บทที่ 9: บาปของบิดา ราคาของบุตรี
ในที่สุด...เขาก็ยอมรับความผิดของตนเองออกมา
"ข้าเห็นเ้าเป็เพียงภาระ...เป็ความอ่อนแอที่คอยย้ำเตือนข้าถึงความเสื่อมเสียของตระกูลมารดาเ้า ข้าจึงหลับตาข้างหนึ่ง ปล่อยให้นางจัดการทุกอย่าง...ดังนั้น ความผิดนี้จึงไม่ใช่ของหลิวซื่อเพียงผู้เดียว...ข้าเองก็มีความผิดเช่นกัน"
เขาคุกเข่าลงกับพื้นอย่างช้าๆ! แม่ทัพผู้ไม่เคยคุกเข่าให้ใคร แม้แต่โอรส์ ยังต้องค้อมศีรษะให้บุตรีของตนเองในวันนี้!
"ิ่หลาน...นางทำผิดมหันต์ แต่โทษขังตลอดชีวิตมัน...มันโหดร้ายเกินไป" เขาวิงวอน "นางเป็ภรรยาที่ข้ายกย่องมานานปี...ถือว่าพ่อขอร้อง...ขอชีวิตให้นางด้วยเถิด"
จ้าวิ่หลานปิดตำราลงช้าๆ เสียงกระดาษที่เสียดสีกันเบาๆ กลับดังราวกับเสียงฟ้าผ่าในห้องที่เงียบสงัด นางเงยหน้าขึ้นสบตาเขาเป็ครั้งแรก แววตาของนางสงบนิ่ง...นิ่งจนน่ากลัว
"โหดร้ายหรือเ้าคะ?" นางทวนคำ "โหดร้ายกว่าการที่ข้าต้องนอนรอความตายในเรือนผุๆ? โหดร้ายกว่าการที่ต้องทนเห็นบ่าวไพร่โยนเศษกระดูกให้ราวกับสุนัข? หรือโหดร้ายกว่าการที่ต้องถูกขายไปเป็ของเล่นให้เฒ่าตัณหากลับ เพื่อรอวันถูกทรมานจนตายอย่างช้าๆ?"
ทุกคำถามของนางคือมีดที่กรีดลึกลงไปในหัวใจของจ้าวลู่เฉิน
"ชีวิตของนาง...ไร้ค่าสำหรับข้า" ิ่หลานกล่าวเสียงเ็า "แต่หากท่านพ่อ้าต่อรอง...ก็จงนำของที่มีค่ามากกว่าชีวิตของสตรีแพศยาคนนั้นมาแลก"
จ้าวลู่เฉินเงยหน้าขึ้น "เ้า...เ้า้าอะไร?"
"ข้า้าความยุติธรรม" เสียงของิ่หลานหนักแน่นขึ้น "ข้า้าเกียรติยศของท่านแม่...และศักดิ์ศรีของตระกูลไป๋...ที่ถูกพวกท่านเหยียบย่ำจนจมดิน!"
ชื่อ 'ตระกูลไป๋' ทำเอาแม่ทัพใหญ่ถึงกับตัวแข็งทื่อ!
"ท่านคิดว่าข้าไม่รู้อะไรเลยหรือเ้าคะ?" ิ่หลานยิ้มเยาะ "ท่านคิดว่าความทรงจำของข้าเลือนรางไปพร้อมกับสติที่ท่านคิดว่าข้าเสียไปแล้วหรือ? ป้าจาง...สาวใช้เก่าแก่ของท่านแม่ นางได้เล่าทุกอย่างให้ข้าฟังทั้งหมดแล้ว แม้นางจะถูกพวกท่านทุบตีจนปางตายแต่สิ่งที่นางเล่ามาก็ล้วนเป็ความจริง!"
