“จริงหรือ นี่ต้องใช้เงินเท่าไรกัน…” ด้านหนึ่งเจียงหงหนิงก็ดีใจมาก แต่อีกด้านก็เสียดายเงินมากเช่นกัน ทั้งสร้างบ้านทั้งเช่าบ้าน ทั้งส่งเขาเรียนหนังสือทั้งซื้อรถล่อ ถึงเงินจะมีมากเพียงใดย่อมมีวันหมด
เจียงหงหนิงยิ่งคิดหน้าก็ยิ่งดำมืดลง
“เ้าเด็กนี่ เื่เงินไม่ใช่เื่ที่เ้าต้องกังวล!” หลินหวั่นชิวใช้นิ้วจิ้มหน้าผากเขา “เ้าตั้งใจเรียนหนังสือเป็พอ รีบสอบเป็ซิ่วไฉไวๆ จะได้ช่วยหนุนหลังให้พี่สะใภ้กับต้าเกอเ้า! อีกอย่าง ต้าเกอเ้าได้เงินเดือนตั้งยี่สิบตำลึง นอกจากนี้เรายังมีรายรับทางอื่นอีก วันหน้าห้ามเป็เช่นนี้อีก ทำตัวเป็คนแก่ไปได้ ไม่กลัวขี้เหนียวจนวันหน้าแต่งภรรยาไม่ได้บ้างเลย”
เ้าเด็กนี่แก้นิสัยขี้เหนียวไม่ได้เสียที วันหน้าจะทำอย่างไร?
เจียงหงหนิงถูกหลินหวั่นชิวล้อจนหน้าแดง “ข้าไม่แต่งภรรยา!” แต่งภรรยามีกระไรดี เขาจะอยู่กับพี่สะใภ้ตลอดชีวิต (เจียงหงหย่วน “ไอ้เด็กนี่ไสหัวไปไกลๆ เลย นี่มันภรรยาข้า!” )
หลินหวั่นชิวไม่สนใจ เด็กน้อยจะไปเข้าใจสิ่งใด
นางถามเื่สถานศึกษาเพิ่มเติม ทั้งคู่คุยกันจนเดินมาถึงบ้านที่เช่าไว้
ดวงตาเจียงหงหนิงแทบถลนเมื่อเห็นประตูบานใหญ่กับหน้าร้านสองห้องด้านนอก คิดทันทีว่าบ้านหลังนี้ต้องราคาไม่น้อยเป็แน่!
ในใจกำลังหลั่งเื!
เขากลับไม่กล้าส่งเสียงใด เพียงเพราะกลัวหลินหวั่นชิวไม่มีความสุข
จากนั้นเมื่อเข้ามาในบ้าน ดวงตาก็ต้องเบิกโพลงกว่าเดิม
มีประตูบ้าน มีกำแพงภาพสลัก มีห้องประธานพร้อมกับห้องข้างซ้ายขวา
ด้านหลังห้องข้างซ้ายขวายังมีห้องอีกหนึ่งแถว
“ไท่ไท่ นายน้อย” ขณะที่เจียงหงหนิงกำลังสำรวจบ้าน ยายสวีก็เดินออกมาจากห้องครัว นางเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนแล้วยื่นมือมารับของจากมือเจียงหงหนิง
เจียงหงหนิงใสะดุ้ง ถอยตัวหลบตามสัญชาตญาณ
หลินหวั่นชิวรีบอธิบายกับเขา “นี่คือยายสวี นางทำงานในบ้านพวกเรา พักอยู่ตรงห้องที่ประตูใหญ่ วันใดต้าเกอเ้ากลับดึกจะได้มีคนช่วยเปิดประตู”
เจียงหงหนิง “…”
พี่สะใภ้เพิ่งมาไม่กี่วัน บ้านพวกเขาก็เปลี่ยนจากบ้านที่กินไม่อิ่มมาเป็บ้านที่มีบ่าวใช้เสียแล้ว!
