เมื่อคลื่นดาบกับดาบมารโลหิตปะทะกัน คลื่นดาบที่เกิดจากการอัดแน่นของพลังปราณทั้งสองก็เกิดการะเิราวกับดอกไม้ไฟที่งดงามทันที!
“ตูมๆๆ...!”
เสียงะเิที่ดังสนั่นขึ้นถี่ๆ เป็เวลานานจนแทบจะกลายเป็เสียงเดียวกกัน ดังกัมปนาทแผ่ออกไปรอบๆ จากใจกลางเวทีไปยังบริเวณโดยรอบ!
จนกระทั่งดอกไม้ไฟหายไป ดาบใหญ่เหล็กดำในมือของเซียวหลิงอวิ๋นก็ทะลุฝ่าคลื่นเืที่แผ่ออก ปะทะอย่างแรงเข้ากับหอกโลหิตยาวแปดจั้งที่อยู่ในมือของหุ่นเชิดศพสีฟ้าอ่อน!
"เปรี้ยง!" ทั้งหอกโลหิตและหุ่นเชิดศพสีฟ้าอ่อนต่างก็แตกสลายทั้งคู่ เผยให้เห็นดาบโลหิตที่อยู่ข้างหลังมัน! “แกร๊ง!” สิ้นเสียงดาบปะทะกัน ดาบใหญ่ก็เข้าปะทะเข้ากับดาบยาวอย่างแรง!
หวังอี้รู้สึกได้ว่ามือของเขาสั่นเทา แรงสั่นะเืแปลกๆ ถูกส่งจากดาบใหญ่มายังดาบยาวของเขา และจากดาบยาวก็ส่งมายังฝ่ามือของเขา!
พลิกข้อมือ!
ร่างกายบิดไปข้างหน้าครึ่งหนึ่งอย่างแปลกประหลาด ดาบยาวฟาดฟันไปข้างหน้าด้วยการวาดรัศมีโค้งและพลังอันน่าตกตะลึง! มันคือกระบวนที่สองของวิชาดาบจ้าวทะเลมารเขาโลหิต ‘ผ่าขดอสรพิษโลหิต’
กระบวนท่านี้ทั้งคล่องแคล่วและลื่นไหลอย่างยิ่ง! ด้วยความลื่นไหลนี้ ทำให้เขาสลัดหลุดออกจากการสั่นะเืแปลกๆ ที่เซียวหลิงอวิ๋นส่งผ่านดาบใหญ่มาได้!
จนกระทั่งดาบนี้ถูกฟันออกไป หวังอี้ก็ต้องใเมื่อตัวเขาค้นพบความลับของดาบนี้ เป็เวลาชั่วขณะหนึ่งที่เขาทั้งรู้สึกประหลาดใจและยินดีอย่างอดไม่ได้! ช่างน่าประหลาดเสียจริง เซียวหลิงอวิ๋นมีความสามารถแปลกๆ ที่สามารถทำให้อีกฝ่ายสามารถแสดงพลังออกมาอย่างสมบูรณ์ และสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกยินดีมากกว่า คือการที่กระบวนที่หนึ่งและกระบวนที่สองของวิชาดาบจ้าวทะเลมารเขาโลหิตสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างลื่นไหลและสมบูรณ์แบบเช่นนี้!
“กระบวนดาบที่ดี!” บนอัฒจันทร์ เหล่าผู้าุโหลายคนต่างก็พากันส่งเสียงออกมา!
“หวังอี้คนนี้มีทักษะดาบที่ดี แต่เซียวหลิงอวิ๋นก็ยังคงเหนือกว่า สามารถทำให้คู่ต่อสู้ของเขาพัฒนาทักษะดาบขึ้นไปสู่อีกระดับในระหว่างการต่อสู้ได้ นี่ไม่ใช่เพียงความแข็งแกร่งอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงขอบเขตของวิสัยทัศน์ และความรู้ที่ครอบคลุมอีกด้วย เซียวหลิงอวิ๋นมีสิ่งเหล่านี้เหนือกว่านักยุทธ์คนอื่นๆ แม้แต่อาจารย์ฝึกสอนหลายท่านในสำนักของเราเอง หรือแม้แต่ข้าก็ไม่สามารถทำในสิ่งที่เขาทำได้!” เสียงของเ้าสำนักชื่อถิงเทียนดังขึ้น!
