ตอนที่ 1
จีนเลือกที่นั่งอยู่ด้านหลังสุดของหอประชุมในการปฐมนิเทศเพราะเขามาเรียนที่นี่ตัวคนเดียว ไม่รู้จักใครและยังไม่มีเพื่อนใหม่ เรียกได้ว่าเป็เด็กต่างจังหวัดที่เข้ากรุงมาเพียงลำพัง
“ตรงนี้มีใครนั่งยังว่ะ กูนั่งด้วยคนดิ” กายเอ่ยถามพร้อมนั่งลงเก้าอี้ที่ว่าง
“จะถามทำไม มึงนั่งไปแล้ว?” จีนมองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ คือมันโคตรกวนตีน
“ก็ถามเพื่อเป็มารยาทไง กูชื่อกาย มึงชื่อไรว่ะ?”
“กูชื่อจีน” จีนได้แต่มองคนมาใหม่อย่างงๆ อีกฝ่ายทำตัวราวกับว่ารู้จักกับเขามานาน อะไรมันจะเป็กันเองขนาดนั้น
“จีน เออชื่อเหมาะกับหน้ามึงดี ว่าแต่มึงเรียนสาขาอะไรว่ะ?” กายมองใบหน้าของเพื่อนใหม่อย่างพิจารณา ปากนิดจมูกหน่อย ตัวขาวปากแดง ตาตี๋ คงเป็ลูกคนจีนหรือมีเชื้อจีนแน่ๆ
“ยานยนต์ ห้อง A มึงอ่ะ?”
“ยานยนต์เหมือนกัน ห้องเดียวกัน มึงมาเรียนที่นี่คนเดียวเหรอว่ะ กูเห็นเมื่อกี้มึงนั่งอยู่คนเดียว?”
“แล้วมึงเห็นกูนั่งกับใครไหมล่ะ ถามไม่คิด ?”
“เอ้า ! ไอ้นี่”
“เออๆ บ้านกูอยู่ภาคใต้ เพื่อนๆรุ่นเดียวกันเรียนที่ใต้หมดเลยยกเว้นกู แล้วมึงล่ะ”
จีนมองรูปร่างหน้าตาแล้วเพื่อนใหม่ของเขาคนนี้อย่างพิจารณา ไอ้กายน่าจะเป็คนกรุงเทพ ทั้งบุคลิก หน้าตา ผิวพรรณคือดูดี
“กูเป็คนกรุงเทพั้แ่กำเนิด แต่อย่างที่มึงเห็นกูไม่ค่อยมีเพื่อน”
“ไม่มีเพื่อนหรือเพื่อนไม่คบ ?” จีนถามขำๆ
“กวนตีนว่ะ”
หลังจากที่ปฐมนิเทศเสร็จเรียบร้อยเหล่านักศึกษาก็ต่างพากันแยกย้ายไปที่สาขาของตัวเองเพื่อพบอาจารย์ที่ปรึกษา
และนี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้จีนและกายเป็เพื่อนสนิทกันโดยปริยาย
เปิดเรียนวันแรกเขาก็ได้เพื่อนเพิ่มมาอีกคนชื่อว่าเดรก มันเป็คนไม่ค่อยพูด แต่เมื่อได้พูดแล้วก็กวนตีนๆ พอกัน เราทั้งสามคนจึงนั่งเรียนด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน พอเลิกเรียนก็แยกย้าย สามสี่วันที่ผ่านมาชีวิตเป็อยู่อย่างนั้นจนเราสนิทกันมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่จะมีแค่เขากับกายที่มักจะตัวติดกันเพราะเดรกชอบหายหัวตลอด คือเรียนเสร็จก็แยกย้ายทันที
วันนี้เป็วันแรกที่พี่ๆนัดรวมตัวเพื่อเข้าห้องเชียร์ ซึ่งเป็กิจกรรมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และดูเหมือนไอ้เดรกมันจะเบื่อหน่ายกว่าใคร
“ไอ้เดรกตอนเย็นว่างป่ะ ?” กาย
“ไม่ว่างว่ะ โทษที” เดรกปฏิเสธ
“เออๆ ว่าจะชวนไปแตะบอลสักหน่อย กูไปกับไอ้จีนก็ได้ว่ะ” กายพูดอย่างเซ็งๆ
“ไอ้สัสกาย ! ใครบอกว่ากูจะไปกับมึง ?”
