อิ๋งเอ๋อร์วิ่งเข้ามาสำรวจตามร่างกายของเสี่ยวหงอย่างร้อนรน น้ำตาของนางไหลเป็สาย เป็ความผิดของนางเอง นางไม่น่าปล่อยคุณหนูเข้ามาที่นี่เลย นางช่างไม่ระวังยิ่งนัก ที่คุณหนูต้องาเ็หนักขนาดนี้ก็เป็เพราะนาง
อวิ๋นหลัวซีหันหน้ามองไปรอบบริเวณเพื่อมองหามู่มู่ แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า เ้าแมวเก้าหางนั่นช่างหายไปไหนเร็วนัก
"ท่านพี่หลัว รีบพาเสี่ยวหงกลับจวนท่านเสนาบดีก่อนดีกว่า ข้าส่งคนไปตามหมอหลวงมาแล้ว นางอยู่ที่จวนคงจะปลอดภัยกว่าที่อื่น พวกเรารีบพาท่านอาชินอ๋องกลับตำหนักโดยด่วนเถิด อาการของเขาสาหัสยิ่งนัก"
อวิ๋นหลัวซีเห็นด้วยกับหยางซูจวิ้น แต่ในใจลึกๆ ของเขามันอธิบายไม่ถูก เขาไม่อยากปล่อยนางจากไปเพียงลำพัง มันเป็ความรู้สึกที่เขาก็ไม่เข้าใจตนเอง
แต่เพราะหน้าที่ย่อมมาก่อนความรู้สึกส่วนตัว อวิ๋นหลัวซีจึงอุ้มร่างของเสี่ยวหงเข้าไปนอนพิงในรถม้าอย่างอ่อนโยน ก่อนจะหันมากำชับกับอิ๋งเอ๋อร์อีกครั้ง
"อีกประเดี๋ยวหมอหลวงก็คงไปถึงจวนของท่านเสนาบดี หากนางอาการไม่ดีขึ้นไม่ว่าจะเป็ยามใดเ้าก็ไปหาข้าได้ที่จวนทุกเมื่อ"
"ขอบพระคุณซื่อจื่อมากเ้าค่ะ"
"รีบไปเถิด"
อวิ๋นหลัวซีพยักหน้า ก่อนจะมองรถม้าที่ค่อยๆ เคลื่อนตัวไกลออกไปด้วยหัวใจที่สั่นไหว
"ท่านพี่หลัวท่านว่าระหว่างเสี่ยวหงกับท่านอาชินอ๋องมีบางอย่างไม่ปกติหรือไม่ เหมือนกับว่าเขาทั้งสองเป็ศัตรูกันมาแต่ชาติไหน"
อวิ๋นหลัวซีปรายตามองหยางซูจวิ้นอย่างเหนื่อยหน่ายใจ องค์ชายน้อยพระองค์นี้ไม่เคยทันข่าวสารใดใดในเมืองหลวง ไม่สนใจการเรียน บุ๋นไม่ได้บู๊ก็พังไม่เป็ท่า สิ่งที่เขาเก่งที่สุดคงจะเป็การหนีไปเล่นการพนันที่หอเซียหวา
"เสี่ยวหงนางเป็อดีตคู่หมั้นกับชินอ๋อง"
หยางซูจวิ้นตาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจไม่น้อย เหตุใดเขาจึงตกข่าวเื่เช่นนี้ไปได้กันเล่า
"ชีวิตเ้ามัวเมาอยู่กับสุรา นารี การพนัน จะไปรับรู้เื่ราวโลกภายนอกได้เช่นไรกัน"
"ท่านพี่หลัว!!!"
