กฎเกณฑ์การแข่งขันที่จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยกำหนดขึ้นมาคือผู้ที่ดื่มสุราสามเหยือกหมดก่อนคือผู้ชนะ และผู้ที่อาเจียนสุราออกมาจะถือว่าแพ้!
ดังนั้นการกระทำของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยคือการเดิมพันว่าตัวเขานั้นจะสามารถดื่มสุราทั้งขวดได้อย่างราบรื่นโดยไม่อาเจียนสุราออกมากลางคันหรือไม่? ตามกฎเกณฑ์แล้ว เพียงแค่เขาดื่มสุราเหยือกที่สามหมด การแข่งขันก็จะสิ้นสุดลง ถ้าเขาอาเจียนออกมาหลังจากนั้นยังถือว่าชนะอยู่ดี!
แนวทางนี้จำเป็ต้องใช้กลยุทธ์และความกล้าหาญมาก เพราะการดื่มเช่นนี้จะอาเจียนได้ง่ายจริงๆ ความเสี่ยงจึงมีมากอย่างยิ่ง!
ยิ่งกูเฟยเยี่ยนเข้าใจมากถึงเพียงใด นางก็ยิ่งประหม่ามากขึ้นถึงเพียงนั้น
เถ้าแก่เฉิงเข้าใจเจตนาของจวินจิ่วเฉินด้วยเช่นกัน เขาจึงหัวเราะเสียงดังลั่น “ใช้ได้ทีเดียว! ตัวข้าหัวหน้าสมาคมผู้นี้จะร่วมด้วยจนถึงที่สุด! ”
ชายวัยกลางคนคว้าเหยือกสุราขึ้นมาเงยหน้ากระดกดื่ม โดยที่เขาดื่มได้เร็วกว่าและดุเดือดยิ่งกว่าจวินจิ่วเฉินเสียอีก! ครั้นจวินจิ่วเฉินเห็นเช่นนี้จึงไม่ลังเลที่จะใช้มือทั้งสองข้างพยุงเหยือกสุราและเพิ่มความเร็วในการดื่ม ในขณะที่สุราของจวินจิ่วเฉินค่อยๆ ลดลง เถ้าแก่เฉิงก็ไม่กล้าที่จะเมินเฉยอีกต่อไป เขาก็พยุงเหยือกสุราด้วยมือทั้งสองข้างพลางกระดกดื่มไล่ตาม
จู่ๆ บรรยากาศก็เกิดความตึงเครียดขึ้น!
ไม่มีใครทราบอย่างแน่ชัดว่าผู้ใดจะดื่มหมดก่อน และผู้ใดจะยืนหยัดไม่ไหวจนต้องอาเจียนสุราออกมาก่อน
ภายใต้บรรยากาศที่ตึงเครียด กลิ่นสุราบริเวณโดยรอบคละคลุ้งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และท่ามกลางกลิ่นสุราที่ค่อยๆ รุนแรงเพิ่มขึ้นบรรยากาศก็เริ่มตึงเครียดมากขึ้นเช่นกัน
จวินจิ่วเฉินเริ่มได้เร็วกว่าจึงนำหน้าอยู่หนึ่งก้าว โดยที่มีเถ้าแก่เฉิงไล่ตามไม่หยุด
หากรักษาความเร็วระดับนี้ไว้ได้ ผ่านไปอีกไม่นานสุราในเหยือกของจวินจิ่วเฉินก็จะหมดไป!
ทุกคนเริ่มวิตกกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งรวมถึงซ่างกวนฟูเหรินด้วยเช่นกัน
แต่ทันใดนั้น!
