มู่หรงจื่ออวิ๋นขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ ไม่รู้ว่านางจะเล่นลูกไม้อะไรอีก นางพลันสังเกตเห็นรอยยิ้มในแววตาของเซวียนหยวนเช่อ นางตกตะลึง
เขาถึงกับยิ้มหรือ
ห่างจากรอยยิ้มครั้งก่อนที่นางเห็น นั่นเป็เื่เมื่อสิบกว่าปีก่อน ตอนนั้นเขาเพิ่งจะช่วยกระต่ายาเ็ตัวหนึ่ง เขานั่งอยู่ริมทะเลสาบเพื่อทำแผลให้กับกระต่าย ทั้งยังพูดจากับมันมากมาย
นางมองเห็นจากไกลๆ และถูกดึงดูดไว้อย่างลึกซึ้ง นับั้แ่นาทีนั้นมาเขาก็เข้ามาอยู่ในใจนาง
ทว่านับั้แ่นั้นมานางไม่เคยเห็นรอยยิ้มของเขาอีกเลย กระทั่งมาเห็นอีกครั้งในวันนี้ แต่กลับเป็เพราะสตรีอีกนางหนึ่ง
นางรู้สึกะเืใจลึกๆ
มู่หรงจิ่งเทียนกลับลอบสังเกตความสัมพันธ์ระหว่างเฟิ่งเฉี่ยนและเซวียนหยวนเช่อ ตามที่เขาได้รับรายงานจากหูตาที่วางไว้ในวังหลวง แม้ในตำหนักในของเซวียนหยวนเช่อจะมีหญิงงามจำนวนไม่น้อย ทว่าสตรีที่เคยปรนนิบัติถวายตัวจริงๆ มีฮองเฮาเพียงคนเดียว ได้ยินมาว่าฮองเฮาเป็สตรีหน้าอกใหญ่แต่ไร้สมอง ไม่มีทางเป็สตรีเ้าเล่ห์แสนกล ตัดสินใจเด็ดขาดเช่นสตรีตรงหน้าแน่นอน!
แล้วตกลงนางเป็ผู้ใดกันแน่
นางเป็ผู้หญิงของเซวียนหยวนเช่อจริงๆ หรือ
แววตาของเขาสับสน
ฮวาเมิ่งหยิ่งมองเฟิ่งเฉี่ยนแล้วขมวดคิ้วบ่นพึมพำ ความอยากรู้อยากเห็นของเขาเดินเข้ามาติดกับ เลิกคิ้วกล่าวว่า “《คัมภีร์พิษ》เล่มนี้ มีปัญหาที่ใดหรือ”
เฟิ่งเฉี่ยนขยับปากด้วยท่าทีจะพูดแต่ก็อึกอักไม่พูด อ้ำๆ อึ้งๆ “้าให้ข้าพูดจริงๆ หรือ หากข้าไม่ระวัง พูดผิดไป ล่วงเกินองค์หญิงจื่ออวิ๋น...ข้าคงชดใช้ไม่ไหว!”
มู่หรงจื่ออวิ๋นแค่นหัวเราะเสียงเย็น เ้ากล้าขโมยหมูเทพและเชื้อไฟจุดิญญาของพวกเรา เ้ายังมีอะไรไม่กล้าอีก
“เ้ามีอะไรก็พูดตรงไปตรงมา ข้าจื่ออวิ๋นมิใช่คนใจคอคับแคบถึงเพียงนั้น!”
เฟิ่งเฉี่ยนได้ยินเช่นนั้นก็จงใจพรูลมหายใจโล่งอกออกมาเฮือกหนี่ง นางตบหน้าอกตัวเอง ยิ้มจนดวงตาโค้งลง “ในเมื่อองค์หญิงจื่ออวิ๋นตรัสเช่นนี้แล้ว ข้าย่อมรู้สึกวางใจ อีกประเดี๋ยวหากข้าพูดอันใดผิดไป ต้องขออภัยด้วย!”
