ซูเฟยซื่อถอนหายใจ “ถ้าบอกว่าที่แท้ข้าคือคนที่ตายไปแล้วเล่า? ท่านอ๋องเก้าพันปีจะเชื่อหรือไม่?”
“คนที่ตายไปแล้ว?” อวี้เสวียนจีทวนวลีดังกล่าวอีกรอบ ท่าทางคล้ายกำลังครุ่นคิด คิดอยู่นาน ในที่สุดก็เอ่ยปากช้าๆ “ทำไมจะไม่เชื่อ? เพียงแต่ข้ารู้สึกว่าเ้าเหมือนอีกคน”
“ใคร?” ใจซูเฟยซื่อเต้นรัวเหมือนตีกลอง ถึงแม้ว่าคำตอบจะชัดเจน ทว่าเมื่อต้องเผชิญหน้าจริงๆ กลับกลายเป็ตึงเครียดมากกว่าที่คิด
จู่ๆ อวี้เสวียนจีก็จ้องซูเฟยซื่ออย่างจริงจัง ในดวงตาเป็เผยประกายที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน “กู้ชิง”
เป็นางจริงๆ ฉลาดเฉกเช่นอวี้เสวียนจี ก็ตอบถูกตามคาด
ร่างของซูเฟยซื่อสั่นเทิ้มโดยไม่รู้ตัว ใจตอนนี้คิดว่าคงได้ถูกฆ่าตายแน่ๆ แล้ว เพียงกล่าวว่า “ถ้าข้าเป็นางจริงๆ ล่ะ?”
อวี้เสวียนจีกลายเป็งุนงง คงคิดไม่ถึงว่าซูเฟยซื่อจะพูดอย่างนั้น
นี่เป็คำตอบที่เขาหวังไว้ แต่… คนตายกลับมามีชีวิตอีกครั้ง?
นี่เป็ไปได้หรือ!
“ถ้าเ้าเป็นางจริงๆ...” จู่ๆ อวี้เสวียนจีปล่อยซูเฟยซื่อ แล้วหันหลังไป ไม่ให้นางเห็นสีหน้าของตน “ถ้าเ้าเป็นางจริงๆ ข้าก็ต้องพิจารณาว่าควรฆ่าเ้าหรือไม่ ทั้งนี้ข้าเกือบจะตายหลายครั้งในมือของนาง”
เสียงของอวี้เสวียนจีไม่อาจคาดเดาได้ ทำให้ผู้คนฟังไม่ออกว่าที่แท้เป็อารมณ์แบบไหน
แต่ไม่รอซูเฟยซื่อพูด ก็ใช้กระบวนท่าวิชาตัวเบาวิชาตัวเบาเร้นกายหายไป เพียงทิ้งประโยคหนึ่งที่ทำให้ใจคนว้าวุ่น “แต่นางก็เป็ผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้ข้าหัวใจเต้นแบบนี้”
นี่… ซูเฟยซื่อยืนตะลึงลานอยู่กับที่ ในสมองไม่วายหวนคิดถึงคำพูดประโยคนั้นที่อวี้เสวียนจีทิ้งไว้ ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกยากจะรับได้
ใจเต้น? ใจเต้นอะไรกัน? ใจเต้นด้วยความแค้นนางเข้ากระดูกงั้นหรือ!
เดิมนางคิดว่าที่อวี้เสวียนจีลงทุนออกแบบวางแผน ก็เพื่อให้มีโอกาสนี้ได้เปิดโปงตัวตนของนาง
นางเดินพลาดไปก้าวเดียว ก็ถึงกับสามารถรีดเค้นนางให้พูดเื่ทุกอย่างออกมา
แต่เขากลับสลัดทิ้งกลางทางอย่างง่ายดาย
เพราะอะไร?
หรือเขาไม่คิดอยากรู้ความจริงอย่างสิ้นเชิง?
ถ้าเช่นนั้นเป้าหมายที่เขาทำสิ่งเหล่านี้เพื่ออะไรอีก?
ดูเหมือนอวี้เสวียนจีคนนี้สามารถมองทะลุนางทุกอย่าง แต่นางกลับมิอาจมองทะลุความคิดของเขาทั้งหมด
ถ้ามีคนแบบนี้เป็คู่ต่อสู้ละก็ ความน่าสะพรึงกลัวคงไม่ต้องพูดถึง!
