ผู้ใดจะไปคิดว่าเจียงหงหย่วนจะส่ายหน้าปฏิเสธ “สองร้อยตำลึงเถิด ข้าเอาไปขายได้อย่างมากเพียงร้อยตำลึง ขายให้เ้าสองร้อยตำลึง สองฝ่ายต่างไม่ขาดทุน เ้าได้ประหยัดเงิน ส่วนข้าได้เงินมากขึ้นเช่นกัน”
หลิวเฉียง “…”
เขาเพิ่งเคยเจอคนแบบเจียงหงหย่วนเป็ครั้งแรก จะบอกว่าเขาไม่รู้จักพลิกแพลงก็ไม่ได้ เพราะเขายังรู้จักเพิ่มราคาหนึ่งร้อยตำลึง เห็นชัดว่าเขาเป็คนรู้จักคิด อีกทั้งยังไม่ละโมบ นี่คือลักษณะพิเศษที่ใหญ่ที่สุดของบุรุษผู้นี้ เป็คุณสมบัติอันหาได้ยากเช่นกัน
“ตกลง แต่ข้าไม่ได้พกเงินติดตัวมา เ้าพาข้าลงไปส่งก่อนแล้วค่อยให้ได้หรือไม่ วางใจเถิด คนของข้าพกตั๋วเงินติดตัวกันทั้งนั้น” หลิวเฉียงไม่โต้แย้งอีก รู้ว่าโต้แย้งไปก็มีผลลัพธ์เช่นเดิม ภายใน่เวลาสั้นๆ ที่ได้คุยกัน เขาคิดเอาเองว่าตัวเองมองนิสัยเจียงหงหย่วนทะลุปรุโปร่งหมดแล้ว
เจียงหงหย่วนพยักหน้าตอบตกลง หันไปถามหวงจ้งซานว่า “เ้าจะให้ราคาเนื้อหมีเท่าไร?”
หวงจ้งซานคิดไปคิดมาแล้วตอบว่า “ข้าไม่เคยซื้อเนื้อหมีมาก่อน แต่อยากซื้อกลับไปแบ่งปันกับบรรดาพี่น้อง ให้ทุกคนได้ลองกินของแปลกใหม่ น้องเจียงเสนอราคามาเองเถิด”
เจียงหงหย่วนพูดว่า “ข้าขายให้ร้านอาหารชั่งละสามสิบเหรียญทองแดง เ้าให้ข้าชั่งละห้าสิบเหรียญดีหรือไม่” หมีที่เขาล่ามาได้หนักถึงหกเจ็ดร้อยชั่ง ชั่งละห้าสิบเหรียญทองแดง ทั้งหมดก็สามสิบสี่ตำลึงเงิน ขายหนังหมีด้วยก็เกือบร้อยแปดสิบตำลึง
ส่วนที่ราคาแพงที่สุดของหมีคืออุ้งตีนกับดีหมี รองลงมาคือหนัง ส่วนที่ราคาต่ำที่สุดคือเนื้อ
หวงจ้งซานรู้ว่าเจียงหงหย่วนจะไม่ละโมบ แต่เมื่อได้ยินราคา เขาก็ยังผิดหวังเล็กน้อยอยู่ดี
กระนั้นเขาก็ตอบตกลง “ได้ ราคานี้ไม่แพง น้องเจียงขายหนังหมีกับดีหมีให้ข้าด้วยเลยเถิด นี่ก็ใกล้เข้าหน้าหนาวแล้ว เอาไปทำเสื้อกันหนาวหนังหมีให้ท่านพ่อข้ากับบ่มสุราดีหมี แต่ข้าไม่ได้พกเงินเช่นเดียวกับหลิวเชียนฮู่ คงต้องรบกวนให้น้องเจียงพาลงเขาก่อนจึงจะมีจ่าย”
“ได้!” เจียงหงหย่วนตอบตกลงทันที อย่างไรก็ต้องเอาสินค้าไปส่งอยู่แล้ว พาคนไปส่งพร้อมกันไม่เห็นจะยากกระไร
หลังจากพักผ่อนหนึ่งคืน ทั้งสามคนออกเดินทางทันทีในเช้าวันรุ่งขึ้น
