ตั๋วเครื่องบินจากฮ่องกงไปจงไห่ในเที่ยวบินกลางคืนนั้นจะถูกกว่าตอนกลางวันและเที่ยวบินของพวกหยางเฉินก็คือรอบสี่ทุ่ม
เมื่อถึงสนามบินจงไห่แล้ว อู๋เต๋าก็บอกลาโม่เชี่ยนนีและหยางเฉินอย่างเร่งรีบ ก่อนจะเดินนำหน้าออกจากสนามบินไปอย่างรวดเร็วการเดินทางไปเจรจาธุรกิจในครั้งนี้ทำให้เขาหวาดกลัวจนหัวหดั้แ่วันแรกที่ไปถึงนั่นทำให้เขาไม่มีโอกาสได้พลอดรักกับเลขาสาวได้อย่างที่้า
โม่เชี่ยนนีสูดหายใจลึก พร้อมกล่าวว่า "นายจะกลับบ้านเลยหรือเปล่า?"
หยางเฉินพยักหน้า "อยากให้ผมไปส่งมั้ยครับ?"
"ฉันเอารถจอดไว้ที่นี่เหมือนกันอีกอย่าง... มันคงไม่ดีเท่าไหร่" โม่เชี่ยนนีกะพริบตาพลางกล่าวต่อว่า
"นายไม่ได้เจอภรรยามาตั้งอาทิตย์หนึ่งฉันไม่กล้ารบกวนนายหรอก"
ได้ยินดังนั้นหยางเฉินก็รู้สึกได้ถึงรสชาติที่เกินบรรยาย
โม่เชี่ยนนีก้าวไปข้างหน้าสวมกอดหยางเฉินด้วยสองมือเพียงไม่กี่อึดใจเธอก็ผละออก จากนั้นหันหลังโบกมือเดินตรงไปที่ลานจอดรถทันทีแผ่นหลังที่โค้งเว้า พร้อมแสงที่ส่องสว่างในเวลากลางคืนกับท่าเดินอันมั่นใจให้ความรู้สึกอิสระอย่างไม่น่าเชื่อ
หยางเฉินมองไปที่โม่เชี่ยนนีด้วยอารมณ์ที่หลากหลายหลังจากผ่านคืนนี้ไป พวกเขาทั้งสองก็กลายเป็เพื่อนร่วมงานในบริษัทตามเดิมมันอาจดูไม่ยุติธรรมสำหรับโม่เชี่ยนนี แต่หยางเฉินก็จะปล่อยให้มันเป็ไปตามโชคชะตา
เมื่อกลับไปถึงหมู่บ้านหลงจิ่งตอนนี้ไฟในบ้านยังคงส่องสว่าง
หยางเฉินโยนกระเป๋าไปที่มุมหนึ่งของบ้านและผู้ที่นั่งอยู่ตรงโซฟาคือหลินรั่วซีนั่นเอง
หลินรั่วซีสวมชุดนอนผ้าฝ้ายหนาที่เต็มไปด้วยสีสันผมสีดำถูกปล่อยลงมา บนมือของเธอมีมือนิตยสารแฟชั่น ท่าทางของเธอทั้งสงบและดูอ่อนโยนธรรมดายิ่ง
เมื่อเห็นหยางเฉินเปิดประตูเข้ามาสายตาของหลินรั่วซีเหมือนสายน้ำที่นิ่งสงบ ไม่มีการตอบรับใดๆ ไม่แม้กระทั่งพยักหน้าทักทาย
หยางเฉินฝืนยิ้มออกมาแน่นอนว่าเขารู้นิสัยของภรรยาตัวเองดีเวลานี้หลินรั่วซีคล้ายภรรยาที่ตั้งหน้าตั้งตารอสามีกลับมาบ้านและมีท่าทางของความไม่พอใจนักที่เห็นสามีกลับมาช้า
หยางเฉินเดินตรงไปพร้อมกวาดสายตาขึ้นลงมองชุดนอนสไตล์สาวน้อยด้วยท่าทางสนใจ
"ชุดนอนอันเซ็กซี่นี้คล้ายกับชุดนอนของสาวน้อยวัยรุ่นจริงๆ"
"นี่เป็ชุดที่คุณย่าชอบให้ฉันใส่"สายตาของหลินรั่วซียังคงจดจ่ออยู่ที่นิตยสาร
"เห็นคุณใช้เงินซื้อหนังสือแบบลูกคนรวยแล้วไม่คิดว่าคุณจะเป็คนตระหนี่ที่ใส่แต่เสื้อผ้าเก่าๆ"
"วันนี้เป็วันเกิดของคุณย่าของฉันฉันคิดถึงท่านก็เลยใส่ชุดนอนชุดนี้" หลินรั่วซีตอบออกมาเบาๆ "อีกอย่างที่ฉันไม่ค่อยได้ซื้อเสื้อผ้า เพราะบริษัทของฉันก็การขายเสื้อผ้าอยู่แล้ว"
หยางเฉินไม่แปลกใจเลยที่ห้องของหลินรั่วซีมีเสื้อผ้ามากมายนั่นเพราะเธอไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆเสื้อผ้าหรูหราคุณภาพดีก็ถูกส่งตรงมาที่บ้านแล้ว!
