“แม่หนู เ้าพร้อมหรือยัง”คุณตาเทวดาถาม
“หนูไม่พร้อม ก็ได้เหรอคะ”ฟางเซียนถามอย่างประชดประชันกับคุณตาเทวดา แต่ในใจของเธอไม่เคยพร้อมเลย เธออยากจะยืดเวลาไปให้ได้นานอีกหน่อย
“หึหึหึ ไม่พร้อมเ้าก็ต้องไป! ก่อนจะไป ข้าก็ไม่ได้ใจร้ายกับเ้านักหรอก ข้าจะให้น้ำวิเศษรักษาได้ทุกโรคหรืออาการาเ็ ขอแค่ยังมีลมหายใจก็สามารถช่วยได้ แต่ข้าจะให้ไปแค่ 1 ขวดเท่านั้น (น้ำดื่ม 770 มล.) จะนำไปใช้อย่างไรก็เื่ของเ้า ไปได้แล้ว ถึงเวลาแล้ว!” คุณตาเทวดาโบกมือ สติของเธอก็วูบไป
เมื่อเธอลืมตาอีกครั้งในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ภาพที่เห็นคือเพดานบ้านที่มีหยากไย่ขึ้นเต็มไปหมด ที่นอนที่เธอนอนตอนนี้ก็แข็งมาก เธอพยายามจะมองไปรอบๆ เพื่อเก็บรายละเอียด แต่ภาพที่เห็นยังคงเป็ภาพมืดๆ เท่านั้น
ถึงแม้จะมีแสงส่องสว่างเข้ามาเพียงสลัวๆ แต่ภาพที่เธอมองเห็นก็ยังไม่ชัดเจนเท่าไรนัก เธอยังคงพยายามเพ่งสายตามองดูสิ่งต่าง ๆ รอบๆ ตัวอีกครั้ง ดูจากสภาพแวดล้อมที่มีแสงอาทิตย์ส่องผ่านเข้ามาเพียงรำไร แสงที่ส่องผ่านช่องเล็กๆ หรือรูเล็กๆ ตามผนังบ้านที่ลอดเข้ามาเพียงเล็กน้อย ทำให้เธอสามารถตัดสินใจได้เลยว่า ในตอนนี้ทุกอย่างรอบตัวเธอไม่เหมือนเดิมอย่างแน่นอน เธอคงเดินทางมาในยุค 60 แล้วแน่นอน
“คุณแม่ ตื่นแล้วเหรอครับ คุณแม่ยังเจ็บอยู่ไหมครับ”ฟางเซียนใช้สายตาเพ่งมองใบหน้าเด็กชายตัวน้อยวัย 3 ขวบ ที่เดินยกแก้วน้ำเดินเข้ามาหาเธอ ก่อนที่ความทรงจำของร่างนี้จะกลับมา ที่แท้เด็กคนนี้คือลูกชายของเ้าของร่างนี้ ไม่สิ ตอนนี้เป็ลูกชายของเธอแล้ว
เ้าของร่างนี้เสียชีวิตจากการแท้งลูก เหตุเพราะแย่งซาลาเปาลูกเดียวกับสะใภ้ใหญ่เจียลี่ ผู้เป็พี่สะใภ้ใหญ่ของบ้าน ซึ่งซาลาเปาเ้าปัญหาลูกนี้เป็ของคนที่บ้านเดิมของเ้าของร่าง ได้นำมาฝากเ้าของร่างและลูกชายของเธอ และมีเพียงลูกเดียว เนื่องจากในยุคนี้ที่อาหารขาดแคลน การได้ทานซาลาเปาสักลูกเป็เื่ที่ยากมาก ทำให้รู้ว่าเ้าของร่างเดิมนั้นเป็ที่รักของครอบครัวมากแค่ไหน
เพื่อให้เ้าของร่างเดิมได้ทานซาลาเปา พี่ชายเ้าของร่างถึงขนาดยอมเดินทางมาหมู่บ้านนี้ ทั้งที่หมู่บ้านเดิมกับหมู่บ้านที่เ้าของร่างแต่งงานมาอยู่ห่างกันหลายกิโลเมตร ถ้าเดินเท้าคงใช้เวลาเดินทางเป็ครึ่งวัน
แต่ครอบครัวของเ้าของร่างก็ยังยอมเดินทางมาเพื่อมาส่งซาลาเปาเพียงลูกเดียวให้กับเธอ เพื่อให้เธอกับลูกของเธอได้ทานซาลาเปา
แต่สะใภ้ใหญ่ ที่ไม่รู้มาจากไหนก็เดินมาแย่งซาลาเปาไปจากมือเธอ แต่ด้วยความที่เธอไม่ยอม ทำให้มีการกระชากกันไปมา ก่อนที่ร่างของเ้าของร่างเดิมที่ไม่สามารถสู้แรงของสะใภ้ใหญ่ได้ ทำให้ร่างเ้าของเดิมกระเด็นไปตามแรงเหวี่ยงของพี่สะใภ้ใหญ่ที่มีแรงมากกว่า
