“ข้าขอบอกพวกเ้าเอาไว้เลยว่าอย่าได้เอาแม่นางสกุลเกาจากหมู่บ้านหลูเหยียนมาเป็สะใภ้เชียว แม่นางสกุลเการ้ายกาจยิ่งนัก นางหยาบคายกันทุกคน มิได้อ่อนโยนใจดีเหมือนแม่นางของหมู่บ้านพวกเรา” เมื่อพูดถึงเื่หาคู่ แม่สื่อโจวก็เริ่มสนใจ นางเอาจี๋ซื่อกับเกาต้าจ้วงมาแฉจนพวกเขามิเหลือชิ้นดี“ท่านย่าเฉียว ท่านคุยเล่นกับทุกคนไปก่อนนะขอรับ ข้าจะไปดูในครัวว่ามีสิ่งใดให้ข้าช่วยหรือไม่” ซ่งจื่อเฉินมิชอบการซุบซิบนินทาเป็ทุนเดิมอยู่แล้ว เขาเลยหาข้ออ้างหลบออกมา
ปกติบ้านซ่งจะทำอาหารกันในครัว แต่เพราะวันนี้มีคนมามาก ซ่งผิงเลยรื้อห้องเอ่อร์ฝางออก ทำเป็ครัวชั่วคราว ข้างในจุดไฟเอาไว้สองสามเตา วางเขียงหลายอันเพื่อให้ทุกคนทำอาหาร
“พี่จื่อเฉิน ท่านมาได้อย่างไรเ้าคะ” ซ่งจื่อเฉินเพิ่งเข้ามาในครัว โจวซู่ซินก็ร้องทัก เวลานี้โจวซู่ซินกำลังหั่นเนื้ออยู่กับจิ่นเซวียน
วัตถุดิบในบ้านมีหลากหลาย มีพอทำให้ทุกคนทานในคืนนี้ และพอสำหรับให้ครอบครัวของพวกเขาทานต่อได้อีกสักสองสามมื้อ เพราะอากาศร้อนของเลยเสียง่าย อาหารเน่าเสียง่ายพวกนั้นจึงต้องรีบนำมาทำอาหารก่อน มิเช่นนั้นหากกินเข้าไป จะท้องเสียเอา
“ซู่ซินเอ๋ย เ้าซื่อยิ่งนัก น้องห้าย่อมต้องมาดูน้องสะใภ้ห้าอยู่แล้ว” เฉินซื่อชิงขัดโจวซู่ซินก่อน เดิมทีนางก็ว่าจะกลั่นแกล้งจิ่นเซวียน แต่หลังจากที่จิ่นเซวียนตัดสินใจพาครอบครัวบ้านซ่งของพวกเราร่ำรวยไปด้วย นางเลยเลือกยืนข้างจิ่นเซวียนแทน
“น้องสะใภ้ห้า เ้าแต่งตัวงดงามเช่นนี้มาทำงาน พี่สะใภ้ทนมิได้จริงๆ หากเ้าว่างก็ไปสอนพวกเด็กๆ อ่านหนังสือเถิด งานใช้แรงพวกนี้ พวกเราทำกันเองได้” เฉินซื่อพูดพลางรับมีดจากมือของจิ่นเซวียน ให้จิ่นเซวียนใช้ด่างล้างมือแล้วรีบออกไปอยู่กับซ่งจื่อเฉิน
“พี่สะใภ้ ลำบากพวกท่านแล้วเ้าค่ะ” แม้จิ่นเซวียนจะทำอาหารเก่ง แต่บางครั้งนางก็มิอยากทำ นางมิชอบล้างจานที่สุด ชาติก่อนนางเลยจ้างพี่เลี้ยงทำงานบ้านแทน
“พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านรักน้องสะใภ้ของท่านเสียจริงเ้าค่ะ” หลังจากที่จิ่นเซวียนตามซ่งจื่อเฉินออกไปแล้ว โจวซู่ซินจงใจหยั่งเชิงเฉินซื่อ นางอยากดูว่าเฉินซื่อจะยังยืนข้างจิ่นเซวียนหรือไม่
“น้องสะใภ้เป็เพียงเด็ก ข้าในฐานะพี่สะใภ้ใหญ่ย่อมรักและเอ็นดูนางอยู่แล้ว” เฉินซื่อฉลาด นางรู้จุดประสงค์ของโจวซู่ซิน หากนับตามอายุแล้ว นางเป็แม่ของจิ่นเซวียนได้เลย
ลูกชายคนโตของนางยังแก่เดือนกว่าจิ่นเซวียนเสียด้วยซ้ำ!
