รองหัวหน้าถังพยายามประนีประนอมอยู่นาน
สรุปคือผู้เข้าแข่งขันรู้สึกผิดหวังมาก ญาติของผู้เข้าแข่งขันรู้สึกผิดหวังมาก คณะกรรมรู้สึกผิดหวังมาก รวมถึงมหาวิทยาลัยที่ส่งเด็กมาแข่งก็รู้สึกผิดหวังมาก
แรงกดดันจากทั้งสี่ทางตกอยู่ที่บ่าของรองหัวหน้าถังทั้งหมด เป็เหตุให้ตอนออกจากห้องทำงาน ฝีเท้าของเขาถึงได้เซไปเล็กน้อย
“สหายอ้ายฉวิน เื่นี้คุณได้ยินเองกับหู คุณต้องเป็พยานตอนไปบอกกับหัวหน้าด้วยล่ะ”
รองหัวหน้าถังกัดฟันกรอด จานอ้ายฉวินไม่กล้าบอกว่าตอนนั้นตนไปจ่ายเงินค่าอาหารจึงทำให้ไม่ได้ยินเื่ที่เกิดขึ้นภายในห้องอาหาร แต่หวังก่วงผิงยังสามารถพูดเหลวไหลได้หน้าตาเฉย เช่นนั้นเธอจะช่วยเป็พยานเท็จให้ฝ่ายถูกกระทำบ้างไม่ได้หรือ?
“รองหัวหน้าถังคะ ความจริงฉันรู้เื้ับางอย่างเกี่ยวกับเื่นี้ค่ะ รองหัวหน้าหวังอาจจะไม่ได้พุ่งเป้ามาที่คุณทั้งหมด...”
จานอ้ายฉวินเล่าถึงความขัดแย้งระหว่างเซี่ยเสี่ยวหลานกับตระกูลหวังให้เขาฟัง
รองหัวหน้าถังไม่เห็นใจหวังก่วงผิงสักนิด ตรงกันข้ามเขากลับรู้สึกรังเกียจยิ่งกว่าเดิม
“เพราะเื่เล็กน้อยแค่นี้อย่างนั้นหรือ?”
ความขัดแย้งในครอบครัวเด็กสาวคนหนึ่งทำให้หวังก่วงผิงถึงกับลงมือเล่นงานเซี่ยเสี่ยวหลานด้วยตัวเอง ผู้ชายคนนี้จิตใจช่างคับแคบเหลือเกิน
ครั้งนี้หากเขาไม่กำราบ แล้วปล่อยให้หวังก่วงผิงได้ใจ หวังก่วงผิงจะไม่หันมาแว้งกัดเขาหรือ?
จานอ้ายฉวินทำงานอยู่ที่ฝ่ายอุดมศึกษามานานหลายปี เธอย่อมรู้ดีว่าเพื่อนร่วมงานกับเ้านายมีนิสัยอย่างไร เหล่าถังผู้นี้ไม่ชอบมีเื่กับใคร นับได้ว่าเป็คนเก่าคนแก่ที่ดีคนหนึ่ง แต่หากใครมาหาเื่เหล่าถัง เขาก็ไม่กลัวการมีเื่กลับเช่นกัน
จานอ้ายฉวินดูแคลนหวังก่วงผิงยิ่งนัก ไม่รู้ว่าเขาเป็บ้าอะไร ถึงชอบทำให้ฝ่ายอุดมศึกษาอับอายขายขี้หน้าอยู่เรื่อยเช่นนี้!