เนื่องจากการทำนาในทุ่งนามาั้แ่เด็ก จนท้องของเ้าของร่างเดิมกระเด็นไปกระแทกกับมุมโต๊ะทานข้าว จนแท้งลูก แต่ที่ทำให้ร่างนี้เสียชีวิตเพราะว่า พี่สะใภ้ใหญ่ไม่ยอมช่วยเหลือ แถมยังทิ้งเธอให้นอนจมกองเื กว่าจะมีคนมาเจอเ้าของร่างเดิมและพาไปหาหมอที่อนามัยของหมู่บ้านก็สายไปแล้ว
ด้วยร่างเดิมเสียเืไปมาก และด้วยในยุคนี้เป็ยุคที่ขาดแคลนอาหาร หมอ และยาเป็อย่างมาก ทำให้กว่าที่เ้าของร่างเดิมจะได้รับการรักษา เธอก็เสียชีวิตไปแล้ว และกว่าจะมีคนมาช่วยเธอ ฟางเซียนคนใหม่ก็ได้มาเข้าร่างนี้แล้ว ทำให้ไม่มีใครรู้ว่าเธอไม่ใช่ฟางเซียนคนเดิม
และด้วยการรักษาของยุคนี้ ทำให้กว่าเธอจะตื่นขึ้นมาในร่างนี้ได้ ก็ยังทำให้เธอสลบไม่ได้สติไปสองวันเต็มๆ ร่างกายนี้ก็อ่อนแรงอยู่มาก เนื่องจากร่างนี้เสียเืไปมาก และยังได้รับยาและอาหารที่ไม่เพียงพอต่อความ้าของร่างกายนี้ด้วย
ขอเล่าความเป็มาของเ้าของร่างเดิมก่อน ในฐานะร่างเดิมเป็ลูกสาวคนเดียวของบ้าน และเป็คนที่หน้าตาสวยที่สุดในหมู่บ้านเดิมของเ้าของร่าง ทำให้เ้าของร่างเดิมมีความทะนงตนว่าเธอเป็คนสวยที่บ้านพอมีฐานะ มีแต่คนคอยพะเน้าพะนอ พ่อแม่ตามใจ พี่ชายเอาใจ ไม่เคยต้องทำงานในทุ่งนา คอยทำกับข้าวและงานบ้านในบ้านเท่านั้น เธอจะยอมโดนรังแกได้ยังไง
ซึ่งเธอสามารถแต่งงานกับคนรวยๆ ในเมืองได้เลย แต่ด้วยความที่เธอไปได้ยินเื่เกี่ยวกับพ่อของเด็กๆ ทั้งสองและยังเคยได้เจอหน้ากันครั้งหนึ่ง ซึ่งฝ่ายชายมีหน้าที่การงานดี เป็ทหาร มีเงินเดือนทหารส่งกลับบ้านทุกเดือนไม่เคยขาด แถมหน้าตาก็ดีมีแต่ผู้หญิงอยากแต่งงานด้วย
เ้าของร่างเห็นครั้งแรกก็ตกหลุมรัก หลังจากที่เธอกลับบ้านมาก็พยายามให้พี่ชายของเธอไปตามสืบเื่ราวของฝ่ายชายมาให้เธอ จนเธอได้ข่าวว่าทางครอบครัวฝ่ายชาย้าหาภรรยาให้ชายที่เธอรัก จึงให้พ่อแม่พี่ชายไปตกลงเื่นี้ให้ได้
จนสำเร็จ ครอบครัวฝ่ายชายได้เดินทางมาสู่ขอเธอให้แต่งงานกับลูกชายคนรองของบ้านกับพ่อแม่ของเธอ ทางครอบครัวของเธอก็ได้ตกลงยกลูกสาวหรือก็คือเธอให้ทางฝ่ายชาย ด้วยเห็นว่าฝ่ายชายหน้าตาดี มีหน้าที่ตำแหน่งงานดี
ทางฟางเซียนเ้าของร่างเดิม ก็ชอบฝ่ายชายอยู่แล้ว ที่สำคัญเธออยากเป็คุณนายทหาร จะได้ไม่ต้องออกไปทำนา แค่ดูแลบ้านและรอรับเงินเดือนจากสามีทุกเดือนๆ ละ 10 หยวนอย่างเดียว
แต่ว่าความฝันที่ว่าจะได้เป็ภริยานายทหารอย่างสบายๆ ของเ้าของร่างเดิมก็พังทลายลง จากความจริงที่ได้รู้ หลังได้แต่งงานและย้ายมาอยู่บ้านฝ่ายชาย สามีก็ไม่สามารถอยู่บ้านได้นาน แต่งงานกันไม่กี่วัน ฝ่ายชายก็ต้องกลับค่ายทหาร เงินเดือนทหารที่หวังจะได้กลับไม่ได้ ไม่ได้ลงไปทำงานในทุ่งนาจริงตามที่เ้าของร่างคิด