“ฮึ!” มู่หรงจื่ออวิ๋นแค่นเสียงขึ้นจมูก ราวกับกำลังจะสิ้นความอดทน
เฟิ่งเฉี่ยนเปิดปากพูดจาในตอนนี้เอง “《คัมภีร์พิษ》เล่มนี้เป็ของปลอม”
คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างเงียบเป็เป่าสาก
มู่หรงจื่ออวิ๋นได้สติกลับมาอย่างมิง่ายดายนัก นางมีโทสะอย่างยิ่ง “เ้าพูดจาเหลวไหลอันใดกัน ไฉน《คัมภีร์พิษ》จึงเป็ของปลอมได้”
เฟิ่งเฉี่ยนผายมือทั้งสองข้างและยักไหล่ “ข้าบอกแล้วว่าอย่าพูดจะดีกว่า พอข้าพูด ย่อมต้องล่วงเกินองค์หญิงแน่ๆ ท่านดูสิ ตกลงว่าข้าทายถูก”
“เ้า...” มู่หรงจื่ออวิ๋นถลึงตาใส่นาง สายตานั้นราวกับมีสะเก็ดไฟพุ่งเข้าไปทำร้ายร่างกายนาง
ฮวาเมิ่งหยิ่งมีท่าทีจริงจังอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน เขาลุกขึ้นนั่งด้วยท่าทีเป็งานเป็การแล้วรับตำรามาถามว่า “เ้าอาศัยอะไรมากล่าวหาว่า《คัมภีร์พิษ》เล่มนี้เป็ของปลอม เมื่อสักครู่ข้าอ่านไปหลายหน้าก็ยังไม่พบพิรุธอะไร”
เฟิ่งเฉี่ยนตอบ “ข้าไม่เคยอ่าน《คัมภีร์พิษ》ดังนั้น ข้าจึงไม่รู้ว่า《คัมภีร์พิษ》เล่มนี้รายละเอียดเป็ของจริงหรือของปลอม ทว่าคัมภีร์พิษ เล่มนี้ไม่ใช่ของที่มีเพียงชิ้นเดียวในใต้หล้าเท่านั้น”
“อ้อ เหตุใดเ้าถึงกล่าวเช่นนี้” ฮวาเมิ่งหยิ่งถาม
เฟิ่งเฉี่ยนผายมือ “เหตุผลง่ายมาก! ข้าเคยอ่านคัมภีร์เล่มนี้ในสถานที่หลายๆ แห่ง ร้านค้าของสกุลหลัน สำนักศึกษาเทียนหงและหอสมุด กระทั่งห้องสมุดในวังหลวงของแคว้นเป่ยเยียนล้วนมีคัมภีร์เล่มนี้ทั้งสิ้น! หาก《คัมภีร์พิษ》เล่มนี้มีเพียงเล่มเดียว เช่นนั้นเหตุใดข้าจึงเคยพบเห็นมันในสถานที่มากมายเช่นนั้นเล่า ดังนั้น ข้าคิดว่า《คัมภีร์พิษ》เป็ของปลอมแน่นอน”
“มันเป็ไปไม่ได้!” มู่หรงจื่ออวิ๋นมีสีหน้าคร่ำเคร่ง “คุณชายฮวา ท่านอย่าได้หลงเชื่อคำพูดเหลวไหลของนาง นี่เป็สมบัติล้ำค่าที่ผู้าุโที่ล่วงลับไปแล้วได้จดบันทึกไว้จริงๆ ใต้หล้านี้มีเพียงเล่มเดียว เป็ไปไม่ได้ที่จะมีเล่มที่สอง!”
ดวงตาเรียวยาวของฮวาเมิ่งหยิ่งหรี่ลง ราวกับกำลังใช้ความคิด
เฟิ่งเฉี่ยนตอกย้ำอีกว่า “ข้าเคยอ่านตำราเล่มนี้ในสถานที่อื่นๆ มาก่อนจริงๆ เนื้อหาในนั้นเขียนเหมือนกันหมด ไม่มีทางผิดแน่นอน! หากไม่เชื่อ ข้าจะท่องให้พวกท่านฟังั้แ่ต้นจนจบ!”