หลินรั่วซีหยิบถ้วยกาแฟขึ้นมาจิบเบาๆพร้อมเอ่ยถามว่า
"การเจรจาราบรื่นหรือเปล่า?"
"คุณอยากได้กระบวนการหรือผลลัพธ์ล่ะครับ?"
"มันต่างกันยังไง?"หลินรั่วซีถาม
"กระบวนนั้นน่าตื่นเต้นและหวาดเสียว มีทั้งเื่สนุกและหักมุมมากมายแต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็เป็ไปอย่างราบรื่น ไม่ติดขัดอะไร" หยางเฉินตอบ
หลินรั่วซีตัดสินใจเงยหน้ามองหยางเฉิน
"นายพอจะบอกรายละเอียดเื่ราวอันน่าตื่นเต้นและหวาดเสียวนั่นให้ฉันฟังได้หรือเปล่า?"
"อันที่จริงมันก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ มันเป็แค่ปัญหาเล็กน้อยที่เกิดขึ้นภายในตระกูลหลี่เท่านั้นอ่อ ยังมีเื่ที่ซูจื้อหงมาอีก คู่แข่งของเรามันพาลหาเื่นิดหน่อยด้วย"หยางเฉินกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
หลินรั่วซียืนขึ้นทันที เธอจ้องเขม็งมาที่หยางเฉินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเ็าว่า
"มือสังหาร ะเิชีวภาพเื่ลักพาตัวอีก หลี่มู่เฉิงถูกฆ่าตาย นี่น่ะหรือความขัดแย้งเล็กน้อย!? ปะทะกับมือปืนสามคนในภัตตาคารเก้าั นี่น่ะหรือปัญหาเล็กๆ!? หยางเฉิน ฉันไม่ใช่เด็กน้อยไร้เดียงสาที่นายจะมาหลอกกันได้ง่ายๆ นะ!?"
หยางเฉินหัวเราะ "สมกับที่เป็ซีอีโอของบริษัทั์ใหญ่จริงๆขนาดคุณไม่ได้ไปฮ่องกง คุณยังรู้เื่ทั้งหมด ทุกความเคลื่อนไหวในเมื่อคุณรู้อย่างนี้แล้ว คุณยังจะถามผมทำไมอีกล่ะครับ?"
"ฉันอยากรู้ว่านายจะพูดความจริงกับฉันหรือเปล่า"
"ผมรู้ว่าผมไม่ได้พูดความจริง"หยางเฉินกล่าวต่อไปว่า "แต่ผมคิดว่าไม่ควรจะทำให้ประธานหลินต้องรู้สึกเป็ปัญหา"
หลินรั่วซีจ้องมองรูปลักษณ์ที่ไม่แยแสของหยางเฉินด้วยความคับข้องใจ ผู้ชายคนนี้ไม่ซื่อสัตย์กับตัวเองและยังตอบสนองอย่างเฉื่อยชาอีกด้วย
"เกิดเื่มากมายขนาดนั้นทำไมยังไม่โทรหาฉัน?" หลินรั่วซีสงบสติอารมณ์เอ่ยถามอย่างใจเย็น
หยางเฉินตอบอย่างเคร่งขรึมว่า
"ถ้าผมโทรหาคุณแล้วคุณจะทำอะไรได้เรียกตัวพวกเรากลับงั้นหรือ? หรือจะมาสู้รบกับผู้ก่อการร้ายและนักฆ่ากับพวกเราล่ะ?"
"แต่ฉันเป็เ้านายของนายไม่ว่าอะไรจะเกิดนายสมควรต้องรายงานให้ฉันรู้!" หลินรั่วซีกล่าวอย่างไม่พอใจ
"ผมขอโทษ ถ้าคุณถามในฐานะเ้านายล่ะก็ผมก็คิดว่าสิ่งเดียวที่ผมจะต้องรายงานคือ การทำงานที่สำเร็จลุล่วงหรือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับงานเท่านั้น ส่วนเื่อื่นๆ ล้วนเป็เื่ส่วนตัวผมไม่คิดว่าผมจะต้องรายงานเื่พวกนั้นด้วย" หยางเฉินหยุดชั่วครู่ก่อนกล่าวต่อว่า
"และในฐานะภรรยาแล้ว ผมคิดว่าเมื่อสามีของคุณประสบกับอันตรายและคุณก็รู้อยู่แล้ว อย่างแรกที่คุณต้องทำคือคุณต้องกล่าวว่าเตือนผมที่ผมไม่ได้บอกคุณ เพราะว่าผมกลัวว่าสมาชิกในครอบครัวจะเป็ห่วงแต่ในเมื่อคุณไม่ได้ทำอะไรเลย นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาของผม..."