แต่เธอจะต้องทำความสะอาด ทำอาหาร ซักผ้า ให้กับทุกคนในครอบครัว ซึ่งเป็ครอบครัวที่ยังไม่แยกบ้านกัน เมื่อถึงเวลาซักผ้า เธอต้องทำคนเดียวซึ่งมันหนักมาก เสื้อผ้าของตัวเองและลูก พ่อ แม่สามี และยังมีของพี่ชาย น้องชาย สะใภ้ หลานๆ รวมกันมันเยอะมากและไม่มีใครช่วยเธอเลย
เวลาอยู่ที่บ้านยังมีแม่ของเ้าของร่างเดิมมาช่วยซัก แต่ที่นี่ไม่มีใครมาช่วยเลย เธอจะต้องทำงานบ้านตลอดเวลาจนแทบไม่ได้พักและดูแลตัวเองเลย อาหารก็มีให้ทานน้อยจนไม่สามารถทานให้อิ่มได้ เพราะส่วนใหญ่จะยกให้ผู้ชายในบ้านทานมากกว่า
“โครกกก”
เสียงท้องที่ร้องดังลั่นบ้านทำให้ฟางเซียนหลุดออกมาจากความคิด ก่อนจะมองเด็กชายที่ยืนมองเธออยู่ในห้อง เสียงร้องก็ยังคงดังโครกครากออกมาอย่างต่อเนื่อง
เด็กชายใช้สายตามองเสียงที่ดังออกมาจากท้องของมารดา โดยมีน้องเล็กอายุ 1 ขวบ ที่นั่งอยู่บนพื้นของห้องนอนที่มีผ้าบางๆ ปูรองไว้ กำลังนั่งเล่นน้ำลายของตัวเองอยู่ ไม่ได้สนใจใครเลย
ฟางเซียนอึ้งไป ตอนนี้เธอรู้สึกอายลูกชายมาก แต่ดีนะที่มีลูกชายของเธอยังเป็เด็ก “สงสัยแม่จะหิวจนท้องร้องนะจ๊ะ เราไปทานข้าวกันเถอะ” ดูจากความทรงจำของเ้าของร่างเดิมแล้ว ตอนนี้น่าจะเลยเวลารับประทานอาหารมาแล้ว มิน่าเธอถึงหิวข้าว เ้าของร่างนอนป่วยแต่กลับไม่มีใครคิดจะนำอาหารมาให้เธอเลย
“ลูกหิวหรือเปล่าจ๊ะ”ฟางเซียนลุกจากที่นอน เดินไปอุ้มลูกสาววัย 1 ขวบ แต่ร่างกายเดิมนี้แทบจะไม่มีแรงที่จะอุ้มลูกไหว ลูกชายเห็นแม่ไม่สามารถอุ้มน้องได้ เลยต้องมาอุ้มแทน ก่อนจะอุ้มน้องสาวเดินตามผู้เป็แม่ออกมาจากในห้องนอน
แม้เด็กชายจะอุ้มน้องสาวแทบไม่ขึ้นจนเท้าน้องสาวถูกลากอยู่กับพื้นก็ตาม แต่เด็กชายก็ยังพยายามลากน้องตามผู้เป็แม่ไป เขารู้ว่าแม่ป่วยจึงอุ้มน้องแทบไม่ไหว เขาเป็พี่ชาย เป็ลูกชาย มีหน้าที่ดูแลแม่กับน้อง
ฟางเซียนเห็นลูกชายอุ้มลูกสาวเดินตามเธออย่างทุลักทุเลแล้วก็สงสาร แต่แค่ตัวเธอก็แทบไม่มีแรงจะเดินแล้ว เธอเดินออกมาจากในห้องนอนในบ้านเงียบ ไม่มีเสียงใครเลย
แม้แต่เสียงของเด็กๆ คนอื่นในบ้านก็ไม่มี สงสัยพากันไปเล่นนอกบ้าน และเวลาแบบนี้พวกผู้ใหญ่คงพากันไปทำงานในทุ่งนากันหมด เธอให้ลูกๆ นั่งรอที่โต๊ะทานอาหารของครอบครัวก่อน
ส่วนเธอเดินไปดูอาหารในครัวว่าเหลืออะไรบ้าง และเป็อย่างที่เธอคิด ไม่มีอะไรเหลือเลย
เธอจึงนำอาหารที่คุณแม่วันเพ็ญทำให้ออกมา รวมถึงอาหารที่สั่งจากร้านอาหารด้วย ตอนนี้ร่างกายของเธอ้าการบำรุงเป็อย่างมาก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้