เย่เฟิงลุกขึ้นเดินไปที่ประตู ก่อนจะเปิดมันออก
ชายวัยกลางคนที่กำลังจะกดกริ่งถึงกับผงะด้วยความใ ไฝเม็ดใหญ่บนจมูกของเขาดูน่าเกลียด ตอนที่เขาเห็นเย่เฟิงก็แสร้งทำเป็ยกตนข่มทันที
“แกเป็ใคร? ฉันมาที่นี่เพื่อตามหาคน”
แม้ชายวัยกลางคนจะสูงไม่ถึงหนึ่งร้อยหกสิบเิเ ทว่าสายตาที่มองเย่เฟิงนั้นดูหยิ่งผยองราวกับตัวเองอยู่เหนือกว่า
“นี่มันบ้านฉัน ยังจะมีหน้ามาถามว่าฉันเป็ใครอีกเหรอ?” เย่เฟิงชักสีหน้าเย็นเยียบ “ไปให้พ้น!”
ชายคนนี้ต้องมาหาหลินซือฉิงแน่ แต่เย่เฟิงจะยอมปล่อยโอกาสให้คนตรงหน้าได้อย่างไร? ตอนนี้หลินซือฉิงยังเป็คู่หมั้นของเขา ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่มีทางปล่อยให้ชายหน้าตาอัปลักษณ์นี่มาหาเธอหรอก
“นี่แกไล่ฉันเหรอ?” เมื่อชายวัยกลางคนได้ยินคำพูดของเย่เฟิงก็หน้าเขียวคล้ำขึ้นมาทันที “แกไม่รู้เหรอว่าฉันเป็ใคร?”
“แกจะเป็ใครแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ” เย่เฟิงตะคอกกลับ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังก่อกวนไม่หยุด จึงยกเท้าเตะออกไปโดยไม่ต้องคิด
‘ปึง’ เสียงเตะดังขึ้นพร้อมกับร่างของผู้มาเยือนปลิวกระแทกรถเบนซ์สีดำที่อยู่ไกลออกไปของตัวเอง
ชายวัยกลางคนไม่ทันได้ตอบสนอง ขณะกระเด็นออกไปก็เห็นเพียงภาพบรรยากาศโดยรอบผ่านไปอย่างรวดเร็ว ก่อนร่างกระแทกรถและล้มลงกองกับพื้น กระดูกราวกับแตกหักทั่วร่างจนเขาต้องร้องโอดโอยออกมา เขานึกไม่ถึงเลยว่าเย่เฟิงจะลงมือกะทันหัน ทั้งยังทำให้ตนต้องเจ็บตัวแบบนี้!
ด้วยความอายุมาก เดิมทีกระดูกของเขาก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว เมื่อถูกเด็กหนุ่มเตะใส่ก็ถึงกับขยับลุกไม่ไหว ทำได้เพียงหยิบโทรศัพท์ไอโฟนสีทองออกมากดโทรหาใครบางคน
“ฮัลโหล? ผู้บังคับการหลิว ผมถูกคนทำร้ายอยู่ที่วิลล่าชิงเฟิง...”
ชายวัยกลางคนโอดครวญ
เมื่อเย่เฟิงเห็นดังนั้นก็ไม่สนใจ เขาหันไปถามหลินซือฉิง “สำนักงานความมั่นคงจะส่งคนมาเมื่อไร”
หลินซือฉิงถูกการกระทำของเย่เฟิงทำให้ชะงักไป เธอนึกไม่ถึงว่าตอนที่เย่เฟิงโมโหจะน่ากลัวขนาดนี้ เมื่อได้ยินคำถามจึงรีบตอบอย่างรวดเร็ว “ลุงเหลยนำเ้าหน้าที่มาแล้ว อีกไม่นานก็คงถึง”
“อืม”
เย่เฟิงพยักหน้า ต่อให้ชายวัยกลางคนจะเรียกใครมา เมื่อคนของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติมาถึง อีกฝ่ายก็ไม่สามารถทำอะไรได้อยู่ดี ดังนั้นเย่เฟิงจึงคร้านจะสนใจเื่นี้แล้ว
หลังจากปิดประตูเย่เฟิงก็กลับเข้าบ้าน ก่อนเห็นหลงหว่านเอ๋อร์และซูเมิ่งหานเล่นโทรศัพท์กันอยู่
“สำนักอิ่นเซียนอยู่ตรงนี้”
หลงหว่านเอ๋อร์ไม่ได้สนใจเหตุการณ์ข้างนอกั้แ่แรก เมื่อเห็นเย่เฟิงกลับเข้ามา ก็เปิดแผนที่จากโทรศัพท์ให้เขาดู
เย่เฟิงพบว่าสถานที่แห่งนั้นคือ ‘ูเาคั่วชาง’ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเจ้อเจียง อยู่ไม่ไกลจากทะเลจีนตะวันออกที่ตนเพิ่งไปมาก่อนหน้านี้ แต่เลยไปทางใต้อีกหน่อย ดูจากที่ตั้งของมัน ทิศใต้ติดกับเยี่ยนตั้ง ทิศเหนือติดกับเทียนไถ ทิศตะวันตกติดกับเซียนตู หากมองไปทางทิศตะวันออกจะเห็นทะเล ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของูเาคั่วชางเป็ทำเลที่ดีมาก ไม่แปลกที่หนึ่งในสิบถ้ำศักดิ์สิทธิ์ของประเทศจีนจะอยู่ที่นั่น ซึ่งมันค่อนข้างไกลมาก
เย่เฟิงกำลังครุ่นคิด ดูเหมือนว่าเขาต้องนั่งเครื่องบินไป
“ถ้าจะไปที่นั่น นายต้องนั่งเครื่องบินไปลงไถโจว จะให้ฉันจองตั๋วให้เลยไหม?”
