หลังจากการสอบเลื่อนระดับนักปรุงโอสถระดับหนึ่งได้จบลง หนิงอ้ายตั้งใจว่าจะสอบเลื่อนขั้นเป็นักปรุงโอสถระดับสองรอบ่บ่ายในทันที ทางฝั่งของเหวินหวู่ผู้เป็อาจารย์นอกจากที่จะไม่ห้ามปรามเเล้วยังส่งเสริมด้วยการมอบสูตรโอสถระดับสองให้กับเด็กหนุ่มอีกด้วย
การสอบเลื่อนระดับของนักปรุงโอสถระดับสองเป็ต้นไป ผู้ที่เข้าร่วมการทดสอบจะต้องทำการปรุงโอสถระดับสองชนิดใดก็ได้ออกมาหนึ่งชนิด เงื่อนไขคือสมุนไพรที่ต้องใช้ในสูตรโอสถจะต้องจัดเตรียมมาด้วยตนเอง อีกทั้งความบริสุทธิ์ของเม็ดโอสถที่ปรุงออกมาจะต้องมีความบริสุทธิ์อยู่ที่เจ็ดส่วนเป็ต้นไปจึงจะผ่านการทดสอบเป็นักปรุงโอสถระดับสองได้
สำหรับสูตรโอสถระดับสองที่หนิงอ้ายได้รับมาจากเหวินหวู่มีนามว่าโอสถฤทัยอัคคีพิสุทธิ์ระดับสอง เป็หนึ่งในสูตรโอสถที่ถูกบันทึกไว้และสร้างชื่อเสียงของเหวินหวู่ในฐานะของปรมจารย์โอสถระดับสูงแห่งทวีปบูรพาเเห่งนี้ แม้จะเป็เพียงโอสถระดับสองก็จริงเเต่หากเทียบกันเเล้วไม่ต่างไปจากโอสถระดับสามขั้นต้นเสียด้วยซ้ำ เป็โอสถที่สามารถช่วยเพิ่มให้ความเข้มข้นในิญญายุทธ์ธาตุไฟมีความเข้มข้นบริสุทธิ์เพิ่มมากขึ้น
พึงทราบว่านักปรุงโอสถฝึกหัด แม้จะมีความรอบรู้ในเื่สมุนไพรต่าง ๆ มากมายก็จริง มีความเข้าใจและญาณััอันลึกล้ำในการหลอมสร้างปรุงโอสถขึ้นมาได้ เเต่หากว่าความเข้มข้นและความร้อนแรงในิญญายุทธ์ปราณธาตุไฟของตนที่ไม่เพียงพอย่อมส่งผลให้เม็ดโอสถที่ปรุงออกมามีความบริสุทธิ์ไม่ถึงห้าส่วน
โดยทั่วไปเเล้วการเลื่อนขั้นเป็นักปรุงโอสถระดับหนึ่งได้จะต้องปรุงโอสถที่มีความบริสุทธิ์ที่มากกว่าหกส่วนเป็ต้นไป ดีงนั้นจะเห็นได้ว่าโอสถโอสถฤทัยอัคคีพิสุทธิ์ระดับสองเม็ดนี้มีความล้ำค่าและจำเป็แก่นักปรุงโอสถฝึกหัดหรือผู้ที่้าเพิ่มความเข้มข้นในิญญายุทธ์ธาตุไฟเป็อย่างมากเลยทีเดียว...
เกือบหนึ่งชั่วยามก่อนที่การสอบเลื่อนระดับของนักปรุงโอสถระดับสอง เหวินหวู่ได้ถ่ายทอดขั้นตอนการหลอมสร้างปรุงโอสถฤทัยอัคคีพิสุทธิ์ระดับสองนี้ให้กับหนิงอ้ายได้เรียนรู้ ก่อนที่จะปล่อยให้เด็กหนุ่มได้ทดลองปรุงขึ้นด้วยตัวเองหลังจากนี้
"หนิงอ้ายเ้าจงจดจำขั้นตอนต่าง ๆ เหล่านี้ให้ดีด้วยเล่า ความเเข็งแกร่งทางิญญายุทธ์ ความลึกล้ำของญาณััในตอนนี้ อาจารย์เชื่อว่าเ้าสามารถหลอมสร้างปรุงโอสถฤทัยอัคคีพิสุทธิ์ระดับสองในการสอบเลื่อนระดับนี้ด้วยความบริสุทธิ์ไม่น้อยกว่าเจ็ดส่วนได้อย่างแน่นอน..."
