“นี่ตาแก่ให้พวกเราเข้าไปหน่อยสิ พวกเราจะไปดูน้องสี่ ทำไมแกต้องห้ามไม่ให้เราเข้าไปด้วยแกรู้รึเปล่าว่าพวกเราเป็ใคร ในเมืองอู่เฉิงพวกเราเอาแกตายได้เลยนะ” ชายหนุ่มรูปหล่ออายุยี่สิบกว่าปียืนอยู่หน้าประตูห้องกัวไฮว่พูดกับหลิวอี้เตาเสียงดัง
“พวกคุณเบาเสียงหน่อยผมรู้อยู่แล้วว่าพวกคุณคือใคร คนดังประจำเมืองอู่เฉิงใครบ้างจะไม่รู้จัก” หลิวอี้เตาเช็ดเหงื่อพลางพูดด้วยเสียงค่อย “สถานการณ์นายน้อยเพิ่งจะพลิกกลับมาดีแต่ยังไม่หลุดจาก่อันตราย ไม่งั้นพวกคุณค่อยมาวันหลังดีไหมครับ”
“หลิวอี้เตาผมรู้จักคุณคราวนี้ถือว่าคุณทำได้ดีมาก ถ้าวันหลังคลินิกส่วนตัวของคุณมีปัญหาก็มาหาผมได้เลยแต่ยังไงซะวันนี้พวกเราก็ต้องเข้าไปดูน้องสี่ในห้อง ไม่ได้ก็ต้องได้” คนที่พูดเป็ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาธรรมดาๆแต่คนในเมืองอู่เฉิงรู้จักชายหนุ่มผู้นี้ดี ไม่มีใครหาเื่เขาและก็ดูเหมือนว่าไม่มีใครกล้าหาเื่เขาเพราะคนที่หาเื่เขาล้วนแล้วแต่จมอยู่ในแม่น้ำทั้งนั้น เขาคือาาทหารแห่งเมืองอู่เฉิงหลี่เย่า
“คุณเย่า เอาอย่างนี้ดีไหมผมเปิดประตูให้พวกคุณ พวกคุณก็เปลี่ยนเป็ชุดป้องกันเชื้อโรคให้เรียบร้อยเข้าไปแล้วห้ามพูด ดูแวบหนึ่งแล้วกลับ” หลิวอี้เตาเหงื่อแตกท่วมหัวพูดด้วยเสียงเบา
“แบบนี้ั้แ่แรกก็จบแล้วไป พาพวกเราไปเปลี่ยนชุด” ชายร่างอ้วนที่ยืนอยู่หลังสุดพูดเสียงดัง
“คุณหยวนเบาเสียงหน่อยครับ พวกคุณลงไปกับผม ผมจะไปเปลี่ยนชุดปลอดเชื้อโรคให้พวกคุณ” หลิวอี้เตาพาทุกคนไปยังห้องของตนเอง
“น้องสี่สุดยอดไปเลย เจ็บหนักขนาดนี้ยังรักษาชีวิตไว้ได้ ฮ่าๆพวกพี่รอให้แกหายแล้วจะพาแกไปร้านใต้หล้าเมืองอู่เฉิงไปแอ๊วฝรั่งสาวๆ กันสักหน่อยฮ่าๆ” เจี่ยหยวน ทายาทเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดทั้งยังเป็เศรษฐีลำดับสามที่อายุต่ำกว่าสามสิบปีของทั้งประเทศตอนแรกมีคนคิดว่าเจี่ยหยวนติดอันดับได้เพราะอิทธิพลของตระกูลเจี่ยที่มีต่อทั้งประเทศจากนั้นก็มีข่าววงในว่าสิ่งที่เจี่ยหยวนได้รับมาทั้งหมดล้วนไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลเจี่ย
“น้องสี่รีบหายไวๆนะ คราวนี้คนร้ายน่าสนใจจริงๆ รอแกหายแล้วแค้นนี้แกต้องไปชำระเองนะ” าาทหารหลี่เย่าพูดเสียงเบา