"ก่อนจะอยากรู้เื่ของผู้อื่นวันนี้เ้าเตรียมตัวรายงานเื่การยิงธนูกับฝ่าาเถิด แล้วอีกอย่างเื่ราวของเสี่ยวหงฆ่าเสือดำในวันนี้ขอให้เป็ความลับระหว่างข้ากับเ้าห้ามพูดออกไปที่ไหนเป็อันขาด"
อวิ๋นหลัวซีปรายตามองเหล่าทหารด้วยแววตาเย็นเยียบจนพวกเขาหดหัวลงไปอย่างหวาดผวา ส่วนหยางซูจวิ้นก็พยักหน้าอย่างเบื่อหน่าย วันนี้เขาคงต้องโดนท่านพ่อด่าหูชาเื่ยิงธนูไม่ได้เื่เป็แน่
ด้านเสี่ยวหงที่ตอนนี้กำลังนอนอยู่บนเตียงด้วยดวงตาที่หนักอึ้งนั้นรู้สึกเ็ปที่ร่างกายภายในเป็อย่างมาก นางประมาทิญญาไสยดำตัวนั้นมากเกินไป ร่างกายของนางในตอนนี้ยังไม่สามารถทำสมาธิได้ถึงญาณขั้นสูงเหมือนในชาติที่แล้ว
"คุณหนูของเ้าบอบช้ำภายในแต่ไม่สาหัสเท่าใดนัก พอนางฟื้นแล้วให้ต้มยาตามเทียบยาที่ข้าจัดให้อีกไม่นานนางก็จะแข็งแรงดังเดิม"
"ขอบพระคุณเ้าค่ะท่านหมอหลวง ประเดี๋ยวข้าจะไปนำตำลึงมาให้ท่านนะเ้าคะ"
"ไม่ต้องๆ แม่นางน้อยผู้นี้เป็สหายกับองค์ชายรอง ข้ามาเพราะได้รับคำสั่งจากพระองค์ เ้าไม่ต้องกังวลกับเื่เช่นนี้"
อิ๋งเอ๋อร์ก้มศีรษะคำนับท่านหมอหลวงอีกครั้ง ก่อนจะเดินไปส่งท่านหมอหลวงที่หน้าประตูจวน
ท้องฟ้ายามค่ำคืนเริ่มมาเยือน สายลมพัดกิ่งดอกกุ้ยฮวาให้ปลิวไสว กลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยมากระทบจมูกของเสี่ยวหง นางค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่อ่อนล้าปวดร้าวไปทั่วทั้งร่างกาย
"คุณหนูท่านฟื้นแล้ว ท่านกินโจ๊กร้อนๆ ก่อนนะเ้าคะ ยาใกล้จะต้มเสร็จแล้วเ้าค่ะ"
เสี่ยวหงพยักหน้าอย่างอ่อนแรง ก่อนจะค่อยๆ ชันกายลุกขึ้นพิงกับหมอนอิงที่หัวเตียง อิ๋งเอ๋อร์ตักโจ๊กขึ้นมาค่อยๆ ป้อนนางทีละคำ ฉับพลันประตูของเรือนกุ้ยฮวาก็ถูกคนถีบออกจนบานประตูพังล้มลงเสียงดังสนั่น
"คิดว่าเ้าจะตายไปเสียแล้ว ดวงแข็งเสียจริง"
เสี่ยวหงปรายตามองสองแม่ลูกอย่างระอาในใจ คนพวกนี้ช่างจิตใจมืดดำยิ่งนัก คนป่วยทั้งคนยังจะตามมาก่อความวุ่นวายได้ลงคอ
"เ้ามาที่เรือนของข้ามีเื่อันใดกัน หากไม่มีก็เชิญไสหัวไปเสียข้าจะพักผ่อน"
เสี่ยวชิงเบ้ปากมองเสี่ยวหงอย่างดูแคลน วันนี้ที่นางเห็นคนหามเสี่ยวหงเข้ามาในจวน นางก็คิดแผนการดีดีออกมาอย่างอารมณ์ดีไม่น้อย สภาพเสี่ยวหงตอนนี้จะมีแรงมาต่อสู้กับนางได้เช่นไรกัน
ที่น่าโมโหไปกว่านั้นก็คือเสี่ยวหงจงใจลอบตามชินอ๋องเข้าไปล่าสัตว์ในป่า จงใจสร้างเื่ทำให้ตนเองาเ็เพื่อเรียกร้องความสนใจจากชินอ๋องของนาง ช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก
นังคนชั้นต่ำหน้าไม่อายวันนี้ข้าจะสั่งสอนเ้าให้หลาบจำ!