"การหลอมสร้างปรุงโอสถในเเต่ละระดับย่อมมีความซับซ้อนเฉพาะเป็เอกลักษณ์ ยิ่งหากเป็โอสถในระดับที่สูงมากเท่าใด ความยุ่งยาก ความละเอียดอ่อนย่อมทวีเพิ่มขึ้นไปเช่นกัน อย่างไรเเล้วเ้าจงจดจำส่วนเฉพาะเหล่านี้เอาไว้ให้ดีเพราะย่อมเป็ประโยชน์แก่เ้าในวันข้างหน้าได้..." เหวินหวู่เอ่ยสั่งสอนเด็กหนุ่มด้วยน้ำเสียงเอ็นดู
จากนั้นจึงเรียกเตาหลอมโอสถส่วนตัวออกมาเบื้องหน้า แน่นอนว่าหนึ่งในความสำเร็จในการปรุงโอสถในเเต่ละครั้ง นอกจากที่นักปรุงโอสถจะต้องมีฝีมือและเพียบพร้อมไปทั้งสามคุณสมบัติเเล้ว เตาหลอมโอสถนับว่าเป็อีกหนึ่งตัวแปรที่สำคัญเช่นกัน ยิ่งเตาหลอมโอสถมีความล้ำค่าพิศดารมากเท่าไหร่ ความสำเร็จในการหลอมสร้างโอสถรวมไปถึงความบริสุทธิ์ในเม็ดโอสถก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
หนิงอ้ายตอบรับคำสั่งสอนจากอาจารย์ของตนพร้อมกับเฝ้ามองและจดจำขั้นตอนเหล่านี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ญาณััอันลึกล้ำของนักปรุงโอสถระดับเจ็ดได้เเผ่ซ่านไปทั่วทั้งบริเวณห้องพักนี้ ิญญายุทธ์ปราณธาตุไฟอันกล้าแกร่งได้ถูกชายชราเรียกออกมาได้สร้างความร้อนที่พุ่งสูงขึ้นจนััได้
ไม่รอช้ามือขวาได้ตวัดเอาสมุนไพรตามสูตรโอสถเข้าไปในเตาหลอมดังกล่าว เปลวเพลิงสีส้มอันร้อนแรงได้แผดเผาสมุนไพรเหล่านี้ด้วยความรวดเร็ว ไม่ถึงหนึ่งเค่อเหล่าสมุนไพรนี้ก็ได้แปรเปลี่ยนเป็โอสถเหลวไปเสียเเล้ว
ตั้งเเต่ตอนเเรกเริ่มไปจนถึงขั้นโอสถเหลวในตอนนี้ หนิงอ้ายสังเกตเห็นว่าเปลวเพลิงที่ถูกเรียกใช้ในการปรุงโอสถของอาจารย์ตนได้ถูกควบคุมเปลวเพลิงอันร้อนแรงให้เป็ไปอย่างสมดุลละเอียดแม่นยำ