ได้ยินเช่นนั้น ทุกคนที่อยู่ที่นั่นได้แต่ตกตะลึง
นับั้แ่นางถือ《คัมภีร์พิษ》มาถึงตอนนี้เป็เพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆ ไม่กี่นาที คนธรรมดาสามัญไม่มีทางใช้เวลาสั้นแค่นี้ท่องจำเนื้อหาในตำราทั้งหมดได้ หากนางสามารถท่องจำ《คัมภีร์พิษ》ออกมาได้จริงๆ เช่นนั้นย่อมพิสูจน์ได้ว่าคำพูดของนางมิใช่เป็เพียงข้ออ้าง 《คัมภีร์พิษ》เล่มนี้มิใช่ตำราที่มีเพียงเล่มเดียวในใต้หล้า!
นำตำรา《คัมภีร์พิษ》เล่มหนึ่งซึ่งเผยแพร่ไปทั่วแล้วมาตกลงข้อแลกเปลี่ยนกับเขา ทำให้ชั้นวางหนังสือของเขาถูกด้อยค่าอย่างแรงด้วยซ้ำ เขาต้องพิจารณาเสียใหม่ว่าจะตอบรับการเดินทางไปเมืองหลวงกับพวกเขาในครั้งนี้หรือไม่ หรือจะไปช่วยถอนพิษให้คน
“ได้ เ้าลองท่องจำออกมาฟังดู” ฮวาเมิ่งหยิ่งกล่าว
มู่หรงจื่ออวิ๋นร้อนใจทันที นางรับรู้ได้ถึงลางร้าย “คุณชายฮวา ท่านอย่าได้หลงเชื่อคำพูดของนางที่ไม่มีมูลความจริง เชื่อไม่ได้นะ!”
ฮวาเมิ่งหยิ่งกลับโบกมือ คิ้วเรียวยาวของเขาเลิกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะยับยั้งนาง “คำพูดของนางเป็จริงหรือเท็จ ขอเพียงฟังนางท่องจำสักเที่ยวก็สามารถแยกแยะได้แล้ว เหตุใดองค์หญิงต้องร้อนใจ หรือเป็เพราะองค์หญิงทราบแต่แรกอยู่แล้วว่า《คัมภีร์พิษ》เล่มนี้มิได้เป็ตำราเพียงเล่มเดียว ดังนั้นจึงคิดจะขัดขวางหรือ”
มู่หรงจื่ออวิ๋นถึงกับอับจนคำพูดทันที นางถึงกับตอบโต้กลับไปไม่เป็ เมื่อไตร่ตรองดูอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว นับั้แ่นางได้รับ《คัมภีร์พิษ》จนถึงตอนนี้ นอกจากนางและเซียนพิษแล้วไม่มีคนที่สามได้อ่านมาก่อน อีกฝ่ายเพียงแค่พลิกเปิดไม่กี่ครั้ง ไหนเลยจะสามารถท่องจำ《คัมภีร์พิษ》ทั้งเล่มออกมาได้ ดังนั้น นางไม่มีความจำเป็ต้องกังวลใจ อีกฝ่ายไม่มีทางท่องจำได้!
“เช่นนั้นทุกอย่างล้วนฟังคุณชายฮวา”
นางหันไปมองเฟิ่งเฉี่ยนอีกครั้ง “หากเ้าไม่อาจท่อง《คัมภีร์พิษ》ออกมาได้ ต่อให้ตกหล่นไปสักหนึ่งตัวอักษร เ้าต้องขอขมาเปิ่นกงจู่!”