“โชคดีนักที่นางมีท่านเป็พี่สะใภ้” โจวซู่ซินยิ้มอย่างสงบเยือกเย็น แต่ในใจกลับอึดอัด จิ่นเซวียนแต่งเข้ามามิถึงวันก็จัดการคนบ้านซ่งให้ว่านอนสอนง่ายแล้ว
“ซู่ซินเอ๋ย ข้าได้ยินว่าคุณชายหวังชื่นชอบเ้ามาก บ้านของพวกเขาจะมาสู่ขอเ้าเมื่อใดหรือ?” ซย่าตงชิงเดินมาจากข้างนอก และถามเื่ความสัมพันธ์ของโจวซู่ซินตรงๆ
โจวซู่ซินได้ยินแล้วก็ตอบกลับอย่างกระเง้ากระงอด “พี่สะใภ้สอง ท่านใจร้ายยิ่งนัก ข้ามิคุยกับท่านแล้วเ้าค่ะ”
“เมื่อบุรุษมีอายุถึงเกณฑ์ ควรขอสตรีเป็ภรรยา เ้าจะอายุสิบเจ็ดปีแล้ว หากยืดเวลาออกไปย่อมมิดีหรอก” ซย่าตงชิงมิได้เพิ่งรู้จักโจวซู่ซินวันสองวัน นางจึงรู้ว่าโจวซู่ซินคิดจะทำสิ่งใด
ทางฝั่งบ้านเดิม นางกับจิ่นเซวียนเป็ลูกพี่ลูกน้องแท้ๆ แม้ลำดับญาติจะห่างกัน แต่ก็เป็คนบ้านเดียวกันอยู่ดี
ส่วนทางฝั่งบ้านสามี นางรู้สึกขอบคุณซ่งจื่อเฉินที่คอยสอนให้ลูกชายของนางอ่านหนังสือั้แ่ที่เขาพูดได้ นางรู้ว่าซ่งจื่อเฉินเป็อัจฉริยะ ความสามารถของเขานั้น แม้กระทั่งนายท่านซิ่วไฉและเหล่าปัญญาชนยังเทียบมิได้เลย
“ใช่แล้วซู่ซิน พี่สะใภ้สองพูดถูก เ้ายืดเวลาไปมิเป็ผลดีต่อเ้า เวลานี้ทุกคนต่างรู้กันหมดว่าคุณชายหวังตามเกี้ยวเ้าอยู่ หากมิให้เขามาสู่ขอ ชื่อเสียงของเ้าจะเสียหายเอาได้”
เวลานี้เฉินซื่อมีความคิดตรงกับซย่าตงชิง นางหวังให้โจวซู่ซินมิมายุ่มยามกับน้องคนเล็กของสามีพวกนางอีก
“โชคชะตามิอาจฝืน พี่สะใภ้ทั้งสองมิต้องกังวลแทนข้าหรอกเ้าค่ะ ข้าเชื่อว่าจะมีบุรุษดีๆ สักคนรอข้าอยู่ในสักที่เ้าค่ะ” โจวซู่ซินพูดและ เร่งมือหั่นเนื้อจนเสร็จ นางก็ออกไปดูว่าผู้อื่นล้างผักเรียบร้อยแล้วหรือยัง
“พี่สะใภ้ใหญ่ เด็กเป่าจูชอบไปเล่นกับซู่ซินอยู่เรื่อย ข้ากลัวว่านางจะเอาเื่ของซู่ซินไปบอกเซวียนเซวียนเ้าค่ะ” ซย่าตงชิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เวลานี้บ้านของพวกเขามีเทพเ้าโชคลาภมาอยู่ด้วย หากล่วงเกินเทพเ้าโชคลาภเข้า จากนี้คงอยู่กันยากขึ้น
“น้องสะใภ้สอง เ้าคิดมากไปแล้ว ความจริงน้องเล็กมิได้ชอบซู่ซิน เ้ายังมองมิออกหรือ?เื่พวกนั้นเป็เพียงข่าวโคมลอยที่ซู่ซินจงใจปล่อย ทุกคนจะได้คิดว่าตัวนางนั้นดีเลิศเพียงใด”
เฉินซื่อฉลาดกว่าซย่าตงชิง นางมองโจวซู่ซินออกจนทะลุปรุโปร่ง
“ท่านแม่ ท่านอาห้าสารภาพรักกับท่านน้าเล็กต่อหน้าทุกคนเลยเ้าค่ะ เขาบอกว่านี่เป็หนแรกที่เขาหวั่นไหวกับสตรี และตกหลุมรักท่านน้าเล็กั้แ่แรกพบด้วยนะเ้าคะ” ซ่งหยวนหยวนยกกระจาดเข้าห้องครัวมาใส่ถั่วแขกที่เด็ดก้านออกแล้ว นางวางลงกระจาดลงบนเขียง ให้เฉินซื่อกับท่านแม่ของนางหั่นเป็ชิ้นเล็กๆ แล้วนำมาผัดกิน
“หยวนหยวน เื่นี้เกิดขึ้นเมื่อใดหรือ?” เฉินซื่อกับซย่าตงชิงสบตากันอย่างมิอยากเชื่อ พวกนางรู้ดีว่าน้องคนเล็กของสามีนิสัยเป็อย่างไร เขามิอายที่สารภาพรักต่อหน้าทุกคนหรือ?