จวินจิ่วเฉินก็กระแทกเหยือกสุราลงบนโต๊ะด้วยมือทั้งสองข้าง อีกทั้งใช้มือยันไว้บนโต๊ะ ร่างกายเอนไปด้านหน้าราวกับว่าหากไม่มีโต๊ะสกัดกั้นเขาไว้ เขาก็จะล้มลงไป
วินาทีนั้นหัวใจของกูเฟยเยี่ยนเต้นเสียงดังโครมคราม นางเกือบจะโพล่งออกมาว่า "เตี้ยนเซี่ย" ในส่วนของเหมยกงกงนั้นตกตะลึงอ้าปากกว้างอย่างพูดไม่ออก
บัดนี้ใบหน้าที่เคร่งขรึมของจวินจิ่วเฉินเต็มไปด้วยความแดงก่ำโดยที่ไม่ทราบว่าปรากฏขึ้นมาั้แ่เมื่อใด เขาไม่ได้เมาจนล้มลงไปกอง แต่เขาก็มีอารมณ์เคลิ้มเมามากแน่ๆ เขาใช้มือทั้งสองข้างยันโต๊ะ ศีรษะโน้มลงสำรวจเหยือกสุรา เรียวคิ้วขมวดกันเล็กน้อย ริมฝีปากเม้มไว้แน่น ราวกับว่ากำลังอดทนอดกลั้นอะไรบางอย่างอยู่
เขาจะอาเจียนสุราหรือ?
กูเฟยเยี่ยนใมาก เพราะถ้าเมื่อใดที่เขาอาเจียนสุราออกมา แม้ว่าจะเพียงนิดเดียวก็ตาม ความพยายามที่ทุ่มเทลงไปทั้งหมดก็จะสูญสิ้นและพ่ายแพ้!
โชคดีที่จวินจิ่วเฉินไม่ได้อาเจียนสุราออกมา
เพียงชั่วขณะ ดูเหมือนว่าจวินจิ่วเฉินจะดีขึ้นแล้วเพราะริมฝีปากของเขาผ่อนคลายลง
วินาทีนี้เองที่กูเฟยเยี่ยนตระหนักได้ว่าเขากำลังพักผ่อน หญิงสาวจึงแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ในไม่ช้านางก็รู้สึกวิตกกังวลอีกครั้ง
เพราะถึงแม้ว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจะไม่อาเจียนสุราออกมา เขาก็ไม่มีโอกาสชนะ!
เนื่องจากเสียงกระแทกขวดสุราบนโต๊ะเมื่อครู่นี้ นางฟังออกว่าสุราที่จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเหลือไว้มีไม่มากแต่ก็ไม่น้อยเลย
จากสภาพของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยในยามนี้ การที่เขาไม่อาเจียนสุราออกมาหลังจากที่หยุดดื่มถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว นางไม่ทราบว่าเขาจะพักผ่อนนานแค่ไหน และไม่ทราบว่าถ้าเขาดื่มต่อไป เขาจะยังดื่มได้อีกเท่าใด และดื่มได้เร็วเพียงใด?
เนื่องจากเถ้าแก่เฉิงกระดกดื่มไม่หยุด เขากำลังดึงระยะห่างระหว่างคนทั้งสองให้แคบลงเรื่อยๆ ถ้าถูกเถ้าแก่เฉิงแซงขึ้นไป เช่นนั้นก็จะไม่มีโอกาสชนะมากกว่าเดิม!
ในเวลานี้เถ้าแก่เฉิงเหลือบมองไปที่จวินจิ่วเฉิน แววตาของเขาทอประกายถึงความโเี้ ไม่ว่าจะเป็เื่ของการค้าขายหรือเื่ของการประลองสุรา ถ้าเขา้าเขาก็จะไม่มีวันออมมือให้อย่างแน่นอน และครั้งนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น
นอกจากเขาจะไม่ผ่อนคลายแล้ว เขายังเพิ่มความเร็วราวกับบัดนี้เขาไม่ได้ดื่มสุรา แต่มอมเมาสุรา
กูเฟยเยี่ยนกับเหมยกงกงลนลานทันทีที่เห็นเช่นนี้
เหมยกงกงกำลังจะเปล่งเสียงกระตุ้นให้จวินจิ่วเฉินดื่มต่อ ทว่ากูเฟยเยี่ยนกลับห้ามไว้ นางไม่ชอบการพ่ายแพ้ แต่นางไม่ชอบให้เตี้ยนเซี่ยฝืนกระทำมากยิ่งกว่า เตี้ยนเซี่ยจะต้องถึงขีดจำกัดแล้วถึงได้หยุดดื่มสุรา ถ้าเขายังคงสู้ต่อไป ชีวิตของเขาจะสูญสิ้น!
