เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 (แปลจบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     เมื่อรู้ว่าเหลียงฮวนอยู่หลานเฟิ่งหวง หลิวฟางก็ไม่ร้อนใจขนาดนั้นแล้ว

        สองพี่น้องทะเลาะกันไม่เห็นจะเป็๞อะไร เครือญาติกันทั้งนั้น ฆ่าแกงเหลียงฮวนจริงๆ ไม่ได้เสียหน่อย

        “เ๽้าลูกคนนั้น หลุดปากพูดเ๱ื่๵๹ของบ้านฝานหรือเปล่านะ? ไม่อย่างนั้นเสี่ยวหลานจะทะเลาะอะไรกับเธอได้!”

        หลิวฟางบ่นพึมพำเล็กน้อย เหลียงปิ่งอันมองค้อนเธอ “ลูกน่ะคุณเป็๞คนตามใจจนเคยตัว ผู้หญิงสาวอายุใกล้จะ 17 อยู่รอมร่อ ไม่มีหัวคิดเลยแม้แต่น้อย ผมว่าคงซื่อบื้อจนบอกเขาไปหมดเกลี้ยงแล้ว! อะไรพูดได้อะไรพูดไม่ได้ เธอไม่รู้จักคิดเอาเสียเลย!”

        อันที่จริงหลิวฟางคิดเช่นนี้เหมือนกัน ทว่าพอเหลียงปิ่งอันอารมณ์เสียใส่ เธอก็ไม่ยอมจำนน

        “บอกก็บอกสิ บ้านฝานตกลงแล้วว่าจะแต่งงานเดือนพฤษภา ต่อให้วันนี้ฮวนฮวนไม่บอก พรุ่งนี้ฉันก็จะเข้าเมืองไปบอกอยู่แล้ว”

        จะเกิดการทะเลาะเบาะแว้งแน่นอนอยู่ ทว่าสุดท้ายก็ต้องแต่งงานกับฝานเจิ้นชวนโดยดีไม่ใช่หรือไร

        หลิวฟางไม่ได้สนใจความรู้สึกของเซี่ยเสี่ยวหลานเลยสักนิด แต่เพื่อหน้าที่การงานของเหลียงปิ่งอัน ย่อมต้องจัดการความสัมพันธ์กับเซี่ยเสี่ยวหลานที่ตึงเครียดอยู่ให้คลายลงอีกครั้ง เหลียงปิ่งอันเองก็เชื่อคำแนะนำของเธอมากทีเดียว

        ก็แค่ให้เงินหนึ่งหมื่นหยวนไม่ใช่หรือ หลิวฟางไม่มีเวลามาเสียดายแล้วด้วย

        สองสามีภรรยาปรึกษากันระหว่างทาง พอกลับมาถึงบ้านหลิวฟางก็โทรศัพท์ไปยังซางตู เป็๞โทรศัพท์สาธารณะในซอยถัดจากบ้านย่าอวี่นั่นเอง ต่อสายอยู่นานกว่าเสียงของเซี่ยเสี่ยวหลานจะสะท้อนมาจากในโทรศัพท์

        “ค่ะ?”

        “เสี่ยวหลาน นี่น้าเองนะ เธอทะเลาะกับฮวนฮวนหรือ? ถ้าฮวนฮวนทำให้เธอโกรธ น้าขอโทษแทนลูกด้วยนะ เธออย่าถือสาหาความกับน้องเลย... เธอให้ฮวนฮวนรับโทรศัพท์หน่อยสิ น้าจะดุน้องตอนนี้!”

        “โอ๊ะ แต่ตอนนี้เธอรับโทรศัพท์ไม่ได้นี่นา”

        เซี่ยเสี่ยวหลานพูดจบก็วางสายทันที ทำเอาหลิวฟางสับสนงุนงงมาก

        ทำไมรับโทรศัพท์ไม่ได้ หรือเหลียงฮวนยังอยู่ที่ ‘หลานเฟิ่งหวง’ กันนะ? ก็ไม่แน่ เวลานี้ร้านเสื้อผ้ายังไม่ปิดทำการ เหลียงฮวนเห็นเสื้อผ้าสวยละลานตา เป็๲ปกติที่ไม่อยากจะไปไหน หากหลี่เฟิ่งเหมยพี่สะใภ้เธอใจกว้างเสียหน่อย ก็ควรให้เสื้อผ้าแก่ฮวนฮวนของเธอใส่สักสองชุด หลี่เฟิ่งเหมยดีกับเซี่ยเสี่ยวหลานออกขนาดนั้น เป็๲หลานสาวเหมือนกันทั้งคู่ การจะเลือกที่รักมักที่ชังช่างเลวร้าย!

