“อะไรนะ?”
ฉินเหลาเหยี่ยกับฉินจิ่นยวนประสานเสียง ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ยุติธรรมกับผีสิ!
ทว่าแม้จะเป็เช่นนี้ ฉินเหลาเหยี่ยกลับไม่กล้าโต้แย้งใดๆ
พระพุทธรูปองค์ใหญ่อย่างเซ่อเจิ้งอ๋องนี้ จวนสกุลฉินยั่วยุไม่ไหว
ฉินเหลาเหยี่ยกัดฟัน ช่างเถิด ถือว่าให้บทเรียนยวนเอ๋อร์แล้วกัน หากสามารถเปลี่ยนนิสัยนางให้เลิกเอาแต่ใจในภายภาคหน้าได้ก็นับว่าคุ้มค่าแล้ว
“ตกลงพ่ะย่ะค่ะ!”
เมื่อฉินจิ่นยวนเห็นว่าฉินเหลาเหยี่ยตอบรับ ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ “ท่านปู่!”
“หลีเอ๋อร์ ไปสิ!”
ฮั่วเยี่ยนไหวลูบศีรษะของจิ้งจอกเบาๆ ก่อนจะยกมือขึ้น
ไป๋เซี่ยเหอมองว่าระยะห่างเท่านี้เพียงพอแล้ว
ความแค้นที่อีกฝ่ายเกือบจะพรากชีวิตของนางไป หากไม่ล้างแค้นตอนนี้แล้วจะรอไปจนถึงเมื่อใด!
จิ้งจอกน้อยะโขึ้นไปบนศีรษะของฉินจิ่นยวนโดยใช้แรงส่งจากการถีบขาหลัง ฉินจิ่นยวนใจนหน้าถอดสีก่อนจะกรีดร้องออกมา!
“ไสหัวไป ออกไปให้พ้น เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะถลกหนังของเ้า”
เมื่อมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่อย่างฮั่วเยี่ยนไหวอยู่ที่นี่ คนอื่นๆ ย่อมไม่กล้ายื่นมือเข้าช่วย
แต่ถึงแม้จะมีคนกล้า
อินทรีโลหิตเื้ัของฮั่วเยี่ยนไหวก็ต่อกรได้ไม่ง่ายดายเช่นเดียวกัน
ดังนั้นจิ้งจอกน้อยจึงไม่ต้องพะวงใดๆ เพียงตั้งใจจัดการหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น
ในอดีตชาตินางต่อสู้ตามลำพังเสมอมา ทว่าตอนนี้นางเข้าใจแล้วว่าความรู้สึกของการมีคนให้พึ่งพานั้นไม่เลวเลยจริงๆ
เส้นผมของฉินจิ่นยวนกระเซอะกระเซิง เครื่องประทินโฉมเลอะเต็มใบหน้า มีกระจุกเส้นผมสีดำอยู่บนพื้น
สภาพของจิ้งจอกน้อยเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไร ขนจิ้งจอกสีขาวร่วงออกมาเป็กำ
“ท่านปู่ ช่วยข้าด้วย!” ฉินจิ่นยวนรู้สึกว่าหนังศีรษะของตนกำลังจะถูกถลกออกมา นางเจ็บจนน้ำหูน้ำตาไหล ไม่สนใจภาพลักษณ์แล้วในตอนนี้
ฉินเหลาเหยี่ยแทบทนดูไม่ไหว ฉินจิ่นยวนเสียพ่อแม่ไปั้แ่ยังเล็ก เขาเป็คนเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ ย่อมถือว่าเป็หลานสาวหัวแก้วหัวแหวน
ทว่าตอนนี้หลานสาวหัวแก้วหัวแหวนของเขากลับถูกเดรัจฉานตัวหนึ่งทำร้ายจนมีสภาพเช่นนี้ ทั้งยังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาของเขาเสียนี่!
แม้ว่าจะโมโหที่นางเอาแต่ใจ ยั่วยุคนที่ไม่ควรยั่วยุ
ทว่า...
“หยุดมือ!” ฉินเหลาเหยี่ยะโเสียงดัง
อิ๋งเฟิงเคลื่อนไหวเป็เงาดำสายหนึ่งไปยืนอยู่ตรงหน้าของฉินเหลาเหยี่ยทันที ในเวลานี้ใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์และน่ารักนั้นกลับมืดมน เขาเลียนแบบท่าทีของฮั่วเยี่ยนไหวถึงสามส่วน
“ผู้าุโฉินคิดจะต่อต้านข้าอย่างนั้นหรือ?”