—-------------------------------------------------
หลังคุยกับคณะกรรมการได้สักพัก เซี่ยเสี่ยวหลานก็บอกลาอาจารย์หลินกับศาสตราจารย์เฮ่อซึ่งทั้งคู่ก็เข้าใจทุกอย่างได้เป็อย่างดี และบอกให้เซี่ยเสี่ยวหลานกลับไปกับคนที่บ้านเสีย
“ตอนนี้รถของมหาวิทยาลัยกับรถสาธารณะคงหมดแล้ว อาจารย์ทั้งสองท่านคงเดินทางกลับหัวชิงไม่ค่อยสะดวกนัก ฉันได้เรียกรถให้แล้ว ต้องขอบคุณอาจารย์ทั้งสองที่ช่วยดูแลเสี่ยวหลานมาโดยตลอดนะคะ ไม่ต้องเกรงใจค่ะ”
กวนฮุ่ยเอ๋อจัดการทุกอย่างให้เสร็จสรรพ รถที่เรียกมาให้อาจารย์ทั้งสองคือรถแท็กซี่นั่นเอง
อาจารย์หลินไม่อาจปฏิเสธได้ จึงทำได้เพียงเดินตามศาสตราจารย์เฮ่อขึ้นรถไป
ทั้งคู่ยังไม่ได้ทานมื้อค่ำ แม้กวนฮุ่ยเอ๋อจะอยากเลี้ยงอาหารพวกเขามากเพียงใด แต่ก็ไม่สำเร็จ ดังนั้นเธอจึงเปลี่ยนมาเตรียมรถให้อาจารย์ทั้งสองท่านได้เดินทางกลับหัวชิงอย่างรวดเร็วแทน
กวนฮุ่ยเอ๋อกับย่าโจวนั่งรถมา หลังคุณปู่โจวเกษียณอายุราชการก็มีรถประจำตัวคอยรับส่งอยู่เป็ประจำ เพียงแต่ปกติสองสามีภรรยาไม่ค่อยได้ใช้งานนัก พอย่าโจวเห็นว่าตอนนี้มีแต่คนกันเองจึงอดบ่นขึ้นมาไม่ได้
“ไอ้เลวนั่น ย่าไม่ปล่อยมันไปง่ายๆ แน่!”
แม้เื่จะไม่ใหญ่โต แต่การกระทำของหวังก่วงผิงชั่วร้ายเกินไป
ทำให้นักศึกษาต้องถูกตราหน้าว่าเป็ ‘คนโกง’ อนาคตของเซี่ยเสี่ยวหลานคงถูกทำลายไปมากกว่าครึ่ง ดีไม่ดีอาจจะหมดอนาคตไปเลยก็เป็ได้
ถึงแม้เจตนาร้ายของหวังก่วงผิงจะไม่สมดั่งปรารถนา แต่ย่าโจวคิดว่าไม่ควรปล่อยให้เื่จบลงง่ายๆ แบบนี้
หากให้อภัยหวังก่วงผิงครั้งนี้ หวังก่วงผิงย่อมไม่หลาบจำ ครั้งหน้าคงลงมืออีกแน่นอน!
“คุณย่า อย่าไปเสียเวลากับเขาเลยค่ะ เวลามีหมามากัดพวกเรา พวกเราก็ไม่จำเป็ต้องกัดกลับด้วยตัวเองค่ะ...”
เซี่ยเสี่ยวหลานกลัวย่าโจวโมโหจนเสียสุขภาพ ย่าโจวกุมมือเธอแน่นพลางกล่าวว่า “เราอายุยังน้อย เจอโลกมายังไม่มาก หมาที่กัดคนถ้าไม่ตีมันให้เข็ดหลาบ ไม่รู้ว่าเมื่อไรมันจะออกมากัดชาวบ้านเขาอีก!”
ย่าโจวเป็คนช่างลำเอียงก็จริง แต่เธอก็ไม่ใช่คนไร้เหตุผล
เื่นี้เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ผิด ดังนั้นไม่ควรปล่อยให้เื่มันจบลงง่ายๆ เซี่ยเสี่ยวหลานเงียบไป เธอไม่คิดจะปล่อยให้เื่ผ่านไปง่ายๆ เช่นกัน แต่เธอคนเดียวหาก้างัดข้อกับหวังก่วงผิงอย่างไรก็คงเกินกำลัง แต่เธอไม่อยากพึ่งบารมีย่าโจวจนต้องให้ท่านช่วยออกโรงแทนน่ะสิ เซี่ยเสี่ยวหลานให้ความสำคัญกับเื่การตอบแทบบุญคุณ ดังนั้นเธอกลัวจะตอบแทนบุญคุณของย่าโจวไม่หมด
“อย่ากดดันตัวเองเกินไปเลย พวกเราเป็คนมีเหตุมีผลกันทั้งนั้น คงไม่ไปด่ากราดต่อหน้าเขาหรอก สิ่งที่พูดต่อหน้ารองหัวหน้าถังเมื่อครู่คงทำให้หวังก่วงผิงเดือดร้อนอยู่บ้าง พวกเราแค่ช่วยผลักดันอีกแรงก็พอแล้ว”
กวนฮุ่ยเอ๋อคิดว่าเซี่ยเสี่ยวหลานมีความคิดเป็ของตัวเอง มิเช่นนั้นจะตรงไปหารองหัวหน้าถังทำไมกัน
ตีงูต้องตีให้ตาย ไปอธิบายกับคณะกรรมการอย่างไรก็ไม่สู้ไปขอความยุติธรรมกับรองหัวหน้าถัง
ย่าโจวเพิ่งนึกขึ้นได้ “ว่าแต่พวกเราไม่ได้มีความแค้นกับเ้าคนแซ่หวังนั่นเสียหน่อย จู่ๆ เขาเป็บ้าอะไรขึ้นมาเล่า”
เห็นแค่ผลลัพธ์แต่ไม่รู้สาเหตุ ย่าโจวเองก็เกิดความสงสัย ต่อให้หวังก่วงผิงอยากก่อเื่วุ่นวาย นักศึกษาที่เข้าร่วมการแข่งขันก็มีถึง 20 คน ทำไมถึงเลือกลงมือเฉพาะกับเซี่ยเสี่ยวหลาน?