"เหตุใดข้ากับท่านแม่จะมาที่นี่ไม่ได้กันเล่า ที่นี่ก็เป็สมบัติของท่านพ่อข้า เ้าเป็เพียงแค่ผู้อาศัยมีสิทธิ์อะไรมาไล่เ้าบ้านเช่นข้า"
เสี่ยวหงยกยิ้มมุมปาก นางไม่อยากจะทะเลาะกับสองแม่ลูกนี่ให้เปลืองแรง ก่อนจะส่งสายตาให้อิ๋งเอ๋อร์ไปยกถ้วยยาที่ต้มเสร็จแล้วมาให้นาง
อิ๋งเอ๋อร์พยักหน้าก่อนจะเดินไปยกถ้วยชาส่งให้เสี่ยวหง แต่ยังไม่ทันที่นางจะได้ยกถ้วยยานั้นขึ้นดื่ม เสี่ยวชิงที่เดินเข้ามาอย่างรวดเร็วก็ปัดถ้วยยาของนางจนแตกกระจาย ยาร้อนๆ ในถ้วยราดรดบนข้อมือขาวเนียนของเสี่ยวหงจนบวมแดงอย่างเห็นได้ชัด
ด้านอวิ๋นหลัวซีที่ในใจว้าวุ่นอยู่ตลอดเวลานั้นหลังจากที่จัดการส่งชินอ๋องกลับตำหนักแล้ว เขาก็รีบตรงมาที่จวนเสนาบดีเสี่ยวเถียน
เขาแอบซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้มองดูความเคลื่อนไหวของนางที่หน้าต่างอย่างเงียบเชียบ คาดไม่ถึงว่าระหว่างที่เขากำลังสังเกตการณ์ในเรือนของเสี่ยวหง หยางซูจวิ้นกลับโผล่เข้ามาเกาะที่แขนของเขา
อวิ๋นหลัวซีสะดุ้งอย่างสุดตัว ก่อนจะหันไปถลึงตาใส่หยางซูจวิ้น องค์ชายน้อยจอมซนพระองค์นี้แสร้งทำเป็หัวเราะ และบอกกับเขาว่าอยากตามเขามาดูเสี่ยวหงเช่นกัน เขาทำได้เพียงพยักหน้าและส่งสัญญาณให้หยางซูจวิ้นเงียบเสียงไว้
การตัดสินใจมาจวนเสนาบดีในครั้งนี้ทำให้เขาทั้งสองได้พบกับเหตุการณ์ที่พวกเขาไม่เคยพบเจอมาก่อนอีกด้านหนึ่งของจวนเสนาบดี
เสี่ยวหงผู้ที่เป็คุณหนูใหญ่เพียงแค่ในนามกำลังถูกสองแม่ลูกผู้เป็ภรรยาและบุตรสาวของเสนาบดีเสี่ยวรังแกอย่างไร้ความปรานี
เขาเองก็ได้ยินเื่ข่าวลือของเสี่ยวหงว่านางมิใช่บุตรสาวสายเืเดียวกับท่านเสนาบดี แต่เขาคิดมาตลอดว่าอย่างไรเสียตระกูลเสี่ยวก็เลี้ยงดูนางมาั้แ่แบเบาะคงจะรักและดูแลนางเป็อย่างดี
แต่วันนี้นับว่าเขาได้เปิดหูเปิดตาไม่น้อย
"อิ๋งเอ๋อร์ไปเอายาถ้วยใหม่มาให้ข้า"
"เ้าค่ะ"
อิ๋งเอ๋อร์มองไปที่เสี่ยวชิงด้วยแววตาหวาดกลัว คุณหนูรองผู้นี้มีนิสัยโหดร้ายชอบทุบตีบ่าวไพร่อยู่เป็ประจำ นางเองก็เคยถูกเสี่ยวชิงทุบตีอยู่หลายครั้งจนหวาดกลัวเป็ที่สุด