“มึงจะไปไหน แล้วไปกับใคร กูไม่ให้มึงไปไหนทั้งนั้น มึงต้องไปกับกู มึงจะทิ้งเพื่อนได้ลงคอเลยเหรอว่ะจีน กูเพื่อนมึงน่ะ”
“ไอ้สัส ! พูดสะกูเป็คนผิดเลยน่ะ เออๆ ชั่วโมงเดียวนะมึงวันนี้กูง่วง อยากนอน”
“ดีมากเพื่อนรัก” กายพูดพร้อมดึงคอของจีนเข้ามากอดอย่างแกล้งๆ
“ดีใจจนหน้าบานเลยนะมึง”
เดรกว่าอย่างขำๆ นับวันไอ้สองคนนี้จะตัวติดกันมาก แต่ดูเหมือนกายจะเป็ฝ่ายตินจีนเสียมากกว่า
“ก็เออดิว่ะ กูไม่อยากไปคนเดียวนี่หว่า”
“ถ้าไอ้จีนมีเมียขึ้นมา กูว่ามีคนเป็หมาหงอยแน่ๆ”
“ไอ้สัสเดรก ! กวนตีนว่ะ” กายผลักหัวเพื่อนแรงๆ ถ้าจีนมีแฟนเขาได้เหงาจริงๆแน่
หลังจากที่พี่ๆนัดแนะเื่กิจกรรมเรียบร้อยก็ปล่อยให้พวกเราได้กลับบ้าน แน่นอนว่าจีนโดนกายลากไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คอนโดก่อนจะไปสนามบอลหญ้าเทียมที่อยู่ไม่ไกลนักจากคอนโดมากนัก
สรุปคือพวกเขาต้องเข้ากิจกรรมเชียร์ในทุกวันที่รุ่นพี่เรียกรวมโดยไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ
พอวันถัดมาก็เป็วันที่พี่ๆจะคัดเลือกดาวเดือนเพื่อส่งเข้าประกวด ไอ้เดรกที่พยายามทำตัวเงียบที่สุดกลับสะดุดเฮดว๊ากเข้าอย่างจัง เพื่อนของเขาโดนลากออกจากห้องประชุมท่ามกลางความงุนงงของทุกคน กว่าจะหายอึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อนของเขาก็ขึ้นรถพี่ไปเปอร์เฮดว๊ากคนนั้นไปแล้ว
ั้แ่วันนั้นพี่ไปเปอร์ตามจีบไอ้เดรก เป็การจีบอย่างเปิดเผยแต่ดูเหมือนเพื่อนของเขาจะสับสนไม่น้อย ทำไงได้คนมันเคยคบแต่กับผู้หญิง อยู่ๆ วันนึงมีผู้ชายมาตามจีบ เป็เขาก็คงทำตัวไม่ถูกเหมือนกันและจากสภาพแล้วคือมาจีบไปเป็เมีย หลังจากงานเฟรชชี่ผ่านไปความสัมพันธ์ของพี่ไปเปอร์กับไอ้เดรกก็ไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งจีนและกายต่างยินดีกับเพื่อนที่ได้เจอกับความรักดีๆ แต่ก็ดูเหมือนจะมีมารพยายามแทรกกลางระหว่างทั้งคู่ ่ไปรับน้องที่ทะเลระยองทั้งคู่ก็แลกเกียร์กัน สวีทหวานไม่เกรงใจความเค็มของน้ำทะเลสักนิด พอกลับมาที่มหาลัยก็สวีทกันต่อจนเขากับไอ้กายเริ่มชิน ผลัดกันหึงหวงเก่งสุดๆ เพราะต่างฝ่ายต่างเสน่ห์เหลือล้นเลยทำให้มีแต่คนพยายามเข้าหา
“ไอ้จีนวันนี้แดกไรดีว่ะ ?”
กายกอดคอจีนเดินไปยังร้านข้าวของโรงอาหาร ส่วนไอ้เดรกมีมื้อเที่ยงแล้วเพราะผัวมันซื้อมาให้ถึงที่
“ไม่อยากแดกข้าวว่ะ กูว่าจะกินเตี๋ยว อยากแดกเส้นๆ มึงอ่ะจะแดกไร ?”
“ไปๆ กูเอาด้วย อยากแดกก๋วยเตี๋ยวอยู่เหมือนกัน”
จากนั้นทั้งคู่ก็เดินกอดคอกันไปต่อแถวสั่งก๋วยเตี๋ยวกัน พอได้ก๋วยเตี๋ยวแล้ว จีนที่กำลังจะล้วงตังในกระเป๋ากลับช้าไป
“คิดรวมกันเลยครับป้า นี่ครับ”
กายพูดพร้อมยื่นแบงค์ห้าร้อยไปให้ป้าเ้าของร้าน รอรับเงินทอนแล้วเดินออกมาที่โต๊ะเครื่องปรุง
“มึงแย่งกูจ่ายทำไมว่ะ ?”