เด็กหนุ่มสังเกตว่าสมุนไพรเเต่ละชนิดต่างใช้ความเข้มข้นของเปลวเพลิงที่แตกต่างกันออกไป นี่เป็เคล็ดลับเล็กน้อยที่สามารถเพิ่มความสำเร็จในการปรุงโอสถให้มีความบริสุทธิ์ที่มากขึ้น แน่นอนหนิงอ้ายได้จดจำไว้เป็อย่างดีแล้ว สองมือของชายชราได้ประกอบขึ้นเป็ท่วงท่าประหลาด ก่อนที่โอสถเหลวในเตาหลอมนั้นจะหมุนวนไปมาก่อนที่จะค่อย ๆ ถูกบีบอัดเข้ามาขึ้นรูปราวกับว่ามีมือที่มองไม่เห็นคอยกระทำอยู่
ความร้อนแรงของเปลวเพลิงในก่อนหน้าได้ถูกลดลงมาเสียเกือบครึ่งหนึ่ง เหวินหวู่ได้เพิ่มญาณััของตนออกมาอีกครั้งเพื่อที่จะบีบอัดโอสถเหลวนี้ให้ขึ้นรูปเป็เม็ดโอสถครบตามจำนวนที่ควรจะเป็ เพียงไม่นานกลิ่นหอมฟุ้งจากเม็ดโอสถได้ลอยออกมาจากเตาหลอมตรงหน้าให้ความรู้สึกเหมือนกลิ่นไฟไหม้หญ้าในความรู้สึก
ขั้นตอนต่าง ๆ เหล่านี้ได้ถูกเด็กหนุ่มจดจำไปเเล้วทั้งสิ้น ฟังว่านักปรุงโอสถระดับสูงย่อมมีวิถีปรุงโอสถที่แตกต่างกันออกไป สิ่งที่ตนได้เห็นตรงหน้านี้เป็ดั่งสุดยอดเคล็ดวิชาเสียด้วยซ้ำ พึงทราบว่าการที่นักปรุงโอสถระดับสูงมานั่งหลอมสร้างปรุงโอสถให้ได้เห็นนั้นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นโดยง่าย
นับว่าเหวินหวู่เอ็นดูและไว้วางใจในตัวของหนิงอ้ายเป็อย่างมาก อีกฝ่ายถึงได้ถ่ายทอดวิถีปรุงโอสถนี้ให้กับเด็กหนุ่มอย่างไม่หวงเเหน ยิ่งได้รับรู้เช่นนี้หนิงอ้ายยิ่งเคารพชายชราผู้เป็อาจารย์ของตนคนนี้ ดั่งคำที่ว่าเป็อาจารย์เพียงหนึ่งวันเป็บิดาตลอดไป ย่อมไม่เกินจริงไปนัก
หนิงอ้ายได้ลองหลอมสร้างปรุงโอสถฤทัยอัคคีพิสุทธิ์ระดับสองโดยที่มีเหวินหวู่คอยให้คำแนะนำในสิ่งที่เด็กหนุ่มอาจจะผิดพลาดหรือตกหล่นไป ครั้งเเรกจะเป็เพียงเม็ดโอสถที่มีความบริสุทธิ์เพียงสี่ส่วนก็จริง ทว่าในอีกสองถึงสามครั้งต่อมาหนิงอ้ายก็สามารถเข้าใจในขั้นตอนต่าง ๆ เหล่านี้มากยิ่งขึ้น สามารถปรุงออกมาในความบริสุทธิ์ถึงเจ็ดส่วนได้ เมื่อเป็เช่นนี้เหวินหวู่จึงคลายกังวลใจเพราะในการสอบเลื่อนขั้นที่จะเกิดขึ้นอีกไม่ถึงหนึ่งเค่อนี้อีกฝ่ายย่อมทำได้อย่างแน่นอน...
