ในระหว่างทางกลับโรงเตี๊ยม หลิงมู่เอ๋อร์นึกถึงคำกล่าวของเ้าสำนักถังขึ้นมาได้ นางเข้าใจความหมายของเขา
ดูเหมือนว่าที่นี่จะมีคนคิดไม่ดีต่อโจวฉี่เยี่ยนจริงๆ เ้าสำนักถังกำลังกล่าวเตือนพวกเขาให้พวกเขาระมัดระวังในการเดินทาง
นางมองโจวฉี่เยี่ยนที่อยู่ด้านข้าง เขาไม่ได้แสดงท่าทางผิดหวังอันใด เห็นได้ว่าเขาเข้าใจเป็อย่างดีว่าอาจารย์ที่ตนเองเคารพที่สุดนั้นยังคงเป็ห่วงเขาอยู่ นี่ทำให้เขารู้สึกปลื้มปีติยินดีเป็อย่างยิ่ง ขณะเดียวกัน ในดวงตาของเขาก็มีความกังวลเื่สุขภาพของอาจารย์ที่สนิทสนมเหมือนพ่อลูกอยู่จางๆ
“ท่านไม่ต้องกังวลไป เมื่อครู่ข้าได้กล่าวไปแล้ว เขาเพียง้าการบำรุงร่างกายให้ดี เท่านี้ก็จะสามารถมีชีวิตอยู่ได้สิบกว่าปีแล้ว” หลิงมู่เอ๋อร์กล่าวกับโจวฉี่เยี่ยน “ในเมื่อเขาไม่อยากให้ท่านมาเจอกับอันตราย เพื่อให้เขารักษาร่างกายได้อย่างวางใจ ่นี้ท่านก็อย่าได้ปรากฏตัวเลย ข้าจะรับหน้าที่ดูแลเขาเป็อย่างดีเอง”
“บุญคุณนี้ ข้าจะไม่มีวันลืม” หลิงมู่เอ๋อร์เป็ผู้มีพระคุณช่วยชีวิตเขาไว้ แต่ในความคิดของเขา การที่นางได้ช่วยชีวิตท่านอาจารย์ของเขาเอาไว้ นั่นนับเป็บุญคุณที่ยิ่งใหญ่ยิ่งกว่า
หลิงมู่เอ๋อร์ไม่ได้คัดค้าน นางรีบรุดมาจากที่ที่แสนห่างไกลอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ได้ยินเขากล่าวขอบคุณหนึ่งประโยคแล้วจะเป็อะไรไป เดิมทีนั่นก็เป็สิ่งที่สมควรทำอยู่แล้ว
ครั้นกลับไปถึงโรงเตี๊ยม หลิงมู่เอ๋อร์สั่งให้โจวฉี่เยี่ยนไม่ต้องมารบกวนนาง นางจะอยู่ในห้องเพื่อปรุงยา
เสียงปังๆ ตึ้งๆ ดังออกมาจากภายในห้อง โจวฉี่เยี่ยนนั่งอยู่ห้องข้างๆ ได้ยินเสียงดังมาจากห้องของหลิงมู่เอ๋อร์ แสงในดวงตาของเขาพลันอ่อนลง
วันต่อมา หลิงมู่เอ๋อร์ยุ่งอยู่กับการดูแลเ้าสำนักถังตลอดทั้งวัน นางเข้าออกสำนักศึกษาทุกวัน หลายคนล้วนรับรู้ถึงการมีอยู่ของนางแล้ว เมื่อผู้คนรู้ว่านางเป็หมอ ทั้งยังเป็หมอหญิงที่มีชื่อเสียงโด่งดังผู้นั้นอีก แต่ละคนต่างก็รีบยื้อแย่งมาหาเพื่อให้นางตรวจโรคให้ ในไม่ช้านางก็มีเส้นสายของตนเองในเมืองเฟิ่งแล้ว
วิชาแพทย์ของหลิงมู่เอ๋อร์เหนือชั้น โรคที่ซับซ้อนรักษายากมีเพียงแค่นางเท่านั้นที่สามารถรักษาให้หายได้ ผู้คนที่ทราบข่าวก็พากันแวะเวียนมามากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีคนบางส่วนได้ยินว่านางกำลังทำการรักษาให้เ้าสำนักถังอยู่ แต่ละคนต่างก็จับตามองความเคลื่อนไหวของนาง ถึงแม้เ้าสำนักถังจะลาออกจากราชการและกลับมาบ้านเกิดแล้ว แต่ว่าก็ยังคงมีอิทธิพลในราชสำนักเป็อย่างยิ่ง ตอนนี้ยังมีหลายคนที่คอยประจบเอาใจเขาเพื่อแสวงหาความก้าวหน้าอยู่