“น้องสี่เื่ย้ายโรงเรียนที่ฝ่ายการศึกษาประจำเมืองฉันช่วยแกแล้วนะ รอให้แกหายดี แกจะได้ไปแอ๊วสาวในโรงเรียนที่มีสาวสวยเยอะที่สุดในเมืองอู่เฉิงได้เลยนี่เป็สิ่งที่แกเฝ้าฝันมาตลอดเลยนี่ ได้ยินที่พวกพี่พูดไหม ขยับนิ้วสิ” ชายหนุ่มใส่เสื้อสีเขียวทั้งตัวพูดไม่หยุดด้วยสีหน้าจริงจังคนคนนี้ไม่มีเงิน การต่อสู้ก็ไม่ได้ดีเด่อะไร แต่เขามีปู่ดี เป็ระดับรองของประเทศมีลุงที่ดีอยู่สองสามคนเป็ข้าราชระดับสูง มีอาที่ดีมีตำแหน่งสำคัญในเมืองอู่เฉิงและแน่นอนเขาก็ใช้ชีวิตได้ไม่เลวนักอายุไม่ถึงสามสิบปีก็ได้รับตำแหน่งรองหัวหน้าหน่วยงานวางแผนครอบครัวเขามีชื่อว่าหวังเซิง
“ให้ตายเถอะไปกัน หมอนี่ไม่ตายหรอก” เจี่ยหยวนกับหวังเย่าพูดพร้อมกันขณะที่หวังเซิงบอกกัวไฮว่ว่าสามารถไปแอ๊วสาวๆ ได้ หมอนี่ก็ขยับนิ้วจริงๆ
“น้องสี่พวกเราไปแล้วนะ พักผ่อนดีๆ ล่ะ ฮ่าๆ เจ็บจนนอนนิ่งแบบนี้ยังจะคิดถึงสาวสวยอีกนิสัยไม่เคยเปลี่ยนเลยจริงๆ” หวังเซิงพูดจบก็เดินออกไปจากห้องรักษากัวไฮว่ช้าๆเป็คนสุดท้าย
“ข้านี่โชคดีเสียจริงถูกเนรเทศมาแดนมนุษย์ เหล่าเซียนก็มาส่ง ไม่ว่าจริงใจหรือเสแสร้งอย่างน้อยก็มากันเยอะเพื่อไว้หน้าข้า และเมื่อมาถึงแดนมนุษย์ ถึงเ้าเด็กที่เจอนี่จะนิสัยแย่ไปนิดทว่าเพื่อนพ้องที่คบน่าสนใจจริงเชียว ฮ่าๆ รอให้เด็กนี่หายดีแล้ว ข้าจะค่อยๆดื่มด่ำกับชีวิตที่แสนสนุกในเวลาหนึ่งร้อยปีบนแดนมนุษย์เลย” พูดจบเทพแห่งจิตก็ประทับิญญาเข้าไปในร่างของกัวไฮว่บนโลกนี้จะไม่มีเทพแห่งจิตอีกต่อไปจะมีเพียงคนที่เด็กที่สุดในสี่ตัวอันตรายแห่งเมืองอู่เฉิง กัวไฮว่ฟื้นคืนชีพแล้ว
“แปลกแฮะแปลกมากจริงๆ สำหรับวงการแพทย์ ศักยภาพในการพื้นฟูของนายน้อยแกร่งมากเลยเมื่อกี้ฉันตรวจอาการให้นายน้อย นอกจากหลงเหลือรอยแผลเป็นอกร่างกายอย่างอื่นก็ฟื้นฟูหมดเลย” ในเวลาสามเดือนในเมืองอู่เฉิงเกิดเื่ใหญ่ไม่น้อยแต่เื่ที่ทำให้ผู้คนรู้สึกเหลือเชื่อก็คือเื่นี้กัวไฮว่แห่งสี่ตัวอันตรายเมืองอู่เฉิง ไม่เพียงถูกช่วยชีวิตกลับมาจากความตายแต่ตอนนี้ยังฟื้นฟูมาได้อย่างครบถ้วน
“เด็กบ้าไม่ตายก็ดีแล้ว” คุณนายกัวพูดทั้งใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “หมอหลิวคะ เสี่ยวไฮว่ฟื้นฟูไวขนาดนี้ได้เป็เพราะคุณเลยค่ะนี่เป็เงินสิบล้าน โปรดรับไว้ด้วยนะคะ” คุณนายกัวพูดพลางส่งเช็คเงินสดใบหนึ่งให้หลิวอี้เตา
