ปัญหาที่มีอยู่ ย่อมต้องมีอยู่ มิใช่ว่าจะหายไปหรือได้รับการแก้ไขเพราะนางจงใจที่จะมองข้ามหรือหลงลืม
อย่างไรเขาก็เป็ฮ่องเต้ เป็เื่ที่กำหนดแน่นอนแล้วว่าข้างกายของเขามิได้มีนางเป็สตรีข้างกายเพียงคนเดียว ความรักแบบนี้ นางจะรับได้จริงๆ หรือ?
นางคิดจะไปด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ องค์หญิงหลานซินได้ยินเสียงด้านนอกจึงรีบเดินออกมาขวางหน้าเฟิ่งเฉี่ยนเอาไว้
“พี่หญิงฮองเฮา มาแล้วไฉนจึงไม่เข้ามานั่งเพคะ”
เห็นเฟิ่งเฉี่ยนไม่พูดไม่จา องค์หญิงหลานซินรู้สึกลำพองใจ
“พี่สาว ท่านอย่าได้กล่าวโทษน้องสาวเป็อันขาด น้องสาวเพิ่งจะได้รับพระราชโองการเมื่อสักครู่นี้เองเพคะ! ฝ่าาอวยยศ หลานเฟย ให้น้องสาวอย่างกะทันหัน น้องสาวเองก็รู้สึกประหลาดใจอย่างที่สุด ยังใไม่หายเลยเพคะ”
ราวกับนาง้าโอ้อวด นางหยิบพระราชโองการออกมาโบกไปโบกมาเบื้องหน้าเฟิ่งเฉี่ยน “ท่านดูสิ นี่เป็พระราชโองการที่ฝ่าาทรงมีพระบัญชาลงมา!”
เฟิ่งเฉี่ยนตวัดสายตามองไปอย่างเ็า “เช่นนั้นยินดีกับน้องสาวด้วย ในที่สุดก็สมปรารถนาแล้ว!”
นางเดินผ่านร่างของอีกฝ่ายคิดที่จะจากไป ทว่าองค์หญิงหลานซินยังไม่สมปรารถนา นางขวางทางเฟิ่งเฉี่ยนอีกครั้ง
“เหตุใดพี่สาวต้องรีบจากไปเช่นนี้? น้องสาวได้เตรียมสุราอาหารไว้โดยเฉพาะ เพื่อฉลองกับพี่สาวน้องสาวทั้งหลาย! ท่านจากไปเช่นนี้คนที่ไม่รู้อาจเข้าใจว่าพี่สาวไม่ยินดี เจตนาทำให้น้องสาวลำบากใจก็เป็ได้!”
นางหันไปเรียกสนมและชายาทั้งหลาย “พี่สาวน้องสาว พวกเราให้ฮองเฮารั้งอยู่ดื่มสุราและอาหารกับพวกเรา เป็อย่างไร?”
สนมและชายาทั้งหลายต่างรอดูละครฉากเด็ดๆ จึงกล่าวเสริมตามๆ กัน
“ฮองเฮาเหนียงเหนียง รั้งอยู่ก่อนเถิดเพคะ!”
“ก็แค่ดื่มสุราจอกหนึ่งมิใช่หรือ? ฮองเฮาเหนียงเหนียงถึงกับจะไม่ไว้ไมตรีเลยหรือ”
“ฮองเฮาเหนียงเหนียงถืออาหารมาด้วยใช่หรือไม่ กลิ่นหอมเหลือเกิน นำมากินกับสุราได้พอดี!”
“ฮองเฮาเหนียงเหนียง เข้าไปเถิดเพคะ!”
