สิ้นเสียงพูด เฉินเฟิงก็ออกแรงดึงผมของหวังจงหลี่จนมันหลุดเป็กำมือ แถมมีเศษหนังเปื้อนเืติดออกมาด้วย
แม้ฉากนี้จะดูน่ากลัว แต่ถ้าเทียบกับภาพของเย่กังที่ถูกถังออกซิเจนเสียบทะลุกล่องดวงใจติดกับผนังแล้ว เืสีขาวปนแดงที่เจิ่งนองเต็มพื้นยังถือว่าเล็กน้อย
จังหวะนี้เอง จู้เจินฉิงที่โดนตบจนแกล้งสลบบนพื้น ใบหน้าที่บวมครึ่งซีกของที่ต้องอดทนกับความเ็ปและกดโทรศัพท์เรียกคนมาช่วย ใบหน้านั้นก็จ้องมองเฉินเฟิงด้วยสายตาเคียดแค้น
"เฉินเฟิง ไอ้ฆาตกรใจทราม ไม่ใช่ว่าแกโดดตึกฆ่าตัวตายหนีความผิดไปแล้วเหรอ? ฉันโทรหาคุณชายใหญ่ตระกูลเย่แล้ว ฉันโทรหาเย่ชิงโหรวด้วย แกรอรับความตายแบบไม่มีที่ให้กลบฝังได้เลย!"
แม้จู้เจินฉิงจะรู้อยู่แก่ใจว่าเย่กังยิงเฉินเฟิง แต่เธอกลับปิดเื่นี้เงียบ แล้วโยนความผิดทั้งหมดให้กับเฉินเฟิงคนเดียว
ที่จริงแล้วสำหรับจู้เจินฉิง ไอ้อ้วนอย่างเย่กังจะตายหรือไม่ เธอไม่ใส่ใจสักนิด
เพียงแต่ภรรยาของเย่กังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนนอนเป็ผักอยู่และมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน เมื่อเธอเสียชีวิตลง จู้เจิงฉิงอาจได้เลื่อนสถานะจากบุตรบุญธรรมเป็คุณนายสามตระกูลเย่ และแต่งเข้าตระกูลได้อย่างเป็ทางการ
"ฉันกับลูกคิดดูแล้ว ในเมื่อพวกจิตใจโเี้อำมหิตเห็นแก่เงินอย่างพวกแกยังไม่ตาย พวกเราพ่อลูกจะตายก่อนได้ยังไง" เฉินเฟิงพูดเสียงลอดไรฟัน พลางมองผู้หญิงตรงหน้าไม่วางตา เธอคือหญิงสาวคนแรกที่เขาพบเจอหลังปิดผนึกความทรงจำ และออกมาฝึกฝนในโลกมนุษย์เมื่อหกปีก่อน
เขาจำได้อย่างชัดเจนว่า เมื่อไม่นานมานี้ จู้เจินฉิงในฐานะแม่ผู้ให้กำเนิดเฉินเชียน พยายามจะอุ้มลูกสาวแท้ๆ ไปที่ห้องผ่าตัดเพื่อบังคับให้ลูกสาวปลูกถ่ายกระจกตา!
"รปภ.! ผู้ชายคนนี้ทำร้ายร่างกายฉัน! มาจับตัวเขาไว้ รอให้ตำรวจกับคนตระกูลเย่มาถึง!"