ฮั่วเยี่ยนไหวนั่งอย่างเกียจคร้านบนเก้าอี้ที่ปูเบาะนุ่มๆ ที่ลูกน้องของเขายกเข้ามา นิ้วมือเคาะลงบนที่รองแขนทีละนิ้ว
เสียงเคาะฟังดูน่าอึดอัดราวกับกำลังทุบเข้าที่หัวใจผู้คน
“กระหม่อมมิกล้าพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่จิ้งจอกตัวนี้รังแกผู้คนเกินไปแล้ว!” ฉินเหลาเหยี่ยโมโหจนตัวสั่น
เห็นอยู่ชัดๆ ว่ามีโอกาสหลายครั้งที่จิ้งจอกน้อยจะข่วนหน้าของฉินจิ่นยวนได้ ทว่ามันกลับไม่ยอมลงมือเสียที
จิ้งจอกน้อยใช้วิธีหมอบอยู่บนศีรษะของฉินจิ่นยวน ครู่หนึ่งก็ดึงเส้นผมกำหนึ่ง ครู่หนึ่งก็ข่วนหนังศีรษะโดยไม่ตั้งใจ
ทั้งยังไม่ยอมข่วนในจุดที่เซ่อเจิ้งอ๋องบอกด้วย
ฉินจิ่นยวนกรีดร้องจนเสียงแหบเสียงแห้งแล้วในเวลานี้ เส้นผมหย่อมหนึ่งดก เส้นผมอีกหย่อมบาง เนื่องจากหนังศีรษะมีาแจากการโดนข่วน เืจึงไหลอาบหน้า
ดูราวกับผีผู้หญิงอย่างไรอย่างนั้น
“ช่วยไม่ได้ ข้าเพลิดเพลินยิ่งนัก หากผู้าุโฉินทนดูต่อไปไม่ไหว ก็กล่าวโทษข้าได้!”
เมื่อได้ยินถ้อยคำนี้ สายตาของไป๋เซี่ยเหอก็มองไปทางฮั่วเยี่ยนไหว หัวใจของนางเต้นระรัว
ฉินเหลาเหยี่ยโมโหจนปากซีด เขารู้ว่าวันนี้คงหนีเคราะห์กรรมไม่พ้นเป็แน่ ถึงอย่างไรเซ่อเจิ้งอ๋องก็ไม่ได้คิดที่จะปล่อยยวนเอ๋อร์ไป
ฉินเหลาเหยี่ยดูราวกับแก่ชราลงไปอีกหลายสิบปีในชั่วพริบตา เขาเดินโซซัดโซเซถอยหลัง พลางร่ำไห้ออกมาอย่างเศร้าโศก
เขารู้สึกเสียใจ หากเขาไม่ได้ให้ท้ายยวนเอ๋อร์เกินไป ยวนเอ๋อร์คงจะไม่กล้าทำให้เซ่อเจิ้งอ๋องขุ่นเคือง!
“เซ่อเจิ้งอ๋อง โปรดทรงละเว้นด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”
นี่คือสิ่งที่เขาสามารถทำเพื่อยวนเอ๋อร์ได้เป็ครั้งสุดท้าย
ฉินจิ่นยวนไม่รับรู้ความเคลื่อนไหวใดๆ เลย ความเ็ปที่แผ่ขยายไปทั่วทั้งหนังศีรษะแทบจะทำให้นางหูดับไปชั่วคราว
นางไม่เข้าใจสถานการณ์ตรงหน้า ได้แต่ะโเสียงดัง “เดรัจฉานสมควรตาย ข้าจะไม่ไว้ชีวิตเ้า จะไม่ไว้ชีวิตเ้าแน่!”
ฉินเหลาเหยี่ยแทบเป็ลมไปด้วยความปวดใจ แต่ไหนแต่ไรมาเวลาที่หลานสาวของเขาทุบตี ก่นด่า และทารุณผู้อื่น คนเ่าั้เคยทำให้นางได้รับาเ็เช่นนี้ั้แ่เมื่อใด? แล้วนางจะรู้สึกเ็ปเพียงใดกัน?
