“มหาปฐีพิโรธ!”
หลังจากที่เย่เทียนหลงร้องคำรามเสียงดังออกมา ผืนแผ่นดินทั่วทั้งูเาสุสานทวยเทพราวกับกำลังพิโรธขึ้นฉันนั้น เริ่มสั่นะเืเลื่อนลั่นเคลื่อนตัวขึ้นลงไปมา อีกทั้งพลังฟ้าดินภายในอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์เริ่มไม่สงบ แปรปรวนขึ้น ทำเอาเยาเสและปีศาจอีกสองคนที่กำลังจะทำการหลบหนีมือไม้อ่อนทำอะไรไม่ถูกจนเกือบจะร่วงหล่นลงมาจากกลางอากาศ
ต้องเข้าใจว่าไม่ว่าจะเป็เผ่าปีศาจ เผ่าคนเถื่อน หรือเผ่ามนุษย์แม้รูปแบบของการฝึกยุทธ์จะแตกต่างกัน แต่ล้วนต้องอาศัยการดูดซับพลังฟ้าดินและศึกษาทำความเข้าใจในกฎเกณฑ์พลังฟ้าดินเหมือนกัน เพื่อทำให้ร่างกายของตนเองแข็งแกร่งขึ้น เพื่อทำให้พลังป้องกันและโจมตีทรงพลังอานุภาพรุนแรงขึ้น ดังนั้นไม่ว่าจะฝึกฝนอย่างไรในรูปแบบไหน หรือพลังฝีมือจะอยู่ในระดับขอบเขตใดก็ตาม พลังฟ้าดินถือว่าเป็สิ่งที่จำเป็และเป็รากฐานสำคัญที่ขาดไม่ได้
ผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนล้วนเคยชินกับการมีอยู่ของพลังฟ้าดินภายในอากาศ เคยชินกับการใช้พลังฟ้าดินในการต่อสู้ ในการป้องกัน และนำมาเสริมส่วนที่ใช้ออกไปกับเคล็ดวิชาและความสามารถต่างๆ นานา
ตอนนี้เย่เทียนหลงใช้กระบวนท่ามหาปฐีพิโรธออกมาทำให้ผืนแผ่นดินเคลื่อนตัวสั่นะเืเลื่อนลั่น เผ่าปีศาจทั้งสามคนภายในใจตอนนี้รู้สึกหวาดหวั่นเป็อย่างมาก ไม่ใช่ว่าเย่เทียนหลงมีสัตว์อสูรคุณภาพระดับแปดหมีั์เ้าดินแดนแค่นั้นมิใช่รึถึงได้มีพลังป้องกันที่แข็งแกร่ง? แต่ทำไมระดับความเข้าใจในกฎเกณฑ์พลังฟ้าดินพลังมหาปฐีของเขาถึงได้สูงเช่นนี้ด้วย? ถ้าหากวิชานี้พัฒนาให้แข็งแกร่งขึ้นมาอีกหน่อย พลังฟ้าดินในอากาศแปรปรวนขึ้นไปอีกหน่อย การต่อสู้ในครั้งนี้คงไม่มีความจำเป็ต้องดำเนินต่อไปแล้ว ยกธงขาวยอมแพ้ไปเลยยังจะดีกว่า
“ถอย!”
เยาเสเมื่อทรงกายได้สายตามองเห็นผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตาาจักรพรรดิสิบกว่าคนที่อยู่ด้านหลังเย่เทียนหลงจึงรีบออกคำสั่งล่าถอยในทันที เย่ชิงหานได้รับาเ็สาหัสถ้าถูกตระกูลเย่ช่วยกลับไปได้อย่างไรก็มีโอกาสรอด แต่ตอนนี้ถูกดูดเข้าไปในูเาสุสานทวยเทพแล้วคงไม่มีโอกาสรอดอย่างแน่นอน
ภารกิจในครั้งนี้เสร็จลุล่วงแล้ว ความแค้นของลูกชายได้รับการสะสางแล้ว ตอนนี้เผชิญหน้ากับเย่เทียนหลงที่กำลังเดือดดาลถึงขีดสุดและยังมีผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตาาขักรพรรดิอีกสิบกว่าคน หากยังไม่รีบหนีไปในตอนนี้ก็คงจะต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่จริงๆ อย่างไม่ต้องสงสัย
“คิดหนี? ฝันไปเถอะ วันนี้พวกเ้าทั้งสามจะต้องหลับอยู่ที่นี่... บึงน้ำมหาปฐี!”