หลินซือฉิงที่ยืนอยู่ข้างเขาโน้มตัวเข้ามาถาม
“อืม ตกลงตามนั้น จองรอบวันพรุ่งนี้ให้ผมเลย”
เย่เฟิงหรี่ตาลง ั้แ่เขามาเกิดใหม่บนโลกสมัยปัจจุบัน เขายังไม่เคยไปสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สักที่เลย นี่ถือเป็ครั้งแรก นับเป็เกียรติแก่สำนักอิ่นเซียนจริงๆ
เวลานี้ทั้งหลงหว่านเอ๋อร์และซูเมิ่งหานไม่รู้สึกหึงหวงเย่เฟิงแล้ว พวกเธอกำลังกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเย่เฟิง
“นายจะไปจริงเหรอ? ถ้า...”
หลงหว่านเอ๋อร์ขมวดคิ้วแน่น แม้สำนักอิ่นเซียนจะไม่เก่งกาจเหมือนเมื่อก่อน แต่ถึงอย่างไรก็เป็หนึ่งในสิบสำนักใหญ่ของยุทธจักร หากบุ่มบ่ามเข้าไปจะไม่บ้าบิ่นเกินไปหน่อยเหรอ?
“วางใจเถอะ ในแหวนมิติของอาจารย์มีเครื่องรางกันภัยอีกมาก ฉันไม่เป็อะไรหรอก”เย่เฟิงกล่าวเสียงเบา
“งั้นฉันไปด้วยได้ไหม?” หลงหว่านเอ๋อร์ลองหยั่งเชิง
“เธออยู่ที่นี่แหละ คอยดูแลเมิ่งหานให้ดี เข้าใจไหม?” เย่เฟิงกอดสองสาวอย่างอ่อนโยนพร้อมตบหลังปลอบใจ เมื่อสงบใจได้จึงถาม “สำนักอิ่นเซียนในตอนนี้มีใครที่ควรระวังบ้าง”
“ฉีหลินจือ เขาเป็เ้าสำนัก ตอนนี้ระดับวรยุทธ์อยู่ที่หกสิบห้าปี ฉินสือ เขาคือมือปีศาจสยบเทพ มีระดับวรยุทธ์ห้าสิบห้าปี และเป็พี่ชายของฉินเกอ เ้าของฉายามือปีศาจสังหารเทพ หลี่เทียนผู้าุโคุมกฎของสำนัก และเป็พ่อบุญธรรมของหลี่จวิ้นหลงซึ่งถูกสังหารทีู่เาฉางไป๋ มีระดับวรยุทธ์หกสิบปี นอกจากนี้ยังมีผู้าุโของสำนักที่มีระดับวรยุทธ์ห้าสิบปีอีกสามคน” หลงหว่านเอ๋อร์รีบเล่าเื่ของพวกเขาอย่างรวดเร็ว เธอรู้เื่ในยุทธจักรมากกว่าเย่เฟิงมาก “ส่วนที่เหลือก็เป็ผู้ฝึกวรยุทธ์รุ่นกลาง มีระดับวรยุทธ์สามสิบถึงสี่สิบปี แล้วก็มีผู้ฝึกวรยุทธ์ที่อยู่รุ่นเดียวกับเราซึ่งไม่คู่ควรจะเป็คู่ต่อสู้ของนาย”
พูดจบหญิงสาวก็ยิ้มบาง “แค่นายเลี่ยงผู้าุโสามคนนั้นได้ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล”
เมื่อเย่เฟิงได้ยินดังนั้นก็แอบคิดในใจ จะให้เขาเลี่ยงอีกฝ่ายงั้นเหรอ? เขาไม่มีทางเลี่ยงหรอก ในเมื่อเขามีอาวุธตั้งหลายชิ้น ชายหนุ่มมั่นใจมากว่าตนสามารถปลิดชีพเ้าสำนักอิ่นเซียนผู้มีระดับวรยุทธ์หกสิบห้าปีได้เลยด้วยซ้ำ!