แม้หลิวเฉียงกับหวงจ้งซานจะาเ็ค่อนข้างหนัก แต่ยังดีที่เป็แค่าแภายนอก ดูน่ากลัวเท่านั้น ที่หมดสติอยู่ใต้หน้าผาพยัคฆ์เพราะหิวจนหมดแรงและเสียเื
ระหว่างทางที่ลงจากเขา ทั้งคู่ไม่ลืมที่จะพูดคุยกับเจียงหงหย่วน อาศัยบทสนทนามาทำความเข้าใจกับครอบครัวเจียงหงหย่วนให้ชัดเจน ด้วยเหตุนี้ พวกเขายิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกว่าเจียงหงหย่วนเป็คนดีเกินไป
ครอบครัวลำบากถึงเพียงนั้น ทั้งยังมีน้องชายที่ต้องกินยาเป็ตัวถ่วง กระนั้นยังไม่คิดใช้ประโยชน์จากบุญคุณที่ช่วยชีวิตพวกเขา
หวงจ้งซานอยากช่วยเหลือเขา กล่าวออกไปว่า “น้องเจียง ข้าเจอกับเ้าครั้งแรกก็สนิทราวกับสหายเก่า ชื่นชมในฝีมือของเ้าด้วยเช่นกัน ไม่ทราบว่าเ้าเคยคิดเื่ไปทำงานในจังหวัดบ้างหรือไม่? คืออย่างนี้ ที่ทำงานข้ากำลังขาดคนพอดี สนใจเป็มือปราบหรือไม่? ถึงเงินเดือนจะไม่มาก เดือนละสองตำลึง แต่มีเงินพิเศษมาก”
หลิวเฉียงรีบช่วยพูด “ข้อเสนอนี้ดี หวงต้าเกอได้ผู้ช่วยฝีมือดีเพิ่ม ส่วนเ้าไม่ต้องเอาแต่ขึ้นป่าขึ้นเขาเช่นกัน ไม่ได้กลับบ้านนานเป็สิบวันถึงครึ่งเดือน” เสนอให้ไปอยู่กองทัพคงไม่เหมาะสมเป็แน่ นายพรานเจียงมีครอบครัวต้องดูแล แต่หากไปเป็มือปราบจะต่างออกไป พาครอบครัวไปด้วยได้
“ข้าไม่กินข้าวหลวง!” เจียงหงหย่วนปฏิเสธแบบไม่ต้องคิด แต่เขาไม่ได้บอกว่าจะไม่หางานทำ
“ข้าราชการมีกฎเยอะเกินไป ยุ่งยาก” เจียงหงหย่วนเสริมให้อีกประโยค
หวงจ้งซานลังเล พูดว่า “เช่นนั้น…ไม่ทราบว่าสนใจงานในบ่อนพนันหรือไม่?”
ในสายตาคนทั่วไป บ่อนพนันดูไม่ต่างอะไรกับหอนางโลม เป็สถานที่ไม่ดี
เขากลัวว่าเจียงหงหย่วนจะรังเกียจบ่อนพนัน หากเจียงหงหย่วนรังเกียจ เขาคงจนปัญญาแล้วจริงๆ เพราะนอกจากที่นี่ ที่อื่นคงจ่ายเงินเดือนให้เจียงหงหย่วนได้ไม่สูงนัก อีกทั้งด้วยสถานการณ์ของครอบครัวเขา หากหาเงินได้ไม่มากพอ เหล่าเอ้อร์ที่กำลังกินยาคงมีปัญหา อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายภายในบ้านอีก (ทั้งคู่ถามเกี่ยวกับสถานการณ์ในครอบครัวเจียงหงหย่วนมาแล้ว)
ดังนั้น หวงจ้งซานจึงกังวลเล็กน้อยเมื่อพูดถึงบ่อนพนัน
คิดไม่ถึงว่าเจียงหงหย่วนจะไม่ปฏิเสธ กลับถามแทนว่า “ทำหน้าที่ใด? ได้เงินเดือนเท่าไร?”