เย่เทียนหลงเพ่งมองดูม่านพลังหมอกสีขาวที่ดูดกลืนเย่ชิงหานเข้าไปอีกครั้งหนึ่ง ดวงตาปรากฏความเศร้าและเ็ปขึ้น จากนั้นชั่วพริบตาเดียวพลันถูกความโกรธแค้นเดือดดาลเข้ามาแทนที่ ร้องคำรามออกมาครั้งหนึ่งทั่งร่างพลันแผ่พุ่งกระแสพลังแสงสีเหลืองออกมา แสงสีเหลืองแผ่ขยายออกไปทั่วทุกทิศทางอย่างรวดเร็ว อาณาเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ในเวลาเดียวกันก็เปล่งประกายแสงเข้มข้นขึ้นกว่าเดิมเปลี่ยนจากสีเหลืองเป็สีเหลืองเข้ม
เผ่าปีศาจทั้งสามที่กำลังทำการหลบหนีไปทั่วทุกทิศภายในอาณาเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ ระดับความเร็วของพวกเขาลดลงไปไม่ต่ำกว่าหนึ่งเท่าตัว ส่วนคนอื่นๆ ของตระกูลเย่ล้วนไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย ในทางตรงกันข้ามระดับความเร็วกลับเพิ่มมากขึ้นทำให้ไม่นานก็สามารถโอบล้อมเผ่าปีศาจทั้งสามคนอาไว้ได้พร้อมกับเริ่มลงมือโจมตีในทันที
“มารดามันเถอะ! ไอ้ระยำนั่นมันบอกว่าเย่เทียนหลงก็มีแค่พลังป้องกันที่แข็งแกร่งเหมือนเต่าหดหัวในกระดองเท่านั้นเอง? กลับไปข้าจะฉีกปากมันให้ดู เอาแค่ความเข้าใจในพลังมหาปฐีของมันก็ไม่ต่ำกว่าระดับสองขั้นสูงสุดขอบเขตปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์แล้ว ไอ้เต่าหดหัวตัวนี้เก็บซ่อนได้มิดชิดจริงๆ!”
เยาเสลอบด่าออกมภายในใจ พลังดึงดูดที่มองไม่เห็นอยู่รอบตัวทำให้การเคลื่อนไหวและปฏิกิริยาตอบสนองของเขาเชื่องช้าลงไปเป็อย่างมาก ทำให้รู้สึกว่าพลังฝีมือระดับขั้นสูงขอบเขตปีศาจศักดิ์สิทธิ์อย่างเขาแค่รับมือกับผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตาาจักรพรรดิเพียงห้าหกคนของตระกูลเย่ก็ยังจะต้านทานไม่ไหว
“โฮก!”
ปีศาจลิงเพิ่งจะบรรลุถึงระดับขอบเขตปีศาจศักดิ์สิทธิ์ได้ไม่นานเมื่อเทียบกับเยาเสจึงยังห่างชั้นกันอยู่มาก เมื่อถูกผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตาาจักรพรรดิรุมโจมตีจึงได้รับาเ็ไปทั้งตัว ถึงแม้จะเป็าแเล็กน้อยไม่ถึงแก่ชีวิตแต่ถ้าหากยังขืนเป็เช่นนี้ต่อไปเขารู้ดีว่าคงได้จบสิ้นอยู่ที่แห่งนี้แน่นอน
คิดได้ดังนั้นจึงได้ร้องคำรามออกมาครั้งหนึ่ง ้าเหนือศีรษะพลันปรากฏเงาสถิตร่างของวานรตัวใหญ่ขึ้นมาร่างหนึ่ง จากนั้นทำการโจมตีออกไปยังเบื้องหน้าอย่างดุดันรุนแรงครั้งหนึ่งเพื่อหวังจะเปิดเป็ช่องทางให้ตนเองสามารถหนีออกไปจากอาณาเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ของเย่เทียนหลง
เพียงแต่เมื่ออยู่ภายใต้บึงน้ำมหาปฐีของเย่เทียนหลง ร่างกายได้รับผลกระทบทำให้ปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายเชื่องช้ากว่าปกติลงไปมาก ผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตาาจักรพรรดิของตระกูลเย่ล้วนทำการหลบหลีกออกไปก่อนแล้ว ทำให้การโจมตีที่โจมตีออกไปซัดถูกแค่อากาศธาตุ หลังจากที่เขาใช้กระบวนท่าจบคนเ่าั้ก็รุมล้อมเข้ามาอีก ต่างสาดกระหน่ำการโจมตีเข้าใส่ร่างเขาอีกครั้งอย่างไม่นึกเสียดายพลัง
“ปีศาจเสือดาวถึงเวลาตายของเ้าแล้ว!”
