เมื่อเซียวหลิงอวิ๋นและกลุ่มลูกศิษย์สำนักชั้นนอกสิบกว่าคนมาถึงบริเวณทำพิธีเปิดเส้นลมปราณิญญา ก็พบว่าที่บริเวณลานกว้างนี้มีผู้คนหลายพันคนมารวมตัวกันอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งมากกว่าเก้าส่วนเป็ลูกศิษย์สำนักชั้นนอก ในปีก่อนๆ พวกเขาเองก็ผ่านพิธีนี้มาก่อนเช่นกัน ก่อนที่จะได้ก้าวเข้าสู่แถวผู้บำเพ็ญเพียรที่แท้จริง!
ดังนั้น ในทุกๆ ปี พิธีเปิดเส้นลมปราณิญญาของสำนักจะดึงดูดบรรดาลูกศิษย์สำนักชั้นนอกให้มาชมเป็จำนวนมาก!
นอกจากบรรดาลูกศิษย์สำนักชั้นนอกจำนวนมากแล้ว บนอาคารสูงใหญ่รอบๆ ลานกว้างก็ยังมีเงาของผู้คนยืนอยู่มากมาย อีกทั้งยังสามารถมองเห็นแสงสีชมพูระยิบระยับจากบนฟ้าได้อีกด้วย มีกระบี่วิเศษขนาดใหญ่ เรือเมฆมงคลลอยฟ้า อาวุธิญญาลอยได้ต่างๆ หรือแม้แต่น้ำเต้าั์ที่มีหลายคนยืนอยู่ข้างบนนั้น ซึ่งเซียวหลิงอวิ๋นจำหนึ่งคนในนั้นได้ เขาก็คือผู้ดูแลยอดเขายาวิเศษอูิ และน้ำเต้า์ลึกล้ำนี้ก็เป็อาวุธล้ำลึกที่ผู้ดูแลยอดเขาอูภาคภูมิใจที่สุด และยังเป็อาวุธล้ำลึกขั้นสูงชิ้นเดียวของเขาอีกด้วย!
อาวุธระดับล้ำลึกมีอยู่มากมายในสำนักกระบี่ิญญาเมฆา แต่ที่อยู่ในระดับสูงนั้นมีอยู่น้อยชิ้นนัก!
การทำพิธีเปิดเส้นลมปราณิญญาครั้งนี้ไม่เพียงแต่ดึงดูดผู้ดูแลยอดเขาและผู้าุโทั้งหลายให้มาชมเท่านั้น เพราะขั้นตอนหลังจากนั้นก็เป็ที่สนใจชมของบรรดาผู้าุโสูงสุดทั้งหลายด้วยเช่นกัน หลังจากทำพิธีเปิดเส้นลมปราณิญญาเสร็จแล้ว จะมีการประกาศกฎและมาตรการใหม่ให้ทราบ!
เมื่อผู้าุโสูงสุดทั้งสี่ปรากฏตัวขึ้นบนท้องฟ้าพร้อมกัน หม่าหัวอวิ๋นก็พยักหน้าเบาๆ!
พิธีที่เตรียมการเสร็จนานแล้วก็ได้เริ่มต้นขึ้น!
“ฟิ่วๆๆ!” เสียงแหลมสูงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เสาแสงทั้งเก้าต้นก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าจากบริเวณรอบๆ ลานกว้าง!
ชั่วขณะต่อมา หินผลึกใสที่ฝังเป็วงกลมในลานกว้างก็สว่างวาบขึ้นเป็แสงสีขาวเจิดจ้า แล้วอาคมก็เริ่มทำงาน เส้นลวดลายอาคมสีขาวเงินพลันสว่างขึ้นอย่างต่อเนื่องราวดวงดาวบนท้องฟ้าในยามค่ำคืน!