คนเหล่านี้ไม่มีใครสักคนที่เชื้อเชิญด้วยความจริงใจ ล้วนรอที่จะหัวเราะเยาะนาง เฟิ่งเฉี่ยนแค่นหัวเราะเสียงเย็นในใจ นางพูดทั้งที่ไม่แสดงอารมณ์ทางสีหน้า “หากเปิ่นกงจำไม่ผิดแล้วละก็ ในตำหนักในแห่งนี้เปิ่นกงเป็คนที่ถือตราประทับหงส์! พวกเ้าต้องใคร่ครวญให้ดีเสียก่อน เฟยก็คือเฟย ฮองเฮาก็ยังคงเป็ฮองเฮา ขอเพียงเปิ่นกงอยู่ในวังหลวงหนึ่งวัน ใครก็อย่าได้คิดจะปีนขึ้นมาบนหัวของเปิ่นกง! หากพวกเ้าคิดว่ามีคนได้แต่งตั้งตำแหน่งพระชายาแล้วจะท้าทายอำนาจของเปิ่นกงได้ ชักสีหน้าใส่เปิ่นกง เช่นนั้นพวกเ้าผิดแล้วและผิดอย่างมหันต์ด้วย! เคยปะทะกันมาก็หลายครั้งแล้ว พวกเ้าควรจะรู้นิสัยของเปิ่นกงดี เปิ่นกงเป็คนเ้าคิดเ้าแค้น! คนที่อยู่ที่นี่ทั้งหมด มีกี่คนนับกี่คน เปิ่นกงจดจำได้หมด วันหน้าจะค่อยๆ คิดบัญชีนี้กับพวกเ้าทุกคน! พวกเ้าแน่ใจแล้วใช่หรือไม่ที่จะต่อกรกับเปิ่นกง จะเป็ปรปักษ์กับเปิ่นกงใช่หรือไม่?”
สนมและชายาทั้งหลายได้ยินเช่นนั้นจึงใกลัว ต่างมองหน้ากันไปมา
พวกนางก็แค่ดีใจที่ได้ซ้ำเติมผู้อื่น ทว่ากลับลืมไปว่าฮองเฮาก็ยังคงเป็ฮองเฮาอยู่ ฮองเฮาผู้เ้าคิดเ้าแค้น และมีแค้นต้องชำระ!
องค์หญิงหลานซินกลับไม่เกรงกลัว นางพูดราวกับมีเหตุผล “พี่สาวพูดเช่นนี้ ไม่กลัวว่าจะทำเื่เล็กให้เป็เื่ใหญ่หรือ! หรือพี่สาวไม่เกรงว่าคนอื่นจะบอกว่าท่านทนเห็นสนมและชายาคนอื่นๆ ในตำหนักในไม่ได้ บอกว่าท่านเป็สตรีขี้อิจฉาหรือ”
เฟิ่งเฉี่ยนแค่นหัวเราะเสียงเย็น “สตรีขี้อิจฉาแล้วอย่างไรเล่า อย่างไรข้าก็ไม่ได้มีชื่อเสียงดีอะไรอยู่แล้ว คงไม่ขาดเพียงความผิดฐานเป็สตรีขี้อิจฉากระมัง! กลับเป็เ้าเสียอีก ตำแหน่งเฟยนี้เ้าได้มาได้อย่างไร ในใจเ้ากระจ่างแจ้งยิ่งกว่าใคร! ในตำหนักใน แม้เ้าจะได้เลื่อนตำแหน่งมีอำนาจมากขึ้น แต่ไม่ได้หัวใจของฮ่องเต้ ต่อให้เ้าได้นั่งตำแหน่งฮองเฮาแล้วอย่างไรเล่า ยังมิใช่นั่งเฝ้าห้องอย่างเดียวดายหรอกหรือ”
คำพูดของเฟิ่งเฉี่ยนทิ่มแทงลงบนาแที่เจ็บที่สุดขององค์หญิงหลานซิน สีหน้าของนางเคร่งขรึมลงทันที
นี่ไม่ได้เป็เพียงความเ็ปขององค์หญิงหลานซินเพียงคนเดียว แต่เป็ความเ็ปของสนมและชายาคนอื่นๆ ด้วย แต่ละคนมีสีหน้าดำทะมึน ไม่เห็นสีหน้ามีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นอย่างเมื่อสักครู่อีก
เฟิ่งเฉี่ยนกวาดตามองพวกนางรอบหนึ่งด้วยสายตาเห็นอกเห็นใจ จากนั้นเดินก้าวใหญ่ๆ ผ่านร่างขององค์หญิงหลานซินออกไป!