“ผ่านมาครู่หนึ่งแล้วเ้าค่ะ ทุกคนต่างยังพูดเื่นี้กันอยู่ พวกเขายังบอกอีกว่าท่านอาห้ามิเคยชอบท่านอาซู่ซินเลยเ้าค่ะ”
“เ้าลดเสียงหน่อย อาซู่ซินของเ้าอยู่ข้างนอก” ซย่าตงชิงยกนิ้วชี้แนบริมฝีปากเชิงบอกให้ลูกสาวเงียบ อย่าให้โจวซู่ซินได้ยิน
“นางได้ยินถึงจะดี นางจะได้เลิกคิดเพ้อเจ้อ” เฉินซื่อยิ้มเยาะมิเห็นด้วย โจวซู่ซินมิมีทางเทียบจิ่นเซวียนได้ หากเป็คนดี นางจะหนีห่างจากน้องสามีของนางหลังจากที่เขาาเ็หรือ
สตรีใฝ่สูงเช่นนั้น นางมิอยากได้มาเป็น้องสะใภ้หรอก
นอกห้องเอ่อร์ฝาง โจวซู่ซินรู้สึกแย่ยิ่งนัก เมื่อได้ยินเสียงคนวิจารณ์ แต่นางก็ฝืนยิ้มอยู่ตลอด เพื่อมิให้ทุกคนมองออกว่านางเสียใจ
ซ่งเป่าจูที่อยู่ข้างๆ เห็นโจวซู่ซินมิเศร้า นางเลยแปลกใจ
“พี่ซู่ซิน อย่าเศร้าไปเลยเ้าค่ะ ท่านกับพี่ห้ามีใจให้กันั้แ่เล็ก ความสัมพันธ์เช่นนี้มิมีผู้ใดเทียบได้”
“เป่าจู เ้าอย่าทำลายชื่อเสียงของซู่ซิน นางกับพี่ห้าของเ้าบริสุทธิ์ใจต่อกัน มีความรักเชิงชายหญิงที่ใดกัน” พานซื่อเห็นซ่งเป่าจูตั้งใจมุ่งเป้ามาทางจิ่นเซวียน นางจึงรีบเอ่ยขัด
“เป่าจู พี่สะใภ้สามพูดถูกแล้ว ข้ากับพี่จื่อเฉินเป็เพียงสหายกัน เ้าอย่าคิดไปเอง หากพี่สะใภ้เล็กได้ยินเข้า นางต้องโกรธพี่จื่อเฉินแน่” โจวซู่ซินแอบดีใจที่ซ่งเป่าจูมีใจเอนเอียงมาที่นาง
“พี่ซู่ซิน ท่านอย่าโกรธเลย ข้าจะมิพูดเช่นนี้อีกแล้วเ้าค่ะ” ซ่งเป่าจูจิตใจหมองหม่น นางอยากจะระบายความทุกข์กับโจวซู่ซิน โดยการด่าจิ่นเซวียนจนมิให้นางได้ผุดได้เกิด
“เป่าจู ในห้องใต้ดินมีลูกพลับเจียงอันอยู่หนึ่งตะกร้า เ้าไปกับข้า ไปขนมันมาล้างแล้วนำไปแจกให้ทุกคนกินกัน” พานซื่อหาข้ออ้างเรียกซ่งเป่าจูไปกับนาง ซ่งเป่าจูมิชอบทำงานอยู่แล้ว เมื่อพานซื่อสั่งนางเช่นนี้ นางจึงมิพอใจยิ่งนัก
“พี่สะใภ้สาม ท่านไปเองก็ได้มิใช่หรือ?เหตุใดจะต้องเจาะจงเรียกข้าด้วยเล่า ข้ากับพี่ซู่ซินมิค่อยได้เจอกัน พวกเราจะอยู่เฝ้าเคาหยกนึ่งเข่งสานที่นี่ เมื่อนึ่งเรียบร้อยแล้ว พวกเรายกลงเองเ้าค่ะ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้