บรรยากาศโดยรอบของลานสอบเลื่อนระดับ่บ่ายนี้ กล่าวได้ว่ามีความคึกคักมากกว่าใน่เช้ายิ่ง บรรดาอาจารย์โอสถรวมไปถึงศิษย์นักปรุงโอสถระดับหนึ่งจากสำนักศึกษาน้อยใหญ่ที่อยู่โดยรอบต่างให้ความสนใจละเข้าร่วมในครั้งนี้เป็จำนวนมาก นอกจากนั้นแล้วกลุ่มอิทธิพลระดับต่าง ๆ ก็ได้ให้ความสนใจในงานสอบเลื่อนระดับนี้เช่นกัน
ด้วยเพราะหากมีนักปรุงโอสถที่มากไปด้วยความสามารถที่โดดเด่นเเต่ยังไร้ซึ่งสังกัด หากพวกเขาสามารถยื่นข้อเสนอชักชวนให้นักปรุงโอสถเหล่านี้เข้าร่วมในกลุ่มอิทธิพลของตนได้ ในวันข้างหน้าการบ่มเพาะสุดยอดฝีมือในกลุ่มอิทธิพลของตนของเติบโตได้อย่างก้าวะโ พึงทราบว่าตัวตนของนักปรุงโอสถแม้จะเป็เพียงระดับหนึ่งหรือระดับสอง เเต่ก็สามารถปรุงโอสถที่ความลึกล้ำพิศดารที่สามารถเพิ่มขีดจำกัดความสามารถของคน ๆ หนึ่งได้แล้วเช่นกัน
การปรากฎตัวของเหวินหวู่ผู้เป็ปรมจารย์โอสถระดับเจ็ด ตัวตนระดับสูงสุดในฐานะนักปรุงโอสถประจำทวีปบูรพาเเห่งนี้ที่ตรงด้านข้างยังเป็เด็กหนุ่มหน้าตาน่าเอ็นดูด้วยวัยเพียงสิบห้าสิบหกปีของอีกฝ่าย เเต่ถึงอย่างไรก็ตามทุกคนในที่นี้ต่างไม่ได้ถูกภาพลักษณ์ภายนอกของเด็กหนุ่มหลอกได้อีกเเล้ว ป้ายหยกสีเขียวอ่อนที่ระบุตัวตนของนักปรุงโอสถระดับหนึ่ง
สมญานามปัญญาจารย์โอสถที่อีกฝ่ายได้รับมาก่อนหน้า ยิ่งเป็การตอกย้ำว่าในการสอบเลื่อนระดับใน่เช้าที่ผ่านมาอีกฝ่ายเป็ผู้ที่ทำได้ดีที่สุดด้วยการปรุงโอสถระดับหนึ่งที่มีความบริสุทธิ์มากถึงสิบส่วนออกมาได้สำเร็จ
คงไม่ใช่เื่แปลกประหลาดอันใดหากผู้เป็อาจารย์จะพาเด็กหนุ่มผู้เป็ศิษย์ของตนมาร่วมรับชมการสอบเลื่อนระดับของนักปรุงโอสถระดับหนึ่งใน่บ่าย ทว่าอีกฝ่ายกลับเดินเเยกไปยังที่นั่งตรงส่วนด้านหน้าลานสอบอันเป็ที่นั่งเดิมในก่อนหน้า ก่อนที่จะหันไปพูดคุยกับปรมจารย์โอสถจ้าวเสวี่ยถังผู้เป็ประธานในการสอบเลื่อนระดับของวันนี้ นับว่าสร้างสงสัยกับทุกคนที่ลอบมองมาตั้งเเต่เเรกเป็อย่างมาก
เสียงสัญญาณที่คุ้นเคยดังขึ้นอีกครั้ง เสียงประกาศให้เหล่านักปรุงโอสถระดับหนึ่งที่้าสอบเลื่อนระดับเป็นักปรุงโอสถระดับสองให้มารวมตัวยังลานกว้างนี้อย่างพร้อมเพรียงกัน หากกล่าวว่าส่วนใหญ่เเล้วในการสอบเลื่อนระดับของ่เช้าล้วนเต็มไปด้วยเหล่ารุ่นเยาว์ชายหญิงที่มากมายเเล้วนั้น การสอบเลื่อนระดับ่บ่ายนี้ก็เต็มไปด้วยชายหนุ่มและสตรีหลากหลาย่อายุ เห็นว่าในการเลื่อนระดับเป็นักปรุงโอสถในระดับที่สูงขึ้นไปนั้นหาใช่เป็เื่ที่ง่ายดาย บางคนนั้นถึงกับใช้เวลามากถึงสิบปีในการเลื่อนระดับของตนในเเต่ละขั้น
