บริสุทธิ์ โดยไม่มีสิ่งแปดเปื้อนแม้แต่น้อย ความงดงามตามธรรมชาติของนางอยู่เหนือกว่าโฉมงามใดๆที่เจียงเฉินเคยพบเจอมา เจียงเฉินเป็นักบุญผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในใต้หล้า เขาได้พบกับสาวงามมากมาย เมื่อตอนเขาได้อยู่บนจุดสูงสุด แม้แต่นักบุญหญิงที่งดงามที่สุดก็ได้ถวายตัวแก่เจียงเฉิน แต่เจียงเฉินสนใจแต่การบ่มเพาะ เขาไม่้าที่จะวอกแวกเพราะผู้หญิง นั่นเป็สาเหตุว่าทำไมเขาถึงไม่ชายตามองเหล่านักบุญที่บริสุทธิ์แม้แต่ครั้งเดียว
แต่เด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าเขา ทำให้เขาไม่อาจที่จะถอนสายตาออกได้ เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขาตกหลุมรักแรกพบ ในความเป็จริงแล้ว ในด้านการฝึกตน เจียงเฉินเป็บรรพบุรุษยุคโบราณ แต่เื่เกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เขานั้นเป็เพียงแค่มือใหม่เท่านั้น
เด็กสาวผู้นี้คือคุณหนูตระกูลเยี่ยน เยี่ยนเฉินหยวี่ (สายฝนยามเช้า)
เยี่ยนหยวี่โหรวเดิมมิได้ถูกเรียกว่าเยี่ยนหยวี่โหรว ที่ชื่อว่าเยี่ยนหยวี่โหรวนั้นมีหลังจากเยี่ยนเฉินหยวี่ได้ถือกำเนิดแล้ว โดยตั้งชื่อตามชื่อบุตรสาวของตน สามารถบอกได้ง่ายๆว่าเยี่ยนเจิ้นอวิ๋นรักบุตรสาวมากเพียงใด
เยี่ยนเฉินหยวี่เงยหน้าขึ้นมองไปยังเจียงเฉินด้วยรอยยิ้มนางฟ้า สายตานางใสซื่อ รอยยิ้มสะอาดบริสุทธิ์ นางดูเหมือนเทพธิดาจาก์
แต่สีหน้าเยี่ยนเฉินหยวี่นั้นขาวซีด นางดูเหมือนผู้ป่วย แม้ว่านางจะป่วยเป็เวลานานแล้ว แน่นอนว่าไม่กระทบถึงความงามของนาง
"เฮ้ย เ้าหนู เ้ามองอะไรของเ้า ห๊ะ!"
ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์ะโใส่เจียงเฉิน
เจียงเฉินได้รู้สึกตัว และตระหนักว่าจิตใจเขาล่องลอยหลงทางไปซะแล้ว
'นี่มันอะไรกัน นี่ข้าถึงขนาดเคลิ้มไปเลยรึเนี่ย มันเป็เื่ที่น่าขบขันที่สุดในรอบปีเลยนั่น อย่าบอกนะว่ามันเกิดขึ้นเพราะความรักน่ะ?'
เจียงเฉินถึงกับพูดไม่ออก คนอย่างเขาได้ลืมความรู้สึกเคลิบเคลิ้มถวิลหาเป็เวลายาวนานแล้ว เขาได้รับประสบการณ์ความรู้สึกเช่นนี้อีกครั้งเพราะคุณหนูผู้นี้ เื่นี้เป็เื่น่าอับอายอย่างมากสำหรับคนอย่างเขา
"เ้าจะะโใส่ข้าทำไมกัน? หากข้าไม่มองคุณหนูเ้า แล้วข้าจะรู้ถึงโรคร้ายของนางรึ?"
เจียงเฉินได้จ้องผู้เชี่ยวชาญแก่นมนุษย์คนนั้น กล่าวออกมาอย่างไม่ไว้หน้า เพื่อปกปิดความอับอายของตน
"เ้า ....ดี เ้ารักษาหยวี่เอ๋อร์ให้ดีล่ะ มิเช่นนั้นล่ะก็ บิดาผู้นี้จะให้บทเรียนแก่เ้า"
ผู้เชี่ยวชาญแก่นมนุษย์คนนั้นโกรธมาก ด้วยสถานะของเขา ไม่มีใครกล้าที่จะพูดเช่นนี้กับเขา โดยเฉพาะรุ่นเยาว์
"พอที!"
เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นกล่าวสงบสติทุกคน และเดินไปหาเยี่ยนเฉินหยวี่ "หยวี่เอ๋อร์ ตอนนี้รู้สึกเช่นไรบ้าง?"
