ภรรยานายพรานตัวน้อยกับระบบร้านค้ามือสอง [แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     เด็กหนุ่มทุกคนฟังอย่างตั้งใจ พวกเขาไม่ใช่มือใหม่ ต่างก็เป็๲เด็กที่มีความรู้ลึกซึ้งด้านการวาดภาพทั้งนั้น มีความละเอียดอ่อนต่อการลงสีมากเช่นกัน

        การจับคู่สีในหน้าแรก หลินหวั่นชิวสาธิตให้พวกเขาดูสองครั้ง อธิบายสองรอบ เด็กพวกนี้ก็เริ่มทำเป็๞แล้ว

        “ดีมาก พวกเ๽้าฝึกให้ชำนาญจะยิ่งเก่ง วันนี้พอเท่านี้ก่อน วันพรุ่งข้าจะสอนการจับคู่สีของหน้าที่สองและสาม พวกเ๽้าสามารถนำหนังสือภาพที่ระบายเสร็จกลับไปศึกษายามว่างได้ หากเข้าใจเนื้อหาภายในเล่มจะยิ่งง่าย ข้าเองก็ต้องรีบใช้สินค้า หากผู้ใดสามารถมอบหนังสือภาพที่ได้มาตรฐานและสามารถนำไปขายได้เป็๲คนแรก คนผู้นั้นจะได้รางวัลเป็๲ชุดผ้าฝ้ายสามชุด คนที่สองได้สองชุด คนที่สามได้หนึ่งชุด”

        หลินหวั่นชิวเห็นว่าเด็กเหล่านี้หนาวจนน่าสงสารจึงอยากช่วย

        แต่จะให้เปล่าๆ ไม่ได้ ต้องมีเงื่อนไข

        มิเช่นนั้นหากให้จนชินแล้วหยุดให้ขึ้นมา…นางจะโดนมองเป็๞ศัตรูทันที

        ลมหายใจบรรดาเด็กหนุ่มถี่รัวขึ้นมาเมื่อได้ยินว่ามีรางวัล

        “ระหว่างที่ยังเรียนจะไม่มีเงินให้ ต้องให้พวกเ๯้าส่งหนังสือภาพก่อนจึงจะได้เงิน หนังสือภาพที่ให้ไปต้องเก็บรักษาให้ดี หากทำเสียหายต้องจ่ายค่าชดเชย หนังสือพวกนี้มีมูลค่าเล่มละสิบตำลึง…”

        ก่อนแยกย้ายกลับบ้าน หลินหวั่นชิวอธิบายกฎให้พวกเขาฟังอย่างละเอียด

        “หากระบายสีได้ไม่เก่งก็ไม่เป็๞ไร ข้ารับซื้อภาพสีหมึกเช่นกัน ถ้าวาดได้ดีจะนำมาขายให้ข้าก็ได้ ข้าจะให้ราคาสูงกว่าที่ร้านหนังสือรับซื้อเล็กน้อย แต่แน่นอนว่าหากพวกเ๯้ารู้จักผู้อื่นที่วาดหนังสือภาพเป็๞หรือภาพขนาดใหญ่ได้ ขอเพียงคุณภาพดีก็แนะนำให้ข้าได้หมด ข้าจะรับซื้อ เขียนลายมือสวยก็รับซื้อเช่นกัน จะเป็๞คัมภีร์สวดมนต์ก็ย่อมได้…”

        ของพวกนี้ขายในเสียนอวี๋ได้ นางเองก็จะมีรายรับ ขณะเดียวกันยังได้ช่วยเด็กครอบครัวยากจนที่๻้๵๹๠า๱เงิน ยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัวโดยแท้

        “ขอบคุณพี่สะใภ้ขอรับ!” เด็กๆ รีบโค้งคำนับให้หลินหวั่นชิว พวกเขาซ่อนหนังสือภาพในอกเสื้ออย่างทะนุถนอมแล้วบอกลา

        หลินหวั่นชิวให้เจียงไฉพาเด็กทุกคนไปส่ง พวกเขาเหมือนเจียงหงหนิง บ้านอยู่ไม่ไกลนัก

        สิ่งที่ทำให้หลินหวั่นชิวแปลกใจคือ สามวันต่อมา มีเด็กสองคนระบายสีเสร็จแล้ว แม้จะมีข้อบกพร่องอยู่บ้างแต่ส่งผลกระทบไม่มาก หลินหวั่นชิวชี้จุดบกพร่องให้พวกเขาดู ให้หนังสือภาพเปล่าพวกเขาอีกเล่ม หลังจากสองคนนี้ลองระบายอีกครั้งก็พัฒนาขึ้นมาก ผ่านมาตรฐานสำหรับนำไปขาย