“อีกอย่างรอบๆ สำนักอิ่นเซียนมีค่ายกลเต็มไปหมด คนธรรมดายากจะมีชีวิตรอดออกมาได้ แต่นายมีจิตหยั่งรู้ ค่ายกลพวกนั้นคงทำอะไรนายไม่ได้” หลงหว่านเอ๋อร์กล่าวเสริม
“อืม งั้นก็ดี”
เย่เฟิงพยักหน้าพร้อมกับคิดในใจว่าตัวเองต้องระมัดระวังอีกฝ่ายให้มาก หากพลาดพลั้งเพราะความประมาทคงไม่ใช่เื่ที่น่าสนุกนัก
หลังจากเข้าใจสถานการณ์เบื้องต้นแล้ว เย่เฟิงก็ได้ยินเสียงไซเรนรถตำรวจใกล้เข้ามา เพียงไม่นานรถคันนั้นก็ขับเข้ามาในระแวกบ้านก่อนจอดตรงหน้าบ้านเขา การเคลื่อนไหวเหล่านี้ไม่ทำให้เย่เวิ่นเทียนที่อยู่ข้างบ้านใเลยสักนิด หากต้องจัดการเื่เล็กน้อยแค่นี้ เขาจะไม่ยุ่งตลอดทั้งวันหรอกเหรอ? เย่เฟิงสามารถจัดการเองได้อยู่แล้ว เย่เวิ่นเทียนไม่มีทางเข้ามายุ่งด้วยแน่นอน
“เมิ่งหาน พักผ่อนให้เต็มที่ล่ะ”
เย่เฟิงยิ้มให้สาวน้อยไร้เดียงสาที่เพิ่งตื่นนอน เขาไม่ใส่ใจเหตุการณ์ด้านนอกเลยสักนิด
ซูเมิ่งหานหน้าแดงก่ำ ตอนนี้เธอยังรู้สึกอ่อนล้านิดหน่อย ยังนึกตำหนิเย่เฟิงที่ลุกขึ้นแต่เช้าแล้วเขาก็... ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งเขินอาย จึงลากหลงหว่านเอ๋อร์ขึ้นไป้า
“พี่หลิน พวกเราออกไปกันเถอะ”
เย่เฟิงหันมายิ้ม รออยู่สักพักเหลยิก็มาถึง เขาอยากออกไปดูอะไรด้วยกันกับหลินซือฉิงสักหน่อย
“ไปกัน” หลินซือฉิงไม่คิดมากเมื่อได้ยินเสียงไซเรนข้างนอก จึงต้องเดินออกไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ “น้องเย่ ต่อไปจะทำอะไรก็เอาให้พอเหมาะพอดี ไม่ใช่ไล่ตีคนไปทั่ว เดี๋ยวปัญหาจะยิ่งลุกลามใหญ่โต...”
“มีพี่หลินอยู่ ทำไมผมต้องกลัวด้วยล่ะ?” เย่เฟิงหัวเราะ “อีกอย่างเ้าคนอัปลักษณ์นั่นยังกล้ามาระรานพี่หลิน แบบนี้ไม่ใช่ว่ามันกำลังรนหาที่ตายหรอกเหรอ?”
“จะบ้าเหรอ ฉันไม่ได้มีความสามารถขนาดนั้นสักหน่อย” หลินซือฉิงยิ้มบาง “ถ้านายไม่ระวังจนตีคนตายขึ้นมา นายก็ต้องติดคุก และถ้านายติดคุก พี่สาวอย่างฉันก็ช่วยนายไม่ได้หรอกนะ”
ไม่รู้ทำไมหลังจากผ่านเหตุการณ์บนโซฟาเมื่อครู่ ตอนนี้เวลาที่หลินซือฉิงเรียกแทนตัวเองว่า ‘พี่สาว’ กลับรู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมา หึ ไอ้เด็กนี่ บีบคลึงหน้าอกเธอจนตอนนี้ยังรู้สึกชาไม่หาย ไม่ช้าก็เร็วเธอต้องคิดบัญชีกับเขาแน่!
เมื่อนึกถึงเื่นี้ เธอก็อดหน้าแดงไม่ได้ แถมหัวใจยังเต้นรัวขึ้นมาอีก แม้แต่ตัวเธอเองยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็เพราะอะไร...
แน่นอนว่าเย่เฟิงไม่ใส่ใจคำพูดของหลินซือฉิง เมื่อก่อนเขาฆ่าคนมานานก็ไม่เห็นจะติดคุกเลย
เขาจะสังหารเหล่าคนชั่วช้าแทน์เอง!
ทั้งสองเดินออกจากห้องโถงด้วยท่าทางสนิทสนม ก่อนเห็นรถตำรวจคันหนึ่งจอดอยู่หน้าบ้าน ตำรวจหลายนายช่วยพยุงชายวัยกลางคนที่ไม่สามารถลุกขึ้นเองได้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีคนที่เย่เฟิงคุ้นเคย...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้