เหล่าผู้าุโหลายคนต่างก็พากันครุ่นคิดถึงเื่นี้ในใจ จากนั้นพวกเขาก็ใเมื่อรู้ว่าตนเองคงไม่สามารถทำอย่างเซียวหลิงอวิ๋นได้จริงๆ การกระตุ้นศักยภาพของอีกฝ่ายในระหว่างการต่อสู้ และทำให้ทักษะดาบดาบของอีกฝ่ายพัฒนาขึ้นไปอีกระดับ
แล้วเ้าหนุ่มคนนี้ทำเช่นนี้ได้อย่างไร?
เหล่าผู้าุโต่างก็พากันประหลาดใจ มองดูเซียวหลิงอวิ๋นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชมและเลื่อมใสโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเป็ความเคารพและนับถือจากก้นบึ้งของหัวใจแก่ผู้ที่สามารถก้าวข้ามพวกเขาในด้านใดด้านหนึ่งไปได้!
...
ด้านล่าง บนเวทีประลอง พลังมารโลหิตที่แข็งแกร่งอยู่แล้วดูราวกับจะลุกไหม้ขึ้นมาได้ในเวลานี้ กระบวนดาบที่หวังอี้เปลี่ยนและฟาดฟันออกมาเกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าใ เกิดเป็พายุหมุนสีแดงปรากฏขึ้นที่ดาบอย่างน่าประหลาด ดูดเอาพลังมารโลหิตที่ลอยอยู่เต็มท้องฟ้าให้เข้าหาพายุ ใน่เวลาสั้นๆ นี้ พายุหมุนสีเืหมุนวนไปรอบใบดาบ แล้วกลายเป็งูสีเืที่ดุร้ายและน่าสะพรึงกลัว พุ่งเข้ามาฉกเซียวหลิงอวิ๋น ดาบนี้ดูทรงพลังกว่ามากกว่าดาบแรกยิ่งนัก!
ดวงตาของเซียวหลิงอวิ๋นเองก็เปล่งประกายเช่นกันเมื่อได้เห็นดาบนี้!
ไม่เลวๆ หลังจากที่ดูดเอาพลังมารโลหิตที่ปล่อยออกจากดาบแรกเข้ามาแล้ว ก็ทำให้ดาบที่สองมีพลังเพิ่มขึ้นมากจริงๆ!
“พลังของดาบนี้เพิ่มขึ้นกว่าดาบแรกเกือบเท่าตัว!” เซียวหลิงอวิ๋นกล่าวอย่างตื่นเต้น!
พลังของกระบวนดาบที่สองเพิ่มขึ้นกว่ากระบวนดาบแรกเกือบสองเท่าแล้ว ดังนั้นกระบวนดาบที่สามก็น่าจะ... น่าสนใจ น่าสนใจ!
"ตูม!"
งูสีแดงเืที่ดุร้ายพร้อมด้วยประกายดาบก็พุ่งตรงเข้าหาเซียวหลิงอวิ๋นจากระยะไกลออกไป แม้จะอยู่ห่างออกไปหลายเมตร เซียวหลิงอวิ๋นก็ยังััได้ถึงพลังของอีกฝ่ายที่หลั่งไหลมาราวกับประตูน้ำถูกเปิด
เมื่อเผชิญหน้ากับดาบที่เกรงขามของหวังอี้!
ก้าวลวงิญญาที่เท้าของเซียวหลิงอวิ๋นก็ทำงานอย่างรวดเร็ว ร่างกายผอมเพรียวของเขาล่าถอยออกไป ในขณะเดียวกันพลังปราณในกายก็เริ่มไหลเวียน ด้วยการรวบรวมพลังอย่างรวดเร็ว ทำให้เส้นเืที่หน้าผากของเซียวหลิงอวิ๋นปูดโปนขึ้น ในเวลานี้ดาบใหญ่เหล็กดำในมือหนักอึ้งราวกับูเา กระดูกหลังมือนูนออกเล็กน้อย จากนั้นก็ฟาดฟันดาบออกไปสามครั้งซ้อน ซึ่งอาจจะดูเหมือนช้าแต่แท้จริงแล้วว่องไวมาก!