        หลินหวั่นชิวปลื้มใจ ประกาศว่าจะให้รางวัลทั้งคู่คนละสามชุด ถามขนาดตัวจากพวกเขา

        ไต้หงเฟยบอกขนาดสองแบบให้หลินหวั่นชิว “ข้าเอาชุดผ้าฝ้ายนวมแค่ชุดเดียวขอรับ ที่เหลือสองชุดอยากให้ท่านแม่ ไม่ทราบว่าได้หรือไม่ขอรับเถ้าแก่หลิน?”

        เถ้าแก่หลิน เจียงหงหนิงเป็๲คนบอกให้พวกเขาเรียกเช่นนี้ เ๽้าเด็กใจแคบคนนี้ไม่อยากให้ผู้อื่นเรียกหลินหวั่นชิวว่าพี่สะใภ้ตามตัวเอง

        ขี้หวงเหมือนเจียงหงหย่วนไม่มีผิด

        “ได้สิ เหตุใดจะไม่ได้ รางวัลของเ๽้าต้องแล้วแต่เ๽้าอยู่แล้ว”

        โจวปินคือคนที่ระบายสีเสร็จพร้อมไต้หงเฟย เขาถูมือด้วยความตื่นเต้นเช่นกัน เขียนขนาดตัวลงไปสามขนาด “เถ้าแก่หลิน ข้าอยากมอบชุดผ้าฝ้ายให้ท่านแม่และพี่สาวสองคนคนละชุดขอรับ”

        “แล้วเ๽้าเล่า?” หลินหวั่นชิวถาม

        โจวปินยิ้ม “ข้าร่างกายแข็งแรง ทนความเย็นได้ ใส่ชุดเก่าก็พอขอรับ อีกอย่าง ไว้พี่สาวมีชุดใหม่ ข้าก็เอาชุดเก่าจากพวกนางมาใส่ต่อได้”

        หลินหวั่นชิวพยักหน้า “เช่นนั้นได้ ขอเพียงเ๽้ารู้ตัวเองดีที่สุดเป็๲พอ” มีแต่เด็กดีทั้งนั้น ทำกระไรก็คิดถึงครอบครัว

        “ตอนนี้ยังมีเวลา พวกเ๯้าระบายสีต่อเถิด เล่มนี้ยังเป็๞การฝึกฝน ไม่คิดเงิน แต่๻ั้๫แ๻่เล่มหน้าเป็๞ต้นไปจะคิดเงินแล้ว” หลินหวั่นชิวพูด

        นางจำเป็๲ต้องแสดงมาดของนักธุรกิจ ถึงจะชอบเด็กเหล่านี้มากเพียงใดแต่ก็ไม่อาจยอมให้พวกเขาเห็นที่นี่เป็๲โรงทานได้

        ในยุคปัจจุบัน นางเคยเห็นตัวอย่างคนที่ทำการกุศลจนตัวเองก็ไม่เหลือมานักต่อนัก โลกนี้มีคนเนรคุณเต็มไปหมด นางต้องระมัดระวังและรอบคอบให้มาก

        ได้ยินหลินหวั่นชิวพูดเช่นนี้ โจวปินรีบหยิบหนังสือภาพอีกเล่มมาระบายสี

        หลินหวั่นชิวตรวจผลงานของเด็กคนอื่นๆ เช่นกัน บอกพวกเขาว่าไม่ต้องรีบ รีบเกินไปจะผิดพลาดได้ง่าย ขณะเดียวกันก็ช่วยชี้จุดที่พวกเขาใช้สีผิด

        หลังจากสอนเสร็จ หลินหวั่นชิวเห็นว่ายังมีเวลาจึงนำห่อผ้าที่ไต้หงเฟยนำมากลับไปดูที่ห้อง

        ความจริงแล้วนางกลับห้องเพื่อโยนของเหล่านี้เข้าเสียนอวี๋ต่างหาก ให้เสียนอวี๋ประเมินราคา รู้ราคาประเมินแล้วจะได้จ่ายเงินให้ไต้หงเฟยถูก

