ดวงิญญาของหยกถูกพลังงานบางอย่าง ดึงไปอย่างแรงเธอไม่มีโอกาสบอกลาเพื่อนสนิท เพียงคนเดียวอย่างไพลิน ที่ป่านนี้คงร้องไห้เป็เผาเต่า เมื่อรู้ว่าเธอตายในกองเพลิงแห่งนั้น
ด้วยแรงดึงมหาศาล ดวงิญญาของหยกเข้าไปอยู่ในร่างของเด็กสาวคนหนึ่ง ที่ถูกงูพิษกัดที่ข้อเท้าด้วยร่างกายที่อ่อนแอ จึงไม่อาจหาสมุนไพรแก้พิษได้ทัน จึงต้องตายอย่างน่าอนาจ ซึ่งที่นี่เป็โลกคู่ขนานของยุคจีนโบราณ ที่ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนในประวัติศาสตร์ เมื่อหายใจและลืมตาขึ้นรอบ ๆ ตัวของหยกคือป่าแห่งหนึ่งของหมู่บ้านลิ่วหยาง
หยกจึงพยายามชันตัวลุกขึ้นนั่ง แต่ก็ต้องล้มลงนอนอีกครั้งพร้อมอาการปวดหัวที่ทำเอาเธอตาพร่ามัวไปหมด ภาพในหัวตอนนี้เป็ความทรงจำของเ้าของร่างั้แ่เด็ก มีหญิงชราคนหนึ่งเลี้ยงดูมาจนเติบโต แต่มักจะมีสายตาที่เศร้าสร้อย ยามมองมาที่ร่างบางและที่สำคัญ เ้าของร่างยังเป็เด็กกำพร้าที่ถูกเก็บมาเลี้ยง
“ทำไมคำขอของไอ้หยก สิ่งศักดิ์สิทธิ์ถึงให้ไม่ได้กันมันน่าโมโหนักโอ๊ย! นี่สิ่งศักดิ์สิทธิ์บน์ หูหนวกตาบอดกันหรือยังไง หนูขอก่อนตายว่าอยากมีพ่อแม่ที่ร่ำรวย มีเงินมีทองใช้ไม่ขาดมือนะคะ แล้วนี่คืออะไรชาติก่อนก็เป็เด็กกำพร้า ตายแล้วมาเกิดใหม่ในร่างคนอื่น ก็ยังจะให้ไอ้หยกเป็เด็กกำพร้าเหมือนเดิมอีกเหรอเนี่ย”
“อ๊าก! น่าโมโหจริง ๆ อย่าให้รู้นะว่าใครพามาเกิดใหม่ในโลกนี้ จะอวยพรให้นั่งไม่ได้นอนไม่ได้ไปร้อยปีพันปีหมื่นปีเลย เพี้ยง!”
“ช่างทำกับไอ้หยกเด็กน้อยผู้น่าสงสารได้ลงคอ ตุบ เฮ้อ”
“อ๊ากกก!! ทำไมถึงเจ็บที่ก้นเช่นนี้ เล่าใครหน้าไหนมากลั่นแกล้งข้า โผล่หัวของเ้าออกมาบัดเดี๋ยวนี้ แล้วนี่เทพจันทราหายไปไหน ไม่กี่ชั่วยามก่อนยังนั่งดื่มสุราด้วยกันอยู่ หรือจะมีภารกิจผูกด้ายแดง”
“พรึ่บ! เพียะ! เข้าให้จะได้ตื่นเต็มตาเสียทีเทพชะตา”
“โอ้ย!! เทพจันทรานี่เ้าตีข้าด้วยเหตุใดกัน ประเดี๋ยวก็ไม่แบ่งสุราดอกท้อให้เสียนี่ อูย มือหนักจริง ๆ”
“หึ ตีเ้าด้วยเหตุใดน่ะหรือ ลองมองลงไปเบื้องล่างนั่นสิ เด็กสาวคนนั้นร้องขอสิ่งใดแล้วดูเ้ามอบสิ่งใดให้กับนาง ถ่างตาดูให้กว้าง ๆ แล้วจะรู้ว่าทำไมเ้าถึงนั่งหรือนอนไม่ได้”
เทพชะตาเมื่อได้เห็นสิ่งที่ตนทำผิดพลาดกับหยกไว้ ถึงกับกุมศีรษะอันขาวโพลนจนสำนึกผิดแทบไม่ทัน เพราะไม่คิดว่าจะมีดวงิญญา ที่เชื่อมโยงชะตาจากอีกโลกหนึ่งมาที่นี่ ถ้าอยากนั่งหรือนอนโดยไม่เ็ป จำต้องไปขอโทษนางด้วยตนเองเท่านั้น