ทางฝั่งของหนิงอ้ายที่ได้ยินเสียงประกาศจึงมุ่งตรงไปยังที่ว่างในลานกว้างทันที โดยที่ไม่สนใจเสียงพูดคุยใดใดที่เอ่ยถึงตนทั้งสิ้น เป้าหมายของเขาในครั้งนี้คือการสอบเลื่อนขั้นเป็นักปรุงโอสถระดับสอง แม้ว่าทุกคนในสนามสอบเลื่อนระดับนี้จะมีความแตกตื่นเป็อย่างมาก ด้วยเพราะพวกเขาต่างจดจำได้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้นั้นใน่เช้าพึ่งจะผ่านการสอบเลื่อนระดับเป็นักปรุงโอสถระดับหนึ่งไป
เเต่นี่ถึงกลับเข้าร่วมสอบเลื่อนระดับเป็นักปรุงโอสถระดับสองใน่บ่ายนี้ทันที ไม่รู้ว่าเป็เพราะเชื่อมั่นในฝีมือของตนมากเกินไปหรืออย่างไร เเต่ท่าทางสงบนิ่งนอกอีกฝ่ายนั้นไม่ได้ดูตื่นเต้นกับการปรุงโอสถในครั้งนี้สักเท่าไหร่นัก
การสอบเลื่อนระดับใน่บ่ายนี้ได้กำหนด่เวลาในการหลอมร้างปรุงโอสถอยู่ที่สองชั่วยามเช่นเดิม เงื่อนไขก็เป็ไปตามที่หนิงอ้ายได้รับรู้ก่อนหน้า ผู้ที่ผ่านการทดสอบเป็นักปรุงโอสถระดับสองจะต้องเตรียมสมุนไพรตามสูตรโอสถระดับสองมาด้วยตนเอง โอสถที่ปรุงสำเร็จขึ้นรูปเป็เม็ดโอสถจะต้องมีความบริสุทธิ์อยู่ที่เจ็ดส่วนเป็อย่างน้อย หากผ่านการรับรองจากกรรมการในครั้งนี้แล้วก็สามารถรับป้ายหยกยืนยันและกลับไปได้เลยโดยที่ไม่ต้องรั้งรอให้จบครบเวลาสองชั่วยามได้
หนิงอ้ายตั้งสมาธิในการหลอมสร้างปรุงโอสถครั้งนี้เป็อย่างมาก ด้วยเพราะโอสถฤทัยอัคคีพิสุทธิ์ระดับสองนี้เขาได้ทดลองปรุงขึ้นมาเพียงไม่กี่ครั้ง แม้จะมั่นใจว่าสามารถปรุงออกมาได้ความบริสุทธิ์ไม่ต่ำกว่าเจ็ดส่วน เเต่เขาก็อยากที่จะทำออกมาให้ดีที่สุดเพื่อให้ไม่เสียชื่ออาจารย์ของตน
เด็กหนุ่มได้เรียกเตาหลอมโอสถออกมายังเบื้องหน้าพร้อมกับถ่ายเทเปลวเพลิงอันเข้มข้นจากิญญายุทธ์ของตนออกมาครอบคุลมไปทั่ว ก่อนที่จะตวัดเอาสมุนไพรหลายสิบชนิดลงไปแผดเผาด้วยความร้อนแรงที่แตกต่างกันด้วยความแม่นยำ
ญาณััเฉพาะส่วนตัวได้ควบคุมความสมดุลอย่างเบ็ดเสร็จสมบูรณ์ แม้จะใช้เวลามากกว่าอาจารย์ของตนหลายเท่าเเต่ถึงอย่างไรนั้นทุกขั้นตอนก็เป็ไปอย่างถูกต้องจนในตอนนี้สมุนไพรเหล่านี้ก็ได้ถูกแผดเผา แปรเปลี่ยนเป็โอสถเหลวไปเรียบร้อยเเล้วด้วยเวลาที่ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วยามเท่านั้น หากเทียบกับคนอื่นในที่นี้นับได้ว่ามีความก้าวหน้ากว่าทุกคนเป็อย่างมาก