จู้เจินฉิงรู้ตัวว่าเธอเถียงสู้เฉินเฟิงไม่ได้ จึงสั่งการเหล่าเ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เพิ่งฝ่าฝูงชนเข้ามาได้ให้พวกเขาควบคุมตัวเฉินเฟิงโดยเร็ว
เหล่าเ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเคลื่อนไหวเข้ารุมล้อมเขาจากทุกทิศทางอย่างรวดเร็ว ในมือถือกระบองไฟฟ้าที่ส่ง เปรี๊ยะๆ ออกมาเป็ระยะๆ
เฉินเฟิงมองดูก็รู้ทันทีว่า เหล่าเ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านี้ล้วนเป็ทหารผ่านศึกที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี
แต่ในฐานะเทพเ้าาแห่งแดนต้าหลง เขาไม่อยากลงมือกับทหารประเทศตัวเอง และไม่อยากให้พวกเขาต้องลำบากในฐานะเ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้วย
เฉินเฟิงจึงรีบเดินไปที่เย่กังอยู่ แล้วเกร็งนิ้วแทงเข้าไปในถังออกซิเจนที่แทงเย่กังอยู่ นิ้วทั้งห้าของเขาแทงทะลุถังออกซิเจนเหล็กอย่างง่ายดายราวกับเต้าหู้ ส่งผลให้มันบี้แบนในพริบตา
เขารู้ว่าออกซิเจนในถังใกล้จะหมดแล้ว จึงไม่มีเสียงะเิดังขึ้น มีเพียงออกซิเจนส่วนน้อยที่ยังเหลืออยู่กำลังรั่วไหลออกมา
ฟู่
เฉินเฟิงใช้ถังออกซิเจนเหล็กกล้าแทนดาบหนักไร้คม เขาดึงมันออกจากที่เก็บและตัวของเย่กัง
ปลายแหลมของตัวถังยังมีคราบเืเปื้อนอยู่ เขาลากถังไปกับพื้นอย่างช้าๆ
พื้นหินอ่อนที่แข็งแกร่งกลับถูกขูดเป็รอยแตกโค้ง!
หลังจากเขาดึงถังออกซิเจนออก เืจำนวนมากไหลทะลักออกมาจากร่างของเย่กัง รอยเืเ่าั้ไหลลงสู่รอยแตกร้าวของพื้นผนัง จนดูคล้ายแนวป้องกันที่เต็มไปด้วยเื!
"แค่พวกแก ทหารผ่านศึกแก่ๆ ไม่กี่คน คิดจะขวางฉัน?" เฉินเฟิงกวาดตามองเหล่าเ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่รุมล้อมเขาอยู่ น้ำเสียงของเขาเปี่ยมไปด้วยพลัง
รอบตัวเขาปลดปล่อยบรรยากาศน่าเกรงขาม เสมือนเทพเ้าาผู้ไร้เทียมทาน ท่าทางเด็ดขาดเฉียบคมนั้นสร้างความหวาดกลัวให้กับเ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจนไม่มีใครกล้าแม้ขยับเขยื้อน
ถังออกซิเจนที่ทำจากเหล็กหนาถูกนิ้วของเขาแทงทะลุจนแบนราบ
บุคคลเช่นนี้ย่อมไม่ใช่คนระดับที่พวกเขาจะต่อกรได้!
พวกเขาต่างรู้สึกหวาดกลัวจนตัวสั่น พูดอะไรไม่ออก และไม่กล้าเอ่ยคำพูดข่มขู่ใดๆ
สถานการณ์ตึงเครียดเช่นนี้ยืดเยื้อนานถึงสิบนาที
ในที่สุดเหล่าตำรวจติดอาวุธและผู้นำตระกูลเย่คนปัจจุบัน เย่ชิงโหรวพร้อมด้วยบุตรชายคนเล็ก และเย่เฉินก็มาถึงที่เกิดเหตุ
เมื่อเห็นกลุ่มตำรวจติดอาวุธปรากฏตัวขึ้น ผู้ป่วยและญาติคนไข้ที่มุงดูอยู่ต่างใกลัว รีบหนีแตกกระเจิงไปคนละทิศละทาง
"เฉินเฟิง กล้าดียังไงถึงกับลงมือทำร้ายลุงสามของฉันจนาเ็สาหัสในโรงพยาบาลของฉันเอง นี่ยังไม่รีบยอมจำนนอีกเหรอ?"