นี่ต้องใช้เงินขนาดไหน…ไม่สิๆ เงินนี้ควรใช้ เขาไม่ได้อยู่ช่วยงานที่บ้าน พี่สะใภ้ต้องเหน็ดเหนื่อย มีบ่าวใช้ช่วยทำงาน พี่สะใภ้จะได้เหนื่อยน้อยลง
นี่เป็สิ่งเดียวที่เจียงหงหนิงรู้สึกว่าไม่เปลืองเงิน
หลินหวั่นชิวพูดต่อว่า “เ้าเลือกห้องข้างซ้ายขวามาหนึ่งห้อง ที่เหลือเป็ของเอ้อร์เกอเ้า พรุ่งนี้ต้าเกอเ้าจะกลับหมู่บ้านไปรับตัวเอ้อร์เกอมา ่ที่บ้านยังสร้างไม่เสร็จ พวกเราจะอาศัยอยู่ในอำเภอไปเสียก่อน”
“ข้าอยู่ห้องใดก็ได้” เจียงหงหนิงพูดจบก็เดินไปทางห้องฝั่งตะวันออกที่อยู่ใกล้เขาที่สุด เดินเข้าห้องขนาบข้างตามสัญชาตญาณ แต่หลินหวั่นชิวกลับดันตัวเขาให้เข้าห้องหลัก “เ้าเป็นายน้อยสามของตระกูลเจียงแล้ว ห้องขนาบข้างมีไว้ให้เ้าใช้เป็ห้องหนังสือหรือไม่ก็ให้บ่าวใช้อยู่ ไว้เ้าสอบได้ตำแหน่งซิ่วไฉ ข้าจะให้ต้าเกอซื้อเด็กรับใช้ให้”
เด็กๆ ไม่ควรตามใจก็จริง แต่ก็ต้องให้กำลังใจอย่างเหมาะสม
สอบได้ตำแหน่งซิ่วไฉซื้อเด็กรับใช้หนึ่งคน สอบได้ตำแหน่งจวี่เหรินซื้อเพิ่มอีกคน
อืม หลินหวั่นชิววางแผนไว้เช่นนี้
“ขอบคุณพี่สะใภ้ขอรับ” ตอนแรกเขาจะปฏิเสธ เตรียมจะพูดออกจากปากอยู่แล้วแต่ก็กลัวหลินหวั่นชิวไม่มีความสุข สุดท้ายก็ยอมตามใจนาง
คงมีเพียง์ที่รู้ว่าเขาต้องอดทนไม่พูดคำปฏิเสธขนาดไหน!
ห้องที่สะอาดสะอ้านห้องนี้เป็ของเขาแต่เพียงผู้เดียว บนโต๊ะหนังสือที่ทั้งใหญ่ทั้งสวยงามมีพู่กัน ถ้วยล้างพู่กัน จานฝนหมึกและกระดาษวางอยู่ ชั้นหนังสือด้านข้างว่างเปล่าไม่มีสิ่งใด
เจียงหงหนิงรีบเปิดสัมภาระอย่างตื่นเต้น ใส่หนังสือสองสามเล่มของตัวเองขึ้นไป จากนั้นเขาได้ยืนมองอยู่หน้าชั้นหนังสือเป็เวลานาน
เขาคิด สักวันเขาจะเติมชั้นหนังสือให้เต็ม
“เ้าพักผ่อนเสียก่อน ไว้ถึงเวลากินข้าวข้าจะมาเรียก” เสียงหลินหวั่นชิวดังขึ้นนอกหน้าต่าง เจียงหงหนิงขานรับเสร็จก็ไปนั่งจับพู่กันเขียนหนังสือที่โต๊ะ ทำการบ้านที่ท่านอาจารย์สั่ง รีบทำให้เสร็จจะได้มีเวลาไปอ่านหนังสือ
ตระกูลเจียงใช้ชีวิตในอำเภออย่างมีความสุข แต่บรรยายกาศตระกูลสวีที่อยู่ในชนบทกลับไม่ค่อยดีนัก
สวีฝูเรียกตัวสวีเทามา ภายในห้องมีพวกเขาลุงหลานแค่สองคน
สวีเทาพอจะคาดเดากระไรได้ แต่ไม่ได้แสดงออกบนสีหน้าชัดเจนนัก เขาประสานมือทำความเคารพให้สวีฝูอย่างนอบน้อม “ท่านลุงเรียกข้ามา…”
บนโต๊ะมีทั้งอาหารและเหล้าแต่กลับเรียกเขามาเพียงคนเดียว สวีเทารู้สึกว่าต้องมีเื่กระไรเป็แน่
ต้องมีเื่อยู่แล้ว
สวีเทาพูดอย่างมีเลศนัย “เหตุใด ได้เป็มือปราบในตำบล เป็ลูกเขยบ้านกำนันเจิ้ง เงินเดือนสูงแล้ว หน้าใหญ่แล้ว ลุงจะเชิญดื่มเหล้าหน่อยไม่ได้หรือ?”