“ถ้างั้นผมไม่เกรงใจแล้วนะครับ” หลิวอี้เตาพูดพลางยิ้มรับเช็คใบนั้น “นายน้อยคราวหลังขับรถขับราก็ระวังหน่อยนะครับหวังว่าคราวหน้าเราพบกับจะแข็งแรงดีแบบตอนนี้นะครับ”
“ขอบคุณคุณอาหลิวมากครับแต่ผมว่าคำขอนี่ผมอาจจะทำให้คุณไม่ได้ ผมเพิ่งจะอายุสิบกว่าปีเองคุณใกล้จะห้าสิบแล้ว ให้คุณมีชีวิตต่อไปก็อยู่ไม่ทันผมหรอก” กัวไฮว่พูดขึ้นอย่างขำขัน
“เด็กบ้าพูดอะไรแบบนี้เนี่ย” นายท่านกัวพูดเสียงดัง “เสี่ยวหลิว อย่าไปถือสาเ้าเด็กนี่เลย นายรีบกลับไปคลินิกเถอะมีอะไรก็โทรหาฉันนะ”
หลิวอี้เตาไม่ได้โกรธคำพูดของกัวไฮว่ปกติแล้วทุกปีเขาได้เจอกับเด็กคนนี้บางเป็ครั้งคราว แรกๆ ก็เป็แผลหกล้มเล็กๆต่อมาก็เป็แผลเล็กๆ จากอาวุธ ต่อมาอีกก็เป็แผลจากมีดสองครั้งที่ผ่านมานี้ถึงกับเคยเกิดแผลถูกยิงแถมครั้งนี้อีกนิดจะพรากชีวิตเด็กคนนี้ไปแล้ว
“เ้าสี่เ้าสี่ รีบออกมาเร็ว มาดูเร็วว่าพวกพี่เอาของดีอะไรมาให้แกดู” เมื่อได้ยินเสียงอ้วนอย่างกับหมูแบบนี้ หากไม่ใช่เจี่ยหยวนจะเป็ใครได้อีกกัวไฮว่เดินออกไปก้าวใหญ่พร้อมกับ เ้าสองที่อยู่ข้างๆ “เ้าสี่ วันหลังรถนี่ก็เป็ของแกแล้ว 100 กิโลเมตรต่อ 2.8 วินาที ล้อรถกับโครงรถทั้งคันฉันเปลี่ยนให้แกเป็แบบกันะุหมดแล้วอะไรที่ควรเปลี่ยนฉันเปลี่ยนให้แก ถ้ารถชนบนูเาเป่ยหวนแบบคราวก่อนอีก อย่างมากแกก็ได้แค่แผลเล็กๆฮ่าๆ น้องสี่ ไม่แย่เลยใช่ไหมล่ะ” เจี่ยหยวนพูดขำๆพลางชี้นิ้วไปที่รถบูกัตติสีเงินคันหนึ่ง
“ขอบคุณนะพี่สองผมรับรถคันนี้ไว้ก็แล้วกัน เข้าไปข้างในดีกว่า” กัวไฮว่เห็นนายท่านที่อยู่ในบ้านหน้าถอดสีจึงรีบดึงเจี่ยหยวนเข้าไปในห้อง
“ตี๊ด!” รถจี๊ปสีเขียวที่จอดอยู่นอกคฤหาสน์ต่างกับรถบูกัตติคันเมื่อกี้ไม่น้อยเลย
“พี่เย่าพี่ใช้รถจี๊ปทหารจนกลายเป็แบบนี้ ผมล่ะนับถือเลยจริงๆ นับถือ” พูดพลาง หลี่เย่ากับหวังเซิงก็ลงมาจากรถ
“เ้าสี่พวกพี่มาหาแก แกยังไม่ออกมาขับรถอีก” หลี่เย่าะโเสียงดังจนแมวสีดำที่อยู่บนระเบียงวิ่งหนีลงมาอย่างไร้ร่องรอย
“พี่ใหญ่พี่สาม” กัวไฮว่เดินไปยังด้านนอกแล้วกอดพวกเขาทีละคน “พี่ๆ ผมสบายดี ฮ่าๆ บอกแล้วไงว่าถ้าเจอวิกฤติแล้วไม่ตาย ภายหลังจะมีโชคพี่สองให้รถคันนึง พวกพี่ต้องให้อะไรผมหน่อยแล้วไหม”
“เด็กบ้าจะมาเอาของจากแขกได้ยังไงกัน” คุณนายใหญ่กัวเดินออกมาแล้วพูดกับทั้งสามอย่างขำๆ
“คุณย่า ่นี้คุณย่าเตรียมไปทำงานในรัฐบาลอยู่ล่ะสิ” หวังเซิงเดินไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง แล้วประคองคุณนายใหญ่กัวเดินออกมา