        หลิวฟางยังไม่ได้คุยกับลูกสาว พอต่อสายไปหาอีกครั้ง ทางนั้นกลับบอกว่าไม่ต้องโทรศัพท์มาแล้ว เซี่ยเสี่ยวหลานไม่รับสายนี้

        “ดูท่าฮวนฮวนจะหลุดปากไปแล้วจริงๆ พวกเราไปคืนนี้เลยดีกว่าไหม? ถ้าไม่กล่อมเด็กเสี่ยวหลานนั่นให้สงบ เธอจะทำตัวเป็๲ปัญหาต่อไปแน่”

        เหลียงปิ่งอันเห็นด้วยที่จะเข้าเมือง

        วันนี้เขาใช้รถยนต์ของหน่วยงานพอดี เขาพาเหลียงอวี่ไปส่งที่บ้านพ่อแม่ ก่อนจะพาหลิวฟางออกเดินทาง

        “พวกลูกเข้าเมืองไปทำอะไรกันตอนกลางคืนน่ะ กินข้าวหรือยัง?”

        มารดาเหลียงปิ่งอันตามออกมาพลางถามลูกชาย ไม่มองไปที่สะใภ้แม้แต่น้อย หลิวฟางสะกดกลั้นความขุ่นเคืองไว้ เสี่ยวหลานแต่งงานไปเมื่อไร ทั้งตระกูลเหลียงจะต้องมองเธอใหม่ อดทนอีกหน่อย สถานะของเธอในตระกูลเหลียงจะเปลี่ยนแปลงจากเดิมในไม่ช้าแน่นอน

        หลิวฟางถูกท่าทีของแม่สามีกระทบกระทั่งเข้า สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะชี้แจงเพื่ออวดโอ้เล็กน้อย

        “คุณแม่ ฉันให้ปิ่งอันพาฉันเข้าเมืองไปเยี่ยมหลานสาวเสียหน่อย ลูกสาวของพี่รองฉันเองน่ะค่ะ เธอตกลงแต่งงานกับบ้านฝานเรียบร้อย เดือนพฤษภาคมนี้จะจัดงานแต่งงานแล้วค่ะ!”

        นางเหลียงรู้สึกไม่ชอบมาพากล นี่กินยาผิดหรือไร ไม่พูดถึงครอบครัวตนเองมาหลายปีดีดัก บ้านเหลียงนึกว่าได้หญิงกำพร้าเป็๞สะใภ้ด้วยซ้ำ

        คนเป็๲แม่สามีจะเทิดทูนหลิวฟางได้หรือ? สถานะไม่เหมาะสมกัน พอแต่งงานมาก็ลืมกำพืดของตนเอง นางเหลียงคิดว่าหลิวฟางคือผู้หญิงเ๣ื๵๪เย็นคนหนึ่ง—ผู้หญิงคนนี้ไม่ไปมาหาสู่กับครอบครัวในชนบทหลายปีโดยไม่รู้สึกรู้สา คนนอกไม่รู้ คงนึกว่าตระกูลเหลียงเ๽้ายศเ๽้าอย่าง

        คนเ๯้ายศเ๯้าอย่างที่สุดคือหลิวฟางนั่นแหละ ทว่าทั้งตระกูลเหลียงต้องแบกหม้อดำ [1] กันหมด!

        นางเหลียงไม่โปรดลูกสะใภ้คนนี้เลยจริงๆ เธอคิดว่าหลิวฟางไม่มีอะไรดี ตอนนั้นหลิวฟางท้องโย้เข้าบ้านมา เหลียงปิ่งอันดึงดันที่จะแต่งงาน บ้านเหลียงกลัวว่าหลิวฟางจะออกไปพูดไร้สาระข้างนอกจนกระทบต่อหน้าที่การงานของเหลียงปิ่งอัน จึงกล้ำกลืนฝืนทนยอมรับหลิวฟางเข้าเป็๲สะใภ้ นางเหลียงดูแคลนหลิวฟางก็จริง ถึงกระนั้นท้องแรกได้ให้กำเนิดลูกสาว เหลียงฮวนตัวขาวน่าเอ็นดู พอเริ่มพูดได้ก็ปากหวานช่างเจรจา ในเมื่อนายและนางเหลียงโปรดปรานหลานสาว จะไล่มารดาของหลานสาวไปได้หรือ?

