"ปิงเสวี่ยเอ๋อร์ ขอคำชี้แนะ" ปิงเสวี่ยเอ๋อร์บนสนามพูดคุยกับคู่ต่อตรงหน้า
"เล่ยเฉิน ขอคำชี้แนะ" เล่ยเฉินคว้าหอกสายฟ้าของเขาออกมา ทั้งคู่เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้
"เข้ามา!" ทั้งคู่พูดพร้อมกันและเคลื่อนไหวพร้อมกัน
เล่ยเฉินพุ่งเข้าหาปิงเสวี่ยเอ๋อร์ด้วยความเร็วสายฟ้า เขาจับหอกของตนแทงไปที่ด้านหน้าเพื่อชิงความได้เปรียบ
ปิงเสวี่ยเอ๋อร์หงายฝ่ามือทั้งสองออกมา ตอนนี้กลิ่นอายแห่งความหนาวเย็นแพร่กระจายไปรอบๆเวที
ทันใดนั้นเกราะน้ำแข็งก็ค่อยๆก่อตัวเพื่อป้องกันหอกสายฟ้าที่รุนแรงของเล่ยเฉิน
"ตู้ม!" หอกสายฟ้าปะทะเข้ากับเกราะน้ำแข็งอย่างแรง แรงกดดันจากปราณสองประเภทแผ่กระจายไปรอบๆ
เมื่อมองดูบนเวทีเห็นได้ว่าหอกไม่สามารถแทงทะลุน้ำแข็งของปิงเสวี่ยเอ๋อร์เข้าไปได้
เล่ยเฉินหงุดหงิดเล็กน้อย เขาเปลี่ยนกระบวนท่าเป็การโจมตีจากด้านข้างอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว
แต่ทุกการเคลื่อนไหวของเล่ยเฉินกลับถูกฉีน้ำแข็งของปิงเสวี่ยเอ๋อร์ปิดกั้นไว้ได้ทั้งหมดประหนึ่งว่ามองเห็นการเคลื่อนไหวล่วงหน้า
"หอกสายฟ้าจากยมโลก!" เล่ยเฉินใช้ทักษะหอกของเขา บนท้องฟ้าสะเก็ดสายฟ้าปะทุลงมาที่หอกของเขา ปลายหอกของเขาเต็มไปด้วยรัศมีฉีฟ้าร้องที่น่าสะพรึงกลัว
ปิงเสวี่ยเอ๋อร์รู้ถึงความแข็งแกร่งของทักษะนี้เป็อย่างดี นางหยิบกระบี่อ่อนออกมาซึ่งดูคล้ายกับผลึกน้ำแข็ง
"แช่แข็งพันลี้!" ปิงเสวี่ยเอ๋อร์เริ่มโจมตีโดยปลดปล่อยคลื่นน้ำแข็งออกจากกระบี่
ปราณน้ำแข็งขนาดใหญ่ปะทะกับหอกฟ้าร้องที่น่าสยดสยอง!
ผู้ชมต่างตื่นเต้นสำหรับการต่อสู้ในครั้งนี้ ทั้งสองมีระดับพลังที่เท่ากัน ที่เหลือสามารถตัดสินได้จากทักษะและจังหวะ
ทั้งสองคนบนเวทีแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันอย่างดุเดือด ปิงเสวี่ยเอ๋อร์เริ่มได้เปรียบจากพลังน้ำแข็งของนาง
"บัดซบ!" เล่ยเฉินคำรามอย่างโกรธจัด เขาตัดสินใจขว้างหอกไปที่ช่องโหว่ข้างลำตัวของปิงเสวี่ยเอ๋อร์
แต่ทันใดนั้นเล่ยเฉินกลับใช้ทักษะการเคลื่อนไหวสายฟ้าไปที่ด้านข้างของนาง โดยที่เคลื่อนไหวตามหอกของตนไป ดูเหมือนว่าเขาคิดจะใช้การโจมตีสองด้านเพื่อบีบบังคับเฉกเช่นเดียวกันกับที่หลี่ชิงหยุนใช้ก่อนหน้านี้
ปิงเสวี่ยเอ๋อร์ที่เห็นดังนั้นนางตัดสินใจถอยหลังกลับเล็กน้อย ก่อนที่หอกของเล่ยเฉินจะปะทะกับกระบี่น้ำแข็งในมือของนางอย่างรุนแรง
"เชร้ง!"