แม้ปากนางจะบอกว่านางอยู่เหนือกว่า ดูเหมือนจะกดหัวพวกนางเอาไว้ได้แล้ว แต่ในใจนางนั้นกลับแตกสลายไม่มีชิ้นดี นางพูดเยาะเย้ยถากถางพวกนางว่าน่าสงสาร ที่จริงนางกำลังถากถางตัวเองด้วย หรือนางจะต้องมีชีวิตเช่นนี้จริงๆ
นี่เป็ชีวิตที่นางปรารถนาหรือ
ความรักเป็เื่สวยงาม แต่ความจริงเป็เื่เสียดแทงกระดูกเช่นนี้ นางไม่มีความศรัทธาว่าจะยืนหยัดต่อไปได้!
นางไม่อยากจะไปค้นหาว่าเหตุใดเซวียนหยวนเช่อจึงแต่งตั้งพระชายา หรือเขามีความลำบากใจ แต่แล้วนั่นอย่างไรเล่า? มันจะเปลี่ยนความจริงที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าในตอนนี้ได้หรือ
นางนั่งอยู่ริมทะเลสาบของอุทยานหลวง ความรู้สึกหวานชื่นและสวยงามในจิตใจของนางถูกลมที่พัดโชยผ่านมาพาไปด้วย ราวกับหมอกควันที่ถูกลมพัดจนแตกสลาย...
ปวดใจ ความรู้สึกเ็ปประเดประดังถาโถมเข้าหานางในนาทีนี้...
นางควบคุมความรู้สึกเ็ปในใจไม่ได้ หางตาของนางปรากฏให้เห็นหยดน้ำใสๆ โปร่งแสงไหลลงมา...
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ด้านหลังพลันมีเสียงฝีเท้าก้าวเข้ามาใกล้ เฟิ่งเฉี่ยนหันกลับไปมอง ที่เข้ามาในคลองจักษุของนางเป็อันดับแรกคือเส้นผมสีเงินที่แผ่สยายลงมาบนหัวไหล่และผิวขาวราวกับหิมะ ต่อมาเห็นคนผู้นั้นโน้มตัวลงมาเปิดกล่องสำรับข้าวของนาง ยกหมูสามชั้นในน้ำซอสของนางออกมา เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นใบหน้าของเขาที่อยู่ใต้หน้ากากสีเงิน!
เฟิ่งเฉี่ยนตกตะลึง “ซือคงเซิ่งเจี๋ยหรือ เหตุใดเ้าจึงอยู่ที่นี่ได้”
ซือคงเซิ่งเจี๋ยนั่งลงบนสนามหญ้าอย่างเป็ธรรมชาติ จมูกของเขาก้มลงมาดมหมูสามชั้นในน้ำซอสดังฟุดฟิด แล้วสูดลมหายใจเข้าลึก “ถูกต้อง กลิ่นนี้แหละ! ได้กลิ่นั้แ่ไกล ที่แท้มาจากเ้านี่เอง”
เขาหยิบตะเกียบขึ้นมาคู่หนึ่งคิดจะคีบเนื้อขึ้นมากิน เฟิ่งเฉี่ยนรีบแย่งกล่องสำรับอาหารขัดขวางเขา “นี่ เ้าไม่เกรงใจจริงๆ เลยนะ คิดจะกินก็กิน เ้าถามเ้าของมันหรือยังว่าอนุญาตหรือไม่”
ซือคงเซิ่งเจี๋ยตวัดสายตามองนางปราดหนึ่ง แล้วพูดเนิบๆ “ตามสถานการณ์ของเ้าในตอนนี้ ข้าเห็นว่าเ้าคงไม่เจริญอาหารอันใด อีกทั้งตั้งไว้ให้เย็นก็น่าเสียดาย ไม่สู้ข้าช่วยเ้ากิน!”
เฟิ่งเฉี่ยนได้สติ ดึงมือกลับมาเช็ดน้ำตาบนใบหน้าแล้วถลึงตาใส่เขาอย่างไม่สบอารมณ์ “เ้าแอบดูข้าหรือ”
ซือคงเซิ่งเจี๋ยไม่แยแสนาง เขาคีบหมูสามชั้นขึ้นมาส่งเข้าปากชิ้นหนึ่งแล้วเคี้ยวช้าๆ เห็นสีหน้าใต้หน้ากากของเขาไม่ชัดเจน แต่เขาเคี้ยวและลิ้มลองรสชาติอยู่นานจึงพรูลมหายใจยาวๆ ออกมาเฮือกหนึ่ง “บอกข้ามา เทพอาหารคนที่ทำอาหารจานนี้อยู่ที่ใด ข้า้าพาตัวกลับไปแคว้นหนานเยียน!”