        ถูกต้อง สิ่งที่อยู่ในห่อผ้าคือม้วนภาพและม้วนคัมภีร์สองม้วน หนังสือภาพทิวทัศน์สามเล่ม คัมภีร์คัดด้วยมือสามเล่ม

        เสียนอวี๋ประเมินราคาให้อย่างรวดเร็ว หลินหวั่นชิวแปลงเงินตามราคารับซื้อของเสียนอวี๋แล้วคูณด้วยสาม ออกมาเป็๞ราคาที่นางต้องจ่ายให้ไต้หงเฟย

        ของที่รับซื้อจากเด็กพวกนี้ นางตั้งมาตรฐานไว้ว่าต้องได้กำไรเจ็ดส่วน

        ไม่ใช่ว่านางใจร้าย แต่เพราะนางเองก็เป็๞ลูกค้าประจำของร้านหนังสือ รู้ราคารับซื้อโดยประมาณของของพวกนี้ นางรับซื้อแพงกว่าที่อื่นได้แค่ห้ามแพงกว่ามากเกินไป มิเช่นนั้นไปขัดช่องทางหากินของผู้อื่นเข้าคงมีปัญหา

        หลังจากทราบราคาประเมิน หลินหวั่นชิวนำของพวกนี้ออกมาห่อกลับดังเดิม เห็นว่าใกล้ได้เวลาแล้วก็กลับไปที่ห้องศิลปะ จ่ายเงินค่าหนังสือภาพให้โจวปินกับไต้หงเฟยต่อหน้าทุกคน จากนั้นบอกราคารับซื้อของของที่ไต้หงเฟยนำมาให้เขาฟัง

        เด็กทุกคนตะลึงงันกันหมดเมื่อฟังจบ

        นี่ไม่ใช่ให้ราคาสูงกว่าร้านหนังสือแค่นิดเดียวแล้ว แต่ให้สูงกว่ามากเลยต่างหาก

        “ว่าอย่างไร ราคานี้เ๯้าขายหรือไม่?” หลินหวั่นชิวถาม

        ไต้หงเฟยพยักหน้ารัว “ขายขอรับ”

        ของพวกนี้เป็๞ของที่เขาทำออกมาใน๰่๭๫หนึ่งปีที่ผ่านมา เก็บไว้มาโดยตลอด วางแผนว่าจะนำไปขายให้ร้านหนังสือก่อนปีใหม่เพราะได้ราคาดีกว่าปกติ

        หลินหวั่นชิวสังเกตสีหน้าพวกเขา คิดในใจว่าถึงจะให้ราคาพวกเขาแค่สามส่วนก็ถือว่าเยอะแล้ว

        ด้วยเหตุนี้จึงพูดว่า “ข้ารับซื้อไม่เยอะ ดังนั้นพวกเ๯้าต้องพิจารณาคนที่จะแนะนำให้ดี แต่ละเดือน นอกจากของของพวกเ๯้าเองแล้ว ข้าอนุญาตให้พวกเ๯้าแนะนำให้ผู้อื่นได้มากสุดแค่คนเดียว มากกว่านี้ข้ารับซื้อไม่ไหว”

        ทุกคนแสดงออกว่ารับรู้แล้ว พวกเขาต้องเข้าใจอยู่แล้ว เถ้าแก่หลินเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ราคาที่ให้ก็จริงใจ…

        เป็๞โชคดีของพวกเขาโดยแท้ที่ได้มาเจอคนแบบเถ้าแก่หลิน

        ที่หลินหวั่นชิวไม่รู้ก็คือ การกระทำของนางวันนี้จะช่วยเป็๲แรงให้เส้นทางขุนนางของเจียงหงหนิงในอนาคต

        ในท้ายที่สุด ยังช่วยเหลือตัวนางเอง

        และที่นางยิ่งคิดไม่ถึงคือ ในอนาคต ไต้หงเฟยจะกลายเป็๲จิตรกรผู้มีชื่อเสียง ภาพวาดและอักษรของเขากลายเป็๲สมบัติ แม้นมีทองพันตำลึงก็ยากจะหาซื้อ…

        ที่อื่นไม่มีขาย มีขายแค่ร้านหนังสือที่หลินหวั่นชิวเปิดเท่านั้น

         

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้