ปิงเสวี่ยเอ๋อร์ถอยหลังไปหลายก้าวจากการกระแทกของหอก มีรอยเืจางๆปรากฏขึ้นที่มุมปากของนาง
ปิงเสวี่ยเอ๋อร์เช็ดรอยเืที่มุมปากช้าๆ จู่ๆนางกลับหลับตาลงอย่างสงบนิ่ง
ทันใดนั้นออร่าที่เย็นเฉียบปะทุออกมาราวกับว่าสนามประลองได้ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาน้ำแข็ง!
หลี่ชิงหยุนกำลังมองดูปิงเสวี่ยเอ๋อร์ด้วยความสนใจ
"นางมีร่างกายพิเศษธาตุน้ำแข็งงั้นรึ?" หลี่ชิงหยุนสังเกตุได้ว่ารัศมีที่เย็นเยียบนั้นไม่ได้มาจากพลังฉีจากตันเถียนของนางโดยตรง แต่มันถูกกระจายออกจากเส้นลมปราณพิเศษ!
เล่ยเฉินที่กำลังพุ่งไปหน้าก็เห็นท่าไม่ดี และพยายามจะถอยกลับ
แต่ปิงเสวี่ยเอ๋อร์จะปล่อยปลาหลุดรอดจากอวนไปได้อย่างไร?
ทันใดนั้นนางพุ่งเข้าใส่เล่ยเฉิน ฝ่ามือปราณโจมตีไปที่ร่างกายของเล่ยเฉินอย่างดุเดือด
เล่ยเฉินดูตื่นตระหนกกับการโจมตีของปิงเสวี่ยเอ๋อร์เป็อย่างยิ่ง เขาตัดสินใจใช้กำปั้นสายฟ้าสวนกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว
"แกรก!"
จู่ๆหมัดของเล่ยเฉินเริ่มเกาะตัวกลายเป็น้ำแข็ง ลุกลามจากหมัดของเขาไปที่แขน เมื่อเห็นท่าไม่ดีเล่ยเขาพยายามหนีจากระยะฝ่ามือของปิงเสวี่ยเอ๋อร์ไปให้ไกล
แต่ปิงเสวี่ยเอ๋อร์ก็รุกคืบต่อไปโดยไม่สนใจเล่ยเฉินที่กำลังหวาดกลัว นางใช้ฝ่ามืออีกข้างปล่อยไอน้ำแข็งไปที่เล่ยเฉินด้วยปราณเยือกแข็ง!
เล่ยเฉินที่ไม่สามารถหลบหนีได้ทันการณ์ เขาเร่งพลังฉีสายฟ้าของเขาเพื่อโต้กลับ
"ครืด!"
