“เอ๋?”
คำของเสิ่นเสวียนทำให้ไป๋อู๋ฉางตกตะลึง เหมือนจะมีบางอย่างไม่ถูกต้อง
“ข้ารับผิดชอบจัดการความเป็ความตายของพวกเ้า เ้ากล้าดีอย่างไร”
ไป๋อู๋ฉางค่อยๆ สงบนิ่งลง กล่าวกับเสิ่นเสวียนอีกครั้ง แต่กลับรู้สึกจิตใจอ่อนแรงลง
เฮยไป๋อู๋ฉางคือผู้ชักนำิญญา ที่ชักนำไปได้มีเพียงคนอ่อนแอเท่านั้น เขามิอาจควบคุมคนที่มีจิตใจแกร่งกล้าอย่างเสิ่นเสวียนได้ หากไม่ทำให้อีกฝ่ายหวาดกลัวเสียก่อนคงทำอะไรไม่ได้แล้วจริงๆ
“เ้าเป็ตัวปลอม เ้าคือภาพมายาของงูหน้าผี”
เสิ่นเสวียนรู้สึกผ่อนคลายลงทันที เขากล่าวกับอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มเย็น เหมือนกับทุกอย่างอยู่ในกำมือของเขาแล้ว
เขาเคยแสดงอำนาจไว้ในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรตั้งมากมาย แม้จะเข้าอาณาจักรเซียนไม่ได้ แต่กลับไปเยือนยมโลกอยู่บ่อยครั้ง เฮยไป๋อู๋ฉางโดนเขาสั่งสอนไปไม่รู้กี่ครั้ง เมื่อเจอหน้าเขาจะหวาดกลัวจนขาอ่อนแรง แม้จะมาเกิดใหม่แล้ว แต่เฮยไป๋อู๋ฉางต้องจำเขาได้อย่างแน่นอน
ส่วนผู้ที่อยู่ตรงหน้านี้กลับไม่รู้จักเขาเลย เช่นนั้นก็มีความเป็ไปได้เพียงอย่างเดียว นั่นคืออีกฝ่ายเป็ตัวปลอม
“เ้ารู้ได้อย่างไร”
ไป๋อู๋ฉางมองเสิ่นเสวียนด้วยสีหน้าใ ไม่มีไอิญญาแผ่กระจายออกมาเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว เดิมทีคิดว่าภาพมายาของตนเป็ที่เลื่องลือจะทำให้อีกฝ่ายหวาดกลัวได้ คิดไม่ถึงว่าจะไม่เป็ผลเลย
สัตว์วิเศษขั้นหกอย่างงูหน้าผีความจริงแล้วยากที่จะสังหารให้ตายได้ ก็เหมือนกับขั้นหยวนก่อกำเนิดในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียร แม้จะสังหารร่างเนื้อสำเร็จ แต่พลังจิติญญาของอีกฝ่ายก็ยังสามารถกลืนกินเราได้อยู่
ก่อนหน้านี้ร่างกายโดนะเิจนพลังชีวิตหมดสิ้น แต่งูหน้าผีก็ตัดสินใจสละร่างเนื้อของตนเองไป มันััได้ถึงความแข็งแกร่งของเสิ่นเสวียน การยึดครองร่างเพื่อเกิดใหม่ดีกว่าฝึกฝนเองมาก ดังนั้นมันจึงแสดงภาพมายาของไป๋อู๋ฉางที่เคยมีวาสนาต่อกัน
แต่มันประเมินเสิ่นเสวียนต่ำเกินไป ทำให้มันพ่ายแพ้เสียทุกทาง
หากเสิ่นเสวียนโดนขู่ให้ใกลัวได้ เช่นนั้นเขาก็คงไม่ใช่เสิ่นเสวียนแล้ว
“เพราะข้ารู้จักเขาอย่างไรล่ะ”
เสิ่นเสวียนกล่าวกับอีกฝ่ายเสียงเรียบ
“รู้จัก? ไม่มีทาง!”
งูหน้าผีใมาก ท่านผู้นั้นเป็ถึงตำนาน แม้แต่สัตว์วิเศษที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้ยังเปราะบางมากเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา เสิ่นเสวียนจะรู้จักกับเขาได้อย่างไร
“โลกนี้กว้างใหญ่นัก ใช่ว่าเ้าจะล่วงรู้ทุกสิ่ง จงสลายไป!”
เสิ่นเสวียนะโออกไป คลื่นพลังเสียงที่แข็งแกร่งแปรเปลี่ยนเป็สายลมพัดเอาร่างของไป๋อู๋ฉางแตกสลายหายไป
“อ๊าก!!!”