"ท่านพ่อ ลูกสบายดีเ้าค่ะ"
เยี่ยนเฉินหยวี่ตอบกลับมา เสียงของนางดั่งสายฝน ได้ยินแล้วผ่อนคลายยิ่งนัก
"หยวี่เอ๋อร์ ข้าขอแนะนำ นี่น้องชายเจียงเฉิน เขากล่าวว่าเขาสามารถรักษาอาการป่วยเ้าได้"
เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นมองบุตรีของเขา ในใจของเขาเ็ปและเศร้าโศกยิ่งนัก
"ท่านพ่อ ได้วินิจฉัยโรคของลูกเสร็จสิ้นแล้วมิใช่หรือเ้าคะ ว่าอาการป่วยของลูกไม่สามารถรักษาให้หายได้"
เยี่ยนเฉินหยวี่ส่ายหัว
สายตาเจียงเฉินตกไปยังเยี่ยนเฉินหยวี่อีกครั้ง ทุกๆคนที่อยู่ที่นี่อยู่ระดับแก่นแท้มนุษย์ทั้งสิ้น เขาไม่ได้ใช้ััเทวะเพื่อตรวจสอบนาง ััเทวะของเขายังอ่อนแอเกินไป และเยี่ยนเจิ้นอวิ๋นที่อยู่ระดับแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลายนั้นสามารถตรวจพบได้ง่ายดายถ้าเขาใช้ััเทวะ
อย่างไรก็ตาม สายตาของเจียงเฉินเฉียบคมดุจดั่งนกอินทรีย์ เขาสามารถััได้ถึงพลังปราณของนาง เขาค่อยๆวินิจฉัยอย่างระมัดระวังและในที่สุดเขาก็ได้ข้อสรุป
"คุณหนูเยี่ยน ข้าขอถามเ้าทุกครั้งที่อาการกำเริบ เ้ารู้สึกหนาวเหน็บดั่งมีน้ำแข็งมาเกาะทั่วร่าง ราวกับว่ามีธารน้ำแข็งไหลเวียนอยู่ในร่างกายและแช่แข็งอวัยวะภายในของเ้าสินะ"
เจียงเฉินถาม
เยี่ยนเฉินหยวี่ที่กำลังสิ้นหวัง ทันใดนั้นดวงตาของนางได้ทอประกายขึ้นมา ดวงตาคู่งามของนางจับจ้องไปที่เจียงเฉิน และริมฝีปากอันหอมหวานของนางได้เปิดออกเล็กน้อย
"คุณชายเจียงกล่าวถูกแล้ว ข้ามีนามว่า เยี่ยนเฉินหยวี่เ้าค่ะ"
เยี่ยนเฉินหยวี่ก้มหัวเล็กน้อยให้กับเจียงเฉิน
เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นและคนอื่นๆเผยถึงความประหลาดใจขึ้นมา เพียงแค่มองครั้งเดียวชายหนุ่มผู้นี้สามารถวินิจฉัยได้ว่านางมีอาการเจ็บป่วยอย่างไร เจียงเฉินเป็คนแรกที่ทำเช่นนี้ได้ นั่นทำให้พวกเขาให้ความสำคัญกับเจียงเฉินมากขึ้น
"ขอข้าถามเ้าอีกนะ เมื่ออาการกำเริบในแต่ละครั้ง ร่างกายของเ้าจะเริ่มสั่น โลหิตจะโดนแช่แข็ง เ้าจะหายใจลำบาก ราวกับกำลังจะตายสินะ ถึงแม้ว่าเ้าจะหมดสติ เ้าก็รู้สึกได้ว่าภายในร่างของเ้ามีบางสิ่งที่คล้ายกับอสรพิษเคลื่อนไหวภายในร่างของเ้า มันยิ่งทำให้เ้ารู้สึกเ็ปใช่ไหม?"