ในคราวนี้ร่างกายของเล่ยเฉินเริ่มมีน้ำแข็งค้างเกาะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
"ไม่!-" โดยไม่ทันได้สิ้นสุดเสียง เล่ยเฉิยกลายเป็ประติมากรรมน้ำแข็งไปโดยสมบูรณ์
ผู้ชมๆรอบๆเงียบราวกับอยู่ในป่าช้า ไม่มีใครคาดคิดว่าการต่อสู้ของคู่ที่สองจะจบลงอย่างรวดเร็วเช่นนี้
"เสวี่ยเอ๋อร์มีระดับพลังเทียบเท่ากับเล่ยเฉิน แต่ความได้เปรียบก็คือนางมีร่างกายพิเศษที่หายาก" ปิงหยาจากบนอัฒจันทร์มองไปที่บุตรสาวของตนและยิ้มออกมาเล็กน้อย
"คู่ที่สอง ชัยชนะของปิงเสวี่ยเอ๋อร์!" ผู้ตัดสินเห็นว่าเล่ยเฉินไม่สามารถขยับได้อีกต่อไป เขาประกาศชัยชนะของคู่ที่สองทันที
"คุณหนูน้อย ยอดเยี่ยม" จากตระกูลปิงเยาวชนหลายๆคนส่งเสียงร้องอย่างมีความสุข
"เสวี่ยเอ๋อร์ ทำได้ดีมาก" ชายหนุ่มหน้าตาดีผู้หนึ่งเดินเข้าไปหาปิงเสวี่ยเอ๋อร์ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
"พี่ชาย" ปิงเสวี่ยเอ๋อร์ยิ้มอย่างอ่อนโยน และเดินตามชายหนุ่มผู้นั้นไปด้านล่างของเวที
"การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด..." ก่อนหน้านี้หลี่ชิงหยุนสามารถมั่นใจได้ว่าเขาจะสามารถเอาชนะอัจฉริยะรุ่นเยาว์ได้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะประเมินเยาวชนจากตระกูลขุนนางต่ำไปเล็กน้อย
ทักษะหรือพรสรรค์พิเศษของผู้เข้าแข่งขันรอบ 16 คนนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ง่าย พวกเขาต่างมีทักษะและหลายๆอย่างที่เป็ข้อได้เปรียบต่อศัตรู
ยิ่งหลี่ชิงหยุนมีระดับการบ่มเพาะที่ต่ำที่สุด เขาต้องยิ่งพยายามให้มากขึ้น
'ข้าสามารถลองใช้ทักษะต่างๆจากชีวิตที่แล้วได้' หลี่ชิงหยุนยังคง้าปกปิดตัวตนของเขาในฐานะนักดาบเต๋าไว้ เขาแค่ต้องใช้ทักษะที่เขาได้มาจากชีวิตที่แล้ว
ในชีวิตที่แล้วของเขา เขาแทบไม่สนใจทักษะเล็กน้อยพวกนั้น เพราะเขามีทักษะดาบไร้ปราณีที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาอยู่แล้ว ดังนั้นทักษะหรือวิชาดาบทั่วไปแทบจะไม่อยู่ในสายตาของเขาเลย
หลี่ชิงหยุนตัดสินใจนั่งสมาธิข้างสนาม เขา้าเรียนรู้ทักษะดาบอื่นๆจากเจดีย์ปฐมกาลในระหว่างรอการแข่งขันรอบ 16 คนจบลง
"รอบที่สาม ลงสู่สนาม!" บนท้องฟ้าผู้ตัดสินดำเนินการต่อสู้รอบต่อไป
...
สองชั่วยามผ่านไป ขณะนี้บนเวทีการต่อสู้รอบ 16 คนจบลงแล้ว มีเยาวชนรุ่นเยาว์ที่ผ่านเข้าสู่รอบ 8 คนดังนี้