        หลายปีผ่านไป ครรภ์หลิวฟางมีพัฒนาการ เธอให้กำเนิดลูกชาย ใช้ประโยชน์จากหลานชายทำให้พ่อแม่สามีเกรงใจ อย่างมากนางเหลียงก็แค่เพิกเฉยเธอเท่านั้น ไม่กล้าสร้างความเดือดร้อนแก่หลิวฟางจริงๆ

        ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ดีๆ หลิวฟางจึงพูดถึงครอบครัวตนเองขึ้นมาราวกับกินยาผิดขนาน ตอนแรกนางเหลียงยังไม่ทันตอบสนอง หลานสาวหลิวฟางจะแต่งงานแล้วเกี่ยวข้องอะไรกับบ้านเหลียง บิดาเหลียงปิ่งอันกลับจับใจความสำคัญได้

        “ตระกูลฝานแห่งเขตเหอตงของพวกเรา? แต่งงานกับตระกูลฝานคนไหน?”

        นางเหลียงตรัสรู้ในบัดดล ที่แท้ครอบครัวหลิวฟางก็อาศัยการสมรสเพื่อเปลี่ยนแปลงสถานะคนชนบทอีกแล้ว ไม่แปลกใจที่ต้องเอามาอวดโอ้เสียหน่อย

        หลิวฟางกระหยิ่มยิ้มย่อง “คุณพ่อคะ แต่งงานกับฝานเจิ้นชวนค่ะ”

        ฝานเจิ้นชวน!

        นายเหลียงเปลือกตาสั่นระริก

        แต่งงานกับคนอื่นในตระกูลฝานนั้นไม่ใช่เ๱ื่๵๹ใหญ่อะไร ทว่าการสมรสกับฝานเจิ้นชวนนั้น มันคือการสมรสเชื่อมสัมพันธไมตรีน่ะสิ สิ่งนี้หมายความว่าอะไร นายเหลียงย่อมเข้าใจแน่นอน

        “ปิ่งอัน ภรรยาแกพูดจริงหรือ?”

        เหลียงปิ่งอันคิดว่าเ๱ื่๵๹ราวก็แน่ใจถึงเก้าในสิบส่วนแล้ว ไม่เสียหายที่จะเปิดเผยต่อครอบครัว “ทางบ้านฝานตกลงแล้ว ตอนนี้วางแผนไว้ว่าจะจัดงานเดือนพฤษภาคม น้าหลี่และฝานเจิ้นชวนเองก็ชอบหลาวสาวของอาฟางมากทีเดียว”

        ความน่าเชื่อถือในวาจาของเหลียงปิ่งอันสูงมาก นางเหลียงมองลูกสะใภ้ด้วยความสงสัย เด็กสาวชนบทจะเอาอะไรไปแต่งงานกับฝานเจิ้นชวนได้ ไม่พ้นหน้าตาสะสวย เท่านี้ฝานเจิ้นชวนก็ไม่เกี่ยงคุณสมบัติอื่นแล้ว... นางเหลียงไม่โปรดสะใภ้ แต่ต้องกล่าวคำชื่นชมจากใจจริงด้วยจุดยืนอันยุติธรรม เพราะหลิวฟางหน้าตาดี เหลียงฮวนถึงสวยได้

        ดังนั้นลูกพี่ลูกน้องเหลียงฮวนย่อมมีรูปลักษณ์ตามแบบฉบับคนตระกูลหลิวเป็๲ธรรมดา

        นายเหลียงไม่คิดเล็กคิดน้อยเท่าภรรยา ผู้ชายสนใจธุระหลักมากกว่า

        เมื่อหลานสาวของหลิวฟางได้แต่งงานกับฝานเจิ้นชวน หน้าที่การงานของเหลียงปิ่งอันก็จะมีจุดผลิกผัน นายเหลียงไม่ได้มีสีหน้าชื่นมื่นเบิกบาน แต่น้ำเสียงคำพูดคำจาของเขานั้นโอนอ่อนมากขึ้น “ไปเยี่ยมญาติพี่น้องดึกดื่นค่ำมืด พวกแกจะมือเปล่าไปหรือ? ฉันให้แม่แกเก็บของฝากไปให้สักหน่อยดีกว่า คนอื่นเขาส่งน้ำผึ้งมาสองกระปุกพอดี พวกแกเอาไปด้วยเถอะ”

        หลิวฟางปลื้มใจที่ได้รับความเอ็นดูเหลือล้น

        หลานสาวยังไม่ทันได้แต่งงานกับฝานเจิ้นชวนด้วยซ้ำ พ่อสามีเธอก็เปลี่ยนท่าทีเสียแล้ว

        พอสมรสอย่างเป็๞ทางการ หลายปีที่ผ่านมาของเธอถือว่าสิ้นสุดความขมขื่นรสหวานชื่นมาเยือนแล้ว!

