ภายในห้องอาบน้ำที่หรูหราประดับประดาด้วยทองคำ และอบอวลไปด้วยไอน้ำ
ลู่เต้าเปลือยกายแช่อยู่ในบ่อน้ำพุร้อนด้วยสีหน้าบูดบึ้ง ตรงข้ามกับเขามีบุรุษนั่งแช่อยู่เช่นกัน ซึ่งต่างก็เปลือยกายด้วยกันทั้งคู่
หงฝูเอามือปิดจมูกด้วยความเ็ปใจ ในใจเต็มไปด้วยความสงสัย ผู้มีพระคุณดูหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาไม่เป็ประกาย ริมฝีปากบางขมุบขมิบพูดอะไรบางอย่าง
สาเหตุที่ลู่เต้าหงุดหงิด นอกจากเื่ฝันสลายแล้ว ก็คือเสียงหัวเราะเยาะเย้ยอย่างไม่ปิดบังของไป๋เสีย เขาหัวเราะจนตัวงอกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่ในทะเลปราณ
ลู่เต้าหน้าแดงก่ำกัดฟันด้วยความโกรธ “เ้าสารเลวนี่… จงใจแกล้งข้าแน่!”
ในความเป็จริงแล้ว...
ไป๋เสียที่กลายเป็ิญญายังคงหัวเราะจนพูดไม่ออก “สีหน้าของเ้าตอนนั้นมันช่างโง่เง่าสิ้นดี! ฮ่าๆๆๆ ข้าขำจนเจ็บไปหมดแล้ว โอ๊ะ ข้าไม่มีท้อง แต่ก็ยังรู้สึกเจ็บ...”
เพื่อทำลายบรรยากาศ หงฝูจึงรวบรวมความกล้าพูดคุยเื่ทั่วๆไป แม้จะเสี่ยงว่าลู่เต้าจะรังเกียจก็ตาม “ท่านผู้มีพระคุณ ท่านรู้หรือไม่ว่าในห้องอาบน้ำ ทุกคนต้องเปิดเผยต่อกัน ไม่มีทางปิดบังความลับใดๆได้ ดังนั้นที่เมืองัทมิฬ พวกเราจะอาบน้ำกับคนที่ไว้ใจอย่างแท้จริงเท่านั้น”
หงฝูหยุดพูดก่อนจะแอบมองลู่เต้าแวบหนึ่ง คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายกลับไม่สะทกสะท้านกับคำพูดของตนเลยแม้แต่น้อย!
‘แม้แต่ตระกูลหงที่ร่ำรวยเช่นข้ายกย่องเขาถึงเพียงนี้ เขายังไม่หวั่นไหว!’ หงฝูครุ่นคิดแล้วก็พลันเข้าใจ ‘นี่แสดงว่าเขามองเงินทองเป็ดั่งผักปลาแล้วสินะ สมกับเป็ยอดฝีมือ ความคิดช่างแตกต่างจากคนธรรมดาอย่างพวกข้าจริงๆ’
ในสายตาของหงฝู ภาพลักษณ์ของยอดฝีมือชุดดำผู้นี้ยิ่งใหญ่ขึ้น ขณะที่ตัวเองช่างต่ำต้อย
ในความเป็จริงแล้ว หลังจากที่ลู่เต้าได้ยินคำว่าเปิดเผยต่อกัน สายตาก็ไปหยุดที่ร่างเปลือยเปล่าของหงฝู จากนั้นก็ไม่ได้ฟังที่อีกฝ่ายพูดอีกเลย
หงฝูถอนหายใจ เพราะเขารู้ดีว่าแผนการทั้งหมดของตนไม่อาจรอดพ้นสายตาของยอดฝีมือผู้นี้ได้ เขาจึงกล่าวตรงๆว่า “เช่นนั้นข้าก็จะไม่พูดอ้อมค้อม ทั่วทั้งจวนหง มีเพียงที่นี่ที่ไม่มีใครแอบฟัง บอกตามตรง ข้ามีเื่อยากจะปรึกษาท่านผู้มีพระคุณ”
“ที่จริง… มารดาของข้าป่วยเสียไปั้แ่ข้ายังเด็ก” หงฝูหัวเราะอย่างขมขื่น “บิดาของข้าเป็คนเ้าชู้ มีนิสัยชอบสะสมหญิงงาม ไม่ว่าจะเป็เมืองไหน อำเภอใด ขอเพียงมีสาขาของหอเงินตระกูลหง เขาจะต้องรับสตรีในท้องถิ่นนั้นเป็อนุ”