เย่ชิงโหรวเป็สาวแกร่ง เธอแผดเสียงด้วยความโกรธเกรี้ยวเมื่อเห็นสภาพอันน่าสยดสยองของเย่กัง
เธอฝ่าเข้าวงล้อมของพนักงานรักษาความปลอดภัยอย่างฉับไว เดินเข้าไปหาเฉินเฟินหมายจะตบหน้า
ทว่าเฉินเฟิงไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป เขาไม่ใช่สามีไร้ค่าที่ถูกเย่ชิงโหรวดูถูกอีกแล้ว แน่นอนว่าเขาจะไม่ยอมยืนอยู่เฉยๆ ให้เธอตบด้วย
เขาหลบอย่างว่องไว และรุกคืบเข้าหาตัวเย่ชิงโหรว ดวงตาพยัคฆ์ของเขากำลังจ้องตรงไปที่ตานกฟินิกซ์ของเธอ
พร้อมกันนั้น ถังออกซิเจนในมือถูกเขาเหวี่ยงราวกับดาบหนัก ทรงอำนาจและน่าหวาดหวั่นเสมือนพยัคฆ์
เหล่าตำรวจติดอาวุธต่างตกตะลึงกับอาวุธในมือเฉินเฟิง
พวกเขาทราบกันดีว่าในโลกแห่งเทคโนโลยีนี้ ยังมีเหล่านักสู้ผู้ทรงพลังเร้นกายอยู่
ผู้าุโตระกูลเย่ก็เป็นักสู้ที่เก่งกาจ แต่แม้กระทั่งผู้าุโคนนั้นผู้เป็นักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเมือง ก็มิอาจใช้ถังออกซิเจนเป็ดาบใหญ่ไร้คมเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาได้อย่างคล่องแคล่วเช่นนี้
"เย่ชิงโหรว ลุงสามของเธอพยายามควักดวงตาลูกสาวของฉัน และยังบันดาลโทสะยิงปืนใส่ฉัน ส่วนฉันแค่ใช้ถังออกซิเจนฟาดมัน นี่ไม่ถือว่าทำเกินกว่าเหตุหรอกมั้ง? ถือว่าข้าเมตตาแล้วที่ไม่ได้แทงทะลุอกมัน! เห็นแก่เงินห้าแสนที่เธอให้ลูกสาวฉันเป็ค่ารักษาพยาบาล เรามาตกลงกันดีๆ ดีกว่า! เธอไม่อยากพ้นจากคำครหาหญิงหินผา [1] ที่ไม่สามารถมีความสัมพันธ์หรือมีลูกได้เหรอ?" เฉินเฟิงสบตาเย่ชิงโหรว แล้วถามด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ
แม้ว่าเฉินเฟิงจะรักภรรยาที่เป็ดาราเ้าของรางวัลออสการ์คนนี้แค่ไหน หรือเธอจะไม่ค่อยอยู่บ้านก็ตาม แต่เขาคิดว่าตอนนี้เธอประสบความสำเร็จแล้ว และคงไม่้าสามีไร้ความสามารถอย่างเขาอีกต่อไป
ดังนั้นในสายตาของเขาจึงไม่มีอารมณ์ใดๆ แสดงออกมา เพียงแค่เล่นละครทำเป็ว่า้าจะทำข้อตกลง
ได้ยินเช่นนั้น ดวงตาเย่ชิงโหรวก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจหรือไม่เชื่อในเื่ที่เขาพูด แต่ก็ต้องเปลี่ยนไปเป็ดวงตาที่ตื่นตระหนกแทน
"ข้อตกลงแบบไหน? คงไม่ใช่แบบนั้นหรอกนะ!"
น่าเสียดายที่เฉินเฟิงเผยรอยยิ้มอ่านไม่ออก และไม่ได้ตอบคำถามเธออย่างตรงไปตรงมา
เย่ชิงโหรวถอยหลังไปสองสามก้าว มองรอยร้าวสีเืบนพื้นและเหลือบมองเย่เฉินชั่วครู่
จากนั้นเธอจึงเริ่มครุ่นคิดว่าเฉินเฟิง้าทำข้อตกลงอะไรกับเธอ
เย่ชิงโหรวครุ่นคิดอยู่นาน ครั้นแล้วก็ยังคิดไม่ออก ใจยิ่งนึกสงสัยมากขึ้น
"คงไม่ใช่สินะ คงไม่ใช่ข้อตกลงประมาณว่าเล่นเป็คู่รักปลอมๆ อะไรทำนองนั้นใช่ไหม? เพราะฉันมีความสุขในฐานะผู้หญิงไม่ได้! เฉินเฟิง แก้าอะไรกันแน่? ตอบคำถามตรงๆ ไม่อ้อมค้อมได้ไหม? ไม่รู้หรือไงว่าความอยากรู้อยากเห็นมันฆ่าแมวได้!"