ความรวดเร็วเช่นนี้ไม่คล้ายกับนักปรุงโอสถระดับหนึ่งทั่วไปเสียด้วยซ้ำ เเต่เมื่อทุกคนคิดได้ว่าเด็กหนุ่มนั้นเป็ถึงศิษย์ของปรมจารย์โอสถเหวินหวู่ผู้เป็นักปรุงโอสถระดับเจ็ดย่อมกุมความลับในการหลอมสร้างปรุงโอสถเหล่านี้อย่างแน่นอน แม้จะอิจฉาอีกฝ่ายมากเพียงใดเเต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาต่างล้วนกระจ่างใจในตนว่าหากอาจารย์นั้นเป็ผู้ที่ยอดเยี่ยม เเต่หากตัวศิษย์ที่เป็ผู้รับหากไม่มีความสามารถและความสามารถที่มากพอก็ย่อมไม่สามารถกระทำเเบบนี้ได้เช่นกัน
หากดูไม่ผิดโอสถระดับสองที่อีกฝ่ายกำลังปรุงขึ้นมานั้นย่อมไม่พ้นโอสถฤทัยอัคคีพิสุทธิ์ระดับสองนี้เป็แน่ ดูท่าเเล้วปรมจารย์เหวินหวู่คงเอ็นดูเด็กหนุ่มเป็อย่างมากเพราะขนาดสูตรโอสถส่วนตัวที่สร้างชื่อเสียงแก่ตน อีกฝ่ายยังถ่ายทอดให้เด็กหนุ่มได้เรียนรู้อย่างไม่หวงเเหน พวกเขาต่างมีความรู้สึกเหมือนกันว่าไม่รู้จะอิจฉาเด็กหนุ่มที่ได้รับความเอ็นดูจากปรมจารย์โอสถท่านนี้ หรือจะอิจฉาอีกฝ่ายกันที่ได้เก็บเพชรเม็ดงามเช่นนี้ไป
่ที่สำคัญนั่นคือการขึ้นรูปโอสถเม็ด หนิงอ้ายที่สูญเสียพลังลมปราณไปอย่างมากมายก่อนหน้า ก่อนจะหยิบโอสถฟื้นฟูลมปราณระดับห้าเข้าปากของตนในทันทีท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน เด็กหนุ่มถึงกับหยิบโอสถระดับสูงมาใช้อย่างไม่เสียดายเช่นนี้กล่าวได้ว่าช่างทำลายจิตใจพวกเขาเป็อย่างมากสมกับที่เป็ศิษย์ของปรมจารย์โอสถระดับเจ็ดเสียจริง
เมื่อฟื้นฟูลมปราณให้กลับคืนมามากเพียงพอเเล้ว หนิงอ้ายได้เร่งขีดจำกัดญาณััของตนถึงขีดสุด พร้อมกับควบคุมสมดุลของเปลวเพลิงจากิญญายุทธิ์ของตนอย่างรอบคอบ โอสถเหลวสีเเดงทับทิมนี้ได้หมุนวนไปทั่วในเตาหลอมโอสถ สองมือเรียวบางของเด็กหนุ่มได้ตวัดขึ้นเป็ท่วงท่าเดียวกับกับเหวินหวู่ผู้เป็อาจารย์ของตนที่มีความคล้ายมากกว่าเก้าในสิบส่วนซึ่งได้เรียกรอยยิ้มอย่างภูมิใจของชายชราออกมาอย่างปิดไม่มิด
โอสถเหลวค่อย ๆ ถูกบีบอัดเป็ก้อนกลมพร้อมกับที่เปลวเพลิงนั้นได้ถูกลดทอนมาเกือบครึ่งหนึ่งเพื่อไล่สิ่งเจือปนออกไปทีละนิด จากนั้นเพียงหนึ่งเค่อต่อมาเสียงของโอสถที่กลิ้งอยู่ก้นเตาหลอมมาพร้อมกับกลิ่นหอมอันเป็เอกลักษณ์ที่ได้ลอยฟุ้งออกมาเป็สัญญาณว่าการหลอมสร้างปรุงโอสถในครั้งนี้ได้สิ้นสุดลงเเล้ว
หนิงอ้ายใช้พลังลมปราณของตนบังคับโอสถสีทับทิมเงางามนี้ให้อยู่ในขวดแก้วที่ตนเตรียมไว้ก่อนหน้า พร้อมกับเดินมุ่งตรงไปยังหน้ากรรมการประจำลานสอบเลื่อนระดับเเห่งนี้โดยที่ไม่สนใจความแตกตื่นที่เกิดขึ้นโดยรอบ
"โอสถฤทัยอัคคีพิสุทธิ์ระดับสองนี้ เชิญผู้าุโและท่านกรรมการตรวจสอบขอรับ!!!"
