืนบ้าง ดังนั้นนิ้วของนางจึงวางอยู่บนชุดขอแค่ดึงออกทั้งสองด้าน กงอี่โม่ก็สามารถเห็นความจริงแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะถอดจริงๆ แล้วนะ” นางเชื่อว่ากงอี่โม่ไม่มีทางกล้าดูจริงๆ
ทว่ากงอี่โม่กลับจ้องเขม็งโดยไม่ละสายตาดวงตาของนางแทบเกาะติดอยู่บนหน้าอกของเขา
จิงอวิ๋นกัดฟันกรอด เ้าลามก!
ขณะที่คิดนั้นเขาจึงตัดสินใจ มือของเขาดึงชุดออกทันที
เดิมทีเขาคิดว่าชั่ววินาทีที่เขาดึงชุดออก กงอี่โม่จะเบือนหน้าหนีทว่าคาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะจ้องมองอย่างจริงจังภาพเช่นนี้ทำให้จิงอวิ๋นรู้สึกไม่สบายใจ
เขาเป็บุรุษจริงๆ
ที่เขามีหน้าอกเพราะเขาผูกถุงที่บรรจุน้ำไว้ด้านในจนเต็มอยู่บนหน้าอกมันมีอยู่สองถุง
ขณะที่กงอี่โม่จดจ้องอยู่นั้น นางพลันหัวเราะเสียงดังลั่น!! ขณะที่หัวเราะนางก็ยังตบเตียงไปพลาง
มันช่างตลกจริงๆ! ตอนที่กงอี่โม่เห็นอีกฝ่ายใช้ถุงน้ำสีน้ำตาลสองถุงผูกไว้บนหน้าอกด้วยผ้าสีขาวนางรู้สึกตลกอย่างบอกไม่ถูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอีกฝ่ายมีใบหน้างดงามมีเสน่ห์ทว่าหน้าอกกลับแบนราบราวกับแผ่นกระดาน ดูแล้วช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก
นางหัวเราะอย่างครื้นเครง อีกฝ่ายกลับโมโหจนกระชากผ้าสีขาวทิ้งเวลานี้หน้าอกที่ถูกรัดจนเป็สีแดงออกม่วงจึงอวดโฉมขึ้นกงอี่โม่เริ่มรู้สึกตั้งตัวไม่ค่อยทัน
“หัวเราะพอหรือยัง?”
เขาใช้น้ำเสียงของบุรุษตามจริงเสียงเดิมของเขาก็เป็เสียงนุ่มนวลมีเสน่ห์ ฟังแล้วเสนาะหูยิ่งนักเวลานี้เขากลอกตาใส่นางเมื่อใบหน้างามราวกับสตรีแสดงกิริยาเช่นนี้จึงทำให้กงอี่โม่อยากหัวเราะอีกครั้ง
“องค์หญิงน้อยท่านลองบอกหน่อยสิว่าท่านรู้ได้อย่างไรว่าข้าเป็บุรุษ?”
ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจเพราะตลอดทางที่ผ่านมาไม่มีใครจับได้เลยสักคน เขาคิดว่าตัวเองทำอย่างแเีที่สุดแล้วแต่เพราะเหตุใดองค์หญิงน้อยจึงจับได้ล่ะ?
กงอี่โม่ยิ้มอย่างเ้าเล่ห์ท่ามกลางสายตาที่โมโหมากขึ้นเรื่อยๆ ของอีกฝ่าย ในที่สุดกงอี่โม่จึงหยุดหัวเราะทว่าสายตาของนางหยุดอยู่ตรงลำคอที่ชุดของเขาเปิดออกบริเวณนั้นมีปานกลีบดอกไม้สีชมพูอ่อนอยู่แห่งหนึ่ง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้