ว่าแล้วเธอก็หันไปสั่งการกลุ่มตำรวจติดอาวุธและเ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาล
"ฉันคือเย่ชิงโหรว ผู้นำตระกูลเย่คนปัจจุบัน คนที่ได้รับาเ็คนนั้นคือลุงสามของฉัน ผู้ที่ทำร้ายเขาคือสามีของฉันเอง และโรงพยาบาลนี้ก็เป็ของตระกูลเย่เช่นกัน ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจที่จะไม่เอาเื่กับเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายและความเสียหายที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลในครั้งนี้ ขอเชิญตำรวจทุกท่านกลับสถานีได้แล้ว ขอบคุณที่เสียสละเดินมาที่เกิดเหตุ ส่วนเ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็กลับไปประจำจุดของตัวเองได้"
ดั่งคำโบราณเขาว่าไว้ ไม่มีผู้ร้อง เ้าหน้าที่ไม่เอาเื่
แม้ว่าเฉินเฟิงจะลงมือทำร้ายผู้คน แต่คนที่เขาทำร้ายนั้นคือคุณชายสามตระกูลเย่ผู้มั่งคั่ง และยังเป็ผู้บัญชาการตำรวจสายตรวจอีกด้วย
ทว่าเย่ชิงโหรวผู้นำตระกูลเย่คนปัจจุบันกลับไม่เอาเื่
เหล่าตำรวจซึ่งตกอยู่ในความหวาดหวั่นเพราะถังออกซิเจนในมือเฉินเฟิง ต่างก็รีบขอโทษ และพาเย่กังออกจากที่เกิดเหตุไปอย่างจนตรอก
ทางเ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรู้สึกโล่งใจ รีบปฏิบัติตามคำสั่งและกลับไปประจำจุดในทันที บรรยากาศรอบตัวของเฉินเฟิงทำให้พวกเขารู้สึกว่า เฉินเฟิงต้องเป็ผู้ยิ่งใหญ่ในกองทัพ
ในฐานะทหารผ่านศึก พวกเขาก็ไม่กล้าอยู่ต่อ
หลังจากเห็นตำรวจและเ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจากไปจนหมด เย่ชิงโหรวจึงหันไปพูดกับเหล่าแพทย์ต่อ
"กลับไปทำงานตามหน้าที่ของพวกคุณได้แล้ว ที่นี่ไม่มีอะไรให้พวกคุณดู แยกย้าย!"
เมื่อได้ยินคำสั่งของเ้านายใหญ่ แพทย์ของโรงพยาบาลต่างก็ย้ายกันกลับไปประจำจุด
ในไม่ช้า โถงทางเดินชั้นยี่สิบก็เหลือเพียงเย่ชิงโหรว เฉินเฟิง และเฉินเชียน
ส่วนจู้เจินฉิงนั้น เธอก็รีบหนีกลับไปที่ห้องผู้ป่วยสุดหรูของ เย่เอ๋อร์ ลูกชายของเธอด้วยความอับอาย และอาการเ็ปจากาแบนใบหน้า
เช่นเดียวกับเย่เฉิน ลูกชายคนโตของตระกูลเย่ที่ได้รับการคุ้มครองจากเ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ก็ถูกพาออกไปจากที่เกิดเหตุแห่งนี้
เย่ชิงโหรวไม่ใช่คนไร้หัวใจ เฉินเฟิงในฐานะสามีที่แต่งเข้าบ้าน กับเธอมาห้าปี เธอก็มีสิทธิ์ในการเข้าร่วมการต่อสู้แย่งชิงอำนาจภายในตระกูล
เชิงอรรถ
[1] หญิงหินผา เป็คำเปรียบเปรยถึงผู้หญิงที่ไร้อารมณ์ความรู้สึก ไม่สามารถมีอารมณ์ทางเพศได้ เกิดมามีร่างกายที่ไม่มีช่องคลอดหรืออาจมีช่องคลอดตันแต่กำเนิด ทำให้ไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้