‘ดาบพยัคฆ์สามคำราม’
ทว่ากระบวนดาบอันทรงพลังนี้แตกต่างไปจากครั้งก่อนๆ ในคราวนี้การโจมตีทั้งสามครั้งของพยัคฆ์สามคำรามไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การสังหารศัตรูแต่อย่างใด กลับกัน ดาบแรกได้ฟันออกไปแค่ครึ่งเดียว ก่อนจะชักกลับมาและฟันดาบที่สองออกไป แล้วฟันดาบที่สามตาม คลื่นดาบสองครั้งนี้ซ้อนทับกัน จนกลายเป็กระบวนดาบพยัคฆ์สามคำราบแบบใหม่ในทันที เซียวหลิงอวิ๋นได้ทำการเปลี่ยนกระบวนดาบโจมตีอันทรงพลังให้กลายเป็กระบวนดาบป้องกันที่มีความสามารถในตั้งรับที่แข็งแกร่งอย่างที่สุดแทน!
ลำพังกระบวนนี้เพียงอย่างเดียว ก็สามารถใช้ฆ่านักยุทธ์และผู้ใช้พลังิญญาที่มีชื่อเสียงได้มากมายหากสามารถเข้าถึงวิชาดาบได้! กระบวนท่านับพันในหัว เมื่อผ่านมือของเขา ล้วนกลายเป็กระบวนท่าขั้นสุดยอดได้ทั้งสิ้น!
“ทักษะดาบยอดเยี่ยมนัก! สามารถใช้ป้องกันได้ต่อเนื่อง ราวกับคลื่นทะเลและูเาที่สูงตระหง่าน ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม!” ผู้าุโคนหนึ่งในสำนักที่เชี่ยวชาญด้านทักษะดาบถึงกับดวงตาเป็ประกาย กล่าวชมสามครั้งติดต่อกัน!
“ฟุ่บๆๆๆๆ”
การกวัดแกว่งดาบของเซียวหลิงอวิ๋นแม้จะดูเหมือนเชื่องช้า แต่การเคลื่อนไหวที่มือของเขากลับรวดเร็วอย่างยิ่ง แม้จะดูเหมือนมีคลื่นดาบเพียงสามระลอกเท่านั้น แต่คลื่นดาบจะมีการสั่นะเืด้วยความเร็วสูงในตอนที่ถูกฟันออกไป หลังจากที่ฟันออกไปจะเกิดเป็คลื่นดาบบางๆ สิบสองดาบ ถึงแม้จะดูเหมือนซ้อนทับกันแค่สามดาบเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วภายใน่ระยะเวลาสั้นๆ เซียวหลิงอวิ๋นได้ฟันออกไปแล้วถึงหกพันหกร้อยสามสิบหกดาบ ทั้งสิบสองดาบรวมกันกลายเป็หนึ่ง จนกลายเป็คลื่นดาบั์สามดาบที่มีความหนาพอๆ กับชามข้าว เข้าปะทะกับดาบที่น่าเกรงขามของอีกฝ่าย!
แม้จะเป็กระบวนดาบป้องกันที่แข็งแกร่ง แต่เซียวหลิงอวิ๋นก็ยังถอยร่น จนกระทั่งไปถึงตรงขอบเวที เขาก็แสดงให้เห็นว่ากำแพงดาบนี้คือของจริง เอาชนะเ้างูั์สีแดงเืได้ในที่สุด!
กระบวนดาบที่สองถูกสกัดกั้นเอาไว้ได้! แต่พลังของกระบวนดาบนี้ก็ยังทำให้เซียวหลิงอวิ๋นแอบชื่นชมอีกฝ่ายอยู่ในใจ! เมื่อระดับพลังยุทธ์ของหวังอี้สูงขึ้น วิชาดาบจ้าวทะเลมารเขาโลหิตนี้จะต้องทรงพลังมากอย่างไม่ต้องสงสัย!
เมื่อเห็นเซียวหลิงอวิ๋นสามารถป้องกันการโจมตีด้วยกระบวนดาบที่สองของเขาได้โดยไร้ซึ่งรอยขีดข่วนใดๆ หวังอี้ก็อดไม่ได้ที่จะะโออกไป: "ยอดเยี่ยม! ต่อไปจะเป็ดาบสุดท้ายแล้ว ขอศิษย์น้องระวังเอาไว้ด้วย!" ในขณะที่หวังอี้ะโ เขาก็ะเิพลังปราณออกมา ยกดาบยาวขึ้นมาเหนือศีรษะด้วยมือทั้งสองข้าง ในขณะที่ดาบเปล่งแสงสว่างจ้าขึ้นเรื่อยๆ พลังปราณก็หลั่งไหลไปที่ดาบยาวในมือราวกับเปิดประตูน้ำ
เซียวหลิงอวิ๋นรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าพลังปราณที่อยู่ในกายของหวังอี้ลดฮวบลงอย่างรวดเร็ว แต่แรงกดดันอันน่ากลัวของดาบยาวในมือของเขากลับสามารถััได้ชัดเจนแม้จะอยู่ไกลออกไปกว่าสิบเมตร!