เฟิ่งเฉี่ยนตกตะลึง นางหัวเราะอย่างจนคำพูด
คนๆ นี้ช่างเถรตรงนัก เมื่อได้กินของอร่อย ก็้าพาตัวพ่อครัวกลับไปด้วย ไม่ถามก่อนว่าอีกฝ่ายยินยอมหรือไม่ เอาแต่ใจจริงๆ!
“นางหรือ นางไม่ใช่คนในวัง แต่มาทำอาหารในวังเป็ครั้งคราว ตอนนี้ออกไปจากวังหลวงแล้ว!”
ซือคงเซิ่งเจี๋ยหัวเราะ “เช่นนั้นยิ่งดี! ข้าไม่ต้องเสียเวลาพูดกับเซวียนหยวนเช่อ! เ้าบอกชื่อและที่อยู่ของนางกับข้ามาก็พอ ข้าจะให้คนไปเชิญตัวนางมา!”
ได้ยินเขาเอ่ยถึงเซวียนหยวนเช่อ สีหน้าของเฟิ่งเฉี่ยนค่อยๆ สลดหดหู่ลงด้วยความรู้สึกเ็ป “วันนี้เ้าเข้าวังเพราะเื่ที่น้องสาวของเ้า องค์หญิงหลานซิน ได้แต่งตั้งเป็พระชายากระมัง”
ซือคงเซิ่งเจี๋ยส่ายหน้าเบาๆ อย่างเหนือความคาดหมาย “เื่พวกนั้นของนางน่ะหรือ ข้าคร้านจะไปสนใจ! ข้ามาหาเ้าต่างหากเล่า!”
เฟิ่งเฉี่ยนตะลึงงัน นางคาดไม่ถึงอยู่บ้าง “หาข้าหรือ”
ซือคงเซิ่งเจี๋ยคีบเนื้อส่งเข้าปากอีกชิ้นหนึ่ง เคี้ยวเอื้องอยู่นานจึงกลืนลงท้องไปแล้วจึงพูดอีกว่า “ได้ยินว่าเมื่อวานเสด็จพี่ของข้าให้คนตามล่าสังหารเ้า”
เฟิ่งเฉี่ยนคิดไม่ถึงว่าเขาจะเป็ฝ่ายพูดถึงเื่นี้ขึ้นมาก่อน นางแค่นเสียงฮึอย่างมีโทสะทันที “เดิมทีข้าคิดว่าเ้าเป็คนเปิดเผยตรงไปตรงมา คิดไม่ถึงว่าเ้าก็เป็คนต่ำช้าที่ชอบลอบทำร้ายผู้อื่นเหมือนกัน!”
ซือคงเซิ่งเจี๋ยหัวเราะเบาๆ “ไม่ว่าเ้าจะเชื่อหรือไม่ เื่นี้ข้าไม่รู้เื่เลย”
เฟิ่งเฉี่ยนแค่นเสียงฮึ “เมื่อวานข้าเกือบเอาชีวิตไม่รอด ข้าไม่มีทางยอมรับคำขอโทษจากเ้า!”
“เ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้าไม่คิดจะขอโทษ!” ซือคงเซิ่งเจี๋ยยกยิ้มเห็นริมฝีปากสีชมพูและฟันขาวสะอาด “แล้วเหตุใดข้าต้องขอโทษในเื่ที่ข้าไม่ได้ทำด้วย?”
เฟิ่งเฉี่ยนชะงักงัน นางถึงกับโต้ตอบไม่เป็
คนที่ตามล่าสังหารนาง เป็พี่ชายและน้องสาวของเขา ไม่เกี่ยวข้องกับเขาจริงๆ นั่นแหละ
แต่นางยังอดที่จะพาลไม่ได้ “เช่นนั้นเ้ามาหาข้าทำไม”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้