เมื่อรู้ว่าทั้งเื่งูพิษและถุงหอม ล้วนเป็ฝีมือของเหอมู่หลิง ควงเยวี่ยโหลวก็ยิ่งโมโหจนอยากจะไล่นางออกไปเสียให้พ้นๆ
ซึ่งเดิมที การไล่ศิษย์ที่ทำผิดกฎออกจากสำนักสักคนนั้น เป็เื่ธรรมดามาก ทว่าคราวนี้กลับต่างออกไป
เพราะหากเขาทำเช่นนั้น ผู้ที่จะถูกเพ่งเล็งหาใช่ใครอื่น หากเป็ควงเจียนั่นเอง...
ท่ามกลางประเด็นร้อนที่ทุกคนให้ความสนใจ ใครบางคนก็นินทาขึ้นมา ว่าหนีเจียเอ๋อร์กับควงเยวี่ยโหลวอาจจะมีความสัมพันธ์เกินกว่าการเป็ศิษย์อาจารย์ ไม่อย่างนั้น หนีเจียเอ๋อร์คงไม่มีอภิสิทธิ์ย้ายเรือนไปอยู่ใกล้เขา
แม้แต่ควงเยวี่ยโหลว ก็ยังยากที่จะควบคุมมิให้ข่าวลือนี้แพร่สะพัดได้ แต่หากจะให้เพิกเฉยก็คงทำมิได้เช่นกัน จึงต้องใช้วิธีกักขังผู้กระทำผิดอย่างเหอมู่หลิงไว้ที่ห้องใต้ดินชั่วคราว
ด้วยไม่สามารถไล่นางออกจากสำนักอิ้นเสวี่ยได้ในทันที เพราะยังมีช่องโหว่บางอย่างที่เขาอาจจะมองไม่เห็น
พอไปคุยกับลู่ซี หนีเจียเอ๋อร์ก็เพิ่งรู้ว่ามีคนพูดจาใส่ร้ายอาจารย์ หญิงสาวจึงโกรธจนหน้าชา สำหรับนางแล้ว ตัวเองจะถูกนินทาอย่างไรก็ช่าง แต่ชื่อเสียงของท่านอาจารย์จะต้องไม่ด่างพร้อยไปด้วย
เพื่อเขาแล้ว นางจึงยินดีที่จะเสี่ยง
หนีเจียเอ๋อร์ขอให้ลู่ซีช่วยรวบรวมข้อมูลในห้องเรียน ทั้งชื่อผู้ที่พูดจาใส่สีตีไข่เกี่ยวกับเื่ของท่านอาจารย์กับนาง ไปจนถึงบรรดาพวกพ้องของเหอมู่หลิง
เมื่อควงเยวี่ยโหลวเดินเข้ามา ก็เห็นหนีเจียเอ๋อร์กำลังยืนครุ่นคิดบางอย่างด้วยสีหน้าจริงจัง อีกทั้งบริเวณรอบๆ ก็เต็มไปด้วยศิษย์ในสำนักที่มารวมตัวกัน ควงเยวี่ยโหลวขมวดคิ้ว พลางเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ควงเจีย คิดจะทำอะไรหรือ?”
พอเห็นเขา บรรดาลูกศิษย์ที่อยู่รอบๆ ก็ลุกขึ้นทักทายด้วยความนอบน้อม “คารวะท่านอาจารย์!”
ควงเยวี่ยตอบรับเบาๆ “ตามสบายเถอะ!”
หนีเจียเอ๋อร์อึกอัก แล้วกล่าวด้วยเคารพ “เรียนท่านอาจารย์ พวกศิษย์ที่มาในวันนี้ จะเป็พยานในการแข่งขันของข้ากับเหอมู่หลิงอีกครั้ง และนี่จะเป็การแข่งขันอย่างยุติธรรม โดยมีเงื่อนไขว่าผู้พ่ายแพ้จะต้องออกจากสำนักอิ้นเสวี่ยทันทีเ้าค่ะ!”
เมื่อมองไปที่สีหน้าจริงจังของนาง ควงเยวี่ยโหลวก็รู้สึกขุ่นเคืองอย่างยากจะอธิบาย เขาเคยให้อำนาจสิทธิ์ขาดแก่ผู้อื่นั้แ่เมื่อใด? การที่จะให้ศิษย์อยู่หรือจากไป เขาสมควรเป็ผู้ตัดสินใจเอง!
แล้วนี่นางไม่กลัวแพ้เลยหรือ?
ไม่กลัวว่าจะมิได้เรียกเขาว่าอาจารย์แล้วหรืออย่างไร?