"สิบปีก่อน! ตระกูลไป๋ของท่านตา...ถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเสบียงทัพ! ท่านตาถูกปลดจากตำแหน่งจนต้องระเห็จกลับบ้านเกิด! ตระกูลไป๋ทั้งตระกูลถูกตราหน้าว่าเป็ฏ! ท่านแม่ของข้าต้องทนทุกข์กับความอัปยศนี้ มิหนำซ้ำยังถูกสังหารทั้งตระกูลจากใครก้ไม่รู้ที่อยู่เื้ั! และท่าน...แม่ทัพใหญ่จ้าวลู่เฉิน...บุตรเขยที่ได้ดิบได้ดีจากการสนับสนุนของตระกูลไป๋...ผู้ซึ่งได้ประโยชน์สูงสุดจากการล่มสลายของพวกเขา...กลับยืนนิ่งดูดาย ไม่เคยแม้แต่จะเอ่ยปากปกป้องและสืบหาความจริงที่เกิดขึ้น!"
นางลุกขึ้นยืน เดินเข้าไปหาบิดาที่คุกเข่าอยู่ จ้องลึกลงไปในดวงตาที่เบิกกว้างด้วยความตื่นตระหนกของเขา
"ท่านแลกเกียรติยศของภรรยาเอกและตระกูลของนาง...กับตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ของท่าน! ท่านเลือกอำนาจมากกว่าความถูกต้อง!"
"ข้า้าให้ท่านรื้อคดีนี้ขึ้นมาใหม่!" นางประกาศกร้าว "ใช้ตำแหน่งและอำนาจทั้งหมดของท่านเพื่อสืบหาความจริง! คืนความบริสุทธิ์ให้ตระกูลไป๋! ประกาศให้ทั่วทั้งแผ่นดินได้รู้ว่าพวกเขาถูกใส่ร้าย!"
นี่ไม่ใช่ข้อเสนอ...แต่มันคือคำสั่ง!
จ้าวลู่เฉินส่ายหน้าอย่างสิ้นหวัง "ไม่ได้...เื่นั้นมัน...มันเกี่ยวพันกับขุนนางใหญ่ในราชสำนักมากมาย การรื้อฟื้นคดีนี้ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตาย!"
"เช่นนั้นก็ปล่อยให้ฮูหยินรองของท่านเน่าตายในคุกไปเถิด" ิ่หลานตอบอย่างไม่ไยดี นางกำลังจะหันหลังกลับ
"เดี๋ยวก่อน!" จ้าวลู่เฉินรั้งไว้ "ข้า...ข้าจะทำ! ข้าจะทำตามที่เ้าบอกทุกอย่าง! ขอเพียง...ขอเพียงเ้าโปรดเมตตานางสักครั้งเถอะ..."
ิ่หลานหยุดเดิน แล้วหันมาเผชิญหน้ากับเขาเป็ครั้งสุดท้าย
"ตกลง...ข้าจะไปขอร้องท่านเ้าเมืองให้เปลี่ยนโทษของนาง...จาก 'จองจำตลอดชีวิต' เป็ 'เนรเทศไปยังชายแดนที่ทุรกันดารที่สุด' ให้นางได้ไปใช้แรงงานชดใช้กรรมไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ นั่นคือความเมตตาสุดท้ายที่ข้าจะมีให้"
นางมองลึกลงไปในดวงตาของบิดา "และเมื่อทุกอย่างจบสิ้น...เมื่อชื่อเสียงของตระกูลไป๋ได้รับการชำระล้าง...ข้า...จ้าวิ่หลาน...จะขอตัดขาดจากตระกูลจ้าว กลับไปใช้แซ่ 'ไป๋' ของท่านแม่ และจะไม่มีวันเหยียบเข้ามาในจวนแห่งนี้อีกต่อไป!"