จ้าวเสวี่ยถังหยิบขวดแก้วที่บรรจุโอสถระดับสองนี้ขึ้นมาพินิจพิจารณาด้วยความชื่นชม ก่อนหน้านี้ที่เขาได้รับรู้ว่าสหายของตนได้ให้ศิษย์คนล่าสุดของตนเข้าร่วมการสอบเลื่อนระดับเขาก็นับว่าประหลาดใจอยู่บ้าง ยิ่งได้รับรู้ว่าอีกฝ่ายถึงกับมอบสูตรโอสถส่วนตัวให้กับเด็กหนุ่มใช้ในการสอบเลื่อนระดับในครั้งนี้ อย่างไรเขาคงต้องประเมินถึงฐานะของเด็กหนุ่มนามว่าหนิงอ้ายผู้นี้ในใจของสหายตนอีกครั้งเสียเเล้ว
ทางฝั่งของกรรมการที่เหลือต่างหยิบขวดโอสถนี้พิจารณาด้วยจิตใจที่หวั่นไหว โอสถฤทัยอัคคีพิสุทธิ์นี้ไม่ต่างไปจากโอสถระดับสามเสียด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าจะทำให้พวกตนต้องประหลาดใจไปได้อีกเท่าใดกัน เพียงชั่วครู่จากนั้นขวดแก้วที่บรรจุโอสถสีเเดงทับทิมนี้ก็ได้ตกมาอยู่ในมือของหนิงอ้ายอีกหนึ่งครั้ง ก่อนที่เสียงของจ้าวเสวี่ยถังจะประกาศให้ทุกคนให้ได้ยินโดยทั่วสนามสอบนี้
"โอสถฤทัยอัคคีพิสุทธิ์ระดับสองเม็ดนี้มีความบริสุทธิ์มากถึงสิบส่วนถือได้ว่าผ่านเงื่อนไขอย่างครบถ้วน ข้าจ้าวเสวี่ยถังฐานะหนึ่งในสามผู้นำสูงสุดของสมาคมสมาพันธ์นักปรุงโอสถเเห่งทวีปบูรพาขอประกาศว่าหนิงอ้ายผู้นี้ถือได้ว่าเป็นักปรุงโอสถระดับสองอย่างสมบูรณ์!!"
หนิงอ้ายยิ้มรับพร้อมกับยื่นป้ายหยกที่ตนได้รับมาก่อนหน้าเเลกเปลี่ยนกับป้ายหยกชิ้นใหม่ เด็กหนุ่มสังเกตว่าตรงขอบโดยรอบของป้ายหยกนั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาหนึ่งชั้น ย่อมหมายถึงฐานะของนักปรุงโอสถระดับสอง
เด็กหนุ่มได้ยกมือประสานขึ้นพร้อมกับโค้งตัวคำนับผู้าุโจ้าวเสวี่ยถังที่ยืนอยู่ตรงหน้า โดยที่ไม่ลืมทำความเคารพตามมารยาทให้กับเหล่ากรรมการในครั้งนี้อีกด้วย ก่อนที่หนึ่งชายชราหนึ่งเด็กหนุ่มจะหายไปจากสนามสอบเลื่อนระดับในครั้งนี้ ด้วยความตกตะลึงที่ว่านักปรุงโอสถระดับสองที่มีอายุเพียงสิบห้าสิบหกปีได้ปรากฎบนมหาทวีปบูรพาเเห่งนี้เเล้ว นับว่าเป็เื่ที่น่ายินดีอย่างเเท้จริง...