“พี่สาวท่านนี้ ข้าเคยกล่าวไปแล้วว่าท่านไม่ได้ป่วยเ้าค่ะ” ที่หน้าประตูโรงเตี๊ยม หลิงมู่เอ๋อร์ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจพลางมองไปที่สตรีที่ดึงรั้งนางเอาไว้
หางตาของสตรีนางนั้นคลอไปหยาดด้วยน้ำตา “แต่ว่าข้าแต่งงานมาสิบปีแล้ว ยังไม่มีบุตรเลย”
หลิงมู่เอ๋อร์ใช้สายตาแปลกประหลาดจ้องมองไปที่นาง “ท่านไม่มีบุตร แล้วเกี่ยวอันใดกับข้า?ท่านควรไปหาสามีท่านนะเ้าคะ”
สตรีนางนั้นชะงักงันไป “เกี่ยวอันใดกับสามีข้า?ข้าไม่อาจให้กำเนิดบุตรได้ ย่อมเกิดจากตัวข้าเอง หาได้เกี่ยวกับสามีข้าไม่”
เสียงหัวเราะดังแว่วมาจากด้านหน้า เสียงหัวเราะนั้นมีดังเป็อย่างยิ่ง ดึงดูดความสนใจของหลิงมู่เอ๋อร์ไป
หลิงมู่เอ๋อร์เงยหน้าขึ้นมอง เห็นคนผู้หนึ่งมองมาที่นางด้วยรอยยิ้ม ครั้นเห็นรูปลักษณ์ของคนผู้นั้นอย่างชัดเจนแล้ว หลิงมู่เอ๋อร์ก็กลอกตามองบนและดึงสตรีนางนั้นเข้าไปในโรงเตี๊ยม
“คุณชาย ท่านถูกรังเกียจแล้วขอรับ” จื่อถงกล่าวกับนายน้อยผู้สูงศักดิ์ที่อยู่ด้านข้าง
ดวงตาอ่อนโยนของนายน้อยผู้สูงศักดิ์ฉายประกายแหลมคมออกมา ทว่าเพียงครู่หนึ่งสีหน้าท่าทางนั้นก็หายไป ราวกับว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
พวกสตรีที่อยู่ด้านข้างๆ มองไปที่นายน้อยผู้สูงศักดิ์อย่างคลั่งไคล้ เผยให้เห็นสีหน้าที่ลุ่มหลง
“หากไม่ใช่เพราะท่าทีลุ่มหลงของแม่นางที่อยู่ด้านข้างกับแม่นางในเมืองหลวงยังคงเหมือนกัน ข้าน้อยจะหลงนึกว่าเสน่ห์ของคุณชายหมดไปแล้วเสียอีกขอรับ!” จื่อถงกล่าวพลางหัวเราะ
“สตรีผู้นี้แตกต่างจากสตรีคนอื่นๆ อย่าได้ดูถูกนาง” ซูเช่อกล่าว แล้วสาวเท้าก้าวใหญ่เข้าไปในโรงเตี๊ยม
โรงเตี๊ยมแห่งนี้ไม่นับว่าเป็โรงเตี๊ยมที่ดีที่สุด แต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับกลาง ด้วยสถานะของซูเช่อแล้วนั้น เขาพักอยู่ที่ที่พำนักของราชสำนักมาโดยตลอด แต่ว่าเขาไม่อยากไปหานายอำเภอ หลิงมู่เอ๋อร์พักอยู่โรงเตี๊ยมแห่งนี้ เขาก็จะพักที่โรงเตี๊ยมแห่งนี้เช่นกัน การเดินทางในครั้งนี้เขายังมีภารกิจอื่น ไม่ได้ตั้งใจมาหานางโดยเฉพาะ แต่ว่าในเมื่อได้พบแล้ว แน่นอนว่าต้องไปหาผู้มีพระคุณช่วยชีวิตเพื่อรำลึกถึงความหลังกันสักหน่อย