จ้าวลู่เฉินทรุดลงกับพื้นราวกับเรี่ยวแรงทั้งหมดได้หายไปจากร่าง ข้อเสนอนี้...มันเ็ปยิ่งกว่าการถูกปะาเสียอีก เขาไม่เพียงแต่ต้องเสี่ยงชีวิตและตำแหน่งของตนเองเพื่อรื้อคดี แต่สุดท้าย...เขาก็ต้องสูญเสียบุตรีเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ไปตลอดกาล
"ท่านจะเลือกเกียรติยศจอมปลอมของท่านที่สร้างขึ้นบนความทุกข์ของผู้อื่นต่อไป..." ิ่หลานกล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงที่ไร้ความรู้สึกโดยสิ้นเชิง "...หรือจะเลือกไถ่บาปให้ภรรยาคนที่สองของท่าน...และชดใช้ให้แก่ิญญาของภรรยาเอกที่ท่านทรยศ"
"เลือกมาสิเ้าคะ...ท่านพ่อ"
ราตรีนั้นผ่านพ้นไปอย่างเชื่องช้าและหนักอึ้งราวกับมีหินก้อนใหญ่วางทับอยู่ในอกของทุกคนในจวนแม่ทัพ สำหรับจ้าวลู่เฉินแล้ว มันคือค่ำคืนที่ยาวนานที่สุดในรอบสิบปี เขานั่งนิ่งอยู่ในห้องทรงงานมืดๆ ไม่ได้จุดตะเกียงแม้แต่ดวงเดียว แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาอาบร่างของเขาที่บัดนี้ดูโดดเดี่ยวและเหนื่อยล้า
ภาพเหตุการณ์ในอดีตไหลเวียนกลับเข้ามาในหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า...ภาพของไป๋โหรว...ภรรยาเอกผู้เป็ที่รักของเขานอนป่วยซูบซีดบนเตียงด้วยหัวใจที่แหลกสลาย...ภาพของบุตรีตัวน้อยที่ถูกทอดทิ้งให้เติบโตอย่างหวาดกลัว...และภาพของตนเองที่เลือกจะหันหลังให้ความถูกต้องเพื่อแลกกับตำแหน่งและเกียรติยศจอมปลอม กระดุมเม็ดแรกที่เขาติดผิด...ความผิดพลาดที่กัดกินหัวใจเขามาตลอด...บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่ต้องแก้ไข แม้ว่าการเลาะมันออกแล้วติดใหม่ อาจจะต้องแลกมาด้วยเืเนื้อและชีวิตของตนเองก็ตาม
รุ่งเช้าของอีกวัน เขามาที่เรือนจื่อเถิงอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ท่าทีของเขาเปลี่ยนไป ความละอายและความสิ้นหวังในวันก่อนถูกแทนที่ด้วยความกร้านแกร่งและเด็ดเดี่ยวของชายชาติทหารผู้เตรียมตัวเข้าสู่สมรภูมิที่อันตรายที่สุดในชีวิต ดวงตาที่เคยสับสนบัดนี้แน่วแน่และคมกล้า
จ้าวิ่หลานกำลังนั่งอยู่ริมหน้าต่าง นิ้วเรียวของนางกรีดกรายอยู่บนสายของผีผาเก่าแก่ตัวหนึ่งซึ่งเป็ของรักของหวงของมารดา นางไม่ได้ดีดมันเป็เพลง แต่เพียงลูบไล้ไปตามสายที่ขึ้นสนิมเล็กน้อย ราวกับกำลังสื่อสารกับิญญาของผู้เป็เ้าของ เมื่อบิดาของนางก้าวเข้ามา นางก็หยุดมือลง แต่ยังไม่ได้หันมามอง
"ข้าจะทำตามข้อตกลง" เขาเอ่ยขึ้นเป็ประโยคแรก เสียงของเขาทุ้มต่ำและมั่นคง "ข้าจะทวงคืนความยุติธรรมให้ตระกูลไป๋และมารดาของเ้า"
จ้าวิ่หลานวางมือจากผีผาแล้วหันมาเผชิญหน้ากับเขา นางรินชาถ้วยหนึ่งแล้วเลื่อนไปตรงหน้าเขาอย่างสงบ "ท่านแน่ใจแล้วหรือเ้าคะ? หนทางนี้อาจไม่มีที่ให้ถอยกลับ"