หลินนั่วอีโดดเด่นอย่างยิ่งภายใต้แสงจันทร์ทั่วร่างกระจ่างตา โอบล้อมไปด้วยแสงเรื่อเรือง เธอเดินห่างออกไปสมทบกับคนอีกกลุ่ม
สุดท้าย เธอโบกมือเบาๆ ปีนขึ้นเฮลิคอปเตอร์ จากไปทั้งอย่างนั้น
ฉู่เฟิงหมุนตัว เดินกลับมากลางสวน
เมื่อครู่ที่เขาเล่นหัว ลามปาม ก็เพียง้าปิดบังตัวตนแต่ตอนนี้ดูท่าหลินนั่วอีจะฉลาดเกินไป บางทีเธออาจจะรู้ั้แ่แรก
ฉู่เฟิงกลับคืนสู่ความสงบ ท่าทางเหลาะแหละหายไปเขาเริ่มพิจารณาอย่างจริงจัง
คำพูดของหลินนั่วอีซ่อนข่าวสารล้ำค่าไว้มากมายจนเขาแทบเต้น
เขาถามเื่ศิษย์แห่งศากยะ หลินนั่วอีไม่ตอบ แต่กลับพูดถึงพี่ชายของมู่
“ยี่สิบเอ็ดปีก่อน...” ฉู่เฟิงครุ่นคิด
เพื่อความมั่นใจ เขาค้นข้อมูลด้วยเครื่องมือสื่อสาร พลันพบเพจที่เกี่ยวข้องมากมายล้วนเป็ข่าวของหลายปีก่อน
“อย่างนี้เอง!” เขาพยักหน้า
หลังยุคแห่งความเรืองรอง ใน่เวลาอันยาวนานมีภัยพิบัติลึกลับเกิดขึ้นหลายครั้งหลายครา สำหรับคนธรรมดาแล้วยังไม่อาจหาคำตอบได้จนกระทั่งวันนี้
เมื่อยี่สิบเอ็ดปีก่อนก็เพิ่งเกิดขึ้นอีกครั้ง!
ตอนนั้น สนามแม่เหล็กโลกแปรปรวน ทำให้การสื่อสารทุกแห่งถูกตัดขาดอีกทั้งยังเกิดแผ่นดินไหวขนาดย่อม เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นทั่วโลก ความเสียหายทางเศรษฐกิจไม่อาจประเมินได้!
ในบางพื้นที่เกิดแสงแม่เหล็กสว่างไสวแทงั์ตา เจิดจ้าอย่างยิ่ง
นี่เป็เพียงเหตุที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่ง แต่จริงๆแล้วเกิดเหตุพิสดารอะไรขึ้นกันแน่ คนทั่วไปนั้นไม่อาจรู้ได้จนกระทั่งวันนี้
“นี่คงเป็หนึ่งในการเปลี่ยนแปลง่นั้นอาจจะมีที่ใดที่หนึ่งที่เกิดลูกไม้วิเศษขึ้นเพียงแต่ว่าเทียบกันไม่ได้กับตอนนี้!” ฉู่เฟิงพูดกับตัวเอง
ตอนนี้สิ การเปลี่ยนแปลงมาถึงจริงๆ แล้วเป็การเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงเสียด้วย!
ยี่สิบเอ็ดปีก่อน บางทีอาจจะมีมนุษย์พิเศษเกิดขึ้นแล้วเพียงแต่มีจำนวนน้อยนิด
หลินนั่วอีเอ่ยถึง่เวลานั้น เอ่ยถึงเื่ของพี่ชายของมู่เท่ากับว่าไขความกระจ่างให้เขาเป็อย่างมากจากตรงนี้ก็สามารถคาดเดาอะไรได้อีกหลายอย่าง
ส่วนศิษย์แห่งศากยะ เชียนเยี่ย ที่ต่อสู้กับงูขาว ตัวตนที่แท้จริงก็คืุ์พิเศษ
หลินนั่วอีพูดถึงพี่ชายของมู่ ก็เท่ากับว่าตอบคำถามเื่ศิษย์แห่งศากยะเพราะว่าพวกเขาเป็มนุษย์พิเศษใน่เวลาเดียวกัน!