ฉินเหลาเหยี่ยไม่ได้ไม่รู้เื่ที่ฉินจิ่นยวนทารุณผู้คนจนตายอยู่บ่อยครั้ง
เพียงแต่ชีวิตอันต่ำต้อยของบ่าวรับใช้เ่าั้ ในสายตาของเขาแล้ว หากสามารถทำให้หลานสาวของเขาสนุกสนานได้ก็นับว่าเป็อานิสงส์อย่างหนึ่ง
ทว่าการแก้แค้นได้มาถึงแล้วในตอนนี้
“เหตุใดผู้าุโฉินถึงขอร้องข้า?”
ฮั่วเยี่ยนไหวหลับตา สิ่งที่เขากำลังทำคือรอให้หลีเอ๋อร์ของเขาระบายโทสะจนเสร็จเท่านั้น ความเป็ความตายของผู้อื่นเกี่ยวข้องอะไรกับเขากัน!
ฉินเหลาเหยี่ยกัดฟันแน่น ดวงตาแดงก่ำ ความเกลียดชังแผ่ขยายอยู่ในอก แค้นนี้เขาจะต้องชำระแทนหลานสาวให้จงได้!
ก็แค่จิ้งจอกตัวหนึ่งไม่ใช่หรือ!
เขา้าให้มันถูกสับเป็พันเป็หมื่นชิ้น จากนั้นก็เผามันเป็เถ้าถ่านด้วยเปลวเพลิง!
“ท่านเซียนจิ้งจอก โปรดละเว้นยวนเอ๋อร์ด้วยเถิด!”
จิ้งจอกน้อยย่อมได้ยินคำร้องขอนี้ ในเมื่ออีกฝ่ายส่งเสียงเอะอะมานาน ส่วนนางเองก็เล่นพอแล้ว จึงรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเช่นเดียวกัน
อีกทั้งอาการาเ็บนร่างของนางก็ยังไม่หายดี
จิ้งจอกน้อยใช้กรงเล็บแหลมคมเกี่ยวหนังศีรษะของฉินจิ่นยวนแล้วห้อยตัวลงมา จากนั้นใช้ฟันน้ำนมอันแหลมคมกัดเข้าที่หลอดเืแดงใหญ่บนลำคอของฉินจิ่นยวนอย่างแม่นยำ!
ฉินจิ่นยวนรวบรวมสติแล้วหันหน้าไปมองฉินเหลาเหยี่ยที่กำลังโขกศีรษะให้จิ้งจอกน้อยอยู่
นางเกลียด!
หากเป็เช่นนี้ นางนอนตายตาไม่หลับแน่
จิ้งจอกน้อยมองคราบเืที่เปรอะเปื้อนร่างของตนด้วยความไม่ชอบใจเล็กน้อย นางเองก็ถูกฮั่วเยี่ยนไหวแพร่เชื้อเสียแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะติดโรครักความสะอาดจากเขามาด้วยเล็กน้อย
สมัยที่นางเป็ทหารรับจ้าง หากไม่ได้ใช้ชีวิตท่ามกลางสายฝน ก็มักจะตกอยู่ในดงะุหรือไม่ก็ป่าดงดิบ โรครักความสะอาดไม่เกี่ยวข้องกับนางแม้แต่กระผีกริ้น
“หลีเอ๋อร์ มานี่” ฮั่วเยี่ยนไหวกวักมือเรียกจิ้งจอกน้อย
เขาถือผ้าเปียกผืนหนึ่งที่ไม่รู้ว่าเอามาจากที่ใด จิ้งจอกน้อยกระโจนไปหาเขา ก่อนจะทิ้งร่างลงบนผ้าเปียกผืนนั้นอย่างแม่นยำ
จากนั้นก็ปล่อยให้บุรุษถือผ้าเปียกทำความสะอาดคราบเืบนร่างของนาง
แค้นได้ชำระแล้ว จึงไม่จำเป็ต้องอยู่ที่จวนสกุลฉินอีกต่อไป
ภายในเกี้ยว
จิ้งจอกน้อยช้อนตามองฮั่วเยี่ยนไหว
นางรู้ว่าฮั่วเยี่ยนไหวคือเซ่อเจิ้งอ๋องที่อยู่ใต้คนผู้หนึ่ง ทว่าอยู่เหนือคนนับหมื่น ถึงอย่างนั้นฉินเหลาเหยี่ยแห่งจวนสกุลฉินก็เป็ถึงผู้าุโในราชสำนัก ทำให้อีกฝ่ายขุ่นเคืองใจเช่นนี้จะดีหรือ?