จีนถามอย่างเคืองๆเพราะไอ้กายมันชอบแย่งเขาตลอด คือทานข้าวด้วยกันทุกมื้อเขาแทบไม่ได้ออกสตางค์สักบาทเดียว
“กูอยากเลี้ยง กูป๋า” กายยกยิ้มกวนตีนส่งให้เพื่อน ตักเครื่องปรุงใส่ชามก๋วยเตี๋ยวแบบมั่วๆ
“เออๆ เดี๋ยวกูแดกให้เจ้งเลยแม่งชอบเลี้ยงกูดีนัก”
“จัดมาครับน้องจีน ป๋ากายพร้อมเปย์”
“ไอ้สัสกาย ! กวนตีนชิปหาย” จีนโวยวายใส่เมื่อเพื่อนสนิทยังกวนตีนไม่เลิก
“ฮ่าๆ ปรุงๆ กูว่าตอนนี้ไอ้เดรกคงแดกอิ่มไปแล้วมั้ง” กายพูดขำๆ มองไปยังโต๊ะที่เดรกนั่งอยู่กับผัว
“เออๆ มึงก็เลิกแกล้งกูดิ กวนตีนกูอยู่ได้” จีนบ่นๆ ตักเครื่องปรุงใส่ตามที่ชอบกิน
“เออๆ”
ทั้งคู่เดินกลับมาที่โต๊ะก็ได้เห็นฉากสวีทหวานของเพื่อนสนิทกับผัว จีนกับกายได้แต่มองหน้ากันอย่างเข้าใจ ซึ่งถัดไปอีกสามถึงสี่โต๊ะก็มีสายตาอาฆาตแค้นจากพี่น้ำขิงซึ่งเป็พี่ปีสามในคณะของพวกเขา กินข้าวเสร็จพวกเราก็ขึ้นเรียนตามปกติ
“ปิดเทอมมึงกลับบ้านป่ะ ?” กายถามขึ้นในขณะที่กำลังเดินมาขึ้นรถ ซึ่งรถของเราทั้งคู่จอดข้างกัน
“ไม่ว่ะ ถามทำไม มึงกลัวเหงา ?” จีนตอบพร้อมถามกลับยิ้มๆ
จีนไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องกลับบ้านอีกแล้ว การที่เขาเลือกเรียนที่นี่ ส่วนหนึ่งเป็เพราะเขาอยากตัดขาดจากความทรงจำแย่ๆในอดีต พ่อของเขาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตใน่ที่เขากำลังจะเรียนจบม.6 แต่คนเป็แม่กลับไม่ได้เสียใจสักนิดกับการจากไปของสามี ในวันที่จัดพิธีศพของพ่อ แม่กลับพาชู้มาเปิดตัวนั่นคือสิ่งที่เขารับไม่ได้เป็อย่างมากและเขายิ่งรู้สึกเกลียดแม่ของตัวเองมากขึ้นเมื่อรู้ว่าแม่กับชู้คือสาเหตุที่ทำให้พ่อของเขาต้องจากไป ถึงจะเป็แบบนั้นเขาก็ต้องอดทนเรียนให้จบม.6 เพื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ โชคดีที่พ่อเหลือมรดกให้เขามากพอได้เรียนจนจบโดยไม่ต้องพึ่งพาคนเป็แม่ เขาสามารถใช้จ่ายอยู่กินอย่างสุขสบายแม้ไม่ทำงาน เขาก็ไม่ลำบาก จีนจึงตัดสินใจว่าตัวเองจะไม่กลับไปที่บ้านอีกแล้ว
“ก็เออดิ กูไม่อยากกลับบ้านนี่หว่า เบื่อแม่ชอบให้กูไปดูตัวกับลูกของเพื่อนๆ” กายบ่นอย่างเซ็งๆ
“มึงก็หาเมียให้แม่สักคนจะได้จบๆเื่”
จีนพูดเสนอทางออก เพราะกายบ่นเื่นี้เป็ครั้งที่ร้อยแล้วละมั้ง ภายในใจลึกๆเขาแอบรู้สึกอิจฉาที่กายมันมีครอบครัวที่สมบูรณ์พร้อม มีแม่คอยใส่ใจ ซึ่งต่างจากชีวิตของเขามาก ตลอดชีวิตที่ผ่านมาเขามีแค่พ่อเท่านั้น แม้กระทั่งตอนนี้แม่ของเขาก็ไม่เคยติดต่อมาอีกเลยั้แ่ที่จีนตัดสินใจมาอยู่กรุงเทพ ตอนนี้คงมีความสุขกับชู้รักบนกองเงินกองทองที่พ่อเขาสร้างไว้ให้
“ไม่ว่ะ กูยังไม่อยากมีห่วงคล้องคอ ไม่ว่าจะแฟน คนรัก หรือคู่หมั้น กูก็ไม่พร้อมทั้งนั้น”
“เออๆ ตามใจมึงละกัน” จีนพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
“มึงก็อย่ารีบทิ้งกูไปอีกคนละ”
“เออน่า”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้