หงฝูเอามือกดที่อก แล้วกล่าวอย่างจนใจ “ส่วนข้ากับอาฮวาก็เป็หนึ่งในบุตรมากมายของเขา”
เนื่องจากสภาพแวดล้อมในครอบครัวพิเศษ ั้แ่เกิดจนโต หงฝูได้พบหน้าบิดาเพียงไม่กี่ครั้ง รู้เพียงว่าเป็คนที่เคร่งขรึมและไร้หัวใจ
เพราะมารดาป่วยกระเสาะกระแสะอยู่ห้าปีก่อนจะเสียชีวิต แม้กระทั่งงานศพของมารดา เขาก็ยังไม่โผล่มาด้วยซ้ำ
ครั้งต่อมาที่พบกัน บิดาก็นำหญิงงามที่ชื่อเหอเฟิ่งมาแนะนำเขากับอาฮวาในฐานะฮูหยินคนใหม่
สองพี่น้องตกตะลึง แต่หลังจากที่บิดาบอกกล่าวเสร็จก็จากไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้หญิงร้ายกาจผู้นั้นเข้ามาเป็ใหญ่ในจวนหง
ในตอนแรก นางอ้างว่าหงฝูยังเด็กจึงรับหน้าที่จัดแจงหอเงินแทน บัดนี้หงฝูโตเป็ผู้ใหญ่แล้ว แต่นางไม่มีท่าทีจะคืนอำนาจให้ แถมยังควบคุมสองพี่น้องเข้มงวดกว่าเดิม
“บิดาของข้าใช้ชีวิตสำราญเกินไป คงอยู่ได้อีกไม่กี่ปี” หงฝูกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ได้ยินมาว่าเขากำลังมองหาผู้สืบทอดหอเงินตระกูลหงในบรรดาบุตรมากมาย หากข้าคาดไม่ผิด หญิงร้ายกาจผู้นั้นคงแอบตกลงกับหงเทาที่สาขาเมืองประดาัแล้ว นางต้องหาทางขัดขวางไม่ให้ข้าได้อำนาจสาขาคืนมา แล้วก็จะผนวกสาขาเมืองัทมิฬเข้ากับสาขาเมืองประดาั เพื่อขยายอำนาจ”
“แบบนี้ยังไม่ทันเข้าร่วมชิง ก็เหมือนเ้าแพ้ไปแล้วครึ่งหนึ่ง” ลู่เต้าครุ่นคิด
“ถูกต้อง” หงฝูพยักหน้า “ดังนั้นข้าจึงอยากขอร้องให้ท่านผู้มีพระคุณช่วยเหลือ นำสิ่งที่ควรจะเป็ของข้ากลับคืนมา!”
ทุกคำพูดของหงฝูล้วนหนักแน่นทรงพลัง เมื่อเอาจริงเอาจัง ภาพลักษณ์ของเขาก็แตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
ลู่เต้าพิจารณาตามคำพูดของอีกฝ่าย พลันก็รู้สึกเย็นยะเยียบขึ้นมา ‘เขาคงไม่ได้จะขอให้ข้าไปฆ่าเมียใหม่ของบิดาเขาใช่หรือไม่’
หงฝูเหมือนจะอ่านความคิดของลู่เต้าออก จึงรีบอธิบาย “ท่านเข้าใจผิดแล้ว ลูกน้องของข้ารายงานว่านางเลี้ยงชายชู้เอาไว้ข้างนอก แถมยังเป็ผู้ฝึกตนระดับสองดาราอีกด้วย หากข้าคิดจะแย่งชิงอำนาจ นางต้องส่งคนมาเล่นงานข้าแน่ๆ ดังนั้นข้าจึงหวังว่าท่านผู้มีพระคุณจะช่วยปกป้องอาฮวาในระหว่างที่ข้าลงมือ”
“ปกป้องอาฮวา?” ลู่เต้าถามอย่างประหลาดใจ “แล้วเ้าเล่า”
“ฮ่าๆ บอกตามตรง” หงฝูเอามือปัดผมม้าที่เปียกชื้นออกอย่างภาคภูมิใจ มุมปากยกยิ้ม “ที่จริงข้าก็เป็ผู้ฝึกตนระดับหนึ่งดารา”
“ไอ้นี่ก็เป็ผู้ฝึกตนด้วยหรือ” ไป๋เสียที่ได้ยินก็ตกตะลึงเช่นกัน เมื่อเพ่งมองดูก็พบพลังิญญาจางๆ “จริงด้วย! แต่ว่าอ่อนแอยิ่งกว่าแมลงสาบเสียอีก!”