หลังจากผ่านเหตุการณ์เย่เจี้ยนและเย่ชิงขวง ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาเย่เชียงล้วนเก็บตัวฝึกฝน เมื่อเย่เทียนหลงเรียกรวมพลเขาถึงได้ออกมา เดิมทีพลังฝีมืออยู่ในระดับแรกขั้นสูงสุดขอบเขตาาจักรพรรดิ เมื่อผ่านการสงบจิตใจฝึกฝนตลอดหนึ่งปีจึงทำให้พลังฝีมือเลื่อนขั้นขึ้นมาถึงระดับขั้นสองขอบเขตาาจักรพรรดิได้สำเร็จ เมื่อทำการรวมร่างสัตว์อสูรพลังฝีมือจะเพิ่มพูนขึ้นถึงระดับสามขั้นสูงสุดขอบเขตาาจักรพรรดิ กฎเกณฑ์พลังฟ้าดินที่ฝึกฝนคือพลังแห่งไฟซึ่งมีแนวโน้มกำลังจะพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น
วิชาหอกเพลิงอัคคีที่เขาคิดค้นขึ้นเองโดยอาศัยความเข้าใจในระดับพลังแห่งไฟของตนเอง เมื่อก่อนยังหาโอกาสนำออกมาใช้จริงยังไม่ได้ แต่เมื่อต้องต่อสู้กับเผ่าปีศาจที่มาตามสังหารเย่ชิงหานอย่างโเี้เช่นนี้เขาย่อมไม่เกรงใจที่จะใช้วิชาที่มีออกมาแน่นอน
เนื่องจากปีศาจเสือดาว้าสังหารเย่ชิงหานจึงตัดมือของตนเองออกไปข้างหนึ่ง เวลานี้พลังฝีมือจึงลดต่ำลงไปเป็อย่างมาก ประกอบทั้งตอนนี้ได้รับผลกระทบจากบึงน้ำมหาปฐีของเย่เทียนหลงอีกยิ่งทำให้ระดับความเร็วลดลดต่ำจนถึงขีดสุด หลังจากรับการโจมตีจากหอกสีแดงเพลิงของเย่เชียงไปสิบกว่าครั้งก็เริ่มรู้สึกจะต้านรับไม่ไหวอีกต่อไป หลายครั้งที่หันหน้าร้องไปทางเยาเสเพื่อหวังที่จะให้เขามาช่วยเหลือ
เยาเสเองในตอนนี้ก็ตกที่นั่งลำบากเช่นเดียวกันสายตามองดูเย่เทียนหลงควบคุมอาณาเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ค่อยก้าวเข้ามาหาตนเองทีละก้าว ตอนนี้อย่าพูดถึงว่าให้ไปช่วยทั้งสองคนเลย แม้แต่ตัวเขาในตอนนี้ถ้าไม่รีบคิดหาหนทางละก็คงไม่มีโอกาสหนีรอดไปได้อย่างแน่นอน เส้นผมสีทองซึ่งเป็อาวุธปีศาจคู่ชีวิตใช้ออกไปจนหมดเพื่อสังหารเย่ชิงหาน ตอนนี้พลังฝีมือตกต่ำลงมาหนึ่งถึงสองส่วนแล้วด้วย
แม้ว่าตอนนี้เย่ชิงหนิวเองก็ใช้เคล็ดวิชาลับเกราะาวัวศึกอสูรเพื่อเอาชีวิตรอดไปแล้วทำให้ไม่มีพลังในการโจมตีไปด้วยชั่วคราว แต่ถ้าเย่เทียนหลงเข้ามาใกล้ได้และใช้ท่าลับพิเศษสุดยอดอะไรออกมาอีก ประกอบทั้งอาวุธปีศาจคู่ชีวิตของตนเองที่ไม่มีไว้ป้องกันแล้ว สุดท้ายคงหนีไม่พ้นต้องทิ้งชีวิตเอาไว้ทีู่เาสุสานทวยเทพแห่งนี้แน่
ดังนั้นเขาจึงไม่มีเวลาไปสนใจความเป็ความตายของปีศาจอีกสองตนที่เหลือ รีบอัญเชิญเงาสถิตร่างราชสีห์ขนทองออกมาอีกครั้งเพื่อห่อหุ้มร่างกาย จากนั้นออกแรงวิ่งตะบึงมุ่งหน้าไปยังภายนอกอาณาเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ทันที
“หอกเพลิงอัคคีแผดเผากายา!”