เจียงเฉินถามออกมาอีกครั้ง
"ใช่แล้วเ้าค่ะ มันเป็ไปตามนี้"
เยี่ยนเฉินหยวี่ยิ่งรู้สึกประหลาดใจ ความรู้สึกนั้นเป็ความรู้สึกที่นางไม่อาจอธิบายได้ และทุกครั้งนางจะหมดสติเพราะความเ็ป แต่มีสิ่งหนึ่งที่นางแน่ใจคือเหมือนมีอสรพิษเคลื่อนที่ภายในร่างกาย มันบอกได้ว่ามีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในร่างกายและเริ่มทำลายร่างกาย
"อาการป่วยของเ้าได้กำเริบมาแล้วเจ็ดครั้ง และมันมาทุกๆปี ความหนาวเหน็บในร่างกายยิ่งทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นทุกๆครั้ง ข้าพูดถูกหรือไม่ หากสิ่งที่ข้าพูดนั้นถูกต้อง อาการกำเริบครั้งที่ผ่านมาเหมือนมีดาบน้ำแข็งเชือดเฉือนภายในร่างกายจากด้านใน ทำลายทุกสิ่งสินะ"
เจียงเฉินพูดออกมาอีกครั้ง
ทุกๆคนต่างรู้สึกตื่นเต้น มุมมองที่พวกเขามีต่อเจียงเฉินได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
"สิ่งที่น้องเจียงเฉินกล่าวช่างแม่นยำยิ่งนัก อาการกำเริบครั้งล่าสุดนั้น ความหนาวเหน็บได้แผ่ออกมาด้านนอกร่างกาย พวกข้าไม่สามารถที่จะเข้าไปใกล้นางได้ มันเหมือนดาบน้ำแข็งทำลายทุกอย่างในห้อง เกือบทำให้เรือนที่พักของนางถล่มอีกด้วย"
เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้นสุดๆ ราวกับเขาได้พบกับความหวัง
เยี่ยนเิที่อยู่ข้างๆตาเป็ประกาย เขาไม่เคยคาดคิดว่าเจียงเฉินนั้นจะมีรอบรู้เช่นนี้ ถ้าหากเจียงเฉินสามารถที่จะรักษาคุณหนูได้ เขาที่เป็คนพามาก็จะได้รับผลตอบแทนที่ดีอีกด้วย
"คุณชายเจียง โรคของข้าสามารถรักษาได้หรือไม่เ้าคะ?"
ดวงตาของเยี่ยนเฉินหยวี่แสดงถึงได้พบความหวัง
"รักษาได้หรือไม่?"
เจียงเฉินได้แค่นเสียงหัวเราะออกมาคำหนึ่ง นางได้เกิดมาพร้อมกับ จุดชีพจรหยินทั้งเก้าและร่างเก้าหยินที่สืบทอดมาแต่โบราณ ร่างกายแบบนี้หาได้ยากยิ่งมันปรากฎทุกๆหมื่นปี และเ้าพวกโง่นี้คิดจะทำลายมัน
เจียงเฉินรู้สึกเหมือนต่อว่าพวกเขา
"คุณหนูเยี่ยน ข้าขอตรวจชีพจรดูหน่อยนะ"
เจียงเฉินกล่าว
"ได้สิ! หยวี่เอ๋อร์เ้านั่งลงเร็วเข้า ให้น้องเจียงเฉินตรวจชีพจรเ้า"
เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นพูดอย่างเร่งรีบ เมื่อเป็เพียงความหวังเดียว เขาจะไม่ยอมเสียมันไปแน่
"เ้าค่ะ"
เยี่ยนเฉินหยวี่ผงกหัวตอบรับ ก่อนที่จะเดินไปช้าๆและนั่งลง แล้วยื่นแขนออกมาให้เจียงเฉิน
เจียงเฉินได้นั่งอยู่ด้านตรงข้ามของเยี่ยนเฉินหยวี่ เขาวางนิ้วมือสองนิ้วไว้บนข้อมือของนาง ข้อมือของนางเย็นมาก แต่ผิวของนางเนียนนุ่ม อย่างไรก็ตามครั้งนี้เจียงเฉินจะไม่ยอมให้วอกแวกอีกเป็ครั้งที่สอง
ััเทวะของเจียงเฉินแปรเปลี่ยนเป็กระแสพลังเข้าไปยังร่างกายของเยี่ยนเฉินหยวี่โดยตรงผ่านนิ้วมือของเขา เขาพบว่าร่างกายของนางในตอนนี้ มีจุดชีพจรหยินทั้งแปดอยู่ ทุกๆสิ่งเหมือนสะพานภายในร่างกายนาง แต่จุดชีพจรทั้งแปดได้ถูกเปิดแล้วนี่ได้ถูกปกคลุมด้วยพลังความร้อนบางอย่าง ทำให้คนทั่วไปไม่สามารถที่จะตรวจพบได้
หลังจากวินิจฉัยทุกๆส่วนของร่างกายเยี่ยนเฉินหยวี่เสร็จ ท่าทางของเจียงเฉินได้แปรเปลี่ยนไปอย่างมาก
ปัง!