เซี่ยเสี่ยวหลานอยากอธิบายเอง แต่กวนฮุ่ยเอ๋อส่ายหน้าห้ามไว้ ก่อนจะชิงอธิบายเื่ราว ‘ความแค้น’ ระหว่างเซี่ยเสี่ยวหลานกับพี่สาวโดยสรุปให้ย่าโจวฟัง
เซี่ยเสี่ยวหลานพบว่าสิ่งที่กวนฮุ่ยเอ๋อเล่านั้นเป็แบบฉบับ ‘ตัดต่อ’ แล้ว!
เธอมองกวนฮุ่ยเอ๋ออย่างแปลกใจ กวนฮุ่ยเอ๋อกำลังช่วยทำให้เธอไม่รู้สึกขายหน้าต่อหน้าย่าโจวอย่างนั้นหรือ?
การพูดเป็ศิลปะอย่างหนึ่ง หลังได้ฟังเื่เล่าจากวาทศิลป์ของกวนฮุ่ยเอ๋อแล้ว ย่าโจวก็เข้าใจสาเหตุที่หวังก่วงผิงทำเช่นนี้ หญิงชราไม่รู้สึกไม่ชอบใจเซี่ยเสี่ยวหลาน ตรงกันข้ามเธอกลับรู้สึกว่าอีกฝ่ายเป็ศัตรูของตนเช่นกัน
“ครอบครัวและญาติประเภทนี้ถึงไม่มีก็ไม่เป็ไร เธอสมควรที่จะขีดเส้นแบ่งแยกกับพวกเขาอย่างชัดเจน!”
ตระกูลเซี่ยช่างโง่เขลายิ่งนัก โยนเพชรในมือทิ้งไม่พอ ยังไปหยิบก้อนกรวดอีกด้วย เซี่ยจื่ออวี้คนนั้นก็เช่นกัน มารยาสาไถ ไม่ใช่กุลสตรีที่ดีสักนิด!
คนประเภทเดียวกันย่อมดึงดูดกัน มิน่าเล่าถึงอยู่ร่วมกับตระกูลหวังได้
“ครั้งก่อนที่ฉันพาเสี่ยวหลานไปงานเชื่อมสัมพันธ์ก็เจอคนตระกูลหวังค่ะ พวกเขาคงรู้แล้วว่าเสี่ยวหลานเป็คนของตระกูลเรา เช่นนั้นทำไมเขายังกล้าลงมืออีกอย่างนั้นหรือคะ”
ย่าโจวเริ่มสับสน
ตาแก่วันๆ เอาแต่คุยโวว่าตนอบรมสั่งสอนลูกหลานมาเป็อย่างดี ตระกูลโจวถึงได้เจริญก้าวหน้าขึ้นทุกวัน เช่นนั้นมันคงเป็เื่เหลวไหลใช่หรือไม่ คนอย่างหวังก่วงผิงถึงได้ยังกล้ารังแกตระกูลโจวอยู่อีก และคงคิดว่าตระกูลโจวเก่งกาจตรงไหนกัน!