กระบวนดาบที่สาม!
แค่แรงกดดันเพียงอย่างเดียวก็ถือว่าไม่ธรรมดาแล้ว!
ดี ขอดูพลังดาบที่สามของเ้าหน่อยเถอะ!
ไฟต่อสู้ของเซียวหลิงอวิ๋นเพิ่มขึ้นเช่นกันในเวลานี้!
“ศิษย์น้อง รับการโจมตีที่แรงที่สุดของข้าหน่อย กระบวนที่สามของวิชาดาบจ้าวทะเลมารเขาโลหิต ‘ดาบมารผ่าโลกา’!”
ท่ามกลางเสียงคำรามดังลั่น ร่างของหวังอี้ก็ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า ราวกับลูกะุปืนใหญ่ที่ยิงออกไป ะโไปได้ไกลกว่าสิบเมตรในเวลานี้!
ั์ตาสีดำแวววาวของเซียวหลิงอวิ๋นหดลงเล็กน้อย ด้วยประสาทััที่ไวเหนืุ์ของเขา ทำให้เขารับรู้ได้ถึงพลังดาบของหวังอี้ เมื่อเทียบกับดาบเล่มที่สองแล้ว พลังมันเพิ่มขึ้นมาอีกห้าส่วน! บางทีนี่อาจจะเป็ขีดจำกัดของพลังยุทธ์ของหวังอี้แล้วก็ได้!
แต่ถึงอย่างนั้น ดาบที่สามนี้ก็เหนือกว่าดาบที่สองไปอีกขั้นหนึ่งเลยทีเดียว เซียวหลิงอวิ๋นไม่นึกเลยว่าวรยุทธ์ทั่วไปจะทรงพลังได้ถึงเพียงนี้!
วิชาดาบที่ทรงพลังเช่นนี้!
ช่างน่าตื่นเต้นจริงๆ!
ไม่ว่าจะกระบวนไหนๆ ก็ไม่สามารถดูแคลนอีกฝ่ายได้เลย!
เมื่อเผชิญหน้ากับหวังอี้ที่ดูน่ากลัวและน่าเกรงขามมากกว่าเดิม และพลังต่อสู้ที่เพิ่มขึ้นราวกับหน่อไม้ที่ผุดในฤดูใบไม้ผลิ ทำให้เซียวหลิงอวิ๋นไม่กล้าดูแคลนอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย! ใช้วิชากายค้อนสำริดในระดับถึงขีดสุด!
"เข้ามาเลย!"
พร้อมด้วยเสียงคำรามดังสนั่น พลังของเซียวหลิงอวิ๋นก็เร่งขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุดด้วยความเร็วอันน่าใ พลังปราณที่ไหลเวียนอยู่ถูกถ่ายเทเข้าไปในดาบใหญ่เหล็กดำในมือเขา แขนข้างหนึ่งเปล่งแสงสีเขียวออกมา!
บนอัฒจันทร์ ดวงตาของผู้าุโหลายคนต่างก็พากันเบิกกว้าง!
นั่นมัน…
แสงสีเขียว แสงสีเขียวของความอุดมสมบูรณ์ นี่เป็สัญญาณบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเขาสำเร็จวิชากายค้อนสำริดขั้นสูงแล้ว!
เซียวหลิงอวิ๋นอายุเท่าไรกันแน่ เขาเพิ่งอายุได้เพียงสิบสี่ปีและเป็นักยุทธ์ระดับห้าเท่านั้น ด้วยอายุและพลังยุทธ์เท่านี้ แต่กลับสามารถฝึกวิชากายค้อนสำริดที่เป็วิชาเสริมแกร่งร่างกายชั้นยอดของนักยุทธ์ทั่วไปจนสำเร็จขั้นสูงได้!
อย่างที่คิดจริงๆ เด็กคนนั้นเป็สัตว์ประหลาดชั้นยอดที่ปรากฏตัวในสำนักทุกๆ หมื่นปีเท่านั้นจริงๆ!