เจียงเฉินทุบโต๊ะทำให้โต๊ะไม้กลายเป็ชิ้นเล็กชิ้นน้อย
"ระยำ! พวกเ้านี่มันระยำจริงๆ!!"
เจียงเฉินเดือดดาลนัก
เมื่อโดนเจียงเฉินต่อว่า เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นไม่ได้โกรธแต่อย่างใด พวกเขามองไปยังเจียงเฉินที่กำลังโกรธด้วยความสงสัย เยี่ยนเฉินหยวี่เองก็เป็หนึ่งในนั้น ไม่มีใครรู้ว่าเจียงเฉินนั้นโกรธอะไร
"ข้าขอถามพวกเ้า ก่อนหน้านี้พวกเ้าได้ป้อนผลหั่วหลงให้นางกินหรือ?"
เจียงเฉินถามอย่างมีโทสะ
"ใช่แล้ว ครั้งสุดท้ายที่อาการกำเริบ อาการมันรุนแรงอย่างมาก พวกเราสามารถทำได้เพียงนำผลหั่วหลงไปสะกดข่มความหนาวเย็นในตัวนาง"
เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นพูดออกมา ทุกๆคนต่างยกระดับเจียงเฉินขึ้นอีกในใจพวกเขา แค่ััชีพจรก็รู้แล้วว่าเยี่ยนเฉินหยวี่ได้ทานผลหั่วหลงเข้าไป
"ดังนั้น พวกท่านได้เตรียมผลหั่วหลงให้นางทานอีกครั้ง ดังนั้นมันสามารถช่วยข่มความหนาวเหน็บในร่างกายของนางอย่างนั้นสินะ"
เจียงเฉินนั้นโมโหมาก เขารู้สึกเหมือนว่าเขาคุยกับกลุ่มคนปัญญาอ่อนทั้งเปลืองเวลาและความรู้
"ใช่"
เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นตอบตามความจริง เขาได้วางแผนไว้ว่าจะนำผลหั่วหลงมาใช้กดข่มอาการหนาวเหน็บของร่างกายนาง
"เ้าพวกโง่... มันโง่จนไม่น่าให้อภัย! ข้าจะบอกพวกเ้าตามตรงนะ หากว่าเยี่ยนเฉินหยวี่ได้ตายไปมันเป็เพราะพวกเ้า! ไม่ใช่แค่พวกเ้าเป็สาเหตุที่ทำให้นางต้องตาย แต่พวกเ้ายังทำลายโอกาสที่อัจฉริยะไร้ที่เปรียบถือกำเนิดขึ้น ข้าไม่สามารถรักษาอาการของนางได้ เชิญพวกท่านไปหาหมอท่านอื่นเถอะ ลาก่อน!"
ในครั้งนี้เจียงเฉินได้โกรธจริงๆ
"น้องเจียงเฉิน น้องเจียงเฉิน!"
เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นตื่นตระหนก และรีบไปหยุดเจียงเฉินไว้ไม่ให้กลับไป คนอื่นๆรู้สึกมีบางสิ่งไม่ถูกต้อง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะโดนเจียงเฉินต่อว่าก็ไม่รู้สึกโกรธแม้แต่น้อย
"น้องเจียงเฉิน พวกเราทำอะไรพลาดหรือ พวกเราได้ใช้ผลหั่วหลงและผลชุนหยางในการกดข่มอาการหนาวเย็นของหยวี่เอ๋อร์ มันไม่ถูกหรือ? มันเป็ผลสรุปของเหล่าปรมาจารย์เลยนะ"
ชายชราแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางถามด้วยความงุนงง
"ผลสรุปไร้สาระอะไรนั่น! ข้าขอบอกอะไรพวกเ้าอย่างหนึ่ง เยี่ยนเฉินหยวี่เกิดมาพร้อมกับชีพจรเก้าหยิน มันเป็สิ่งที่หายากมากๆมันหมื่นปียากจะพบสักคน นางจะเป็สุดยอดอัจฉริยะฟ้าประทาน เมื่อนางมีสุขภาพแข็งแรง"
เจียงเฉินกล่าวขณะที่เขาแสดงความโกรธเกรี้ยวออกมา
"อะไรนะ?! ชีพจรเก้าหยิน?!"