หมายเลข 1 หลี่ชิงหยุน
หมายเลข 2 ปิงเสวี่ยเอ๋อร์
หมายเลข 3 หนานกงเฟิงหลิง
หมายเลข 4 เสี่ยวฉิน
หมายเลข 5 เจิ้งหงเิ
หมายเลข 6 หงจวิน
หมายเลข 7 กู่ซินเหลียน
หมายเลข 8 เล่ยต้าตี้
ในบรรดาแปดคนที่เหลือ มีเพียงหลี่ชิงหยุน เสี่ยวฉินและกู่ซินเหลียนเท่านั้นที่ไม่ได้มาจากตระกูลขุนนาง
ตระกูลเสิ่นไม่ได้ส่งใครเข้าแข่งขัน เพราะในบรรดารุ่นน้องมีเพียงเสิ่นชิงเท่านั้นที่เป็ผู้บ่มเพาะระดับลมปราณหยกขั้นสมบูรณ์แบบ เยาวชนที่เหลือของตระกูลเสิ่นดูเหมือนจะไม่สนใจเื่นี้ด้วยซ้ำ
ข้างเวทีหญิงสาวในชุดสีดำนามกู่ซินเหลียนกำลังหลับตาอย่างเงียบๆ ใบหน้าของนางดูไร้ที่ติ แต่ด้วยนิสัยเ็าทำให้ผู้คนรอบข้างไม่อยากจะสุงสิงกับนางมากนัก แต่ก็มีผู้คนมากมายแอบมองนางอย่างลับๆเพราะ้าชื่นชมความงามของนาง
จู่ๆดวงตาของนางเบิกขึ้นเล็กน้อยเพื่อจับจ้องไปยังหลี่ชิงหยุน
หลี่ชิงหยุนลืมตาขึ้นมา เขามองรอบๆไปที่แปดคนที่เหลืออยู่ แต่สายตาของเขาชนเข้ากับกู่ซินเหลียนที่กำลังมองเขาอยู่พอดี
หลี่ชิงหยุนรู้สึกค่อนข้างคุ้นเคยกับนางอย่างบอกไม่ถูก ราวกับว่าเขาเคยรู้จักกับนางมาก่อน
หลี่ชิงหยุนตัดสินใจลุกขึ้น และเดินไปด้านข้างของกู่ซินเหลียนพร้อมทักทายอย่างสุภาพ "สวัสดีแม่นาง เราเคยพบกันมาก่อนหรือไม่?"
นาหลันเสี่ยวฉีมองไปที่หลี่ชิงหยุนอย่างสงสัย "อาหยุนกำลังทำอะไร?"
กู่ซินเหลียนหันไปมองที่หลี่ชิงหยุนที่กำลังเดินมา นางแค่ชำเลืองมองเล็กน้อยและพูดเบาๆ "ขอโทษด้วย ข้าไม่เคยเจอเ้ามาก่อน"
หลี่ชิงหยุนแปลกใจเล็กน้อยในน้ำเสียงของนาง นี่คือน้ำเสียงที่เขารู้สึกคุ้นเคยอย่างมาก แต่เขากลับคิดไม่ออกว่าเขาเคยได้ยินเสียงนี้จากที่ไหน
"ขอโทษที่รบกวน" หลี่ชิงหยุนหันหลังเดินจากไปหลังจากพูดจบ
กู่ซินเหลียนแค่มองไปที่ด้านหลังของหลี่ชิงหยุนเล็กน้อย ไม่นานนักนางกลับเข้าสู่อารมณ์เ็าอีกครั้ง
"หมายเลข 1 และหมายเลข 2 ก้าวสู่สนาม!" จากนั้นกรรมการประกาศรอบต่อไป
หลี่ชิงหยุนและปิงเสวี่ยเอ๋อร์ะโขึ้นมาบนเวทีพร้อมๆกัน
"อาหยุนสู้ๆ" นาหลันเสี่ยวฉีะโส่งเสียงให้กำลังใจกับหลี่ชิงหยุน จากนั้นไม่นานสาวๆรอบๆต่างะโให้กำลังใจเขาเช่นกัน
"นายน้อยหลี่สู้ๆ"
"นายน้อยหลี่เอาชนะนางให้ได้"
โม่หยุนซีที่อยู่ด้านข้างมองไปที่กลุ่มสาวๆอย่างไม่พอใจ "เหตุใดเขาจึงมีเสน่ห์ได้ขนาดนี้?"