ที่ตรงกลาง บรรดาศิษย์กว่าสองพันคนที่นั่งขัดสมาธิเหมือนดอกบัวขนาดั์ห้าดอกก็รู้สึกได้ว่าอากาศรอบตัวแข็งขึ้น ราวกับจู่ๆ ก็มีบางสิ่งบางอย่างเพิ่มขึ้นกะทันหัน ผู้คนจำนวนมากสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ด้วยความตื่นเต้น รู้สึกได้ถึงพลังิญญาบริสุทธิ์ผุดผ่องที่ไหลเข้ามาในร่างกาย ยกจิติญญาของพวกเขาให้ลอยสูง!
ดวงตาของเซียวหลิงอวิ๋นพลันสว่างวาบ!
แท้จริงแล้วพิธีนี้คือการใช้อาคมรวมิญญานั่นเอง โดยการดึงเอาพลังิญญาจากหินิญญาเพื่อเพิ่มความเข้มข้นของพลังิญญาภายในอาคมให้เพิ่มสูงขึ้น และใช้พลังิญญาอันเข้มข้นภายในอาคมนี้กระตุ้นเส้นลมปราณในกายของศิษย์ให้เปิดออก รับเอาพลังิญญาเข้าสู่ร่างกาย และกักเก็บเอาไว้ในขดพลังิญญา!
ไม่เลว ไม่เลว ด้วยวิธีการนี้จะสามารถสร้างผู้ใช้พลังิญญาได้เป็จำนวนมาก!
ไม่น่าแปลกใจเลยที่แม้ว่าในอาณาจักรซินโยวแห่งนี้จะมีพลังิญญาในธรรมชาติไม่มากนัก แต่แค่เฉพาะสำนักิญญาเมฆาก็มีผู้ใช้พลังิญญามากกว่าหมื่นคนแล้ว เห็นได้ชัดว่าพิธีเปิดเส้นลมปราณิญญานี้มีประโยชน์มากทีเดียว!
เมื่อหินิญญานับพันรอบๆ ลานกว้างสว่างขึ้นพร้อมกัน ผู้าุโทั้งสามคนก็ลอยขึ้นไปในอากาศ และโบกสะบัดชุดของตน แล้วหินิญญาระดับสูงสีเหลืองอ่อนจำนวนแปดสิบเอ็ดก้อนก็ส่องแสงเจิดจ้าขึ้นในอากาศ!
เมื่อพลังิญญาภายในหินิญญาทั้งแปดสิบเอ็ดก้อนนี้ถูกกระตุ้น ความเข้มข้นของพลังิญญาภายในอาคมก็สูงขึ้นอย่างน่าใ!
“เหล่าศิษย์ที่มาเข้าร่วมพิธีเปิดเส้นลมปราณิญญาทั้งหมด จงสงบจิตสงบใจและเพ่งสมาธิอยู่กับการไหลเวียนพลังิญญาอย่างเต็มที่ หลังจากนี้เหล่าผู้าุโของสำนักจะใช้ลูกพลังแสงิญญานี้ส่งไปยังกายของพวกเ้า สิ่งที่พวกเ้าต้องทำก็คือ นำพลังิญญาลูกพลังแสงิญญานี้เข้าสู่ร่างกายให้เต็มที่ แล้วนำรวมกันให้เป็ขดพลังิญญาในท้องของตัวเอง กระบวนการนี้จะยากลำบากมาก พวกเ้าจะก้าวข้ามผ่านไปได้หรือไม่ จะเป็ัหรือเป็งู ก็ขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นและโชคของพวกเ้าเอง ต่อจากนี้ข้าจะร่ายคาถาศักดิ์สิทธิ์เพื่อทำการชี้นำพวกเ้าในการเปิดเส้นลมปราณิญญา!”
หม่าหัวอวิ๋นที่ลอยอยู่ในอากาศ หลังจากประกาศจบ เขาก็พยักหน้าเล็กน้อยให้กับเหล่าผู้าุโทั้งสามที่ลอยอยู่ในอากาศ!
ทันใดนั้นนิ้วของผู้าุโทั้งสามก็ราวกับกำลังดีดพิณ ทั้งกำทั้งขยับอย่างรวดเร็ว ทุกๆ การขยับนิ้วจะมีแสงสว่างพุ่งออกมาจากปลายนิ้วของพวกเขาและจมหายลงไปในอาคม!