มันส่งเสียงร้องโหยหวนออกมาก่อนที่ร่างจะสลายไปจนสิ้น
ทุกอย่างเงียบสงบลงแล้ว
เสิ่นเสวียนยังคงนั่งดูดซับพลังอยู่ตรงนั้นเงียบๆ เสี่ยวเหยียนก็นั่งเฝ้าอยู่ข้างๆ ทว่ามันกลับไม่รับรู้เื่ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้เลย
เสิ่นเสวียนอยู่ในสมาธิมาตลอด ไม่เห็นใครอื่นเลย ยิ่งไป๋อู๋ฉางผู้นั้นด้วยแล้ว
เสิ่นเสวียนลืมตาขึ้นแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขายิ้มอยู่ครู่ใหญ่ เมื่อครู่อีกฝ่ายสร้างภาพมายาขึ้นมาในจิตสำนึกของเขาเท่านั้น โลกภายนอกไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย หากอีกฝ่ายยึดครองร่างสำเร็จ ตอนนี้เขาคงกลายเป็ร่างยึดครองของิญญางูหน้าผีไปแล้ว
เสิ่นเสวียนลุกขึ้นยืน มือยื่นออกไปคว้าหนังของงูหน้าผีเก็บใส่เข้าไปในมิติของผังเมืองซานเหอ สิ่งนี้คือวัตถุดิบชั้นเลิศ รอให้มีเวลาสร้างเกราะสักชุดหนึ่ง แม้แต่ผู้บำเพ็ญเพียรขั้นหยวนก่อกำเนิดก็ยากที่จะทำลายได้
“เสี่ยวเหยียน พวกเราควรออกเดินทางแล้ว”
เสิ่นเสวียนกล่าวกับเสี่ยวเหยียนที่นั่งอยู่ข้างๆ พลางยิ้ม
“จี๊ด จี๊ด”
เสี่ยวเหยียนเหาะขึ้นทันทีด้วยท่าทางร่าเริง
เวลานี้ยังเป็่รุ่งสาง ดวงอาทิตย์ยังไม่โผล่พ้นขอบฟ้า ภายในป่ายังหนาวเย็นอยู่เล็กน้อย
เสิ่นเสวียนและเสี่ยวเหยียนช่วยกันเก็บกวาด จากนั้นจึงออกไปจากที่แห่งนั้น
เขายังไม่ได้เดินทางกลับ ทว่าเดินไปตามเส้นทางที่งูหน้าผีเข้ามาก่อนหน้านี้
งูหน้าผีมีร่างกายใหญ่โต ต้องหลงเหลือร่องรอยเอาไว้ที่พื้นอย่างชัดเจนแน่ๆ พวกเขาตามรอยนั้นไปอย่างรวดเร็วจนถึงสถานที่ที่ห่างออกไปสามสิบลี้
ที่นี่ต้นไม้สูงใหญ่และหนาทึบบดบังท้องฟ้า ดูเขียวขจียิ่งกว่าที่อื่นไม่รู้กี่เท่า ทั้งยังอากาศเย็นมากอีกด้วย
“เป็อย่างที่คาดไว้”
เสิ่นเสวียนมองสภาพแวดล้อมโดยรอบ ไอิญญาล่องลอยอยู่ในอากาศ แล้วเขาก็พยักหน้า
เขาเดาไว้ไม่ผิด ที่นี่คือแดนิญญาจริงๆ และมีเพียงแดนิญญาเท่านั้นที่จะมีงูหน้าผีถือกำเนิดขึ้นมาได้
แดนิญญา หากกล่าวกันตามตรงก็คือสถานที่ที่ถูกไอิญญาซึ่งเป็พลังหยินหล่อเลี้ยงมาอย่างยาวนาน ทำให้มนุษย์มิอาจอาศัยอยู่ในบริเวณนั้นได้ คนธรรมดาเข้ามาที่นี่จะทำให้ร่างกายอ่อนแอลงได้ง่าย ไอพลังหยางเสื่อมถอย ในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรมีแดนิญญาอยู่สามแห่ง คือเมืองิญญาเฟิงตูทางทิศตะวันออก เขตแดนหนาวเหน็บทางทิศตะวันตก และวังวนมรณาทางทิศเหนือ
ส่วนที่นี่คือทางออกสู่โลกมนุษย์จากยมโลก แม้จะปิดผนึกไว้แ่าเพียงใดก็มีไอิญญาเล็ดลอดออกมาอยู่ดี จึงกลายเป็แดนิญญาอย่างที่เห็น
และที่นี่ก็คือหนึ่งในแดนิญญา รวมเข้ากับไป๋อู๋ฉางที่งูหน้าผีแสดงเป็ภาพมายาออกมาก่อนหน้านี้ แสดงว่ามันเคยเจอไป๋อู๋ฉางมาก่อน เสิ่นเสวียนจึงมั่นใจว่าที่นี่คือทางเข้ายมโลก
เมื่อเจอทางเข้า ก็สามารถหาเส้นทางกลับไปยังโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรได้
“กี๊ด กี๊ด!”