“ดี!” ควงเยวี่ยโหลวกัดฟันพูด พลางเดินสะบัดชายเสื้อนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยความฉุนเฉียว
พอได้ยินน้ำเสียงอันกรุ่นโกรธของท่านอาจารย์ หนีเจียเอ๋อร์ก็ยิ่งไม่เข้าใจ... เป็ไปได้ไหม ว่าท่านอาจารย์ไม่ชอบใจ ที่นางมิได้ปรึกษาเขา และตัดสินใจไปโดยพลการ
“พาตัวศิษย์พี่หญิงเหอมู่หลิงมา” ลู่ซีะโออกไปนอกประตู
พอนางเข้ามา จึงเห็นควงเยวี่ยโหลวที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว หญิงสาวจึงเดินเข้าไปทักทายอย่างนบนอบ “ท่านอาจารย์!”
ส่วนเหอมู่หลิงผู้ทำความผิด พลันคุกเข่าลง “คารวะท่านอาจารย์!”
ควงเยวี่ยโหลวทำเป็หูหนวกตาบอด แม้ยากจะมองเห็นสีหน้าที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าคลุม แต่แรงกดดันที่แผ่ซ่านออกมา กลับแข็งแกร่งยิ่งนัก
เขาเพียงนั่งนิ่งๆ มิได้เคลื่อนไหว ทว่าแรงกดข่มที่มิได้เจาะจงจะส่งไปที่ผู้ใดนั้น ก็ยังปกคลุมไปทั่วห้องจนไม่มีใครกล้าเพิกเฉย แม้แต่ศิษย์ที่คิดจะเกลี้ยกล่อมยังเงียบงัน
คนที่ปกติแล้วพูดจาโผงผางไม่กลัวใครอย่างลู่ซี เมื่อมาอยู่ต่อหน้าควงเยวี่ยโหลว กลับดูเหมือนหนูเจอแมว นางต้องระงับอารมณ์ของตัวเอง ก่อนลุกขึ้นยืนอธิบายกฎ
ในเมื่อควงเยวี่ยโหลวมิได้เอ่ยปาก เหอมู่หลิงจึงไม่กล้าลุกขึ้นโต้แย้ง ได้แต่คุกเข่าต่อไป
หนีเจียเอ๋อร์เป็ฝ่ายลุกขึ้นยืน แล้วพูดเสียงดังกว่าปกติ “เหอมู่หลิง พวกเรามาแข่งขันกันต่อหน้าทุกคนในสำนักอิ้นเสวี่ยเถอะ วันนี้อาจารย์ก็จะเป็พยานให้ด้วย กติกาคือต้องชนะสองในสาม ผู้ใดแพ้จะต้องออกจากสำนักทันที และไม่ว่าใครจะเป็ผู้จากไป ก็ไม่อาจพูดถึงอาจารย์หรือสำนักอิ้นเสวี่ยได้”
เหอมู่หลิงลุกขึ้นยืน ด้วยเกรงว่าฝ่ายตรงข้ามจะเอาเปรียบตน จึงเอ่ยว่า “ได้... ข้าจะแข่งกับเ้า! แต่ข้าจะแน่ใจได้อย่างไร ว่าจะไม่โดนเอาเปรียบ?”
หนีเจียเอ๋อร์กล่าวทันที “เ้าบอกมาได้เลยว่า้าจะแข่งขันอย่างไร แล้วพวกเราก็ทำตามนั้น ดีหรือไม่?”
เหอมู่หลิงเหลือบไปมองควงเยวี่ยโหลว ที่มิได้พูดอะไรสักคำ แต่ดูจากบรรยากาศอันเยียบเย็นซึ่งปกคลุมไปทั่วห้องแล้ว ก็คิดว่าพวกตนควรจะขออนุญาตจากเขาก่อน
ควงเยวี่ยโหลวพยักหน้าเล็กน้อย ชายเสื้อคลุมพลันสะบัดพลิ้ว
เป็สัญญาณของการเริ่มต้น...
บรรดาศิษย์ต่างจับตามองเหอมู่หลิงและหนีเจียเอ๋อร์ ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มทายผลแพ้ชนะในใจ
มีเพียงลู่ซีที่รู้สึกกังวล แม้หนีเจียเอ๋อร์จะเป็ศิษย์ที่ท่านอาจารย์เชื่อใจ แต่กระนั้น เหอมู่หลิงก็ร่ำเรียนมาสามปีแล้ว โดยก่อนหน้าที่หนีเจียเอ๋อร์จะเข้าสำนัก นางก็เป็ที่หนึ่งมาตลอด มีฝีมือโดดเด่นเหนือผู้ใดทุกครั้งในการสอบ การจะเอาชนะคนผู้นี้ย่อมไม่ง่าย
เหอมู่หลิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะนึกถึงการเดิมพันครั้งแรก ที่นางรู้สึกว่าต้องชนะอย่างแน่นอน “เช่นนั้น ในการแข่งขันรอบแรก ให้ปรุงยาที่มีสรรพคุณในการล้างพิษโยวหลิงซ่าน[1] ภายในเวลาหนึ่งก้านธูป หากใครสามารถปรุงยาแก้พิษได้มากกว่าจะเป็ผู้ชนะ เ้าคิดว่าอย่างไร?”