“คุณชายท่านนี้ ต้องขออภัยจริงๆ เ้าค่ะ โรงเตี๊ยมของพวกเราเต็มหมดแล้ว” เถ้าแก่เนี้ยของโรงเตี๊ยมมองซูเช่ออย่างหลงใหล กล่าวออกมาด้วยความเสียดาย
พรึบ! ซูเช่อคลี่พัดออกและเผยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ เขากล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “เถ้าแก่เนี้ย ข้าขอกล่าวตามตรงไม่ปิดบัง ข้ามาเพราะหมอเทวดาท่านนั้น ท่านย่าของข้าป่วยหนักจวนจะไม่ไหวแล้ว ได้ยินว่าหมอเทวดาท่านนั้นมีวิชาแพทย์ล้ำเลิศยิ่ง สามารถทำให้คนตายฟื้นขึ้นมาได้ ข้าน้อยขอร้องจากใจจริง เพียงแต่ว่าหมอเทวดารู้สึกว่าระยะทางห่างไกลเกินไป จึงไม่ยอมตามมาด้วย ข้าน้อยไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ เพียงแค่อยากค่อยๆ ใช้เวลาเอาชนะใจท่านหมอเทวดา เถ้าแก่เนี้ยช่วยอำนวยความสะดวกให้ข้าได้พักที่นี่เถิด!เื่เงินนั้นมิใช่ปัญหา”
“เื่นี้…” สุดท้ายเถ้าแก่เนี้ยก็ใจอ่อน โดยเฉพาะกับชายหนุ่มรูปงามมาขอร้อง นางยิ่งไม่อาจปฏิเสธได้ เพียงแต่ไม่มีห้องว่างแล้วจริงๆ
“ตอนนี้ข้ามีหนึ่งร้อยตำลึงเงิน ท่านไปหาแขกที่พักห้องข้างๆ ท่านหมอเทวดา ถ้าเขายินยอมสละห้องให้แก่ข้า ตั๋วเงินใบนี้ก็จะเป็ของเขา แน่นอนว่า ข้าก็จะไม่ให้เถ้าแก่เนี้ยเสียเปรียบอย่างแน่นอน” ซูเช่อกล่าว แล้วก็ยื่นตั๋วเงินหนึ่งใบออกไปให้ ตั๋วเงินใบนี้มอบให้แก่เถ้าแก่เนี้ย
เดิมทีเถ้าแก่เนี้ยที่กำลังลังเลอยู่ได้เห็นสิ่งที่เทพเ้าแห่งโชคลาภประทานมาให้ ไหนเลยจะยังไม่ตกลงอีก?นางรีบเดินขึ้นไปที่ชั้นบน ผ่านไปไม่นานก็กลับลงมาด้วยใบหน้าประดับรอยยิ้ม นางหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดเหงื่อของตนเอง จัดแต่งหน้าตาให้เรียบร้อย แล้วเดินบิดเอวเข้ามา กดเสียงต่ำพลางกล่าวด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “คุณชาย จัดการเรียบร้อยแล้วค่ะ”
จากนั้นชายวัยกลางคนผู้หนึ่งก็เดินลงมาชั้นล่างพร้อมกับสาวงามนางหนึ่ง ชายวัยกลางคนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มพร้อมถือห่อผ้าห่อหนึ่ง แต่สาวงามนางนั้นเต็มไปด้วยสีหน้าไม่เต็มใจ ครั้นได้เห็นซูเช่อดวงตาของนางก็เป็ประกาย ขยิบส่งสายตาส่งรอยยิ้มหวานเยิ้มไปให้ซูเช่อ
จื่อถงที่อยู่ด้านข้างหัวเราะพลางกล่าว “นี่ถึงจะเป็ปฏิกริยาตอบกลับที่ถูกต้องสินะขอรับ !ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าแม่นางหลิงกับสตรีนางอื่นมีอะไรที่ไม่เหมือนกัน เหตุใดนางถึงไม่หลงกลกันนะ?”