เหมยกงกงใกับแววตาดุดันของกูเฟยเยี่ยน เขาไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหวแล้ว
เวลาค่อยๆ ผ่านพ้นไป ทั่วทั้งห้องเต็มไปด้วยความเงียบที่หลงเหลือเพียงแค่เสียงกระดกดื่มสุราของเถ้าแก่เฉิงราวกับว่าจะไม่หยุดตลอดกาล
จากปริมาณสุราในเหยือกที่ลดลง ศีรษะของเถ้าแก่เฉิงก็เงยสูงขึ้น ก้นเหยือกสุราค่อยๆ สูงขึ้นฟ้า ถ้าก้นเหยือกสุราขนานฟากฟ้าเมื่อใด นั่นจะแสดงให้เห็นว่าเขาดื่มหมดแล้ว
ทุกคนต่างก็จ้องมองไปที่เหยือกสุราด้วยความวิตกกังวล แม้แต่สายตาของกูเฟยเยี่ยนยังเคลื่อนย้ายออกจากตัวจวินจิ่วเฉินไปที่ก้นเหยือกสุรา ทางด้านของจวินจิ่วเฉินนั้นยังคงก้มศีรษะนิ่งเงียบอย่างหาที่เปรียบมิได้ ในบัดนี้เขาราวกับ...ราวกับว่าเขายอมแพ้แล้ว
ทันใดนั้น!
ในขณะที่เหยือกสุราของเถ้าแก่เฉิงค่อยๆ ยกสูงขึ้นอย่างเงียบๆ จวินจิ่วเฉินก็คว้าเหยือกสุราขึ้นมาด้วยมือทั้งสองข้างพลางเทสุราที่เหลือทั้งหมดลงไปในปากของเขา
ถูกต้อง ไม่ใช่ดื่ม ไม่ใช่กระดก แต่เป็เทลงไป!
วินาทีนั้นทุกคนต่างก็มองไปที่เขาด้วยความแปลกใจ แม้กระทั่งเถ้าแก่เฉิงก็ยังเบนความสนใจไปที่จวินจิ่วเฉิน อย่าว่าแต่สุราเกล็ดน้ำค้างขาวเลย ต่อให้เป็น้ำเปล่าก็ทรมานจากการเทลงคอเช่นนี้ อีกทั้งยังง่ายต่อการสำรอกออกมา!
เขาสติวิปลาสไปแล้วหรือ?
ทว่าจวินจิ่วเฉินไม่ได้อาเจียนออกมา เขายืนหยัดเอาไว้ได้!
แทบจะในขณะเดียวกัน จวินจิ่วเฉินกับเถ้าแก่เฉิงต่างก็วางเหยือกสุราลงดัง "ปัง" หลังจากนั้นทั้งสองก็มองหน้ากัน คนที่เหลือมองดูอย่างเงียบเชียบ ทั่วทั้งห้องเต็มไปด้วยความสงบราวกับว่าเวลาหยุดเดินลง
ในที่สุดจวินจิ่วเฉินก็ยิ้มออกมาด้วยใบหน้าที่เมาสะลึมสะลือเล็กน้อย รอยยิ้มของเขาที่มีเสน่ห์อันน่าดึงดูดเหลือเกิน "เถ้าแก่เฉิง ดูเหมือนว่าพวกเราจะต้องไปต่อที่เหยือกที่สี่แล้ว"
ที่จริงแล้วเมื่อสักครู่นี้ที่เขาหยุดไปไม่ใช่เพราะดื่มต่อไม่ไหว แต่เป็เพราะว่าเขาจงใจหยุดพักหายใจหายคอ สุราเกล็ดน้ำค้างขาวตัวนี้ไม่สามารถดื่มอย่างเร่งรีบได้ ทว่าจากความสามารถของเขาแล้ว เขายังสามารถยืนหยัดได้ สิ่งที่เขา้าคือเวลาพัก
ความสามารถในการดื่มสุราของเขาดีมาก เพียงแต่ว่าไม่สามารถดื่มรวดเดียวในปริมาณที่มากเกินไป จำเป็ต้องต้องใช้เวลาครู่หนึ่งในการพักหายใจ และเมื่อพักหายใจเรียบร้อยแล้ว เขาก็จะไม่เกรงกลัว!