อิ๋งเอ๋อร์รีบก้มหน้าเดินไปยกยาถ้วยใหม่ส่งมาให้เสี่ยวหงอย่างรีบร้อน
"อ๊าาาา"
เสี่ยวชิงยกเท้าขึ้นถีบไปที่ด้านหลังของอิ๋งเอ๋อร์จนนางถลาล้มลงมาตรงหน้าเสี่ยวหง ถ้วยยาร้อนๆ ราดรดลงไปบนเท้าของเสี่ยวหงอีกครั้ง
เสี่ยวหงสบถขึ้นมาในใจอย่างหงุดหงิด สองแม่ลูกนี่คิดจะทำลายนางไปถึงเมื่อใดกัน
"เ้านี่ก็ช่างหว่านเสน่ห์เก่งเสียจริง พลาดหวังจากชินอ๋อง ก็คิดจะไปซบอกองค์ชายรอง นี่คงยั่วยวนจนองค์ชายรองหวั่นไหวเผลอใจสิท่า พระองค์ถึงส่งหมอหลวงมารักษาเ้าเช่นนี้ ข้ากับเสี่ยวชิงเป็พระญาติของท่านอาเสี่ยวกุ้ยเฟยยังมิได้รับการปรนนิบัติดีเช่นเ้าเลยด้วยซ้ำ"
ฮูหยินหลิวเฟยเอ่ยวาจาเสียดแทงเสี่ยวหง ก่อนจะยิ้มเยาะอย่างดูแคลน ในใจนึกสะใจไม่น้อยที่เสี่ยวหงาเ็เช่นนี้ แต่ก็แอบเสียดายที่นางดวงแข็งไม่ตกตายไปเสียที
เสี่ยวหงยกยิ้มมุมปากอย่างดูแคลนก่อนจะหันไปมองสองแม่ลูกด้วยแววตาเ็า
"ฮูหยินพูดเหมือนกับเคยทำมาก่อนเสียอย่างนั้น ถึงว่าสิบุตรสาวของท่านก็คงจะเรียนรู้สิ่งนี้มาจากท่าน เวลาเพียงไม่นานก็สามารถแย่งคู่หมั้นของข้าไปได้ ท่านนี่ช่างเป็แม่ที่ ‘ดีเด่น’ ด้านนี้เสียจริง"
ฮูหยินหลิวเฟยหน้าดำทะมึน นังเด็กตัวแสบนี่กำลังต่อว่าด่าทอนาง ว่านางสอนลูกให้เป็สตรีหน้าไม่อายเช่นนั้นหรือ
เพียะ!
เสี่ยวชิงฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าเรียวงามของเสี่ยวหงอย่างเต็มแรง นางรู้สึกได้ถึงกลิ่นคาวเืที่คละคลุ้งในปาก ความอดทนของเสี่ยวหงเริ่มหมดลง ในขณะที่เสี่ยวชิงกำลังง้างมือเตรียมฟาดลงมาที่ใบหน้าของนางอีกรอบ เสี่ยวหงก็ยื่นมือไปจับแขนของเสี่ยวชิงเอาไว้ ก่อนจะกำมือต่อยเข้าไปที่ใบหน้าของนางอย่างเต็มแรง
โชคดีที่พลังปราณของมู่มู่ช่วยให้นางดีขึ้นมาก
"อ๊าาา ท่านแม่ จมูกข้า อ๊าาา!!!"
เสี่ยวชิงล้มลงกับพื้นดิ้นทุรนทุรายด้วยความเ็ป สองมือกุมจมูกไปพลางปากก็ร้องะโอย่างสุดเสียง
"จะตายวันตายพรุ่งอยู่แล้วยังมีเรี่ยวแรงมาตบตีลูกข้า เด็กๆ จับตัวมันเอาไว้วันนี้ข้าจะเอาเืนางมาล้างเท้าข้า!!!"