แต่อย่างนี้ก็อาจจะดี ในเมื่ออวี้เสวียนจีไม่คิดรู้ความจริง เช่นนั้นนางก็จะแกล้งโง่ต่อไป
รอจนมีสักวันที่ต้องเผชิญหน้า ก็ค่อยว่ากัน
คิดถึงตรงนี้ ซูเฟยซื่อเพียงถอนหายใจ
ฝืนระงับหัวใจดวงนั้นที่เต้นแรงว้าวุ่นในทรวงอก หันหลังกลับจวนอัครมหาเสนาบดีหากู้เซ่าชิงกับซางจื่อ
การทำงานของซางจื่อก็ยังยอดเยี่ยมอย่างที่นางคิดไว้
ระหว่างรอเวลาที่นางกลับมา ซางจื่อได้จัดห้องให้กู้เซ่าชิงเรียบร้อย กระทั่งเสื้อผ้าก็มีให้เปลี่ยน
“เซ่าชิง ซางจื่อเป็คนของข้าเอง เ้าอยู่ที่นี่ ถ้า้าสิ่งใจขอเพียงบอกนาง นางต้องช่วยเ้าจัดการได้เรียบร้อย” ซูเฟยซื่อยิ้มพลางเดินเข้ามาในห้อง
กู้เซ่าชิงเห็นเืบนร่างของอีกฝ่าย รีบเข้าไปหาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เกิดเื่อะไร? นี่เ้าาเ็งั้นหรือ?”
ซูเฟยซื่อส่ายหน้าตอบ “ไม่ใช่ข้า แต่เป็เืของมือสังหารสองคนที่ฉินเฟิงเจียวส่งมา แต่ทั้งหมดได้ถูกข้าส่งไปยังถนนปรภพแล้ว”
ได้ยินวาจานี้ กู้เซ่าชิงที่ขมวดคิ้ว ในที่สุดก็คลายลง “เื่ฉินเฟิงเจียวนี้มีพิรุธจริงๆ เ้าได้รู้เบาะแสอะไรจากปากของมือสังหารไหม?”
ซูเฟยซื่อเบ้ริมฝีปาก สีหน้าดูกระอักกระอ่วน “เื่นี้เ้าไม่ต้องสนใจแล้ว ไม่เกี่ยวกับซ่งหลิงซิว คนคนนั้นเพียงว่างงานไม่มีอะไรทำ ก็เลยชวนข้าเล่นสนุกเท่านั้น”
เห็นสีหน้ารำคาญใจของซูเฟยซื่อ กู้เซ่าชิงกับซางจื่อก็เข้าใจได้ทันที กู้เซ่าชิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะขบขัน กล่าวว่า “พวกเ้าสองคนเป็คู่แค้นคู่อาฆาตกันมาก่อน การต่อสู้ในอดีตมิอาจแยกว่าเหนือหรือด้อยกว่า เดิมคิดว่าตอนนี้ร่วมมือกันก็สงบสุขดีแล้ว แต่ไม่คิดว่าพวกเ้าจะสนุกสนานกันได้ขนาดนี้”
สนุก? คิดเอาชีวิตน้อยๆ ของนางได้ทุกเมื่อ นี่เรียกว่าสนุก? ถ้าเช่นนั้น นางก็ไม่อาจน้อมรับความสนุกรูปแบบนี้ได้จริงๆ!
คิดถึงคำพูดท้ายสุดของอวี้เสวียนจี ซูเฟยซื่อก็รู้สึกเหมือนถูกผีอำ หนังศีรษะชาดิก ไม่สามารถยอมรับเื่นี้ได้จริงๆ “เซ่าชิง(少卿) เ้าฟังข้าให้ดี หลังจากนี้เ้ายังต้องใช้ชื่อของเ้าในสนามประลองคือ เซ่าชิง(邵青) เพื่อปกปิดตัวตน ไม่ให้ใครสาวมาถึงเื้ัของเ้าได้ ”
เซ่าชิงพยักหน้ารับทราบ “สำหรับข้าแล้ว ชื่อก็มีไว้สำหรับปิดบังตัวตนเท่านั้น จะเรียกว่าอะไรก็เหมือนกัน”
“ดี” ซูเฟยซื่อคิดๆ แล้ว หันไปมองซางจื่อ “เมื่อสักพักพวกเ้ากลับมาถึงจวนอัครมหาเสนาบดี มีใครถามอะไรบ้างไหม?”