่เวลาที่เขาพัก เขาเฝ้าฟังเสียงกระดกดื่มของเถ้าแก่เฉิงมาโดยตลอดเพื่อที่จะคาดการณ์ประมาณสุราและเวลา ภายใต้สถานการณ์ที่เขาคำนวณเอาไว้ว่าจะเสมอกัน เขาได้่ชิงระยะเวลาพักมาอย่างเต็มที่
อันที่จริงถ้าเมื่อสักครู่นี้เถ้าแก่เฉิงทุ่มเทสุดกำลัง เขาก็จะไม่มีโอกาสแน่นอน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเมื่อสักครู่นี้เถ้าแก่เฉิงจะไม่ได้อ่อนข้อให้แต่เขาก็ยังพยายามอย่างเต็มที่ เถ้าแก่เฉิงประเมินศัตรูต่ำเกินไปจนเปิดให้โอกาสเขา!
ว่ากันว่าสุราเกล็ดน้ำค้างขาวนี้สามารถทำให้เถ้าแก่เฉิงเมาจนล้มลงได้
วันนี้เขาจะรอดูว่าขีดจำกัดของเถ้าแก่เฉิงจะใช่สี่เหยือกหรือไม่! และเขายังจะดูด้วยขีดจำกัดของตัวเขาเองใช่สี่เหยือกหรือไม่เช่นกัน!
ครั้นเห็นรอยยิ้มอันอ้างว้างและเ็าของจวินจิ่วเฉิน เถ้าแก่เฉิงก็ตระหนักได้ถึงปณิธานของจวินจิ่วเฉิน เขาหัวเราะดังลั่น “หนุ่มน้อยตัวข้าหัวหน้าสมาคมผู้นี้รอให้ใครสักคนมาดื่มสุราเหยือกที่สี่ด้วยกันมาโดยตลอด ฮ่าๆ คิดไม่ถึงว่าจะเป็เ้า! มาๆ ดื่ม! ”
ดื่ม!
สุราเหยือกที่สี่ถึงจะเป็ตัวชี้ชะตาแพ้ชนะอย่างแท้จริง
ทั้งสองไม่อ้อมค้อมและไม่สงวนท่าทีอีกต่อไป พวกเขาทั้งสองแทบจะยกเหยือกสุราขึ้นมาเทลงคอพร้อมกัน การกระทำเช่นนี้เอาแต่ใจเป็สง่าและดุดันเบิกบานใจ
ความเร็วของการดื่มสุราเหยือกนี้เรียกได้ว่าเร็วอย่างยิ่ง อย่าว่าแต่กูเฟยเยี่ยนกับเหมยกงกงเลย เพราะแม้แต่ซ่างกวนฟูเหรินยังมองท่าทางเบิกบานใจของสามีตนเองด้วยความประหลาดใจ นางไม่เคยเห็นเขาดื่มกับใครได้อย่างเบิกบานใจเช่นนี้มาก่อน
สุราเหยือกที่สี่…ใครกันที่จะได้รับชัยชนะและใครกันที่จะพ่ายแพ้ ?
ทันใดนั้นจวินจิ่วเฉินกับเถ้าแก่เฉิงก็หยุดลงพร้อมกัน ทั้งสองคนสบตากันและกัน ไม่ช้าเถ้าแก่เฉิงก็เผยยิ้ม และจวินจิ่วเฉินก็ยิ้มเช่นกัน ในครานี้ชายหนุ่มไม่ได้ฝืน ดูเหมือนว่าเขาก็ดื่มอย่างเบิกบานใจเช่นกัน ทั้งสองคนหัวเราะไปมา ความเมาสะลึมสะลือล้วนปรากฏให้เห็นบนใบหน้า จากนั้นทั้งสองก็ค่อยๆ เอนตัวลงบนโต๊ะเพราะเมามายแล้ว
สุราทั้งสองเหยือกอยู่ในฝ่ามือของคนทั้งสอง ภายในเหยือกยังคงมีสุราอยู่ ยามนี้กูเฟยเยี่ยนกับซ่างกวนฟูเหรินจึงมองสบตากันอีกครั้งหนึ่งก่อนจะหันไปมองเหยือกสุราโดยไม่ได้หมาย
จะต้องตัดสินชัยชนะกับความพ่ายแพ้นี้อย่างไร?