กวนฮุ่ยเอ๋อกระแอมเล็กน้อย “คุณแม่อาจจะยังไม่ทราบ ตำแหน่งที่หวังก่วงผิงเคยทำในอดีต ตอนนี้คุณลุงของโจวเฉิงกำลังทำอยู่ค่ะ... เขาคงรู้สึกไม่ชอบใจตระกูลโจวมาเป็ทุนเดิมเลยฉวยโอกาสนี้ระบายความอัดอั้นกระมังคะ”
โจวเหวินปังไม่ใช่คนเก่งอะไร ตำแหน่งหน้าที่การงานเขาสู้น้องชายอย่างโจวกั๋วปินไม่ได้ และเพื่อไม่ให้ลูกชายคนโตรู้สึกน้อยใจ ย่าโจวจึงเอาใจใส่เขาเป็อย่างมาก
ในส่วนของเด็กรุ่นหลานเธอชอบโจวเฉิงมากที่สุด ขณะที่ในบรรดาลูกชายลูกสาวเธอรักโจวเหวินปังมากที่สุด นั่นเป็เพราะตอนคลอดโจวเหวินปัง เธอกับสามีอยู่ใน่เวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิต ทำให้ตอนเด็กโจวเหวินปังไม่ได้เรียนหนังสือ จนกระทั่งอายุสิบกว่าปีถึงได้เข้าเรียนพร้อมกับโจวกั๋วปิน หญิงชรารู้สึกว่าลูกชายคนโตเสียโอกาสไปมาก พอได้ยินคำพูดของกวนฮุ่ยเอ๋อ ย่าโจวก็รู้สึกเดือดดาลยิ่งนัก ต่อให้ลูกชายคนโตของเธอจะไม่ฉลาดหลักแหลม แต่ตำแหน่งหน้าที่นั้นเขาก็ได้มาเพราะความพยายามของตัวเอง ค่อยๆ ไต่เต้าขึ้นไป ประเทศชาติเป็คนแต่งตั้งเขา!
โจวเหวินปังไม่โลภรับสินบนและไม่เคยใส่ร้ายป้ายสีใคร ทำไมจะนั่งตำแหน่งนั้นไม่ได้?
ทำไมเล่า หวังก่วงผิงคิดว่าโจวเหวินปังควรสละเก้าอี้คืนให้เขาอย่างนั้นหรือ!
ตลกสิ้นดี คำสั่งของฝ่ายบริหารต้องทำตามความคิดของหวังก่วงผิงั้แ่เมื่อไร
ย่าโจวไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
ตอนโมโหถึงขีดสุดเธอจะไม่โวยวาย ทว่าเธอจะคิดวางแผนอยู่ในใจเงียบๆ
เซี่ยเสี่ยวหลานเข้าใจแล้ว
ครั้งก่อนที่เล่าเื่ราวในอดีตของตนอย่างหมดเปลือกกับกวนฮุ่ยเอ๋อ กวนฮุ่ยเอ๋ออาจจะ้าเวลาทำใจสักระยะหนึ่ง แต่สุดท้ายเธอก็ยอมรับเื่ราวเ่าั้ของเซี่ยเสี่ยวหลานได้
มิเช่นนั้นกวนฮุ่ยเอ๋อจะช่วยพูดแทนเธอเช่นนี้หรือ หวังก่วงผิงผู้น่าสงสาร วันนี้เขาขุดหลุมฝังตัวเองไปแล้วกี่หลุมกันนะ เพราะต่อให้เขาหลบหลุมนี้พ้นก็ไม่อาจหลบหลุมอื่นได้พ้นน่ะสิ!
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่คิดที่จะเห็นใจหวังก่วงผิงสักนิด
วันนี้ถ้าไม่ได้สวีกั๋วจางและคณะกรรมการคนอื่นช่วยไว้ เื่ ‘ใช้เส้นสาย’ คงกลายเป็ตราบาปประจำตัวเซี่ยเสี่ยวหลาน เป็มลทินที่ล้างอย่างไรก็ไม่มีวันขาวสะอาดไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน
สวีกั๋วจางคือใคร หากเขายืนยันว่าเซี่ยเสี่ยวหลานโกงข้อสอบ คนนอกจะเชื่อเซี่ยเสี่ยวหลานได้อย่างไรกัน?
มีชื่อเสียงฉาวโฉ่เช่นนี้ติดตัว เซี่ยเสี่ยวหลานจะกล้าคบหาดูใจกับโจวเฉิง และจะยังมีหน้าเหยียบประตูบ้านตระกูลโจวได้อีกหรือ!