หญิงรับใช้สี่ห้าคนพุ่งตัวเข้ามาเตรียมจะจับตัวเสี่ยวหงเอาไว้
คิดจะจับนางหรือ? ช่างไม่เจียมกะลาหัวเสียจริง
เสี่ยวหงเอื้อมมือไปหยิบกล่องเครื่องประดับที่ทำจากเหล็กบนหัวเตียงขึ้นมา ก่อนจะฟาดไปที่ใบหน้าของสาวใช้ที่วิ่งกรูเข้ามาทีละคน จนล้มลงไปกองกับพื้น บางคนหัวแตกเือาบ บางคนฟันร่วงหล่นไปหลายซี่
"อยากเจ็บตัวก็เข้ามาอีกสิ คิดว่าร่างกายข้าอ่อนแอแล้วจะสู้พวกเ้าไม่ได้เช่นนั้นรึ"
ฮูหยินหลิวเฟยกำมือแน่นด้วยความเกลียดชังที่มีต่อเสี่ยวหงอย่างสุดชีวิต อยากฆ่านางให้ตายเสียเดี๋ยวนั้น
"เ้านี่ช่างเ้าเล่ห์ยิ่งนัก ซ้ำยังหน้าด้านหน้าทนทุบตีคนในจวนเสนาบดีของข้า เหตุใดเ้าไม่ตายๆ ไปเสียจะกลับมาที่นี่ให้รกหูรกตาข้าทำไมกัน"
เสี่ยวหงส่งเสียงเฮอะออกมาอย่างรำคาญใจ ฮูหยินผู้นี้คิดว่านางอยากอยู่ที่นี่นักหรือ หากไม่ใช่เพราะท่านย่าเคยขอไว้นางคงจะไปจากที่นี่นานแล้ว
"ข้าพอใจอยากจะอยู่ที่นี่ เ้ามีปัญหาเช่นนั้นหรือ หากเ้าทนทำใจอยู่ร่วมจวนกับข้าไม่ได้ เช่นนั้นก็ไปผูกคอตายเสียสิ ข้าเองก็ไม่อยากใช้อากาศหายใจร่วมกับคนอย่างพวกเ้าเช่นกัน"
ฮูหยินหลิวเฟยหมดความอดทนต่อเสี่ยวหงแล้ว นางพุ่งตัวเข้ามาบีบคอเสี่ยวหงอย่างเอาเป็เอาตาย
"แม่บุญธรรมคิดฆ่าลูกบุญธรรมอย่างเอาเป็เอาตาย ข้าเกิดมาสิบสี่ปีเพิ่งจะเคยเห็นเหตุการณ์นี้ช่างนับว่าได้เปิดหูเปิดตาไม่น้อย"
ฮูหยินหลิวเฟยชะงักมือค้างอยู่ที่ลำคอขาวเนียนของเสี่ยวหง ก่อนจะหันไปมองตามเสียงที่ลอยเข้ามาทางประตู
"เ้าเป็ใคร เหตุใดจึงเข้ามาในจวนของข้าได้"
ฮูหยินหลิวเฟยตวาดใส่หยางซูจวิ้นอย่างหงุดหงิด
"ข้าเป็สหายของเสี่ยวหงได้ข่าวว่านางป่วยจึงมาเยี่ยมนางเสียหน่อย"
"สหายเช่นนั้นหรือ? หึ! เ้าคงจะหลงเสน่ห์นังจิ้งจอกนี่เข้าแล้ว ข้าขอเตือนเ้าเอาไว้นังสารเลวนี่ถูกชินอ๋องถอนหมั้นไม่นานก็คิดจะไปซบอกองค์ชายรอง เ้ามิใช่บุรุษที่นางหมายตาไว้หรอก อย่าโง่นักเลย"
"เป็เช่นนั้นหรือ?"
"จริงแท้แน่นอน ไม่เชื่อเ้าก็ลองไปถามชาวบ้านแถวนี้ดูสิ ใครๆ ต่างก็รู้เื่ต่ำช้าของนาง"
"โอ้ว"
"ว่าแต่เ้าชื่ออะไรเป็บุตรชายจากจวนใดกัน ข้าจะได้ส่งคนไปเตือนบิดามารดาเ้าไว้ว่าอย่าปล่อยบุตรชายมาหลงกลนังจิ้งจอกตัวนี้"
หยางซูจวิ้นยกยิ้มมุมปากอย่างดูแคลน
"ข้า มีนามว่าหยางซูจวิ้น องค์ชายรองที่พวกเ้าแอบนินทาเมื่อครู่อย่างไรเล่า"
เสี่ยวชิงรีบลุกขึ้นยืนแววตาวูบไหวไปมาอย่างไม่เป็ธรรมชาติ