“เฮ้อ ไม่น่าดื่มมากเกินไปจริง ๆ เ้าก็มีส่วนผิดนะเทพจันทราที่ไม่เตือนข้า ดังนั้นเ้าต้องมีส่วนรับผิดชอบลงไปพร้อมกัน แล้วพวกเราให้พรกับนางคนละหนึ่งข้อเป็อย่างไร”
“จะ จะ เ้านี่มันไร้ยางอายเสียเหลือเกิน แค่พรหนึ่งข้อข้าไม่หวงหรอกนะ แต่เ้าต้องให้พรนางสองข้อข้าถึงจะยอมรับผิดชอบกับเ้า”
“จิ๊ ๆ ๆ ได้ ๆ สองข้อก็สองข้อจะลงไปได้หรือยังเล่า อย่าให้มหาเทพรู้เข้าล่ะไม่ เช่นนั้นเ้ากับข้ามีหวังไม่ได้ดื่มสุราดอกท้ออีกแน่”
“รู้แล้วน่ารีบไปกันเถิดก่อนที่นางจะลงเขากลับบ้านไปเสียก่อน”
ส่วนหยกที่ยังคงนั่งทำความคุ้นเคยกับร่างใหม่อยู่กลางป่า ใกล้ ๆ มีตะกร้าที่ขึ้นมาหาสมุนไพร และผักป่ากลับไปทำอาหาร และนำสมุนไพรไปขายเพื่อซื้อยากลับมารักษายายเฒ่าลิ่ว แต่ร่างบางก็ต้องหงายหลังหมดสติลงไปอีกครั้ง เมื่อท่านเทพทั้งสอง้าพบเธอในห้วงความคิด
“โอ๊ะ! อะไรวะเนี่ยนั่งเฉย ๆ ก็ตายอีกรอบได้เหรอ แล้วทำไมมันมีแต่ควันขาว ๆ ไม่เห็นมีใครมารับเหมือนในละครล่ะ”
“เ้ายังไม่ตายอีกรอบจะให้ยมทูตมารับไปได้อย่างไร พวกข้าอยู่ด้านหลังของเ้าต่างหากนางหนู” เทพจันทราตอบคำถามของหยกที่ยืนบ่นโดยหันหน้าไปอีกด้าน
“หืม เฮ้ยยย!! มะ มะ มาไงล่ะเนี่ยแล้วแต่งตัวอะไรแปลก ๆ กำลังถ่ายซีรี่ย์เื่ไหนกันอยู่อ่ะคุณลุง พระเอกหล่อป่ะแล้วทีมงานซ่อนอยู่ตรงไหนพาหนูไปดูเื้ัด้วยคนสิได้ไหมคะ” หยกที่เห็นคนแต่งกายชุดจีนโบราณ ก็คิดว่ากำลังถ่ายทำซีรี่ย์กันอยู่
“โป๊ก! อูย เจ็บ ๆ ๆ”
“เจ็บก็ดีผีเจาะปากมาพูดแท้ ๆ เอาล่ะเข้าเื่เลยก็แล้วกัน ข้าเทพชะตาส่วนอีกคนคือเทพจันทราสหายข้าเอง เื่ที่ดวงิญญาของเ้ามาเข้าร่างของเด็กสาวคนนี้ คงต้องขออภัยเ้าจริง ๆ เป็ความผิดของข้าเองที่ไม่มีสติมากพอ จึงทำให้เกิดความผิดพลาดครั้งใหญ่ ทั้งที่เ้าไม่อยากเป็เด็กกำพร้าแต่พอได้ร่างใหม่ก็ยังเป็เด็กกำพร้าอยู่ดี”
“หึ ก็ใช่น่ะสิใครจะอยากเกิดมาลำบากอดมื้อกินมื้อกันเล่า”
“ฟังให้จบก่อนสินางหนู ประเดี๋ยวก็ทำให้เป็ใบ้ชั่วคราวเสียนี่ เอาล่ะตั้งใจฟังให้ดี แม้ร่างที่เ้ามาเกิดใหม่ตอนนี้จะเป็เด็กกำพร้า แต่ความเป็จริงแล้วบิดามารดาของร่างนี้ยังมีชีวิตอยู่ เนื่องจากเคราะห์กรรมที่เคยทำไว้ จำต้องถูกคนวางแผนทำร้าย ยังดีที่ยายแก่นั่นสงสาร จึงพาเ้าหนีมาอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ ส่วนรายละเอียดทั้งหมดเ้าก็ไปถามกับยายแก่ที่บ้านเองเถิด คาดว่านางจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้วล่ะ” เทพชะตาเล่าเื่ราวให้หยกได้รู้เพียงเล็กน้อย