ทันทีที่พูดจบ ก็มีเสียงกระซิบกระซาบเบาๆ “ข้าคิดว่านางเร็วกว่าแน่”
เพราะในการสอบครั้งล่าสุด เหอมู่หลิงเป็ที่หนึ่ง
ลู่ซีผุดลุกขึ้น พลางแย้งว่า “ข้าไม่เห็นด้วย นี่ไม่ยุติธรรม...”
หนีเจียเอ๋อร์แตะแขนของอีกฝ่าย แล้วลูบเบาๆ เป็เชิงบอกว่าไม่เป็ไร “เอาละ… ในเมื่ออาจารย์ไม่มีความเห็นอื่น เช่นนั้น พวกเราก็มาเริ่มกันเถอะ!”
ควงเยวี่ยโหลวยังคงนิ่งเงียบ หากมิใช่เพราะแรงกดดันของเขา ผู้คนคงลืมไปแล้ว ว่าท่านอาจารย์นั่งอยู่ตรงนั้น
นอกจากหนีเจียเอ๋อร์ คนอื่นๆ ย่อมคุ้นเคยกับนิสัยหวงคำพูดดุจทองคำของเขามานานแล้ว จึงมิได้รู้สึกแปลกอันใด
หนีเจียเอ๋อร์กับเหอมู่หลิงไปนั่งประจำตำแหน่ง และทันทีที่ผู้ตัดสินะโให้สัญญาณ พวกนางก็เริ่มลงมือพร้อมกัน
เหอมู่หลิงเหลือบตามองหนีเจียเอ๋อร์ที่อยู่อีกฟากอย่างเหยียดหยาม จากนั้นก็เตรียมลงมือ แต่แล้วก็ต้องใ จนสมุนไพรในมือแทบร่วงหล่น
เพราะการเคลื่อนไหวของหนีเจียเอ๋อร์ดูไม่ต่างจากนางเลย และแต่ละครั้งก็จับคู่สมุนไพรได้อย่างถูกต้อง
เป็ไปได้อย่างไร? ที่คนตาบอดจะสามารถจำแนกยา และจับคู่ได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้!
ทุกคนเริ่มลุ้นจนตัวโก่ง เม้มริมฝีปากแน่น รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง ขณะที่สายตาจับจ้องสลับไปสลับมาระหว่างคู่ต่อสู้ทั้งสอง
มีเพียงควงเยวี่ยโหลวซึ่งนั่งอยู่ในตำแหน่งประธาน ที่ไม่รู้สึกแปลกใจ ตอนนี้ มาถึง่สุดท้ายแล้ว พวกนางก็ยิ่งเพิ่มความเร็วจนคนอื่นมองตาไม่กะพริบ
เหอมู่หลิงพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่ก็ยังไม่อาจเอาชนะหนีเจียเอ๋อร์ได้ สุดท้ายการแข่งขันรอบแรกก็จบลง ปรากฏว่าทั้งสองต่างปรุงยาถอนพิษได้สี่ขนานเท่ากัน
ผลงานทั้งหมดของพวกนาง ถูกส่งไปยังโต๊ะตรงหน้าควงเยวี่ยโหลว เขาตรวจสอบอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนประกาศว่า “รอบแรก เสมอกัน”
แม้จะเป็เพียงการเสมอกัน แต่ทุกคนก็อดที่จะประทับใจในตัวหนีเจียเอ๋อร์มิได้ ที่ถึงแม้จะตาบอด แต่ก็มีความสามารถไม่เป็สองรองเหอมู่หลิง
ดวงตาของควงเยวี่ยโหลวมองไปยังยาสี่ขนาน ที่หนีเจียเอ๋อร์ปรุงมาด้วยสายตาเรียบนิ่ง ไม่อาจรู้ได้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดสิ่งใด...
---------------------------------------
[1] โยวหลิงซ่าน เป็ยาพิษที่พูดถึงในตอนที่ 149 ซึ่งไม่ร้ายแรงถึงตาย แต่ก็มีฤทธิ์ทำให้เ็ปทรมาน ไม่มีสีไม่มีกลิ่น สามารถเทผสมได้กับทั้งเครื่องดื่มและอาหาร