เฟิ่งเฉี่ยนหัวเราะเบาๆ พร้อมกับส่ายหน้า “ที่จริงองค์หญิงควรจะขอบคุณข้าจึงจะถูก หาก《คัมภีร์พิษ》เล่มนี้เป็ของปลอมจริงๆ เท่ากับองค์หญิงถูกหลอกหลวง ต้องสูญเสียเงินทองไปจำนวนมากและยังถูกปิดหูปิดตาอีก”
สีหน้าของมู่หรงจื่ออวิ๋นแข็งค้าง นาทีนั้นกระทั่งตัวนางเองก็เริ่มจะสงสัยแล้วว่า 《คัมภีร์พิษ》อาจเป็ของปลอมจริงๆ ทว่าเมื่อย้อนคิดอีกที พวกเขา้าเชิญเซียนพิษออกจากหุบเขาเพื่อไปรักษาไท่ฟู่ ย่อมต้องวางแผนมาเป็อย่างดี เชื่อไม่ได้หรอกว่าจริง!
“เ้ารีบท่องเถิด อย่ามัวเสียเวลาของทุกคน” นางเร่งอย่างร้อนใจ
นางรีบร้อน ทว่าเฟิ่งเฉี่ยนกลับไม่รีบร้อน ขณะที่ความอดทนของมู่หรงจื่ออวิ๋นกำลังจะค่อยๆ หมดลง นางจึงอ้าปากส่งเสียงท่องออกมา “พิษทั้งหมดในใต้หล้า มี เฮ่อติ่งหง[1] ดีนกยูง พิษแมลงมุม ซากเน่า ฉ่ายหงยิน รังไหม[2] พิษงู หม่าเฉียนจื่อ[3] มันสำปะหลังขาวสิบกว่าชนิด ที่ได้จดบันทึกเอาไว้ล้วนมีความแตกต่างกัน ทางการแพทย์ได้กล่าวไว้ว่า “รู้จักพิษร้อยชนิดและถอนพิษได้ร้อยชนิด” สิบห้าชนิดนี้ ได้จดไว้ในบันทึกประวัติศาสตร์หนึ่งร้อยปี รวบรวมเป็ 《คัมภีร์พิษ》...”
ฟังมาถึงหนึ่งร้อยตัวอักษร ร่างบอบบางของมู่หรงจื่ออวิ๋นถึงกับสั่นเทิ้ม
จริงหรือเท็จกัน นางท่องออกมาได้จริงหรือ
ทว่า คนบางคนมีความจำเป็เลิศในระยะเวลาอันสั้นๆเหนือผู้คนธรรมดา ใช้เวลาเพียงสั้นๆ ก็สามารถจดจำตัวอักษรได้สองบทความ ก็ไม่ถือเป็เื่แปลกประหลาดอันใด แต่เมื่อเปลี่ยนมาเป็นาง
นางก็ทำได้
เมื่อฟังมาถึงอักษรตัวที่สองร้อย มู่หรงจื่ออวิ๋นลอบตกตะลึงในใจ แม้จะกล่าวว่ามีความทรงจำในชั่วระยะเวลาสั้นๆ แต่การจดจำตัวอักษรครั้งละสองร้อยตัว ถือว่ามีพร์ชั้นเลิศแล้ว แต่นางถึงกับทำได้ถึงขั้นนี้
ฟังมาถึงตัวอักษรตัวที่สามร้อย มู่หรงจื่ออวิ๋นกำมือเป็หมัดแน่น ดวงตาทั้งคู่เบิกกว้าง
นาง...นางถึงกับยังท่องต่อไปได้หรือ
[1] เฮ่อติ่งหง คือ พิษหงอนกระเรียนแดง เป็พิษร้ายแรงที่สุด มีสารหนูเป็ส่วนประกอบ
[2] รังไหมหรือหนอนไหม เป็ผงยาที่สะกัดมาจากหนอนไหมพิษของชนเผ่าเหมียว
[3] หม่าเฉียนจื่อ เป็ยารสขม ฤทธิ์เย็น แม้จะมีพิษรุนแรง แต่สามารถทะลุทะลวงเส้นลมปราณไปยังข้อต่อได้เป็อย่างดี