“เป็เพราะว่านางแตกต่างจากคนอื่น จึงได้มีตัวตนอยู่ในใจของคุณชายอย่างข้า ถ้านางไม่แตกต่างจากสตรีคนอื่นทั่วไป คุณชายอย่างข้าจะจดจำนางได้หรือ?” ซูเช่อยิ้มบางๆ “แต่ว่า คุณชายอย่างข้ามาหานางเพราะมีเื่จริงๆ ”
“คุณชายอยากให้นางไปรักษาฮูหยินเฒ่าที่เมืองหลวงจริงๆ หรือขอรับ?” จื่อถงนึกว่าซูเช่อเพียงแค่กล่าวไปอย่างนั้น คิดไม่ถึงว่าเขามีความคิดเช่นนี้จริงๆ
ซูเช่อไม่ได้ตอบกลับ ความเงียบก็คือคำตอบของเขา
เขาขึ้นมาที่ห้องข้างๆ ของหลิงมู่เอ๋อร์ ภายในห้องนั้นมีกลิ่นไม่พึงประสงค์บางอย่าง ซูเช่อขมวดคิ้วแล้วเดินออกไปทันที ในขณะนั้นโจวฉี่เยี่ยนก็ออกมาจากห้องพอดี
ทั้งสองคนต่างมองหน้ากัน แทบจะเป็ในเวลาเดียวกันที่สองคนเผยสีหน้ารังเกียจออกมา
“เ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” ดวงตาของโจวฉี่เยี่ยนฉายประกายเ็าออกมา
“เ้าอยู่ที่นี่ได้ เหตุใดคุณชายอย่างข้าจะอยู่ที่นี่ไม่ได้?เมืองเฟิ่งแห่งนี้เป็บ้านของเ้าหรือ?” คุณชายซูเช่อที่ผู้อ่อนโยนและสุภาพกับผู้อื่น แต่กลับมักจะกล่าววาจาเสียดแทงต่อโจวฉี่เยี่ยน
ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์นั้นมักจะเกิดสนามแม่เหล็กอย่างหนึ่ง บางคนเกิดมาก็เข้ากันได้ดี บางคนเกิดมาแค่พบหน้าก็เกลียดกันแล้ว และพวกเขาสองคนเป็อย่างหลัง
หลิงมู่เอ๋อร์ได้ยินเสียงจึงเดินออกมาดู ก่อนจะพบเข้ากับซูเช่อ “เ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”
“พวกเ้าช่างรู้ใจกันจริงๆ” ซูเช่อกล่าวอย่างหดหู่ “เหตุใดข้าถึงอยู่ที่นี่ไม่ได้ล่ะ?”