“ในเมื่อเ้าก็เป็ผู้ฝึกตน ทำไมถึงถูกต้นไม้กินคนจับได้เล่า” ลู่เต้าถามอย่างไม่เข้าใจ
“เพราะว่า...” หงฝูยักไหล่อย่างจนใจ “จนถึงตอนนี้ข้าก็ยังไม่รู้เลยว่าเคล็ดวิชาของตัวเองคืออะไร”
ไป๋เสียกอดอกลอยอยู่เหนือบ่อน้ำพุร้อน เหลือบมองลู่เต้าแวบหนึ่ง และคิดในใจ ‘โอ้ ยังมีคนที่เหมือนกับเ้าหนูนี่อยู่อีกจริงๆ หรือ’
“แต่ไม่เป็ไร หลังจากที่ข้าตื่นรู้ ก็มีแต่เื่ดีๆ เกิดขึ้น ทุกครั้งที่ตกอยู่ในอันตรายก็มักจะรอดมาได้ ดูสิ! ข้าเพิ่งจะประสบเคราะห์กรรมไม่นาน ท่านผู้มีพระคุณก็ปรากฏตัวขึ้นมาช่วยเหลือ! ดังนั้นไม่ต้องเป็ห่วงข้าหรอก” หงฝูพูดปลอบใจตัวเองพลางตบหน้าอก
จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงลองเชิง “ขอแค่ท่านผู้มีพระคุณช่วยดูแลอาฮวา…”
“เื่นี้...ข้าต้องขอพิจารณาอย่างรอบคอบ” ลู่เต้าพูดประโยคหลังด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ซึ่งหากเป็คนอื่นคงคิดว่ากำลังปฏิเสธ
หงฝูถอนหายใจด้วยความผิดหวัง “ก็จริง ยอดฝีมือเช่นท่านคงไม่ยุ่งเื่ไร้สาระของคนธรรมดาเฉกเช่นพวกข้า”
“เฮ้ย!” ไป๋เสียลอยตัวกลับหัวอยู่ตรงหน้าลู่เต้าด้วยสีหน้าไม่พอใจ ทั้งสองสบตากัน เผยให้เห็นเส้นเืที่ปูดโปนบนหน้าผากของไป๋เสีย เขากัดฟันถามลู่เต้า “ตกลงเขาไปสิ!”
ลู่เต้ายิ้มเ้าเล่ห์ ทันใดนั้นไป๋เสียก็รู้สึกหนาวสันหลัง ร้องลั่นในใจ “แย่แล้ว! ไอ้เด็กบ้านี่ยังแค้นข้าอยู่! ตอนนี้มันกำลังแกล้งไม่ตกลง เพื่อไม่ให้ข้ามีข้ออ้างอยู่ต่อแน่ๆ!”