ทันใดนั้นเสี่ยวเหยียนที่เหาะอยู่ข้างๆ กลับมีสีหน้าดุร้าย สายตามองตรงไปข้างหน้า เปลวเพลิงลุกโชนขึ้นทั่วร่าง
แต่เปลวเพลิงของมันไม่ได้ส่งผลต่อที่นี่มากนัก ในทางตรงกันข้ามกลับกลายเป็เป้านิ่งให้อีกฝ่าย
เบื้องหน้าพวกเขามีแมงมุมสีดำตัวใหญ่สองตัว แต่ละตัวสูงเท่ามนุษย์ และพวกมันกำลังมองพวกเขาอยู่
ขาแมงมุมเปล่งประกายเรืองรองในความมืด คล้ายกับมีผลึกน้ำแข็งห่อหุ้มไว้
แมงมุมปีศาจใต้ดินเกิดอยู่ในแดนิญญาเหมือนกับงูหน้าผี แม้ว่าแมงมุมปีศาจใต้ดินสองตัวนี้จะไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับงูหน้าผีแต่ก็อยู่ในขั้นห้า ยิ่งไปกว่านั้น รอบด้านยังมีสัตว์วิเศษมามุงดูอีกมากมาย จะสู้กันตอนนี้ไม่ใช่เื่ฉลาด
คิดได้ดังนั้น เสิ่นเสวียนพลันแสดงไอพลังธาตุน้ำแข็งออกมาปกคลุมไอพลังเปลวเพลิงบนร่างของเสี่ยวเหยียนเอาไว้ เพื่อให้ธาตุของมันใกล้เคียงกับที่นี่มากที่สุด
นี่คือพลังของงูหน้าผีที่เขาเอามาใช้ได้พอดี
หลังจากเสิ่นเสวียนพรางตัวให้เสี่ยวเหยียนแล้ว เขาก็แสดงไอพลังธาตุน้ำแข็งออกมาพรางตนเองเช่นกัน
แล้วก็เป็อย่างที่คิดไว้ เมื่อใช้ไอพลังธาตุน้ำแข็งปกคลุมร่างกายไว้ แมงมุมดำสองตัวนั้นก็ไม่เห็นพวกเขาเป็ศัตรูอีก พวกมันเพียงแค่ปรายตามองแล้วก็วิ่งไปข้างๆ อย่างรวดเร็ว
ไอพลังบนร่างของพวกเขาคือไอพลังของงูหน้าผีขั้นหก เหนือกว่าแมงมุมปีศาจใต้ดินอยู่หนึ่งขั้น พวกมันต้องรู้สึกหวาดกลัวอยู่แล้ว ในขณะเดียวกัน สัตว์วิเศษอื่นๆ ที่เห็นพวกเขาเป็ศัตรูก่อนหน้านี้ เมื่อััได้ถึงไอพลังของงูหน้าผีก็พากันแยกย้ายไป
เห็นได้ชัดว่าที่นี่งูหน้าผีมีอำนาจมาก
และหลังจากมีไอพลังคล้ายคลึงกับที่นี่แล้ว พวกเขาก็สามารถเคลื่อนไหวได้ตามอำเภอใจ
เสิ่นเสวียนใช้พลังจิติญญาตรวจสอบอย่างระมัดระวัง ดูว่าจะหาทางเข้ายมโลกเจอหรือไม่
หลังจากนั้นหนึ่งเค่อเสิ่นเสวียนก็หาถ้ำที่มีไอิญญาหนาแน่นเจอ และยังมีไอิญญาพวยพุ่งออกมาจากในนั้นตลอดเวลา
เมื่อมาถึงปากถ้ำ เสิ่นเสวียนหรี่ตามองพลางครุ่นคิดว่าจะเข้าไปดีไหม
ยมโลกหาใช่สถานที่ที่จะเข้าไปเที่ยวเล่นได้ มันเต็มไปด้วยอันตรายยิ่งกว่าโลกภายนอก ก่อนหน้านี้เขามาตามหาก็เพราะอยากเจอเส้นทางกลับไปยังโลกแห่งการบำเพ็ญเพียร
ทว่าตอนนี้เขาเกิดลังเลขึ้นมา
“เสี่ยวเหยียน เ้าเชื่อใจข้าไหม”
เสิ่นเสวียนหันมองเสี่ยวเหยียนที่อยู่ข้างๆ แล้วถาม
“จี๊ด จี๊ด” เสี่ยวเหยียนพยักหน้าอย่างว่าง่าย
“ข้าอยากเข้าไปในนั้นสักหน่อย หากพบเจออันตรายข้าจะถอยออกมา เ้าเข้าไปหลบในมิติก่อนเถอะ”
“จี๊ด จี๊ด” เสี่ยวเหยียนพยักหน้าอีกครั้ง
จากนั้นมิติก็สั่นไหว เสี่ยวเหยียนถูกเสิ่นเสวียนส่งเข้าไปภายในมิติของผังเมืองซานเหอ ทำให้ตอนนี้เหลือเพียงเสิ่นเสวียนคนเดียว
แล้วเขาก็ย่างเท้าเข้าไปในถ้ำ