หลิงมู่เอ๋อร์กล่าวเสียงนิ่ง “ก็แค่ไถ่ถามเป็มารยาทเท่านั้นเอง!โรงเตี๊ยมก็ไม่ใช่ของข้า เ้าจะไปที่ใดก็ไม่เกี่ยวข้องกับข้า”
หลิงมู่เอ๋อร์กล่าวจบก็เดินกลับเข้าไปในห้อง อาการของเ้าสำนักถังดีขึ้นแล้วบางส่วน นางจะต้องปรับเทียบยาเล็กน้อย จึงต้องปรุงยาให้เขาใหม่ นอกจากนี้วันนี้ยังได้ตรวจอาการคนป่วยหลายคน อาการป่วยของพวกเขาแตกต่างกัน นางต้องปรุงยาต่างกันตามอาการป่วยของพวกเขา หนึ่งในจำนวนนั้นมีผู้ป่วยคนหนึ่งเป็โรคหัวใจ นางจำเป็ต้องปรุงยาเพื่อบรรเทาอาการของผู้ป่วยคนนั้นด้วย
ซูเช่อเข้ามาขวางทางของหลิงมู่เอ๋อร์
หลิงมู่เอ๋อร์มองไปที่เขาด้วยความสงสัย รอให้เขากล่าว
โจวฉี่เยี่ยนดึงหลิงมู่เอ๋อร์ออกมาให้ห่างจากซูเช่อสองสามก้าว เขาไม่ได้เอ่ยอันใด แต่ท่าทีรังเกียจในดวงตาคู่นั้นชัดเจนยิ่งนัก
“ข้ามาที่นี่เพราะมีเื่ที่ต้องทำ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเ้าจะอยู่ที่นี่ อย่างไรก็ตาม ในเมื่อได้พบกันแล้ว ก็นับว่าเป็โชคชะตา ข้าอยากขอให้แม่นางช่วยอะไรข้าสักอย่าง” ซูเช่อไม่ได้สนใจการกระทำของโจวฉี่เยี่ยน สำหรับเขาในตอนนี้ การพูดโน้มน้าวหลิงมู่เอ๋อร์คือสิ่งที่สำคัญที่สุด ท่าทีเป็ปรปักษ์ของโจวฉี่เยี่ยนไม่ได้สลักสำคัญอะไรขนาดนั้น
หลิงมู่เอ๋อร์รอเขากล่าวต่อ
เขากล่าวต่อไปว่า “ท่านย่าของข้านอนติดเตียงมาเป็เวลาหลายปี นานมากแล้วที่ไม่เคยได้ลงมาจากเตียงเลย วิชาแพทย์ของแม่นางสูงส่ง สามารถช่วยไปตรวจดูอาการป่วยของนางให้ข้าได้หรือไม่?”
“เมืองหลวง?” หลิงมู่เอ๋อร์รู้ว่าที่มาของซูเช่อนั้นไม่ธรรมดา ดังนั้นจึงรู้ว่าบ้านของเขาอยู่ที่เมืองหลวง
“ใช่แล้ว” ซูเช่อมองนางด้วยความสัตย์จริง “ขอร้องแม่นางแวะไปสักรอบเถิด!”