        “ขอบคุณค่ะคุณพ่อ! เช่นนั้นฉันขอเอาไปเลย วันหลังจะส่งน้ำผึ้งใหม่มาให้คุณพ่อคุณแม่อีกที”

        “ครอบครัวเดียวกันทั้งนั้น ของเล็กๆ น้อยๆ ยังจะคิดอะไรมากมายอีกหรือ”

        นายเหลียงบอกพวกเขาให้ห่อน้ำผึ้งและรีบเข้าเมืองเสีย

        เหลียงปิ่งอันขับรถจากไป นางเหลียงถึงเข้าใจว่าอะไรเป็๞อะไร

        “คุณ คุณว่าจริงหรือหลอก?”

        นายเหลียงกุมมือไพล่หลังอย่างอารมณ์ดี “ปิ่งอันยืนยันแล้ว แบบนั้นก็ต้องจริงแน่นอน”

        หลิวฟางหายใจแรงด้วยความปลื้มปริ่มเสียฟองน้ำมูกแทบออกจากจมูก เธอสนทนาเ๱ื่๵๹นี้กับเหลียงปิ่งอันตลอดทาง แต่เหลียงปิ่งอันกลับตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจนัก “อีกเดี๋ยวคุณพูดให้มันน้อยลงหน่อย ให้ผมคุยกับหลานเอง เด็กสาววัยรุ่นไม่มีเหตุผลมากพอ เห็นแค่พวกเราสองคนทาบทามจับคู่โดยปิดบังเธอ แต่ไม่เข้าใจข้อดีของการแต่งงานเข้าตระกูลฝานหรอก”

        นี่คือวิวาห์เชื่อมสัมพันธ์ มิใช่การกลายเป็๞ศัตรูเสียหน่อย

        ถ้าทำให้เซี่ยเสี่ยวหลานยินยอมพร้อมใจแต่งงานเองจะดีที่สุด เช่นนั้นทุกคนล้วนเป็๲สุขกันถ้วนหน้า!

        แต่หากไม่ยินยอม อย่างไรก็ต้องแต่งอยู่ดี การแต่งงานทั้งที่คร่ำครวญหวนไห้จะ๱ะเ๡ื๪๞อารมณ์ขนาดไหน?

        หลิวฟางวาจารื่นหูสู้เหลียงปิ่งอันไม่ได้ เหลียงปิ่งอันมีวาทศิลป์ อย่างไรเสียเป็๲ถึงรองหัวหน้าหน่วยงาน มีปฏิสัมพันธ์กับคนทุกรูปแบบในทุกๆ วันจึงรู้ว่าควรจะรับมืออย่างไร เหลียงปิ่งอันขับรถไปเรื่อยๆ พอสองสามีภรรยามาถึงซางตูก็มุ่งตรงไปบ้านย่าอวี๋ทันที

        “อยู่ที่นี่นะ ฉันจะไปเรียกที่ประตู”

        หลิวฟางถือน้ำผึ้งสองกระปุกไปเคาะประตู เหลียงปิ่งอันก็ลงจากรถเช่นกัน

        ประตูถูกเปิดออกจากด้านใน เศษอาหารเหลือทิ้งก็ถูกสาดออกมาอย่างนั้น หลิวฟางยืนอยู่ด้านหน้า เธอโดนสาดไปทั่วทั้งตัว ส่วนเหลียงปิ่งอันหลบทัน เขาจึงโดนเพียงเล็กน้อย หลิวฟางกำลังอ้าปากอยู่ เศษอาหารเลยกระเด็นเข้าปากเธอ กลิ่นและรสเหม็นบูดนั้นทำเอาเธอพะอืดพะอมสำลักไปหลายหน

        หลิวเฟินผู้ใสซื่ออ่อนแอถือถังที่เคยใส่เศษอาหารเอาไว้

        “...ไม่อนุญาตให้อาเจียนหน้าประตูบ้านฉัน ออกไปให้ไกลกว่านี้!”


 

 

 


 

เชิงอรรถ

[1]背黑锅 แบกหม้อดำ หมายถึง รับความผิดหรือถูกกล่าวโทษอย่างไม่ยุติธรรม

 


 


 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้