แล้วในขณะเดียวกัน เธอก็แอบเตือนให้ระวังพี่ชายของมู่หรือเปล่านะ?
และเพราะเช่นนี้ ฉู่เฟิงเดาต่อ บางทีเธออาจจะรู้แล้วว่าเขาคือหนิวหมัวหวังและเป็คนสังหารมู่
อรุณรุ่ง แสงแรกแห่งวันเพิ่งโผล่พ้นขอบฟ้าทางทิศตะวันออกหวงหนิวก็ตื่นแล้ว มันเผ่นพรึ่บออกไปที่สวน จ้องถังไม้เขม็งใบหน้าเต็มไปด้วยความหวัง
ฉู่เฟิงเองก็วิ่งมาด้วย เขาวาดหวังเสียยิ่งกว่าหวงหนิวเสียอีก
“มอ!”
หวงหนิวคั่งแค้น เพราะในถังไม้ไม่มีวี่แววของต้นอ่อนเลยทำให้มันผิดหวังและหดหู่อย่างยิ่ง
หนึ่งวัน สองวัน...
แค่พริบตาก็ผ่านไปแล้วสี่วัน ภายนอกเกิดเื่ขึ้นมากมาย อย่างบริเวณรอบๆเขาไท่หังซานปรากฏกองกำลังทหารขึ้น มีการลำเลียงอาวุธหนักร้ายแรงทุกรูปแบบ
ชัดเจนว่า นี่คือการเตรียมรับมือกับงูขาว!
แต่ว่า งูขาวไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นอีกเลย ว่ากันว่า มันมุดเข้าไปในหุบเขาเลื้อยตามแม่น้ำหายไป ซึ่งทำให้ผู้คนต่างก็กระวนกระวายใจ
หากมันปรากฏตัวขึ้นอีกรอบ คงไม่แคล้วเกิดการนองเื
หลายวันมานี้ ในอินเทอร์เน็ตมีรายงานข่าวสารพัดเป็รายละเอียดเกี่ยวกับการต่อสู้บนเขาไท่หังซาน เื่ราวไม่น้อยหลุดรั่วออกมา
อย่างเช่น เื่ที่มู่ถูกสังหาร!
สมาชิกคนสำคัญของเทียนเสินเซิงอู้ที่เป็คนที่มาจากตระกูลมู่นี่ไม่ใช่เื่เล็กน้อย
อย่างน้อย มีรูปอันเลือนรางที่มนุษย์พิเศษคนหนึ่งถ่ายภาพไว้ได้หนิวหมัวหวังสะบัดดาบเดียวก็สะบั้นหัวของมู่กระเด็น หมดจดอย่างยิ่ง
จากเหตุการณ์นี้ หนิวหมัวหวังจึงเป็ที่รู้จักกันทั่ว
เขากล้าสังหารมู่ ทั้งยังกล้าต่อกรกับเทพปีกเงิน
เขาใช้คันศรยิงใส่มนุษย์พิเศษผู้ยืนอยู่บนปลายสุดของพีระมิดหากคิดจะไม่เป็จุดสนใจย่อมเป็ไปไม่ได้
“น่าเสียดาย ไม่ได้ถ่ายรูปตอนง้างศรยิงเทพปีกเงินจากความทรงจำของมนุษย์พิเศษที่อยู่ในเหตุการณ์ มันน่าตื่นตาตื่นใจอย่างที่สุด!”
คนไม่น้อยต่างรู้สึกเสียดาย อยากเห็นภาพนั้นด้วยตาของตัวเอง
“บางทีอาจจะมีคนอัดวิดีโอไว้ ที่มีผู้กำกับบ๊องๆคนหนึ่งวิ่งตามเก็บภาพอย่างไม่คิดชีวิตน่ะ” มีมนุษย์พิเศษบอกเื่นี้ต่อคนภายนอก
แต่โจวอี่เทียนหายตัวไปแล้ว คนจำนวนมากตามหาเขาแต่ก็ไม่เจอ
มีคนคาดเดาว่า เขากับผู้ช่วยหลายคนนั้นไม่สามารถหนีรอดออกมาได้ล้วนตายอยู่ในเขางูขาว
แต่ก็ยังมีคนพูดว่า เขาถูกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเชิญตัวไปแล้วนำเอาข้อมูลที่เขาบันทึกไว้ทั้งหมดไปวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อทำความเข้าใจกับความน่ากลัวของงูขาว
“วางใจเถอะ โจวอี่เทียนต้องโผล่ออกมาแน่ ยังไม่ตายอย่างแน่นอนเขายังมีสุดยอดซีรีส์ตำนานลึกลับที่ต้องฉายอยู่นะ!”
บางคนมั่นใจอย่างมาก พูดอย่างมั่นอกมั่นใจว่าเป็เช่นนั้นแน่นอน
ศึกครั้งนี้ ร่างคงกระพันของเทพวัชระเองก็เป็จุดสนใจอย่างมากมีคนถ่ายรูปเขาตอนต้านรับลูกะุ ห้าวหาญอย่างยิ่ง แล้วก็ยังมีอีกรูปเป็รูปตอนที่เขากำลังสะบั้นหัวหมูป่าตัวเท่ารถถังนั่นพอดี
นอกจากนี้ บรรดาหลินนั่วอี เจียงลั่วเสิน ศิษย์แห่งศากยะ เชียนเยี่ยเทพปีกเงิน ล้วนกลายเป็ประเด็นที่ผู้คนถกเถียงกันอย่างมาก
เหตุการณ์ที่เขางูขาว ก่อให้เกิดกระแสลุกลามใหญ่โตหลายวันผ่านไปก็ยังไม่อาจสงบลงได้
ผู้คนได้พบเห็นความน่ากลัวของสัตว์พิเศษจึงเกิดความหวาดหวั่นต่ออนาคตอย่างยิ่ง!
วันที่ห้า หวงหนิวรอไม่ไหวแล้วเพราะวัวั์สีดำเริ่มเร่งเร้าให้มันออกเดินทาง อีกทั้งยังบอกมันว่าในเวลาอันใกล้นี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงขึ้น
หวงหนิวเขี่ยดินในถังไม้ออก พิจารณาเมล็ดพันธุ์อย่างละเอียดลออ
ฉู่เฟิงเองก็เข้ามามุงกับมันด้วย
มีการเปลี่ยนแปลงแล้ว แถมยังเปลี่ยนไปมากอีกด้วย!
เมล็ดพันธุ์เปลี่ยนเป็สีเขียวขจีทั่วเมล็ด เต็มไปด้วยสัญญาณแห่งชีวิตลวดลายที่พาดพันปกคลุมไปทั่ว
แต่น่าเสียดายที่ยังไม่มีต้นอ่อนงอกออกมา
ฉู่เฟิงวางมันบนมือ ทำให้ยิ่งรู้สึกได้ถึงพลังลึกลับบางอย่าง มันน่าใลวดลายพวกนั้นยิ่งมองก็ยิ่งซับซ้อน เหมือนอย่างกับเก็บซ่อนความลับบางอย่างไว้
พูดไม่ออก บอกไม่ถูก มันเป็แค่ความรู้สึก
“ฉันจะรอ!”
หวงหนิวปฏิเสธวัวั์สีดำ ยืนยันที่จะรอต่ออีกหลายวัน
แล้วก็รออย่างนี้ไปอีกห้าวัน หนึ่งคนหนึ่งวัวเฝ้ารอให้เมล็ดพันธุ์งอกต้นอ่อน หวังว่ามันจะทำให้พวกเขาสมหวัง
แต่แล้วพวกเขาก็ต้องผิดหวัง รวมเวลาทั้งหมดผ่านไปร่วมสิบวันแต่มันกลับไม่มีสัญญาณใดๆ โผล่พ้นผิวดินขึ้นมาเลย
หวงหนิวขุดดินขึ้นมาดูอีกครั้ง ที่ทำให้มันกระวนกระวายก็คือครั้งนี้ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย สภาพเหมือนกับเมื่อหลายวันก่อนเขียวขจีและโปร่งใสอย่างยิ่ง
“ไม่มีความคืบหน้าเลย” ฉู่เฟิงผิดหวัง หรือว่า “ก้อนดินวิเศษ”ขนาดเท่ากำปั้นผู้ใหญ่ก้อนนั้นก็ยังใช้ไม่ได้ไม่มีสารอาหารมากพอที่จะหล่อเลี้ยงเมล็ดพันธุ์ให้งอกต้นอ่อน?
“ฉันจะทนรอ!”
หวงหนิวหมดความอดทน หากก็ยังเขี่ยพื้นบอกเช่นนี้ มันตัดสินใจรอต่ออีกหน่อย!
วันที่สิบสามหลังจากเสร็จศึกเขาไท่หังซาน วันนี้ สภาพอากาศขมุกขมัวจากนั้นก็ค่อยๆ มืดลงจนท้ายที่สุด ฝนเทอย่างหนักลงพื้นที่ทางตอนเหนือฟ้าแลบฟ้าร้อง สภาพอากาศน่ากลัวอย่างยิ่ง
“์ ภัยพิบัติเกิดขึ้นแล้ว!”
“งูขาวโผล่มาฆ่าล้างเมืองแล้ว!”
...
วันนี้ กลิ่นคาวเืคละคลุ้ง งูขาวปรากฏตัว เขย่าแผ่นดินในอินเทอร์เน็ตเกิดกระแสปั่นป่วน
ผู้คนต่างหวาดกลัวกันถึงที่สุด
งูขาวฆ่าล้างเมือง ผลที่ตามมาอันน่าสยดสยองเกินกว่าที่จะจินตนาการได้ทุกแห่งหนบนโลกนี้ต่างก็แตกตื่น
วันแห่งหายนะมาเยือนเมืองขนาดเล็กเมืองหนึ่งที่อยู่ห่างเขาไท่หังซานออกไปหนึ่งร้อยห้าสิบกิโลเมตรมีจำนวนประชากรราวๆ หนึ่งแสนห้าหมื่นคน
ท่ามกลางสายฝนที่เทกระหน่ำ งูขาวตัวมหึมาทะยานตามแรงลมพุ่งตรงมายังเมืองนี้ กวาดล้างทั้งเมืองจนราบคาบ
“นี่...มันน่ากลัวเกินไปแล้ว ที่มันบอกว่าจะฆ่าล้างเมือง นี่คือทำจริงๆหรือนี่!”
“งูขาวเคยขู่ว่าจะฆ่าล้างเมืองสองเมือง แสดงว่ายังเหลืออีกเมืองหนึ่งน่ะสิ!”
ผู้คนต่างก็หวาดผวา
เมื่อข่าวแพร่กระจายออกไป ผู้คนทั่วโลกต่างก็สั่นสะท้าน ต่อให้เป็ต่างประเทศก็ไม่ละเว้นพวกเขารับรู้ได้ว่า หายนะกำลังคืบคลานเข้ามา
บนโลกนี้ จ้าวแห่งสัตว์กลายพันธุ์ย่อมไม่ได้มีแค่ตัวเดียว!
งูขาวทะยานฟ้า สร้างความหวาดผวาไปทุกแห่งหน
กองทัพเริ่มเคลื่อนไหว ยิงจรวดนำวิถีออกไป หากก็ไม่สามารถยับยั้งมันได้หลังจากโจมตีแล้วงูขาวก็หายตัวไปอย่างรวดเร็ว โดยมุดหายลงไปในแม่น้ำเช่นเคย
กลุ่มโพธิจีนส์ สถาบันวิจัยก่อนยุคฉิน เทียนเสินเซิงอู้สถาบันวัฒนธรรมต่างแดน ... กลุ่มทรงอิทธิพลอย่างน้อยเจ็ดแปดกลุ่มร่วมมือกันรวบรวมมนุษย์พิเศษระดับหัวกะทิทีมหนึ่ง ติดตามกองทัพเข้าล้อมปราบงูขาว
ทว่า งูขาวพอเข้าโจมตีแล้วก็ล่าถอยรวดเร็ว ไม่พบแม้แต่ร่องรอย
ความรวดเร็วของมันก็เื่หนึ่งแต่ที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือััปาฏิหาริย์ของมันที่ช่วยให้มันหลบพ้นภยันตรายต่างๆได้
ในวันเดียวกัน งูขาวปรากฏตัวขึ้น ณเมืองที่อยู่ห่างเขาไท่หังซานออกไปสองร้อยกิโลเมตร มันลงมืออีกครั้ง
ท้องฟ้าดำทะมึน บรรยากาศทึบทึม พายุฝนเทกระหน่ำ ฟ้าร้องฟ้าแลบครั่นครื้นฝนตกทางตอนเหนือเป็บริเวณกว้างบางพื้นที่ต่อให้ยื่นมือออกไปก็มองไม่เห็นนิ้วทั้งห้า
การล้อมปราบงูขาวภายใต้สภาพอากาศเช่นนี้ ยากเย็นแสนเข็ญอย่างไม่ต้องสงสัย
ฟ้าดินมืดมิด มีเพียงยามที่ฟ้าแลบแปลบเท่านั้นจึงจะพอมองเห็นสิ่งรอบตัวได้กดดันและหดหู่อย่างยิ่ง
เมืองขนาดเล็กนี้มีจำนวนประชากรราวสองแสนคน ยามที่สายฟ้าฟาดลงก่อให้เกิดแสงสว่างผู้คนพลันมองเห็นงูั์สีขาวตัวหนึ่งเลื้อยตามทางเข้ามาในเมือง
ปัง!
พอหางงูสะบัด อาคารก็ถล่มลงมา
ต่อมา มันเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเลื้อยพันจากอาคารหนึ่งไปยังอีกอาคารหนึ่ง แล้วออกแรงเพียงเล็กน้อยตึกทั้งตึกถูกรัดพังทลาย น่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง!
“เป้าหมายตอนนี้อยู่ที่ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ครั้งนี้อย่าให้มันหนีไปได้!” คนในกองทัพคำรามอย่างเกรี้ยวกราด ั์ตาแดงฉาน
จากนั้น งูขาวเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางพายุฝนซัดสาด ท่ามกลางสายฟ้าแลบระรัวมันหายตัวไปอีกครั้งจนได้
มันไม่ได้ลงมือไล่ล่าแค่ผู้คน แต่กับอาคารบ้านเรือนก็ไม่เว้นมันทำลายเมืองเล็กๆ นี้จนราบคาบ!
เฉกเช่นเดียวกันกับเมืองก่อนหน้านี้ หลังจากที่มันจากไป ทุกสิ่งทุกอย่างพังราบเป็หน้ากลอง
กลับกลายเป็ว่า อาคารบ้านเรือนในทั้งสองเมืองถูกทำลายเรียบกระนั้นจำนวนผู้คนที่าเ็ล้มตายก็มีจำนวนไม่น้อยเป็ตัวเลขที่น่าใเป็อย่างมาก
ล้างเมือง สมดังคำพูด งูขาวกราดกวาด ทำลายเมืองไปสองเมือง
โชคเพียงอย่างเดียวก็คือ มันเลือกที่จะไม่ลงมือกับเมืองใหญ่ทั้งยังไม่โจมตีคนทุกคน มันเพียงแค่ทำลายสิ่งก่อสร้าง ทำลายจนราบคาบแล้วก็จากไป
คนส่วนใหญ่โชคดีรอดชีวิตหวุดหวิด แต่ก็มีคนไม่น้อยที่เสียชีวิต เมืองเล็กๆสองเมืองเปลี่ยนสภาพกลายเป็ซากปรักหักพัง
งูขาวจากไปอย่างรวดเร็ว มันหายไปทั้งอย่างนั้น
ทั้งมนุษย์พิเศษที่แข็งแกร่ง ไหนจะจรวดนำวิถีล้วนแล้วไม่อาจกักตัวมันไว้ได้ มันหลบไปอยู่ที่ไหนก็ไม่มีใครรู้
วันนั้น ข่าวแพร่กระจายไปทั่วโลก
นี่เป็หายนะครั้งใหญ่ เป็ลางบอกเหตุอันตรายบางอย่าง
เป็เหตุการณ์ช็อกโลก!
ทุกสื่อรายงานข่าวกันอย่างล้นหลามไม่ว่างเว้นผู้คนวิพากษ์วิจารณ์กันไม่หยุด อีกทั้งสร้างความหวาดหวั่นอย่างไม่สิ้นสุดเช่นกัน
“รีบไปเถิด อยู่ต่อไม่ได้แล้ว!” วัวั์สีดำมาถึงบ้านจะพาหวงหนิวเดินทางไปด้วย
“รออีกสองสามวันนะ!” หวงหนิวไม่เต็มใจมันไม่อยากละทิ้งกลางคัน
“ฟ้าดินแปรปรวนหนักขึ้น เราหวั่นใจว่าที่นี่จะมีอันตรายมาเยือนอีกทั้งหากคิดจะไปยังเขตเขาคุนหลุน ยังต้องเดินทางอีกกว่าสิบหมื่นลี้”วัวั์สีดำเคร่งเครียดอย่างมาก
คำพูดของมันชวนให้ใเป็อย่างมากมันแฝงไว้ด้วยความหมายอันน่ากลัวอย่างยิ่ง
“ขอเวลาอีกสองสามวัน!” หวงหนิวพยายามยื้อ
...
ไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ ทุกแห่งหนล้วนปั่นป่วนเกิดเื่น่ากลัวขนาดนี้ จะให้สงบอยู่ได้อย่างไรกัน?
ผู้คนล้วนถกเถียงกันเกี่ยวกับงูขาว มันไม่เกรงกลัวอาวุธหนักทั้งยังสามารถหลบหลีกได้ล่วงหน้า ช่างน่าปวดหัวและน่ากลัว
ทุกแห่งหนบนโลกนี้ พากันแสดงความคิดเห็นนำเสนอวิธีช่วยกำจัดงูั์กันอย่างต่อเนื่อง
เพียงไม่นาน ก็เกิดเื่ใหญ่อีกเื่ ทำเอาความสนใจเื่งูขาวตกวูบ
ก็เพราะผ่านไปเพียงสองวันเท่านั้นสถานที่ที่หนึ่งฟากตะวันตกของโลกเกิดภัยพิบัติร้ายแรงขึ้น!
ัดำตัวหนึ่งปรากฏกาย เกรี้ยวกราดอย่างยิ่ง ปากพ่นเปลวเพลิงร้อนแรงเผาผลาญแผ่นดินวอดวาย ร้ายกาจดุดันอย่างไม่เคยมีมาก่อน
วันนั้น มันทำลายเมืองไปหนึ่งเมือง ผู้คนร่วมห้าแสนคนถูกสังหารเรียบ
ัดำบ้าคลั่ง มันกางปีกัคู่มหึมา พ่นไฟร้อนแรงเผาผลาญทุกสิ่งอย่างพื้นที่ตรงนั้นกลายเป็เถ้าถ่าน ไม่เหลืออะไรเลย
วันนั้น ัดำคำรามลั่น บอกว่ามีคนมาขโมยไข่ัของมันไปนี่เป็ต้นเหตุของหายนะครั้งนี้
ทั่วโลกต่างสั่นสะท้าน พลังทำลายล้างของัดำมหาศาล
“มันเป็กิ้งก่ากลายพันธุ์ตัวหนึ่ง ไม่นึกเลยว่าเปลี่ยนไปเป็ัดำได้!”
“น่ากลัวเกินไปแล้ว ฉันรู้สึกว่าวันสิ้นโลกใกล้เข้ามาแล้ว!”
...
ทางฝั่งตะวันตกเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“ต้องฆ่ามันให้ได้!”ตัวแทนซีกโลกฝั่งตะวันตกตะเบ็งอย่างโกรธแค้น
“พวกเรามีปีนใหญ่อานุภาพร้ายแรง ในยามคับขัน อนุญาตให้ใช้อาวุธต้องห้ามได้มันหนีไม่รอดแน่!”
“เป้าหมายปรากฏตัว ล็อกเป้าเรียบร้อย!”
าล่าัอุบัติขึ้น ผู้คนทั่วโลกต่างก็จับตามอง
อย่างน้อยจ้าวัดำตัวนี้ก็ไม่มีทางมุดลงแม่น้ำหนีไปได้คนจำนวนมากมั่นใจว่าสามารถสังหารมันได้ภายในเวลาไม่นาน
“ไอ้ลูกวัว เอ็งจะไปไม่ไป?!”วัวั์สีดำหมดความอดทน เพราะรู้สึกกระวนกระวายขึ้นทุกที มันสังหรณ์ใจว่าหากไม่รีบเดินทางล่ะก็ จะต้องเกิดเหตุวุ่นวายใหญ่โตอย่างแน่นอน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้