“ถ้าเ้าสามารถพาท่านย่าของเ้ามารักษาได้ ข้าก็จะช่วยตรวจดูนางให้ สำหรับสถานที่เช่นเมืองหลวงนั้น ตอนนี้ข้ายังไม่คิดที่จะไป” หลิงมู่เอ๋อร์ปฏิเสธ
“แม่นางเป็หมอที่มีจิตใจเมตตา ทนเห็นหญิงชราได้รับความทุกข์ทรมานจากการเจ็บป่วยอยู่นานปีได้จริงหรือ?” ซูเช่อใช้ั์ตาที่ลึกซึ้งคู่นั้นมองไปที่นาง
หลิงมู่เอ๋อร์ััได้ถึงกระแสไฟที่ออกมาจากดวงตาของเขา นึกไม่ถึงเลยว่าบุรุษผู้นี้จะใช้มารยาชายงาม ช่างเป็การเสียสละที่ยิ่งใหญ่เสียจริง
อันที่จริงแล้วนางก็มีใจอยากจะไปหาประสบการณ์ที่เมืองหลวงอยู่บ้าง ในเมื่อได้มาถึงสมัยโบราณแล้ว ก็ควรจะไปดูความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหลวงสักหน่อย แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา สกุลหลิงในตอนนี้อ่อนแอเกินไป หากเกิดไม่ระวังไปเหยียบเข้ากับขุนนางขั้นสี่ขั้นห้าของเมืองหลวงเข้า เกรงว่าจะถูกกินจนไม่เหลือแม้แต่กระดูก หยางซื่อและหลิงต้าจื้อล้วนเป็สามัญชน พวกเขาใฝ่ฝันอยากจะมีชีวิตที่กินอยู่อย่างสุขสบายไร้กังวลมาโดยตลอด แทนที่จะให้พวกเขาไปวิตกกังวลในเมืองหลวง ยังมิสู้ใช้ชีวิตในตอนนี้ให้ดีเสียยังดีกว่า
ยังมีหลิงจื่อเซวียนและหลิงจื่ออวี้ หลิงจื่ออวี้เพิ่งเข้าสถานศึกษา กำลังตั้งใจศึกษาเล่าเรียน แม้ว่าจะต้องไปเมืองหลวงจริงๆ ก็ต้องรอให้หลิงจื่ออวี้สอบได้ระดับถงเซิงหรือซิ่วไฉเสียก่อน
นางชอบที่นี่เป็อย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าจะเล็กไปสักหน่อย แต่ก็สามารถรับมือได้ง่ายกว่า ถ้าคิดที่จะอยากไปเมืองหลวง ก็จำเป็จะต้องหาที่พึ่งพิงที่แข็งแกร่ง
“ข้าเคยกล่าวไปแล้ว ข้ายินดีที่จะรักษาท่านย่าของเ้า เงื่อนไขตามที่กล่าวไปตอนแรกก็คือเ้าต้องพานางมา ตอนนี้ข้ายังไม่คิดอยากจะไปเมืองหลวง” หลิงมู่เอ๋อร์มองที่ซูเช่อนิ่งๆ “ถ้าไม่มีเื่อื่น ข้าก็จะไปทำธุระของข้าต่อแล้ว เชิญคุณชายซูตามสบาย”
ซูเช่อเห็นว่าหลิงมู่เอ๋อร์กำลังจะเดินจากไป เขาจึงคิดที่จะตามนางไป แต่โจวฉี่เยี่ยนขวางประตูเอาไว้ นั่นหมายความว่าเขาไม่ยอมให้ตนเข้าใกล้ด้านในแม้แต่ครึ่งก้าว ซูเช่ออดที่จะมีโทสะขึ้นมาไม่ได้
“เป็คุณชายโจวอยู่ดีๆ ตอนนี้กลายมาเป็สุนัขเฝ้าประตูเสียแล้ว?ถ้าหากใต้เท้าโจวเห็นเข้า ก็ไม่รู้ว่าจะเ็ปใจเพียงใด” ซูเช่อกล่าวอย่างเกียจคร้าน
“เื่นั้นไม่ต้องให้เ้าเป็กังวล บิดาข้าจะเ็ปใจหรือไม่ เ้าสามารถไปถามเขาได้ด้วยตนเอง” โจวฉี่เยี่ยนมองซูเช่ออย่างเ็าพลางกล่าว
“ช่างเถิด ผู้ใดใช้ให้ข้ามาไหว้วานผู้อื่นกัน” สีหน้าของซูเช่อไม่ค่อยดีนัก
ในเวลานี้จื่อถงได้สั่งให้เถ้าแก่เนี้ยของโรงเตี๊ยมเก็บกวาดห้องให้ใหม่แล้ว จื่อถงยังไปซื้อผ้าห่มนวมที่ดีที่สุดกลับมาด้วยตนเอง เมื่อจื่อถงจัดการเื่ทุกอย่างเสร็จ ก็เกือบจะทำความสะอาดทั้งด้านในด้านนอกเสร็จหมดแล้ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้