“มีคนถามเ้าค่ะ บ่าวตอบว่านี่เป็ผู้ชนะจากการประลอง พอดีต้องตาท่านอ๋องเก้าพันปี พอดีขณะที่คุณหนูออกจวนไปเดินดูตลาดภายในเมืองก็พบท่านอ๋องเก้าพันปีเข้าโดยบังเอิญ ท่านอ๋องเก้าพันปีบอกว่า่เวลาที่ผ่านมาจวนอัครมหาเสนาบดีเกิดเื่มากมาย จึงมอบคนไว้ให้ คุณหนูไม่กล้าปฏิเสธ ได้แต่พาคนกลับมาจัดไว้ในห้องให้ปรนนิบัติเ้าค่ะ” ซางจื่อตอบตามจริง
ซูเฟยซื่อยิ้มด้วยความพึงพอใจ ข่าวเื่นางพาผู้ชายคนหนึ่งกลับมาโดยไม่มีเหตุผล ต้องแพร่ไปถึงหูของซูเต๋อเหยียนกับนางแซ่หลี่แน่ๆ หากจัดการเื่นี้ได้ไม่ดีละก็ นางแซ่หลี่ต้องหยิบยกเื่นี้ไปตีเป็ประเด็นปัญหาอีก
วาจารอบนี้ของซางจื่อได้ผลักภาระไปให้อวี้เสวียนจีโดยตรง ฟังแล้วคล้ายกับว่านางถูกบีบคั้นไร้หนทางได้แต่ต้องนำคนกลับมา
ซูเต๋อเหยียนกับนางแซ่หลี่ถือว่าเซ่าชิงเป็คนของอวี้เสวียนจี แม้จะไม่ชอบ แต่ก็ไม่กล้าขัดใจล่วงเกินอีกฝ่าย
ผลที่ได้นี้กลับทำให้ซูเฟยซื่อพึงพอใจมาก
“ท่านแม่ ซูเฟยซื่อนังสารเลวน้อยนั่น ยิ่งมายิ่งหยิ่งผยองแล้วจริงๆ ตอนนี้ถึงกับกล้าพาผู้ชายคนหนึ่งกลับมา นางเอาท่านกับท่านพ่อไปวางไว้ไหนแล้ว?” ซูจิ้งเถียนขมวดคิ้วกล่าวด้วยความโกรธเคือง
สีหน้าของนางแซ่หลี่ก็ใช่ว่าจะยินดี ทว่านางมีสติปัญญาและความอดทนมากกว่าซูจิ้งเถียนมากนัก จึงปรามอีกฝ่ายไว้ “จุ๊ๆ พูดจาเบาเสียงหน่อย นั่นเป็คนของท่านอ๋องเก้าพันปี หากมีใครได้ยินเข้า ชีวิตน้อยๆ ของเ้ายังจะเอาไหม?”
ซูจิ้งเถียนเบ้ปาก แล้วลดเสียงลงอย่างไม่เต็มใจ “ท่านแม่ ท่านว่าท่านอ๋องเก้าพันปีประทานผู้ชายคนหนึ่งมา้าอะไร? คงไม่ใช่คิดสอดแนมจวนอัครมหาเสนาบดีของเราหรอกนะ?”
“เ้าอย่าเอ็ดไป ท่านพ่อเ้าได้สั่งไว้แล้ว ให้เราอย่าขัดใจล่วงเกินผู้ชายคนนั้นเด็ดขาด อย่าได้กลายเป็จุดอ่อนให้ท่านอ๋องเก้าพันปีจับไว้ทำเหตุได้ ดังนั้นวันข้างหน้าเมื่อเ้าเห็นเขาก็หลบไปให้ไกลหน่อย อย่าก่อเื่ให้คนจับผิดได้” นางแซ่หลี่กำชับอย่างไม่ไว้ใจ
อย่าก่อเื่? ในสมองซูจิ้งเถียนพลันสว่างวาบ ดวงตาทั้งคู่เผยประกายเ้าเล่ห์ “ผู้ชายคนนี้เป็ท่านอ๋องเก้าพันปีประทานมาให้ ใครล่วงเกินเขา ก็ต้องซวยหนักแล้ว”
ทันทีที่นางแซ่หลี่เห็นท่าทางเช่นนี้ของซูจิ้งเถียน ก็รู้ว่านางมีอุบายอีก รีบเอ่ยปาก “บทเรียนครั้งที่แล้วยังไม่พออีกหรือ? เ้ายังคิดทำอะไร?”
ซูจิ้งเถียนถลึงตาจ้องนางแซ่หลี่อย่างไม่พอใจปราดหนึ่ง “ท่านแม่ หรือว่าท่านเต็มใจถูกซูเฟยซื่อกดดันแบบนี้ไปชั่วชีวิต? แววตาที่เหล่าบ่าวไพร่มองและท่าทีที่ปฏิบัติต่อเรา ท่านไม่เห็นหรือ? ถ้าเป็แบบนี้ต่อไป อย่าว่าแต่จะให้ข้าเข้าวังเลย แค่คิดหาครอบครัวและสามีดีๆ สักคนก็ยากไปหมด ท่านยอมรับได้ แต่ข้าไม่ยินยอมแน่”
คำพูดบาดลึกถึงขั้วหัวใจของนางแซ่หลี่ เพราะนางได้สมรสเข้าจวนอัครมหาเสนาบดี นั่นยังคงทำให้ครอบครัวของนางได้ภูมิใจอยู่แล้ว ต่างจากซูจิ้งเถียนซึ่งยังต้องหาครอบครัวสามีที่ดี นางแซ่หลี่ไหนเลยจะทนดูอนาคตของบุตรสาวถูกทำลายลงได้?
ไม่ได้ ซูจิ้งเถียนต้องได้เข้าวัง เป็นางที่ต้องยืนอยู่เบื้องสูงกับซูจิ้งโหยวก้มลงดูใต้หล้า ไหนเลยจะยอมให้ซูเฟยซื่อนังสารเลวคนนี้ทำลายไป?
ใช่ นางไม่อาจนั่งรอความตายได้อีกแล้ว!
คิดถึงตรงนี้ ดวงตาทั้งสองของนางแซ่หลี่พลันเผยประกายชั่วร้ายอำมหิตออกมาทันที “เ้ามีแผนอะไร?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้