หลี่ชิงหยุนในขณะนี้ได้ถอดเสื้อคลุมด้านนอกของเขาออกแล้ว จากการต่อสู้ครั้งก่อนชุดนอกของเขาเป็รอยขาดจากการโจมตีด้วยใบมีดอากาศของหนานกงหลิง ดังนั้นตอนนี้หลี่ชิงหยุนอยู่ในชุดลำลองสีขาวตัวใหญ่ที่ดูสะอาดตาเท่านั้น
แม้แต่ปิงเสวี่ยเอ๋อร์ที่ได้มองรูปลักษณ์สบายๆของเขา นางััได้ถึงความรู้สึกแปลกๆ 'เขารู้สึกคุ้นเคยมาก ราวกับว่าข้าเคยเห็นใบหน้านี้ที่ไหนมาก่อน"
ปิงเสวี่ยเอ๋อร์มองไปที่ใบหน้าของหลี่ชิงหยุนสักระยะหนึ่ง ไม่นานนางก็ขมวดคิ้วราวกับกำลังนึกอะไรบางอย่าง
"ดูเหมือนว่าเสวี่ยเอ๋อร์จะหลงเสน่ห์พ่อหนุ่มนั่นเข้าให้แล้ว" ปิงหยาจากอัฒจันทร์ตระกูลปิงหัวเราะคิกคักอย่างมีเสน่ห์
"หลังจากจบการแข่งขันนี้ ข้าอยากจะหมั้นเสวี่ยเอ๋อร์กับชายหนุ่มผู้นั้น เ้าคิดว่าดีหรือไม่?" ปิงหยาถามปิงเฟิงที่อยู่ข้างๆ
ปิงเฟิงที่อยู่ข้างๆเริ่มเหงื่อออก "หะ-หัวหน้าตระกูล ตอนนี้หลี่ชิงหยุนตกเป็เป้าหมายของตระกูลหง หากเราเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับหลี่ชิงหยุน เกรงว่าตระกูลหงจะเหมารวม..."
ปิงเฟิงไม่ทันได้พูดจบ ปิงหยาก็แทรกขึ้นมาทันที "เ้าคิดว่าตระกูลหงจะไม่ทำอะไรกับพวกเรางั้นรึ? หงชาเทียนที่ชั่วร้ายผู้นั้นไม่มีทางหยุดจนกว่าเขาจะได้ในสิ่งที่มัน้าอย่างแน่นอน และข้าต้องดูว่าตระกูลไหนสามารถให้การสนับสนุนให้กับเด็กหลี่ชิงหยุนนั้นได้บ้าง"
"แต่หัวหน้าตระกูล มีข่าวว่าหลี่ชิงหยุนผู้นั้นมีคู่หมั้นที่งดงามอยู่แล้ว อีกทั้งเขายังสนิทกับองค์หญิงลำดับที่สี่ และยังมีคุณหนูน้อยตระกูลเสิ่นอีกด้วย" ปิงเฟิงรู้ว่าหลี่ชิงหยุนมีผู้ไล่ตามมากมาย ดังนั้นเขาจึงเตือนปิงหยาเล็กน้อย
"รอดูกันไปก่อน บางทีเวลาอาจจะช่วยให้พวกเขาใกล้ชิดกันมากขึ้น" ปิงหยารู้สึกได้ว่าหลี่ชิงหยุนไม่ชอบการผูกมัด หากนางพยายามหมั้นบุตรสาวของตนให้กับหลี่ชิงหยุนโดยตรง เกรงว่าหลี่ชิงหยุนจะปฏิเสธอย่างแน่นอน ดังนั้นให้เื่นี้ดำเนินไปตามเวลาของทั้งสองคน
"นั่นจะเป็การดีที่สุด" ปิงเฟิงพยักหน้าเห็นด้วย
"หลี่ชิงหยุน โปรดชี้แนะ" หลี่ชิงหยุนใช้ดาบสีดำของเขาอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้ท่วงท่าดาบของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย
"ปิงเสวี่ยเอ๋อร์ โปรดชี้แนะ" ปิงเสวี่ยเอ๋อร์หยิบกระบี่หยกออกมาไว้ข้างกาย นางกำลังตั้งท่าสำหรับการป้องกัน
ปิงเสวี่ยเอ๋อร์รู้ดีว่าหลี่ชิงหยุนนั้นเชี่ยวชาญในด้านความเร็ว หากนาง้าเอาชนะ นางเพียงแค่ต้องป้องกันและจับจังหวะสวนกลับท่วงท่าของหลี่ชิงหยุนให้ได้เท่านั้น