“วางใจเถิด”
ระหว่างที่ฮั่วเยี่ยนไหวกล่าวเช่นนี้ ก็กวักมือเรียกอิ๋งเฟิงให้เข้ามา
เขายื่นมือไปหยิบกระดาษปึกหนึ่งที่ยับยู่ยี่เล็กน้อยออกมาส่งให้อิ๋งเฟิงด้วยสีหน้าเ็า “นำของสิ่งนี้ไปมอบให้ฝ่าา เขาย่อมรู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไป”
อิ๋งเฟิงมองกระดาษปึกนั้น สีหน้าแปรเปลี่ยนเล็กน้อย “ท่านอ๋อง เช่นนี้จะทำให้แผนการของพวกเรายุ่งเหยิงหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
“พวกหัวมังกุท้ายั ไม่มีอะไรต้องกลัว” เขาคือผู้แข็งแกร่งโดยกำเนิด การตัดสินใจของเขาไม่มีผู้ใดคัดค้านได้
“พ่ะย่ะค่ะ!”
ท่านอ๋องว่าอย่างไรเขาก็ทำอย่างนั้น
เพียงแต่เมื่อเก็บกระดาษปึกนั้นเรียบร้อยแล้วและกำลังจะออกเดินทาง สายตาของอิ๋งเฟิงก็หยุดอยู่ที่ร่างของจิ้งจอกน้อยกับท่านอ๋อง
ผู้อื่นถูกสาวงามล่อลวงไปในทางที่ผิด
ทว่าท่านอ๋องของพวกเขาดันไม่เป็เช่นนั้น กลับลุ่มหลงจิ้งจอกเสียนี่
เฮ้อ ราวกับว่าเส้นผมของเขาพลันขาวโพลนด้วยความกลัดกลุ้ม
เมื่อกลับมาถึงจวนเซ่อเจิ้งอ๋อง คนชุดดำผู้หนึ่งก็เดินเข้ามาด้วยความเคารพ “ท่านอ๋อง มีเบาะแสเล็กน้อยพ่ะย่ะค่ะ”
ฮั่วเยี่ยนไหวหยุดฝีเท้าโดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยน “อีกประเดี๋ยวมาที่ห้องหนังสือของข้า”
เมื่อทราบว่าฮั่วเยี่ยนไหวจะพูดคุยธุระ จิ้งจอกน้อยก็ไม่ได้รบกวน นางมีจุดหมายที่ต้องไปในตอนนี้ จึงะโลงมาจากฝ่ามือของฮั่วเยี่ยนไหว
จากนั้นก็รีบวิ่งไปยังเส้นทางเดิมตามความทรงจำ
ภายในห้องหนังสือ
“คุณหนูใหญ่แห่งจวนสกุลไป๋ถูกพิษพ่ะย่ะค่ะ!” คนชุดดำยืนอยู่หน้าโต๊ะ ก่อนจะเอ่ยรายงานด้วยท่าทีสงบนิ่ง
ถูกต้อง นับั้แ่เกิดเื่ในวังเมื่อครั้งก่อน ฮั่วเยี่ยนไหวก็เกิดความสงสัยในตัวของไป๋เซี่ยเหอ จึงส่งคนไปจับตามองเป็พิเศษ
“จากนั้นเล่า?”
“จวนสกุลไป๋ตามหมอชาวบ้านมาอย่างส่งๆ มองปราดเดียวก็บอกว่ารักษาไม่ได้ เพียงแต่ในคืนนั้นกระหม่อมพบว่าสาวใช้ของคุณหนูใหญ่สกุลไป๋ยกยาชามหนึ่งเข้าไปด้านในพ่ะย่ะค่ะ”
“ยาหรือ?”
ตัวของไป๋เซี่ยเหอเองก็มีวิชาแพทย์ หากบอกว่านางรู้ล่วงหน้าว่าจะถูกพิษ จึงทิ้งยาแก้พิษไว้ก่อนก็สมเหตุสมผลเช่นเดียวกัน
เพียงแต่ไป๋เซี่ยเหอผู้นี้มีวุฒิภาวะ ไม่เหมือนเด็กอายุสิบกว่าปีสักกระผีก
น่าสนใจ
“หรือจะกล่าวให้ถูกก็คือ เืจิ้งจอกพ่ะย่ะค่ะ!”
------------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้