แข็งแกร่ง แข็งแกร่งจริงๆ!
แม้แต่ชายชราร่างสูงไว้เคราแพะจากสำนักหลักก็ยังมีความตกตะลึงในดวงตา เพราะแม้แต่ตัวเขาก็ยังไม่สำเร็จวิชากายค้อนสำริด จนกระทั่งเป็นักยุทธ์ระดับเก้าแล้ว!
เ้าหนุ่ม เ้าสามารถสร้างความประหลาดให้เห็นได้อย่างต่อเนื่องจริงๆ เ้าฝึกวิชากายค้อนสำริดได้สำเร็จไม่พอ ยังสำเร็จวิชากายค้อนสำริดในขั้นสูงอีกด้วย จ้าวเหวินจัวเองก็รู้สึกตกตะลึงมากเช่นกัน เขารู้ดีอยู่แล้วว่าเซียวหลิงอวิ๋นเป็เป็สุดยอดอัจฉริยะ แต่บ่อยครั้งที่เขาคิดว่ารู้จักเ้าหนุ่มคนนี้ดีแล้ว เ้าหนุ่มคนนี้ก็จะมาพร้อมกับวิชาใหม่ๆ ที่ทำให้ใอยู่เรื่อย!
ไม่รู้เลยว่าเ้าหนุ่มคนนี้มีอภินิหารซ่อนอยู่ในตัวเขามากแค่ไหน!
จ้าวเหวินจัวได้ตัดสินใจใหม่อีกครั้ง ไม่ว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร และไม่ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปเช่นไรก็ตาม ตัวเขาจะต้องกอดเซียวหลิงอวิ๋นเอาไว้อย่างแ่าไม่ยอมปล่อย เพราะสุดยอดอัจฉริยะในรอบหมื่นปีคนนี้มีศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัดจริงๆ!
แน่นอนว่าเซียวหลิงอวิ๋นไม่รู้เลยว่าบรรดาผู้าุโที่อยู่บนอัฒจันทร์นั้นกำลังคิดอะไรอยู่!
สมาธิทั้งหมดของเขามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่อยู่ในดวงตา!
ดาบใหญ่เหล็กดำในมือเขากลายเป็ัไปแล้ว!
ด้วยพลังที่น่าเกรงขามในระดับเดียวกันกับอีกฝ่าย เขาเผชิญหน้ากับกระบวนดาบที่สามของหวังอี้อย่างตรงไปตรงมา!
"ตูม!"
พลังสูงสุดของวิชากายค้อยสำริดขั้นสูง เข้าปะทะอย่างแรงกับคลื่นดาบโลหิตที่น่าเกรงขามของหวังอี้!
ในเวลานี้ที่เวทีประลองราวกับจะถูกฉีกออกจากกันด้วยพลังอันมหาศาล ทั้งคลื่นและลมพัดแรงแผ่ขยายออกไปทั่วบริเวณโดยรอบอย่างไม่ไยดี ท่ามกลางเสียงดังแกร๊กๆๆ พื้นเวทีแข็งกระด้างก็ปรากฏรอยแตกร้าวขยายออกเป็ใยแมงมุม
ภายในคลื่นโลหิตที่แผ่ขยายทั่วท้องฟ้า ดาบสีทองส่องแสงประกาย โดดเด่นสะดุดตาราวกับัทอง ฉีกคลื่นดาบโลหิตที่ขวางทางมันอยู่ให้แยกออกจากกันอย่างบ้าคลั่ง!
พลังอันรุนแรงพลันแผ่ขยายออกไปทั่ว ราวกับคลื่นทะเลคลั่ง!
ชั่วขณะต่อมา ร่างของทั้งคู่ก็กระเด็นลอยออกไปด้านหลัง ลอยละลิ่วไปคนละฟาก!
ตัวของเซียวหลิงอวิ๋นลอยออกไปด้านหลัง ก่อนที่เท้าของเขาจะไถพื้นดินจนกลายเป็ร่องยาวสองร่องลึกประมาณสามชุ่น ยาวหกถึงเจ็ดเมตร
“ตุบ!” หวังอี้ที่กระเด็นลอยไปอีกทาง ััได้ถึงรสหวานปะแล่มในลำคอ เขาอ้าปากและกระอักเืออกมาคำโต ในขณะที่ร่างของเขากระเด็นลอยตกจากเวทีไปราวกับว่าวที่สายป่านขาด