แสงสว่างนั้นราวกับเปลวไฟที่สว่างขึ้นในความมืดมิด ทันใดนั้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งขึ้น เมื่อพลังิญญาที่เข้มข้นราวกับเป็ผีเสื้อกลางคืนโบยบินเข้าหากองไฟ รวมตัวกันจากบริเวณโดยรอบด้วยความเร็วอันน่าทึ่งไปยังแสงสว่างนั้น ภายในพริบตาก็กลายเป็ลูกพลังแสงิญญา
ครั้นลูกพลังแสงขยายขนาดกระทั่งใหญ่พอๆ กับหัวคนแล้ว มันก็ร่วงลงมาจากท้องฟ้า พร้อมด้วยเสียงดังจ๋อม ชนเข้ากับศีรษะของศิษย์คนหนึ่งที่นั่งขัดสมาธิอยู่ด้านล่าง!
จากนั้นลูกพลังแสงเล็กๆ ก็ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับน้ำเชี่ยว เข้าห่อหุ้มร่างกายของลูกศิษย์คนนั้นเอาไว้ทั้งตัว!
ลูกพลังแสงจำนวนมากตกลงมาราวกับสายฝน เข้าห่อหุ้มร่างของศิษย์ทุกคนที่อยู่เบื้องล่าง!
ภายในชั่วพริบตา ลูกศิษย์ทั้งสองพันหนึ่งร้อยเจ็ดสิบสามคนก็ถูกห้อมล้อมรอบด้วยลูกพลังแสงนี้!
เมื่อลูกศิษย์ทั้งหมดถูกล้อมรอบด้วยลูกพลังแสงิญญา ตัวอักษรสีทองก็เปล่งออกมาจากปากของหม่าหัวอวิ๋นและจมลงไปในอาคม!
เหล่าผู้ชมรอบๆ ลานกว้างเห็นเพียงตัวอักษรสีทอง แต่ไม่ได้ยินเสียงใดๆ เลย เห็นได้ชัดว่าวาจาศักดิ์สิทธิ์นี้มีไว้สำหรับศิษย์ที่เปิดเส้นลมปราณิญญาเท่านั้น!
ในขณะที่วาจาศักดิ์สิทธิ์ยังคงดำเนินต่อไป ลูกพลังแสงิญญารอบๆ ตัวศิษย์บางคนก็เริ่มมารวมกันเป็เส้นสีขาวราวกับเส้นไหม และจมหายเข้าไปในร่างกายของศิษย์ผู้นั้น!
เมื่อเส้นสีขาวราวกับเส้นไหมนี้ไหลผ่านเข้าไป ใบหน้าของลูกศิษย์เหล่านี้ก็เริ่มกระตุกและบิดเบี้ยวทันที หลายคนเริ่มมีอาการสั่นะเื ศิษย์สองคนอดทนต้อความเ็ปนี้ไม่ไหว ดวงตากลายเป็แดงก่ำ เห็นได้ชัดว่าวิธีการเปิดเส้นลมปราณิญญานี้ไม่เพียงแต่จะยากเท่านั้น ยังเ็ปมากอีกด้วย!
‘อุ่ฟ’ ‘อุ่ฟ’ เืคำโตสองคำถูกพ่นออกมา ศิษย์สองคนที่ดวงตาแดงก่ำเมื่อสักครู่พ่นเืออกมาพร้อมกัน คนหนึ่งก็ล้มลงไปนอนกองกับพื้น!
เหล่าผู้ชมหลายพันคนที่เฝ้าดูอยู่นั้นไม่มีใครที่แสดงสีหน้าเห็นอกเห็นใจหรือสงสารเลย แต่กลับแสดงสีหน้าดูถูกและเหยียดหยามแทน!