หอกยาวของเย่เชียงดูราวกับท่อนกระบองเพลิงที่ลุกโชนขึ้นด้วยไฟที่ร้อนแรง หอกจากหนึ่งแยกออกเป็สิบสองพุ่งตรงเข้าใส่ปีศาจเสือดาวจากทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้านสกัดทางหนีของมันไว้จนหมดสิ้น แม้อยากจะหนีแต่ระดับความเร็วนั้นเชื่องช้ากว่าความเร็วของหอกอยู่มาก สุดท้ายร้องออกมาด้วยเสียงน่าเวทนาครั้งหนึ่งก่อนที่จะตายลงไปภายใต้ท่าหอกเพลิงอัคคีแผดเผากายาของเย่เชียง
ปีศาจเสือดาวระดับขอบเขตจักรพรรดิปีศาจ...ตาย!
หลังจากที่ปีศาจเสือดาวตายทำให้ปีศาจลิงรู้สึกได้ถึงอันตรายที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน มันรู้ดีว่าแม้แต่เยาเสในตอนนี้ก็ยังแทบจะเอาตัวเองไม่รอด คงไม่มีเวลามาช่วยเหลือตนเองอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงร้องคำรามออกมาสองครั้งร่างกายพลันแผ่ไอพลังสีแดงขึ้นระลอกหนึ่ง มันไม่สนใจต่อผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตาาจักรพรรดิเจ็ดแปดคนที่อยู่โดยรอบและไม่ทำการป้องกันอีกต่อไป แต่กลับเพิ่มระดับความเร็วขึ้นอย่างสุดชีวิตพุ่งทะยานฝ่าออกไปอย่างรวดเร็ว
“ฮึ...คิดจะหนี? มหาปฐีพิโรธ!”
เย่เทียนหลงย่ำเท้าเดินใกล้เข้ามาหาพวกเยาเสขึ้นเรื่อยๆ ด้วยลักษณะท่าทางที่เชื่องช้าและแปลกประหลาด เมื่อมองเห็นปีศาจลิงระดับขอบเขตปีศาจศักดิ์สิทธิ์ทุ่มสุดชีวิตไม่สนอาการาเ็สาหัสก็จะต้องตีฝ่าวงล้อมหนีออกไปให้ได้นั้น เขากระแทกเสียงออกมาครั้งหนึ่งก่อนที่จะใช้ท่ามหาปฐีพิโรธออกมาอีกครั้ง เพียงชั่วครู่ผืนแผ่นดินทั่วทั้งูเาสุสานทวยเทพเริ่มเคลื่อนตัวสั่นไหวขึ้นอีกครั้ง พลังฟ้าดินภายในอาณาบริเวณเริ่มไม่สงบแปรปรวนขึ้นจนเกือบทำให้ปีศาจลิงที่กำลังเหาะทะยานลอยหนีอยู่ร่วงหล่นลงมาจากกลางอากาศ
“หอกะุเพลิงอัคคี!”
เย่เชียงที่เพิ่งสังหารปีศาจเสือดาวเสร็จกำลังเหาะลอยมาพอดี มองเห็นปีศาจลิงกำลังคิดที่จะทำการหลบหนีแต่ถูกกระบวนท่ามหาปฐีพิโรธของเย่เทียนหลงขัดขวางเอาไว้จนร่างกายหยุดชะงักโอนเอนเสียหลักและกำลังพยายามประคับประคองร่างกายให้ยืนได้มั่นคง เมื่อมองเห็นถึงโอกาสที่ดีงามเช่นนี้แน่นอนว่าเขาย่อมไม่ปล่อยให้หลุดลอยไป พลังเพลิงอัคคีร้อนแรงที่ลุกโชนอยู่ที่ภายนอกตัวหอกพลันผลุบหายเข้าไปภายในตัวหอกจนหมด จากนั้นใจกลางฝ่ามือปรากฏคลื่นพลังเพลิงที่ร้อนแรงขึ้นแล้วออกแรงกระแทกดันหอกออกไป หอกเพลิงอัคคีพุ่งออกจากมือลอยแหวกอากาศตรงเข้าไปยังด้านหลังของปีศาจลิงอย่างรวดเร็ว
“อ๊าาา...!”
หอกเพลิงอัคคีพุ่งแทงทะลุจากทางด้านหลังของปีศาจลิงพร้อมด้วยละอองฝนเืสายยาวที่สาดกระจายปลิวอยู่กลางอากาศตามทางที่ตัวหอกพุ่งทะลุออกไป บนร่างของมันปรากฏเป็รูโบ๋ขึ้นมาจากนั้นมันร้องอย่างน่าเวทนาออกมาครั้งหนึ่ง แล้วร่างกายเริ่มร่วงหล่นลงมาสู่พื้นอย่างรวดเร็ว ด้วยร่างกายที่ใหญ่โตของมันเมื่อกระแทกลงสู่พื้นจึงบังเกิดเสียงดังสนั่นพร้อมกับฝุ่นที่ลอยคละคลุ้งตามมา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้