ลู่เต้าจ้องมองไป๋เสียพลางคิดแผนการร้าย “ข้าจะไปนอนข้างนอก เลือกที่มียุงเยอะๆ ด้วย ข้าทนได้! ไม่รู้ว่าท่านจอมมารผู้สูงส่งจะทนได้หรือไม่”
หงฝูยังคงไม่ละความพยายาม เขาลุกขึ้นยืนทันที ทั้งไป๋เสียและลู่เต้าต่างก็หันหน้าหนีหลับตาปี๋
หงฝูค่อยๆหันหลังเดินจากไป ตอนที่เดินผ่านไป เขาพูดว่า “เื่นี้สำคัญมาก ข้าขอร้องให้ท่านผู้มีพระคุณโปรดพิจารณาอีกครั้ง ครั้งหน้า...ข้าจะมาใหม่ เชิญท่านพักผ่อนตามสบาย”
“คราวหน้าเ้าจะมาอีกหรือ” ลู่เต้าถามด้วยสีหน้าลำบากใจ
หงฝูเดินออกจากห้องอาบน้ำ สวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็เดินออกไปพร้อมกับคนรับใช้ และในตอนนั้นเอง อาฮวาที่เพิ่งจัดการเื่ในครัวเสร็จ ใบหน้าที่เปื้อนเหงื่อและเขม่าก็เดินสวนทางกับพี่ชายพอดิบพอดี
“พี่ใหญ่ เตรียมพร้อมใกล้เสร็จแล้ว ไปเรียนเชิญท่านผู้มีพระคุณเถอะ” อาฮวาซับเหงื่อที่หน้าผาก
เห็นได้ชัดว่าหงฝูอารมณ์ไม่ดีนัก เขาเพียงแค่ “อืม” ออกมาคำหนึ่ง แล้วรีบจากไป
อาฮวาคาดเดาอารมณ์ของพี่ชายไม่ออก แต่กลับถูกกลิ่นเสื้อผ้าใหม่บนร่างเขาเตือน เมื่อนางได้กลิ่นเสื้อผ้าของเขา พบว่าตนมีแต่กลิ่นเหงื่อและเขม่าควัน
“อืม… แต่งตัวแบบนี้ไปพบไม่ได้หรอก” อาฮวาครุ่นคิดแล้วก็เดินไปทางห้องอาบน้ำ
ภายในห้องอาบน้ำ ลู่เต้ายังคงยืนยันที่จะลากไป๋เสียไปนอนข้างถนน ไป๋เสียที่ถูกบังคับก็ได้แต่ขบกรามแน่นด้วยความโกรธ อยากจะฆ่าเ้าเด็กเวรนี่ให้ตายคามือ
“ตกลงเขาไปเดี๋ยวนี้!!!”
“ไม่เอา!” ลู่เต้าพูดเอาแต่ใจ
ภายในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า อาฮวาร้องเพลงอย่างอารมณ์ดี แกะเข็มขัด ถอดชุดครัวที่เปื้อนคราบสกปรกออก เผยเรือนร่างอันงดงามสะดุดตาและผิวที่เนียนขาวผ่อง
อาฮวาที่สวมหน้ากากตลอดเวลาแม้กระทั่งตอนนอน จะถอดหน้ากากออกก็ต่อเมื่ออยู่คนเดียวเท่านั้น เมื่อถอดออกก็เผยให้เห็นรอยแผลเป็น่ากลัวบนใบหน้าของนางในกระจก นางลูบแผลเป็เบาๆ พยายามยิ้มให้กับตัวเอง ก่อนจะหยิบผ้าขนหนูผืนหนึ่งเดินไปที่ห้องอาบน้ำ
ภายในห้องอาบน้ำ ลู่เต้าที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่หน้าตะกร้าสานด้วยสีหน้าบึ้งตึงบ่นพึมพำ “ข้าไม่ไปหรอก เชิญเ้าโกรธตายไปเลย…”
พูดไม่ทันจบ ประตูก็ถูกผลักเปิดออกอย่างไม่ทันตั้งตัว ่แรกควันสีขาวบดบังสายตา ลู่เต้าคิดว่าหงฝูกลับมาอีกครั้ง แต่เมื่อควันค่อยๆ จางหายไปเล็กน้อย เขาก็หน้าแดงก่ำ ไม่กล้าสบตา หงฮวาที่ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางหมอกควันก็หน้าแดงก่ำรีบปิดประตูอย่างแรง
หงฮวารีบสวมเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ทันใดนั้นก็มีเสียงดังสนั่นหวั่นไหวดังมาจากห้องอาบน้ำ หงฮวารู้สึกกังวลเล็กน้อยจึงแง้มประตูห้องอาบน้ำออกอย่างระมัดระวัง แต่กลับไม่เห็นลู่เต้า ส่วนผนังกลับมีรูใหญ่ น้ำในสระน้ำที่ฮูหยินใช้ประจำไหลทะลักออกมาไม่หยุด
ที่แท้ลู่เต้าที่จนตรอกจึงไม่มีทางเลือก นอกจากทุบกำแพงหนีออกมา!