คำพูดของหยางเฉินคล้ายดั่งสายฟ้าฟาดลงกลางศีรษะของหลินรั่วซีถึงแม้ว่าเธอจะเป็ห่วงความปลอดภัยของหยางเฉิน และโม่เชี่ยนนีแต่เธอก็ไม่ได้โทรหาพวกเขา
ั้แ่เล็กจนโต เธอมักจะเป็ฝ่ายถูกดูแลมาตลอดดังนั้นเธอจึงไม่เคยคิดถึงเื่การโทรหาคนอื่นเพื่อถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเพราะความสามารถพิเศษของเธอ คือการวิเคราะห์สถานการณ์ที่เฉียบขาดรวมทั้งบุคลิกที่เ็าดุจน้ำแข็งนั่นจึงเป็เื่ยากสำหรับเธอที่จะเป็ฝ่ายดูแลคนอื่น
แต่เมื่อโดนหยางเฉินสวนกลับมาเช่นนี้หลินรั่วซีก็ยังเถียงหัวชนฝา
"ฉันเป็ห่วงนายขนาดนี้แท้ๆทำไมนายถึงพูดกับฉันแบบนี้!"
หยางเฉินหัวเราะพลางกล่าวว่า
"ความเป็ห่วงของประธานหลินนั้นพิเศษจริงๆผู้ชายขายแพะย่างในตลาดเสียชีวิตที่ฮ่องกงคงไม่สำคัญอะไรสามีที่ไม่ได้เื่อย่างผมคงเป็ภาระให้คุณนั่นล่ะนะ"
"หยางเฉิน นาย... นาย..."หลินรั่วซีโกรธจนตัวสั่นภายใต้ชุดนอนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างต่อเนื่อง ั์ตาของหลินรั่วซีเริ่มมีน้ำเอ่อล้นออกมาจากนั้นเธอก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้อีก
แต่หยางเฉินเองก็ไม่ใช่นักบุญที่สามารถทนรับการดูถูก หรือความไม่แยแสสนใจครั้งแล้วครั้งเล่าได้ในเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่เกี่ยวพันถึงความตาย แต่เขาก็ยังถูกเมินเฉย และไม่แม้แต่จะถามไถ่ว่าเกิดเื่อะไรขึ้นนั่นเป็สิ่งที่ยากจะยอมรับได้
เมื่อนึกถึงโม่เชี่ยนนีที่ปฏิบัติกับเขาอย่างดีแล้วแต่กลับกันแล้วหลินรั่วซีก็ไม่แม้แต่จะเอ่ยคำต้อนรับเขา นั่นทำให้หยางเฉินรู้สึกขุ่นเคืองใจขึ้นมา
หยางเฉินอดทนเป็อย่างมากในบังคับตัวเองเพื่อไม่ให้จับหลินรั่วซีมาตีก้นเขาสูดลมหายใจลึกพร้อมกล่าวว่า
"สุดท้ายคุณก็แสดงให้เห็นว่าทุกคนล้วนสามารถทำผิดได้แต่สิ่งที่น่ากลัวคือพวกเขากลับไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่ได้ทำลงไป ถึงคุณจะร่ำรวยมีเงินมากมายมหาศาล แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะทำตัวเป็ศูนย์กลางของทุกอย่างอย่างน้อยในฐานะสามี ผมไม่้าภรรยาแบบคุณ!"
หยางเฉินพูดจบก็หันหลังเดินไปที่ประตูบ้านทันที
เมื่อเห็นหยางเฉินเริ่มเดินออกจากบ้านหลินรั่วซีก็รู้สึกเ็ปที่หัวใจอย่างรุนแรง... เธอไม่ได้เป็เพียงหัวหน้าของเขาแต่ยังเป็ภรรยาของเขาด้วย...
หลินรั่วซีเริ่มตระหนักได้ว่าทั้งเธอและเขาต่างพูดจาไร้เหตุผลมากขึ้นเรื่อยๆแต่ด้วยศักดิ์ศรีที่ค้ำคอแล้ว เธอจึงไม่อาจอ่อนข้อให้หยางเฉินได้
"ไปแล้วก็อย่ากลับมา!"หลินรั่วซีสะอื้น เอ่ยขึ้นด้วยเสียงอันเบา
ประสาทััของหยางเฉินนั้นดีเยี่ยมผิดมนุษย์แม้เพียงเสียงกระซิบลอยมาตามสายลมเพียงเบาบาง แต่เขาก็ได้ยินมันได้อย่างชัดเจนเขาตอบกลับไปทันทีว่า
"ไม่ต้องห่วง ไม่มีผู้หญิงคนไหนๆขอร้องให้ผมไปหรอก"
พูดจบหยางเฉินก็เดินออกไปพร้อมเสียงประตูที่ปิดลง
"ปัง !"
หลินรั่วซีได้ยินเสียงกระแทกของประตูได้อย่างชัดเจนร่างกายของเธออ่อนยวบทรุดลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรงพร้อมน้ำตาที่หลั่งไหลออกมาดั่งสายน้ำ