เพราะเป็ที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าเส้นทางการบำเพ็ญเพียรนั้นย่อมเต็มไปด้วยอุปสรรคและความยากลำบาก การแย่งชิงพลังิญญาในอากาศ การดูดซับพลังจากดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ รวมถึงการสังหารปีศาจและกำจัดศัตรูภายนอก ตลอดเส้นทางนั้นเต็มไปด้วยอุปสรรคและขวากหนาม ผู้ที่จะสามารถกลายเป็ยอดคนในแผ่นดินได้ ล้วนต้องต่อสู้ฟันฝ่ากองูเาซากศพและทะเลเื ผู้ใดที่ไม่สามารถเอาชนะความทรมานเล็กๆ น้อยๆ นี้ได้ อย่าว่าแต่จะเปิดเส้นลมปราณิญญาได้สำเร็จเลย จะก้าวขึ้นมาเป็ผู้ยิ่งใหญ่ก็เป็ไม่ได้ทั้งนั้น และจะกลายเป็เพียงอาหารให้เหล่าปีศาจและศัตรูจากภายนอกเท่านั้น
ในสถานที่แห่งนี้ คาดว่านอกจากเซียวหลิงอวิ๋นและหยางลู่ที่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ทุกคนต่างก็ผ่านด่านนี้กันมาหมดแล้วทั้งสิ้น ล้วนเป็ผู้ที่เปิดเส้นลมปราณได้สำเร็จ ดังนั้นเมื่อเห็นผู้ที่อ่อนแอและไม่มีความตั้งใจเช่นนี้ จึงมีเพียงแต่ความดูถูก ไม่มีความเห็นใจใดๆ มอบให้!
ในขณะที่เวลาค่อยๆ ไหลผ่านไป
จู่ๆ ลูกพลังแสงิญญารอบๆ ตัวของศิษย์คนหนึ่งก็กระจัดกระจายออกไปราวกับหมอกควัน ความเ็ปบนใบหน้าแปรเปลี่ยนเป็ความรู้สึกดีและสงบสุขโดยไม่รู้ตัว!
เมื่ออ้าปากออก พ่นลมหายใจที่สกปรกออกไป แล้วส่งเสียงร้องอย่างชัดเจน ในขณะเดียวกันก็มีเสียงะเิดังสนั่นเหมือนประทัดดังขึ้นในกายของเขา เส้นแสงสีเขียวและสีขาวสองเส้นพุ่งขึ้นไปที่เหนือศีรษะ! แล้วในที่สุดเส้นแสงสีเขียวก็หยุดอยู่ที่ความสูงห้าหมี่ เส้นแสงสีขาวหยุดอยู่ที่ความสูงสามหมี่!
เป็เส้นลมปราณคู่ธาตุลมธาตุไม้! ธาตุไม้ระดับห้า และธาตุลมระดับสาม! พร์ไม่เลว!
เส้นลมปราณของผู้ใช้พลังิญญาก็เหมือนกับวิชาิญญา จะมีทั้งหมดแปดธาตุ ได้แก่ ทอง ไม้ น้ำ ไฟ ดิน ลม สายฟ้า และน้ำแข็ง แต่ละเส้นลมปราณจะมีสูงสุดเก้าระดับ ต่ำสุดคือหนึ่ง!
โดยทั่วไปแล้ว มีแค่เส้นลมปราณเดียวเท่านั้นที่จะพุ่งขึ้นไปถึงเก้าระดับได้ ในขณะที่เส้นลมปราณคู่จะมีค่ารวมสูงสุดสิบสองระดับ เส้นลมปราณสามเส้นจะมีค่ารวมกันสูงสุดสิบสี่ระดับ และเส้นลมปราณสี่เส้นขึ้นไปจะมีค่ารวมกันสูงสุดสิบห้าระดับ!
ศิษย์คนแรกที่เปิดลมปราณได้สำเร็จคือเส้นลมปราณคู่ธาตุลมกับธาตุไม้ นับรวมกันแล้วได้แปดระดับ ถือเป็พร์ในระดับกลางค่อนไปทางสูง!
พอศิษย์คนแรกเปิดเส้นลมปราณได้สำเร็จ ก็เริ่มมีผู้เปิดลมปราณสำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ มีเส้นแสงพุ่งขึ้นเหนือหัวกันทีละเส้น!