“เสี่ยวเซิงแกอยากตายหรือไง ฉันอายุตั้งเจ็ดสิบแล้วจะไปทำงานอะไรในรัฐบาลได้ล่ะ ฉันจะบอกอะไรพวกแกให้นะใครมันกล้าให้ของเด็กนี่มั่วซั่ว คอยดูแล้วกันว่าฉันจะจัดการกับพวกแกยังไง” แม้คุณนายจะรู้ว่าเด็กพวกนี้ก่อเื่ไม่น้อย แต่ในใจก็ยังเอ็นดูเด็กพวกนี้อยู่ดี
“คุณย่ามองแวบเดียวผมนึกว่าคุณย่าอายุประมาณห้าสิบปี ผมยังนึกว่ารัฐบาลยังให้คุณย่ากลับไปทำงานซะอีก” หวังเซิงพูดขำๆ ขึ้นว่า “คุณย่าของที่ผมให้น้องสี่ครั้งนี้ย่าต้องชอบแน่ๆ คุณย่าดูนี่สิ” หวังเซิงพูดพลางยื่นเอกสารชิ้นหนึ่งให้คุณนายกัว
“หนังสือรับเข้าโรงเรียนมัธยมประจำมหาวิทยาลัยอู่เฉิง (โรงเรียนฟู่จง)” คุณนายกัวเปิดเอกสารมาด้วยความตกตะลึงโรงเรียนนี้ไม่ใช่ว่าคนไร้เส้นสายจะเข้าไปได้ ทั้งประเทศมีคนไม่รู้ตั้งกี่คนที่หาเส้นเพื่อจะเข้าไปเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้แต่ก็ถูกตาหลี่สวินอวี้ผู้ดึงดันคอยปฏิเสธ คราวก่อนตัวเธอเองก็เคยไปหาหลี่สวินอวี้แต่ก็ต้องหงายหลังกลับมา
“เสี่ยวเซิงนี่มันของยุคเด็กวัยรุ่นแบบพวกแกจริงๆ ตอนแรกฉันก็ไปหาตาแก่หลี่นั่นเขาไม่ไว้หน้าฉันเลยสักนิด จะว่าไปแกจัดการตาแก่หัวดื้อนั่นได้ยังไงเหรอ” คุณนายใหญ่พูดพลางหัวเราะ
“ไม่ได้จัดการอะไรเขาครับแต่จัดการหลานสาวสุดที่รักของเขาน่ะ เหอะๆ” หวังเซิงกล่าวแล้วยิ้มร้าย
“เด็กบ้าแกนี่มันไร้ศีลธรรมเหมือนเสี่ยวไฮว่ไม่มีผิดเมื่อไหร่แกจะเป็เหมือนเสี่ยวเย่าบ้าง พวกฉันจะได้วางใจหน่อย” เมื่อคุณนายใหญ่ฟังที่หวังเซิงพูดจบ ก็เข้าใจว่าหมายความว่าไร จึงด่ายิ้มๆ
“เ้าสองแกว่าเดี๋ยวเ้าสี่ก็เข้าโรงเรียนแล้ว เรามาพนันกันหน่อยไหมว่าเ้าสี่จะอยู่ในโรงเรียนนี้ได้นานเท่าไหร่กัน” หวังเซิงโอบเจี่ยหยวน แล้วถามขึ้นพร้อมยิ้มให้
“เดือนนึงอย่างมากก็เดือนนึง” เจี่ยหยวนยังไม่ทันจะพูดหลี่เย่าก็พูดต่ออย่างหาได้ยาก “น้องสี่ฉันว่าแกอย่าไปโรงเรียนเลย ไปเขตทหารกับฉันดีกว่า ได้ยิงปืน ยิงปืนใหญ่ ได้ขับเครื่องบินเมื่อไหร่เดี๋ยวก็จะเสพย์ติด แล้วก็รู้สึกสนุกเองแหละ”
“นี่พี่ๆทั้งสาม รถชนคราวก่อนทำเอาผมงงไปหมด ผมอยากจะกลับตัวเป็คนดี เรียนม.ปลายให้จบหลังจากเข้าสังคมไปแล้วพวกเราสี่คนค่อยไปยึดอำนาจกัน” กัวไฮว่พูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความจริงจัง