แววตาของเย่เฟิงก็เป็ประกายเช่นเดียวกัน เขายืนอยู่ที่เดิม แต่ไม่นานนักก็เข้าสู่โลกลึกลับ ภายในหัวราวกับปรากฏลวดลายขนาดย่อ เก้าเขตแดนชัดเจนแจ่มแจ้ง ทางเก้าเส้นสลับไปมา ส่วนเย่เฟิงยืนอยู่ตรงใจกลางลวดลายนั้นและพยายามหาความลับของมัน
ตอนที่ฝึกย่างก้าวดาวตกผีเสื้อ เย่เฟิงก็เคยััลวดลายที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งย่างก้าวดาวตกผีเสื้อนั้นเป็การวิวัฒนาการมาจากท่าร่างพื้นฐาน แม้จะแตกต่างจากลวดลายนี้ แต่มีแหล่งต้นกำเนิดที่เดียวกัน เย่เฟิงจึงอาศัยประสบการณ์ที่ได้จากการเรียนรู้แผนที่ดาวมาใช้ในชีวิตจริง เขาค่อย ๆ ศึกษาลวดลายนั้นทีละนิดจนเข้าสู่สภาวะจิตว่างราวกับกำลังหลอมเป็หนึ่งกับมิติแห่งนี้
“พรึ่บ!” ขณะนั้นพลังอันน่าสะพรึงกลัวพวยพุ่งออกจากร่างหยวนป้าเทียน มันสนับสนุนเขาในการต่อต้านแรงกดดันที่ถูกส่งมาจากลวดลายนั้น แม้จะยากลำบาก แต่กลับเดินบนทางแรกได้แล้ว ทำให้เขายิ้มอย่างพึงพอใจ เขาต้องคว้าผลึกิญญามาให้ได้
หลังจากคนอื่น ๆ เห็นสถานการณ์ก็ไม่ยอมตกอยู่ข้างหลัง แม้ขั้นพลังจะสู้หยวนป้าเทียนไม่ได้ แต่อย่างไรเสียพวกเขาก็เป็ลูกศิษย์หนึ่งในเก้ากองกำลัง ทั้งยังมากพร์ พวกเขาจึงตามขึ้นไปยังทางที่หนึ่ง
แม้แต่ชิงเหยียนที่ถูกฝ่ามือั์แห่งลวดลายตบจนกระเด็นปลิวก็ไม่ยอมตกอยู่ข้างหลัง จึงขึ้นทางที่หนึ่งเช่นกัน
เมื่อเผชิญหน้ากับสมบัติล้ำค่าอย่างผลึกิญญา มีหรือพวกเขาจะแบ่งปันให้คนอื่น มีแต่จะเก็บมันไว้แต่เพียงผู้เดียว ดังนั้นทุกคนล้วนแต่เป็คู่ต่อสู้ ไม่ใช่พันธมิตรอย่างก่อนหน้านี้ หากอยากได้ผลึกิญญา ก็ต้องชิงนำหน้าไปก่อนหนึ่งก้าว
เมื่อคนเ่าั้รวมทั้งหยวนป้าเทียนเห็นเย่เฟิงไม่ขยับเขยื้อนต่างก็เผยสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม
“สวะก็คือสวะ อ่อนหัดไร้ความสามารถ” ม่อหลี่มองเย่เฟิงพลางเหยียดยิ้ม จากนั้นเดินขึ้นไปทางที่สองอีกก้าว ส่วนคนอื่น ๆ ต่างก็ไม่ยอม จึงตามมาติด ๆ เช่นกัน
“มดแมลงที่มาจากดินแดนไร้ชื่อเสียง จะมาทัดเทียมกับข้าได้อย่างไร?” ชิงเหยียนรักษาาแจากฝ่ามือั์แห่งลวดลายนั่นที่โจมตีเมื่อครู่นี้เสร็จ ก็เริ่มทำตัวอวดดีอีกครั้ง
ทางเก้าเส้น ทุกทางจะมีความลี้ลับและพลังพิเศษซ่อนอยู่ แม้ทั้งห้าคนจะก้าวไปข้างหน้าได้ แต่กลับมีความรู้ต่อพลังพิเศษน้อยนิด ทั้งหมดแทบใช้พลังหยวนของตนในการผลักดันไปข้างหน้า
หยวนป้าเทียนนำหน้าสุด จากนั้นผ่านไปหนึ่งชั่วยาม เขาก็มาถึงทางที่แปด หากเขาก้าวไปอีกก้าวก็จะใช้พลังของทางที่เก้าปีนขึ้นต้นไม้ไปคว้าผลึกิญญา แต่ขณะนั้นเมิ่งยวี่ฉิงตามหลังหยวนป้าเทียนมาติด ๆ ส่วนม่อหลี่ ชิงเหยียน และคนอื่นสูสีกัน
“ผลึกิญญาเป็ของข้า!” หยวนป้าเทียนะโดังลั่น พร้อมพลังปราณปะทุออกจากร่าง ก่อนจะเดินออกไปอีกก้าว ขึ้นสู่ทางที่เก้า หลังจากมีประสบการณ์ หยวนป้าเทียนก็เริ่มเข้าใจพลังที่แฝงอยู่ในลวดลาย ดังนั้นตอนอาศัยพลังหยวนในการเดินจึงใช้น้อยลงเรื่อย ๆ จนแทบอาศัยการเรียนรู้ในการเดินไปข้างหน้า
ในทางตรงกันข้าม เมิ่งยวี่ฉิง ม่อหลี่ และคนอื่น ๆ ยังอีกห่างไกล พวกเขาเดินมาถึงจุดนี้ได้ก็เหนื่อยใช่ย่อย ไม่เหมือนหยวนป้าเทียนที่ผ่อนคลายและง่ายขึ้นเรื่อย ๆ บางทีนี่อาจเป็ความแตกต่างในพร์ของมนุษย์ พร์ของหยวนป้าเทียนแกร่งกว่าพวกเขาอย่างเห็นได้ชัด
“พี่หยวนเก่งมาก เขาคงคว้าผลึกิญญาไปได้!” ม่อหลี่กล่าวด้วยน้ำเสียงอิจฉา
เมิ่งยวี่ฉิงกะพริบตาปริบ ๆ พลางในใจรู้สึกเลื่อมใสในพร์ของหยวนป้าเทียน หากหยวนป้าเทียนได้รับผลึกิญญา แล้วใช้มันในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างร่างกาย ภายภาคหน้าจะต้องน่ากลัวมากขึ้นอย่างแน่นอน และอาจกลายเป็เซิ่งจื่อที่โดดเด่นแห่งตำหนักเสวียนยื่อ ถ้านางยอมรับหยวนป้าเทียนก็คงไม่ใช่เื่เลวร้ายอะไร และอาจจะเป็อนาคตที่ดี
เมื่อเทียบกับหยวนป้าเทียน คนอื่น ๆ ยังถือว่าห่างชั้น โดยเฉพาะเย่เฟิง ผ่านไปหนึ่งชั่วยามกว่าก็ยังไม่ขยับเขยื้อน นี่ทำให้ความนับถือที่เมิ่งยวี่ฉิงมีต่อเย่เฟิงในก่อนหน้านี้มลายหายไป
“สุดท้ายก็เป็แค่คนธรรมดาที่มาจากดินแดนเล็ก ๆ จะมาทัดเทียมกับอัจฉริยะที่แท้จริงได้อย่างไร เห็นทีก่อนหน้านี้ข้าจะประเมินเขาสูงไป!” เมิ่งยวี่ฉิงคิดในใจ นางเริ่มคิดว่าเื่น่าทึ่งเ่าั้ที่เย่เฟิงกระทำก่อนหน้านี้ล้วนเป็ความบังเอิญ อีกอย่างถ้าหยวนป้าเทียนได้ผลึกิญญามาจริง ๆ นางจะยอมรับเขา กระทั่งยอมแต่งเข้าตำหนักเสวียนยื่อ ไม่ว่าเื่ใดนางก็จะยอมรับทั้งหมด
“เรียนรู้ให้ดี ๆ วันข้างหน้าพวกเ้าอาจจะมีโอกาสเหมือนกัน!” หยวนป้าเทียนหันมามองคนอื่น ๆ ก่อนจะกล่าวชี้แนะด้วยท่าทีหยิ่งผยอง
“ศิษย์น้องเมิ่ง เมื่อข้าใช้ผลึกิญญาชำระล้างร่างกายและเสร็จสิ้นขั้นตอนทุกอย่าง ข้าจะไปสู่ขอเ้าที่หมู่บ้านหานเสวี่ย!” หยวนป้าเทียนกล่าวกับเมิ่งยวี่ฉิงด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ ทำเมิ่งยวี่ฉิงหน้าแดงระเรื่อ แต่นางไม่ได้ปฏิเสธอีกฝ่ายคล้ายยอมรับโดยปริยาย
เมื่อกล่าวจบ หยวนป้าเทียนก็คิดจะใช้พลังของทางที่เก้าปีนขึ้นไปบนต้นไม้โบราณ แต่ขณะเดียวกันมีเสียงฝีเท้าดังขึ้นที่ด้านหลัง ก้าวแล้วก้าวเล่า ทั้งยังความว่องไวอย่างน่าทึ่งจนอดหันกลับไปมองไม่ได้ ก่อนจะพบว่าคนผู้นั้นก็คือเย่เฟิงที่ไม่ขยับเขยื้อนเลยก่อนหน้านี้
บัดนี้ร่างเย่เฟิงถูกห่อหุ้มด้วยแสงประหลาดที่น่าอัศจรรย์ แสงนั้นสอดคล้องกับลวดลายบนพื้น เขาเดินสามก้าวในเวลาสั้น ๆ ทั้งยังว่องไวจนน่าทึ่ง ย่างก้าวของเขาไร้การพึ่งพาจากสิ่งภายนอกราวกับเป็เพียงการเดินเล่น ทุกย่างก้าวคล้ายแฝงด้วยท่วงทำนองพิเศษที่สามารถเชื่อมโยงกับพื้นที่แห่งนี้ได้
“สวบ ๆ ๆ” เพียงเวลาสองลมหายใจเย่เฟิงก็แซงหน้าม่อหลี่ เมิ่งยวี่ฉิง และคนอื่น ๆ จนไปถึงทางที่เก้า เทียบเท่ากับหยวนป้าเทียน
“เป็ไปได้อย่างไร?” ทุกคนเห็นฉากนี้ต่างต้องใพร้อมเผยสีหน้าเหลือเชื่อ และยังมองเย่เฟิงด้วยสายตาที่ราวกับมองตัวประหลาด
เมิ่งยวี่ฉิงตะลึงค้างคล้ายไม่กล้าเชื่อว่าทั้งหมดนี้เป็ความจริง
เย่เฟิงยืนอยู่บนทางที่เก้าโดยไม่สนใจสายตาของคนอื่น เพียงปรายตามองหยวนป้าเทียนแวบหนึ่ง ก่อนจะใช้พลังของทางที่เก้าปีนขึ้นไปบนต้นไม้โบราณ
“ผลึกิญญาเป็ของข้า!” หยวนป้าเทียนเห็นฉากนี้ก็ตอบสนองในทันที สีหน้าเปลี่ยนไปดูไม่ได้ จากนั้นเขาปีนขึ้นต้นไม้ในทันที แต่กลับไม่ว่องไวเท่าเย่เฟิง
แต่ด้วยความรู้ที่เขามีต่อพลังที่แฝงอยู่ในลวดลาย ยิ่งเรียนรู้พลังแห่งลวดลายได้มากแค่ไหน เพียงอาศัยพลังแห่งลวดลายในการเดินไปข้างหน้า การเดินทางบนทางเก้าเส้นและปีนขึ้นต้นไม้ก็ยิ่งราบรื่นมากขึ้นเท่านั้น
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
เมื่อหยวนป้าเทียนรู้ว่าตนตามเย่เฟิงไม่ทันจึงเผยสีหน้าย่ำแย่ จากนั้นเขาวาดฝ่ามือโจมตีเย่เฟิงโดยไม่คิดอะไรมาก โดยฝ่ามือนี้อัดแน่นไปด้วยพลังจุดสูงสุดของขั้นรวมชี่ที่ 8 ซึ่งคร่าชีวิตผู้ฝึกยุทธ์ขั้นรวมชี่ที่ 9 ทั่วไปได้อย่างง่ายดาย
“ไอ้เศษสวะ เ้าควรหายไปจากโลกนี้ได้แล้ว!” ม่อหลี่ที่อยู่บนทางที่เจ็ดเห็นฉากนี้ก็กล่าวเย้ยหยัน เขาอยากเห็นเย่เฟิงตายจะแย่แล้ว
เมื่อเย่เฟิงรับรู้ได้ถึงสายลมที่พัดมาจากข้างหลัง พลันร่างกายเปล่งแสงจ้าก่อนจะเห็นเขาโบกสะบัดมือ จากนั้นพลังประหลาดพวยพุ่งออกจากลวดลาย ก่อตัวเป็ฝ่ามือั์แล้วเข้าโจมตีหยวนป้าเทียน
“อั่ก!” การโจมตีของหยวนป้าเทียนถูกฝ่ามือั์ทำลายในทันที จากนั้นฝ่ามือั์เข้าจู่โจมร่างหยวนป้าเทียนจนเขาร้องโอดครวญ เพิ่งปีนขึ้นต้นไม้โบราณแท้ ๆ ก็ถูกซัดจนตกลงไปกระแทกพื้นอย่างแรงเสียแล้ว สีหน้าก็ขาวซีดราวกับกระดาษเช่นกัน
ด้วยพื้นที่พิเศษภายในลวดลาย เมื่อเรียนรู้พลังของพื้นที่นี้ได้ก็จะสามารถใช้พลังของมันในการทำทุกสิ่งทุกอย่าง รวมทั้งการต่อสู้การโจมตีของเย่เฟิงเมื่อครู่นี้ก็มาจากการกระตุ้นพลังของลวดลาย
ฝ่ามือั์ที่โจมตีชิงเหยียนในก่อนหน้านี้กลับถูกเย่เฟิงควบคุมไว้
“หึ!” เย่เฟิงแค่นเสียงเ็าขณะมองหยวนป้าเทียนที่นอนหมดสภาพอยู่บนพื้น จากนั้นเขาคว้าผลึกิญญามาอยู่ในมือ ก่อนจะััได้ถึงพลังอันบริสุทธิ์ที่อยู่ในผลึกิญญา เขาระบายยิ้มจาง ๆ แล้วเก็บมันเข้าไปไว้ในแหวนมิติ
นี่ทำให้พวกเมิ่งยวี่ฉิงตัวแข็งทื่อและมองเย่เฟิงด้วยความตกตะลึง พวกเขาคิดไม่ถึงว่าสุดท้ายแล้วผู้ที่คว้าผลึกิญญาไปครองได้จะเป็เย่เฟิงผู้ที่พวกเขาดูถูกเหยียดหยาม ส่วนหยวนป้าเทียนก็ยังถูกเย่เฟิงโจมตีด้วยฝ่ามือเดียวจนหมดสภาพ
เื่ทั้งหมดนี้จะน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
“ตูม ปัง!”
หลังจากเย่เฟิงเก็บผลึกิญญา จู่ ๆ ถ้ำก็เกิดสั่นไหวอย่างรุนแรง ผนังถ้ำเกิดรอยร้าวมีก้อนหินตกลงมา ขณะนั้นมีแสงแห่งการทำลายล้างถูกปลดปล่อยออกมาจากต้นไม้โบราณ แสงลวดลายก็ส่องกะพริบต่อเนื่อง ก่อนจะมีปรากฏการณ์สิ้นโลกเกิดขึ้น
“แย่แล้ว ถ้ำกำลังจะถล่ม รีบไปเร็ว!” เมิ่งยวี่ฉิงอุทานด้วยความใ จากนั้นนางทะยานออกไปนอกถ้ำเป็คนแรก ส่วนคนอื่น ๆ ก็ทะยานตามออกไปด้วยความว่องไวปานฟ้าแลบ โดยที่ไม่สนใจเื่ที่เย่เฟิงได้รับผลึกิญญา
เย่เฟิงเผยสีหน้าไม่สู้ดี แต่จากนั้นใช้ย่างก้าวดาวตกผีเสื้อหนีออกไปจากที่นี่ เขารู้ว่าผลึกิญญาก็คือจิติญญาของถ้ำแห่งนี้ เมื่อผลึกิญญาถูกเก็บไป ต้นไม้โบราณและถ้ำก็ไร้ความหมาย มันจึงถล่มลงทันที
หากถูกหินที่ถล่มลงมาทับ เขาที่ได้รับผลึกิญญาก็สิ้นประโยชน์ทันที
พวกเขาต่างหนีด้วยความเร็วในอัตราเท่า ๆ กัน บางทีนี่อาจเป็ศักยภาพของมนุษย์ หากตกอยู่ในวิกฤติเป็ตาย ทุกคนคงปลดปล่อยศักยภาพของตนออกมา
ถ้ำถล่มลงมาด้วยความรวดเร็ว ก้อนหินน้อยใหญ่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง แต่ทุกคนกลับหนีออกไปได้ แม้ว่าทุกคนหลบหนีออกมาได้ แต่ใบหน้าก็ไร้สีเื
“ส่งผลึกิญญามาซะ!” หลังจากได้พักหายใจชั่วครู่ หยวนป้าเทียนก็หันไปมองเย่เฟิงก่อนกล่าวเช่นนั้น
ผลึกิญญาต้องเป็ของเขา ต่อให้เย่เฟิงคว้าไปได้ก็ต้องเอาคืนมา
“ข้าได้ผลึกิญญาก่อน เ้าบอกให้ส่ง ข้าก็ต้องส่งให้งั้นหรือ?” เย่เฟิงกล่าวขณะมองหยวนป้าเทียนด้วยสายตาเ้าเล่ห์ แต่ในใจกลับยิ้มเยาะลูกศิษย์จากกองกำลังใหญ่ ๆ เหล่านี้
“เ้าอยากตายเหรอ?” หยวนป้าเทียนได้ยินเช่นนั้นก็ตะคอกใส่เย่เฟิง
“ต่อให้ข้าอยากตาย แต่เ้าก็ไม่มีสิทธิ์ฆ่าข้า!” เย่เฟิงแสยะยิ้ม เขารู้และเตรียมรับมือกับคนเหล่านี้ไว้นานแล้ว
“พี่หยวน พวกเราโจมตีมันพร้อมกัน แล้วแบ่งผลึกิญญาเท่า ๆ กัน เป็ไง?” ม่อหลี่กล่าวขณะมองเย่เฟิงด้วยสายตาเย็นเยือก
“ไม่ต้องถึงมือเ้า ข้าคนเดียวก็พอแล้ว!” หยวนป้าเทียนกล่าวพร้อมกับมีค้อนปรากฏขึ้นในมือ คำพูดของเขาเป็การประกาศว่าตนมีสิทธิ์ในผลึกิญญาอย่างเห็นได้ชัด
“ในเมื่อเ้าไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เช่นนั้นข้าจะทำให้เ้าได้รู้ว่าการขัดต่อความ้าของข้าจะมีจุดจบเช่นไร!” หยวนป้าเทียนกล่าวเสียงเย็น เขาอยู่จุดสูงสุดของขั้นรวมชี่ที่ 8 มีพลังแกร่งกล้ากว่าผู้ฝึกยุทธ์ขั้นรวมชี่ที่ 9 ย่อมฆ่าเย่เฟิงที่อยู่ขั้นรวมชี่ที่ 5 ได้อย่างไม่มีปัญหา
มิหนำซ้ำหยวนป้าเทียนยังทราบว่าก่อนหน้านี้ที่เย่เฟิงอาศัยพลังของลวดลายโจมตีเขา มันมิอาจนับได้ว่าเป็พลังของเย่เฟิงจริง ๆ แต่บัดนี้ไม่มีลวดลายนั่นแล้ว เย่เฟิงจะมีพลังเช่นนั้นอีกได้อย่างไร?