หวงจ้งซานดีใจ “ทำหน้าที่เป็คนดูแลความเรียบร้อย เงินเดือนเดือนละยี่สิบตำลึงเงิน ปกติยังได้เงินรางวัลเพิ่มจากในบ่อนอีกด้วย หากพาคนไปทวงหนี้ เงินที่ได้กลับมายังแบ่งให้หนึ่งส่วน”
หวงจ้งซานรู้จักกับเถ้าแก่บ่อนซิงหลงพอดี บวกกับเขามีหุ้นส่วนในบ่อนอยู่ลับๆ จะยัดคนเข้าไปทำงานจึงไม่ใช่เื่ยากกระไร
เจียงหงหย่วนรู้ว่าแท้จริงแล้วตำแหน่งองครักษ์ก็คือมืออันธพาลของบ่อน ทำหน้าที่ดูแลความสงบในบ่อนและทวงหนี้เป็หลัก
“เกิดทุบตีจนพิการหรือตายจะเอาผิดที่ผู้ใด?” เขาถามต่อ
หวงจ้งซานตอบว่า “พยายามอย่าเอาถึงตาย ตายแล้วยุ่งยาก หากพิการ ทางบ่อนจะรับผิดชอบให้”
เจียงหงหย่วนพยักหน้า “ถ้าเช่นนั้นคงต้องขอบคุณหวงต้าเกอมากแล้ว” เดิมทีเป้าหมายในการช่วยสองคนนี้ของเจียงหงหย่วนคือการยืมมือพวกเขาปราบปรามรังโจร ไม่นึกเลยว่าหวงจ้งซานจะช่วยหางานในบ่อนให้เขา ซึ่งเป็สิ่งที่เขา้าพอดี!
เขาจำได้ว่าสุดท้ายโจรกลุ่มนั้นก็โดนจับในบ่อนพนัน เนื่องจากมีโจรลงจากูเามาเข้าบ่อน แพ้แล้วหลุดปากพูดข้อมูลออกมา มีคนเดาออกว่าเป็โจร นำตัวคนและข้อมูลไปรับรางวัลจากหน่วยเชียนฮู่
เจียงหงหย่วนอยากมีส่วนร่วมกับการปราบกองโจร ดังนั้น เขาไม่มีทางพลาดโอกาสทำงานในบ่อนอยู่แล้ว
เขามีหนี้เืกับหัวหน้าโจร ชาติก่อนตายตาไม่หลับ การตายของเขามีปริศนามากเกินไป ชาตินี้เขาจะจับหัวหน้าโจรมาถามให้กระจ่าง
หวงจ้งซานคิดไม่ถึงว่าเขาจะตอบตกลง หัวเราะคำโตหลังจากผงะไปชั่วครู่ “จะขอบคุณไปเพื่อเหตุใด ระหว่างเราไม่ต้องพูดเื่พวกนี้”
หลิวเฉียงโล่งอกเช่นกัน พูดกับเจียงหงหย่วนว่า “วันหน้าหากเ้าเจอความไม่เป็ธรรม มาหาข้าได้ทุกเมื่อ!”
เจียงหงหย่วน “อืม ถ้าอย่างนั้นข้าจะไม่เกรงใจแล้ว ไม่แน่ว่าวันหน้าอาจมีเื่ต้องรบกวนท่านทั้งสองจริงๆ”
“จริงสิหวงต้าเกอ คือว่า ข้าไม่อยากเข้าจังหวัด ขอทำงานในอำเภอที่นี่ได้หรือไม่?”
หวงจ้งซานโบกมือ “จะไปยากกระไร บ่อนพนันในอำเภอพวกเ้ามีเ้าของเดียวกับบ่อนซิงหลงในจังหวัด”
เื่นี้ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ทุกคนต่างดีใจมาก
เจียงหงหย่วนเชิญทั้งคู่ไปนั่งที่บ้าน แต่พวกเขากลัวจะสร้างปัญหาให้เจียงหงหย่วน เพราะรังโจรยังไม่ถูกกวาดล้าง หากไม่ทันระวังจนถูกหูตาของพวกโจรเห็นขึ้นมาคงได้นำหายนะไปสู่บ้านตระกูลเจียงเป็แน่แท้
ใตู้เามีคนของทั้งคู่มารอรับ ผู้ติดตามของทั้งคู่นำตั๋วเงินออกมาจ่ายให้เจียงหงหย่วน หวงจ้งซานกำชับเจียงหงหย่วนว่า่นี้อย่าเพิ่งขึ้นูเา ให้รอฟังข่าวจากเขาเสียก่อน เจียงหงหย่วนตอบตกลง จากนั้นจึงแยกย้ายกันไป
เจียงหงหย่วนถือตั๋วเงินไว้ในมือ จินตนาการว่าจะซื้อสิ่งใดให้ภรรยาตัวน้อย คิดถึงรอยยิ้มเมื่อได้รับของถูกใจบนใบหน้านาง ใจเขาเป็สุขมากนัก
สุขจนแทบจะเดินตัวลอย
แต่เมื่อใกล้ถึงบ้าน เขากลับพบว่านอกประตูมีคนกลุ่มหนึ่งมายืนมุง ได้ยินเสียงด่าทอลางๆ สีหน้าเจียงหงหย่วนดำมืดลงทันที