สวีเทาได้ยินดังนั้นก็กลัวขึ้นมา จริงอยู่ที่พ่อตาเขาเป็กำนัน แต่พ่อตาของลูกพี่ลูกน้องเขาเป็ถึงผู้ช่วยนายอำเภอนะ!
“ไอ๊หยา…ดูท่านพูดเข้าสิ หากไม่มีต้าเกอ ข้าจะเป็มือปราบได้อย่างไร! ท่านลุงวางใจเถิด ข้าไม่กล้าลืมบุญคุณของท่านกับต้าเกอเป็แน่”
พูดจบก็รินเหล้าประจบสวีฝู แต่สวีฝูกลับวางจอกเหล้าลงบนโต๊ะเต็มแรง “เ้าใจกล้านัก ถึงทำให้ช่างก่ออิฐในระแวกนี้ไม่กล้ารับงานบ้านตระกูลเจียงกันเสียหมด ตระกูลสวีของข้ามีอันธพาลรังแกชาวบ้านแบบเ้าออกมาได้อย่างไร!”
สวีเทาใ เขาทำเื่นี้อย่างเป็ความลับที่สุด ท่านลุงรู้ได้อย่างไร?
“ท่านลุง ท่านพูดเื่กระไรกัน? เื่นี้ เื่นี้จะเกี่ยวกับข้าได้อย่างไร?”
สวีฝูยิ้มเยาะให้เขา “หากไม่มีหลักฐานแน่ชัด ข้าจะกล้าพูดเช่นนี้หรือ? อย่ามาสร้างปัญหาให้ต้าเกอเ้า! ให้เื่นี้จบลงเพียงเท่านี้ ข้าเป็หัวหน้าหมู่บ้าน พอจะช่วยจัดการได้อยู่บ้าง แต่ว่า...ถ้าหลังจากนี้คนงานที่บ้านตระกูลเจียงจ้างลาออกกันอีก…”
“ท่านลุง…ข้าผิดไปแล้วขอรับ ข้ามีเื่บาดหมางกับเหล่าต้าตระกูลเจียง ดังนั้นจึง…แต่ท่านวางใจเถิด ในเมื่อท่านพูดถึงขนาดนี้ เื่นี้จะไม่เกิดขึ้นอีกขอรับ”
ยังจะทำกระไรได้อีก? ใบหน้าสวีเทามีรอยยิ้ม ทว่าในใจกลับขมขื่น ครุ่นคิดอย่างหนักว่าเื่นี้มีกระไรผิดพลาดตรงไหน ถึงทำให้ท่านลุงของเขารู้ได้
เขามีหรือจะไม่รู้ว่าสวีฝูเป็คนอย่างไร อย่าเห็นแต่ว่าเขาทำตัวสง่าผ่าเผย แท้จริงแล้วเขากำลังวางแผนยึดบ้านตระกูลเจียงต่างหาก กลัวบ้านตระกูลเจียงจะสร้างไม่เสร็จ
ไม่ได้ เขาต้องคิดหาวิธีอื่น ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเอาส่วนแบ่งมาให้ได้ หรือไม่ก็ให้บ้านเหล่าหลินลงมือ…