“เพราะพวกข้าสองคนทำให้เ้าต้องมาลำบากอีกครั้ง จึงมีพรให้เ้าขอได้สามข้อลองนึกดูดี ๆ สิ่งที่เ้าอยากมีไว้เพื่อดูแลตนเอง และสามารถนำมันไปช่วยเหลือผู้อื่นที่ลำบาก มีอะไรที่อยากได้บ้าง เื่ภาษาของโลกนี้อย่าได้กังวล เ้าเข้าใจและพูดได้ั้แ่เข้ามาอยู่ในร่างนี้แล้วล่ะ” เทพจันทราถามความ้าของหยก
“อืม อย่างแรกต้องเกี่ยวกับปากท้อง ซึ่งมันสำคัญมากที่สุดในยุคโบราณเช่นนี้ ขอมิติตลาดครอบจักรวาลของโลกเดิม เป็พรข้อแรกค่ะ ส่วนข้อที่สองนั้นขอเป็ความสามารถในการทำนายดวงชะตา เพียงแค่เพ่งกระแสจิตหรือััแค่ปลายนิ้ว ก็มองเห็นทั้งอดีต ปัจจุบันและอนาคตของคนที่้าช่วยเหลือ และคนชั่วที่ต้องได้รับโทษเท่านั้น ส่วนข้อสุดท้ายเทพจันทรามีหน้าที่ผูกด้ายแดงใช่ไหมคะ”
“อืม ใช่นั่นคือหน้าที่หลักของข้าเ้าถามทำไมรึ?”
“เช่นนั้นพรข้อที่สาม ขอเนื้อคู่ที่รักหนูแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่เกรงกลัวอันตรายไม่ว่าคนผู้นั้นจะตำแหน่งใหญ่โตแค่ไหน ขอคนหน้าตาหล่อเหลาฐานะร่ำรวย สายเปย์ด้วยยิ่งดีได้ไหมคะท่านเทพ”
“เื่แค่นี้เองน่ะหรือ ได้! เนื้อคู่ของเ้าเป็ไปตามที่เ้า้า แต่จะได้พบพานเมื่อใดนั้น ข้าไม่อาจบอกกับเ้าได้หวังว่าจะเข้าใจนะ” แต่เทพจันทราที่ลงมือผูกด้ายแดงกลับไม่ได้มองว่า เส้นด้ายเนื้อคู่ที่มอบให้กับหยกนั้น เป็บุรุษที่มีนิสัยยิ่งกว่าที่นางร้องขอเสียอีก
“แล้วของท่านเทพชะตาล่ะคะจะให้เป็แบบไหนดี”
“พรึ่บ!! มิติตลาดครอบจักรวาลของเ้าอยู่ในปานดอกอิงฮวาหลังใบหูข้างซ้าย ส่วนการทำนายดวงชะตาก็ทำเช่นที่เคยทำ และจะไม่กินพลังชีวิตของเ้า การช่วยเหลือคนคือการทำความดีคนไหนควรเก็บเงินก็เก็บ เื่นี้ข้าคิดว่าเ้าน่าจะเข้าใจได้ง่ายอยู่กระมัง”
“ขอบคุณท่านเทพทั้งสองมาก ขอให้พวกท่านมีพลังบำเพ็ญเพิ่มขึ้นอีกหลายพันปีนะคะ สิ่งใดที่เคยพูดจาก้าวล่วงเกินไป ขอให้เป็โมฆะเสีย ส่วนเื่ของคนที่คิดร้ายกับเ้าของร่างจะต้องแก้แค้นเ้าค่ะ แต่การลงโทษจะมาจากน้ำมือของผู้ใช้กฎหมายของแคว้นเท่านั้น หากไม่มีใครคิดจะสังหารร่างนี้ หนูสัญญาว่าจะไม่ฆ่าใครเช่นกันค่ะ”
“อืม พวกข้ารู้ว่าเ้าเป็เด็กดี และซื่อตรงกับความ้าของตนเอง เอาล่ะได้เวลาพวกข้าต้องกลับขึ้นไปทำหน้าที่แล้ว เ้าเองก็จงเดินทางปลอดภัยจัดการปัญหาต่าง ๆ อย่างไร้อุปสรรคเถิด”
“ขอบคุณท่านเทพทั้งสองมากค่ะ”
วูบ..!
หลังจากท่านเทพทั้งสองกลับขึ้น์ หยกในร่างของ ‘อวี้จิ่น’ ชื่อที่หมอตำแยตั้งให้กับเ้าของร่าง เมื่อลืมตาและตั้งสติได้อีกครั้งจึงสะพายตะกร้าลงจากเขา เพื่อกลับไปดูแลยายเฒ่าลิ่วที่เลี้ยงดูนางมาั้แ่แบเบาะ ความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรที่ใช้เป็ยารักษาคนหรือใช้เพื่อฆ่าคน ยายเฒ่าลิ่วก็สอนให้กับอวี้จิ่นจนหมด ด้วยหวังว่าวันใดที่ตนหมดลมหายใจ อวี้จิ่นสามารถใช้ความรู้เหล่านี้ทำงานหาเลี้ยงตนเองได้
“แฮ่ก ๆ ๆ โอย ทำไมมันเหนื่อยขนาดนี้ แค่เดินลงจากเขานะ หรือจะเป็เพราะยังไม่ชินกับรูปร่างของคนยุคโบราณแน่ ๆ”
“อวี้จิ่น!”
“หืม ท่านป้าจูทำไมมาถึงเชิงเขาได้ล่ะเ้าคะ”
“ป้าก็มาตามเ้าน่ะสิอวี้จิ่น ลงมาจากเขาเสียทีรีบกลับบ้านไปดูยายเฒ่าลิ่วเถิด ท่าทางจะทนไม่ไหวกับอาการป่วยที่เป็แล้วล่ะ” นางจูที่อยู่บ้านติดกันกับอวี้จิ่น อาสามาตามหานาง เนื่องจากในยามนี้ยายเฒ่าลิ่วอาการป่วยกำเริบหนักกว่าเดิม จนทุกคนที่มาเยี่ยมต่างคิดเหมือนกันว่านางคงจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว
“ท่านยายอาการกำเริบหรือเ้าคะท่านป้าจู เช่นนั้นข้าขอตัววิ่งกลับบ้านก่อนนะเ้าคะ ท่านป้าไม่ต้องรีบค่อย ๆ เดินกลับเข้าหมู่บ้านก็ได้เ้าค่ะ” อวี้จิ่นไม่ลืมเป็ห่วงป้าข้างบ้านอย่างนางจู
เมื่อมาถึงบ้านหลังเก่า ๆ และมีคนในหมู่บ้านยืนอยู่ จึงแหวกทางเข้าไปดูอาการคนที่กำลังป่วยหนัก ชาวบ้านที่มาเยี่ยมทยอยเดินออกมาเพื่อให้ทั้งสองได้พูดคุยกัน ซึ่งครั้งนี้ยายเฒ่าลิ่วยอมเปิดปากบอกความจริงกับอวี้จิ่น พร้อมมอบหยกรูปกุญแจอายุยืนให้กับนางไว้ใช้เป็หลักฐาน หากเดินทางไปตามหาบิดามารดาในเมืองหลวง
“ท่านยายเป็อย่างไรบ้างเ้าคะ ท่านอดทนอีกนิดเถิดวันนี้ข้าหาสมุนไพรได้เยอะกว่าทุกครั้ง จะไปแลกยามาให้ท่านนะเ้าคะ”
“แค่ก ๆ ๆ อวี้จิ่นอย่าเสียเวลารักษายายแก่อย่างข้าอีกเลย เ้าหยิบกล่องไม้เล็ก ๆ ที่อยู่ในตู้เก็บของมาให้ข้าที”
“นี่เ้าค่ะท่านยาย”
“อวี้จิ่น แค่ก ๆ ๆ กุญแจหยกอายุยืนนี้ เ้าจงเก็บเอาไว้ให้ดีอย่าได้ทำมันหายเป็อันขาดเข้าใจหรือไม่ แค่ก ๆ ๆ”
“ทำไมท่านยายถึงให้ข้าเก็บเอาไว้ล่ะเ้าคะ มันดูมีราคาแพงมากท่านยายไม่มอบให้กับญาติพี่น้องของท่านเล่า”
อวี้จิ่นยังไม่เข้ามากนัก ว่าเ้ากุญแจหยกอายุยืนนี้ เกี่ยวข้องกับนางในด้านไหน จนกระทั่งยายเฒ่าลิ่ววางมันลงในมือของนาง ภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ในจวนหลังใหญ่ ก็ปรากฏขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว
“นะ นะ นี่มันเื่อะไรกัน”
“อวี้จิ่นความจริงแล้ว เ้าคือบุตรสาวของท่านแม่ทัพใหญ่ของแคว้นจ้าว หรือก็คือแม่ทัพเจียงซื่อกุ่ย แต่ยามนั้นเพราะข้าเห็นแก่เงินเล็กน้อย ถึงได้ยอมทำตามคำสั่งของฮูหยินนายท่านรองตระกูลเจียง ที่ได้คลอดบุตรสาวในเวลาไล่เลี่ยกันกับเ้า และนาง้าให้บุตรสาวเป็คุณหนูเพียงคนเดียวของตระกูลเจียง เพื่อในวันหน้าจะได้เกี่ยวดองกับเชื้อพระวงศ์ของแคว้น อันที่จริงฮูหยินของนายท่านรอง สั่งให้ข้ากำจัดเ้าไปเสีย” ยายเฒ่าลิ่วเล่าออกมาด้วยความรู้สึกผิด
“แล้วทำไมท่านถึงไม่ทำตามคำสั่งของนางล่ะเ้าคะ นอกจากจะไม่กำจัดข้า ยังเลี้ยงดูเด็กคนหนึ่งให้เติบโตจนถึงทุกวันนี้” อวี้จิ่นได้ฟังมาถึงตรงนี้ก็อยากทราบเหตุผล ที่ยายเฒ่าลิ่วไม่ลงมือกำขัดนาง ตามที่ฮูหยินยองนายท่านรองนั่นสั่งไปเสีย
“แค่ก ๆ ๆ คงเพราะเสียงร้องไห้ของเ้ากระมัง ที่เรียกสติให้ข้ารู้สำนึกกับสิ่งที่ทำลงไปในยามนั้น อวี้จิ่นหากเ้า้าไปพบบิดาของเ้าที่เมืองหลวง จะ จะ จงระวังตัวให้มาก เพราะบ้านรองตระกูลเจียง ล้วนจิตใจคับแคบและเหี้ยมโหดอย่างเงียบ ๆ ถึงเวลาที่ข้าต้องไปแล้วอวี้จิ่นรักษาตัวด้วยคุณหนูจะ..ตุบ” ยายเฒ่าลิ่วตายตาหลับเมื่อได้บอกสิ่งที่นางเก็บไว้มาตลอดสิบกว่าปี
“ท่านยาย! ฮึก ข้าเพิ่งจะมาอยู่ในโลกนี้แท้ ๆ ต้องกลับไปมีชีวิตที่โดดเดี่ยวอีกแล้วหรือ ฮึก ๆ ขอบคุณที่ท่านไม่กำจัดข้าในวันนั้น ส่วนเื่ครอบครัวตระกูลเจียงข้าย่อมไปตามหา และเอาตัวคนชั่วส่งทางการให้ได้รับโทษแน่นอนเ้าค่ะ ขอให้ท่านยายไปสู่สุคตินะเ้าคะ”
อวี้จิ่นก้มคำนับทำความเคารพยายเฒ่าลิ่ว เพื่อขอบคุณที่ดูแลนางมาสิบกว่าปี ชาวบ้านที่ยังรออยู่ด้านนอก เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ของอวี้จิ่น ก็รู้แล้วว่ายายเฒ่าลิ่วได้จากไปอย่างสงบ ทุกคนจึงช่วยเตรียมงานศพตามพิธีอย่างเรียบง่าย เนื่องจากพวกเขามิได้มีเงินทองมากนัก เพียงแค่หนึ่งวันก็ทำพิธีฝังร่างของยายเฒ่าลิ่วไว้ที่สุสานของหมู่บ้านแห่งนี้
ภายหลังเสร็จสิ้นงานศพ อวี้จิ่นได้ตัดสินใจจะเดินทางเข้าเมืองหลวง ซึ่งระยะทางไกลนับพันลี้ นางคิดว่าจะเดินทางไปทีละเมืองเผื่อจะมีลูกค้า้าความช่วยเหลือ แม้เื่อาหารจะไม่ต้องกังวลก็ตาม แต่อย่างไรมีเงินติดตัวไว้ย่อมสบายใจกว่า เพียงแค่การเดินทางถึงเมืองแรกอวี้จิ่นก็ได้ใช้ความสามารถที่มีของตนหาเงินทันที