ทุกๆคนต่างประหลาดใจ ไม่มีใครเคยได้ยินเื่ชีพจรเก้าหยินมาก่อน
"ถ้ากายศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้เกิดกับบุรุษมันผู้นั้นจักตกตายอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าหากมันเกิดกับสตรี มันจะเป็กายศักดิ์สิทธิ์ยอดเยี่ยมไร้ที่เปรียบชนิดหนึ่ง มันเป็เงื่อนไขที่หาได้ยากสตรีนั้นจะเกิดมาพร้อมลักษณะหยิน ร่างกายบุตรสาวของเ้าได้เปิดจุดชีพจรทุกๆปี แต่ทุกๆครั้งที่ได้เปิดจุดชีพจรขึ้นมา ร่างกายของนางก็จะรู้สึกเ็ปขนาดบุรุษยังยากที่จะทนได้ เยี่ยนเฉินหยวี่ได้เปิดชีพจรถึงแปดจุดแล้ว และเมื่อครบเก้าจุดเมื่อไร กายศักดิ์สิทธิ์ก็จะสำแดงเดชทันที แต่เ้ากลับใช้ผลชุนหยางไปข่มการเปิดจุดชีพจรหยิน ถ้านั่นเป็สิ่งที่เ้าทำทั้งหมดแล้ว ข้ายังสามารถที่จะรักษานางได้ แต่เ้ายังเอาผลหั่วหลงให้นางกินอีก นี่มันเป็การทำลายความหวังในการสร้างจุดชีพจรหยินจุดที่เก้า ในตอนนี้แม้แต่เทพเซียนก็ไม่สามารถที่จะช่วยนางได้ นางจะไม่มีทางที่จะมีอยู่เกินสิบห้าปีได้เลย ถ้าพวกท่านยังจะให้นางทานผลหั่วหลงต่อ นั้นเป็การเร่งนางไปสู่ความตาย"
เจียงเฉินอธิบายรายละเอียด เขามีความรู้สึกเหมือนว่าชี้แจงให้กลุ่มคนปัญญาอ่อนได้รู้ถึงจุดที่ตัวเองผิดพลาด
เปรี้ยง!
คำพูดของเจียงเฉินราวกับสายฟ้าฟาดใส่เยี่ยนเจิ้นอวิ๋น สีหน้าของเยี่ยนเจิ้นอวิ๋นกลับกลายเป็ขาวซีด ร่างกายสั่นสะท้าน แท้จริงแล้ว บุตรสาวของเขามิได้ป่วยแต่อย่างใด และถ้าไม่ใช่เพราะเขาได้พยายามอย่างหนักในการหยุดการเปิดจุดชีพจรหยิน บุตรสาวเขาก็จะอาจเป็ดั่งอัจฉริยะฟ้าประทานในศตวรรษนี้แล้ว ทั้งหมดเป็ความเลินเล่อของเขาเอง เขาได้ทำลายบุตรสาวที่เขารักที่สุดด้วยมือตัวเอง
"พวกเ้านี่มันกลุ่มคนโง่รวมตัวชัดๆ ทำให้ข้าอารมณ์เสียจริงๆ ข้าจะไปแล้ว ไม่ต้องมาส่งข้า!"
เจียงเฉินพูดก่อนที่จะเดินตรงไปยังทางออกห้องโถงประชุม
"น้องเจียงเฉิน!"
"น้องเจียงเฉินอย่าเพิ่งไป!"
ผู้เชี่ยวชาญแก่นมนุษย์สองสามคนได้รีบตามเจียงเฉินกลับทันที พวกเขาไม่ได้โกรธที่โดนเจียงเฉินต่อว่า ชายหนุ่มผู้นี้เป็เพียงความหวังเดียวของคุณหนูพวกเขา
"น้องเจียงเฉิน ในเมื่อเ้ารู้ว่ามันเป็จุดชีพจรเก้าหยิน ข้าเชื่อว่าเ้ามีหนทางในการช่วยบุตรสาวข้าแน่นอน ขอร้องล่ะ ช่วยชีวิตหยวี่เอ๋อร์ด้วย ตราบที่เ้าสามารถช่วยหยวี่เอ๋อร์ได้ ไม่ว่ามีเงื่อนไขอะไร ข้าเยี่ยนเจิ้นอวิ๋นรับปากเ้า"
เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นได้มาอยู่ตรงหน้าเจียงเฉินพร้อมอ้อนวอนขอร้องเจียงเฉิน
เจียงเฉินเผยรอยยิ้มในใจ เจียงเฉินกำลังรอคำสัญญาจากเยี่ยนเจิ้นอวิ๋นอยู่ อาการของเยี่ยนเฉินหยวี่ไม่มีผู้ใดสามารถรักษานางได้นอกจากเจียงเฉิน ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นักบุญผู้ยิ่งใหญ่ สำหรับเขาการรักษานางมันง่ายมาก
