"ถึงจะแบบนั้นก็ไม่ได้ขอรับ มันยังอันตรายเกินไป"
"เฟลิกซ์ เ้าจะดื้อดึงไปถึงไหนกัน ก่อนหน้านี้นายของเ้าก็ไปดินแดนอื่นมามากมายก่อนที่จะเข้าวังหลวง จะมาทำเป็พิธีรีตองให้ยุ่งยากทำไมกัน" เขาเห็นมาตลอดว่ารัชทายาทพาไปดินแดนอื่นแต่ทำไมเวลานี้กลับไปไม่ได้เสียแล้ว
"นับวันกลิ่นยิ่งรุนแรงรอให้สร้อยปกปิดกลิ่นที่ถูกสั่งมาถึงเสียก่อน แล้วหลังจากนั้นค่อยว่ากันขอรับ" การปะทะฝีปากยังคงดำเนินต่อไปเพราะคนห้ามไม่ได้อยู่ที่นี่นั่นเอง
มือขาวเริ่มจัดเตรียมของสำหรับอาหารกินเล่นในเวลานี้โดยมี คัสซัส มองด้วยความกังวลเป็ระยะ ั้แ่เกิดมายังไม่เคยเห็นมนุษย์ทำของกินแปลกประหลาดมาก่อน แถมยังมีรสชาติอร่อยน่าเหลือเชื่ออีก
"คัสซัสไม่ต้องกังวลไป แค่นี้ข้าทำได้ ไม่มีปัญหา" เสียงทุ้มนุ่มบอกพลางจัดแจงเตรียมทำอย่างทะมัดทะแมง
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
"รัชทายาทเรียกให้คุณชายไปเข้าพบขอรับ"
"บอกให้ท่านพี่รอก่อนนะ ข้าขอทำอาหารก่อน
"ถึงจะเป็บุตรบุญธรรมแห่งตระกูลริคก็ตามแต่ไม่มีสิทธิปฏิเสธคำสั่งของรัชทายาท กรุณาทำตามคำสั่งด้วยขอรับ"
"ถึงจะเป็ลอร์ดโฟลช์ก็ไม่มีสิทธิมาว่าคุณชายแบบนี้ ท่านไม่รู้จักธรรมเนียมของที่นี่หรือ" คีเซินออกโรงช่วยเ้านายที่พวกเขาเพิ่งจะดูแลได้ไม่กี่วัน ถึงจะไม่ได้รู้จักกันนานแต่ก็รู้ว่าเป็คนดี มองโลกในแง่ดี ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด
าในครัวเริ่มเกิดขึ้นเนื่องจากต่างคนต่างปกป้องนายของตนเอง ความรวดเร็วในการโจมตีนั้นไม่ได้แตกต่างกัน ความต่างก็คงจะมีเพียงสายเืของคีเซินที่มีเืของแวมไพร์เพียงครึ่งเดียว ทำให้ไม่สามารถใช้พลังต่อกรได้อย่างเต็มที่เหมือนเืบริสุทธิ์อย่างเมล์นั่นเอง เหล่าแวมไพร์หนุ่มภายในวังเริ่มรู้แล้วว่ามีการใช้พลังของแวมไพร์ที่มีพลังขั้นสูง หมายความว่าเกิดการต่อสู้กันอยู่ หากตามเสียงการต่อสู้ไปน่าจะรู้ว่าอยู่ที่ไหน และภาพตรงหน้าที่ทั้งสามเห็นก็คือคีเซินกับเมล์กำลังต่อสู้กันโดยที่ไวท์มัวแต่ทำอาหารและมีสมาธิจนไม่ได้ยินเสียงรอบข้าง
"หยุดกันทั้งสองคน พวกเ้ากำลังจะทำให้กระรอกน้อยของข้าได้รับาเ็ไปด้วย" คีย์ออกปากห้ามทันทีและเหมือนว่าเสียงของคีย์จะทำให้ร่างสูงโปร่งหลุดออกจากสมาธิการทำอาหารแล้วรีบหลบการต่อสู้ที่เกิดขึ้นในห้องครัวทันทีแต่เหมือนว่าจะหลบไม่พ้นเสียแล้ว ข้างหนึ่งก็นมสดอีกข้างก็วิปครีมที่เพิ่งทำเสร็จคงต้องเสียสละตัวเองซะแล้วล่ะ
ซ่า!!!
ทั้งคีเซินและเมล์โดนนมสดและวิปครีมที่ร่างสูงโปร่งทำสาดใส่คนละข้างจนทำให้หยุดชะงักการต่อสู้อย่างหวุดหวิดก่อนที่จะใช้พลังกับไวท์เพราะถึงให้หลบยังไงก็ไม่มีทางพ้นเพราะมันระยะประชิดตัวมากจนเกินไป คีย์ มาร์แชล เฟลิกซ์ มองด้วยความตกตะลึงเพราะมันคือวินาทีที่สำคัญมากยังสามารถทำให้แวมไพร์ที่มีพลังทำลายล้างสูงหยุดลงได้ สมแล้วที่เป็ลูกหลานของตาแก่
"เฮ้อ.... เสียดายวิปครีมกับนมสดชะมัด ทำตั้งนานกว่าจะเสร็จ" เสียงทุ้มนุ่มถอนหายใจยาวออกมาด้วยความเสียดายทั้งที่สถานการณ์ตรงหน้านั้นวิกฤตเกินกว่าจะมาห่วงเื่แค่นี้
"วิเศษมาก! กระรอกน้อย เ้าสามารถหยุดแวมไพร์ระดับสูงได้ด้วยการสาดของกินใส่ ข้าประทับใจมาก" คีย์ชื่นชมด้วยความเอ็นดูพลางปรายตามองตัวต้นเหตุที่ทำให้ครัวเหมือนสมรภูมิรบเช่นนี้
"รัชทายาทจะต้องจัดการเื่นี้พะยะค่ะ หม่อมฉันเห็นว่าไม่สมควรที่จะปล่อยผ่าน" มาร์แชลท้วงความยุติธรรมให้กับไวท์ทันทีเพราะถ้าหากว่าไวท์ไม่ใช่ไหวพริบเช่นนี้อาจจะได้รับาเ็ไปแล้วก็ได้ โชคดีที่เด็กคนนี้ฉลาดกว่าที่คาดคิดไว้มากนัก ยิ่งเจอก็ยิ่งหลงใหลในความงดงามในหลายๆ ด้าน
"หม่อมฉันยินดีชดใช้ด้วยชีวิตพะยะค่ะ / หม่อมฉันยินดีชดใช้ด้วยชีวิตพะยะค่ะ" แวมไพร์ทั้งสองคนพูดออกมาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายราวกับว่ารู้ชะตากรรมอยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น การต่อสู้ที่ทำโดยพละการและไม่ได้รับอนุญาตนั้นโทษสูงสุดคือปะาชีวิต ถึงจะเป็สิ่งมีชีวิตที่มีอายุยาวนานแต่ก็สามารถตายได้เช่นกัน
"หึ! ขนาดรู้กฎก็ยังทำอีกนะ ไม่สมกับที่เป็นักเรียนดีเด่นกันทั้งคู่เลยนะ คีเซิน เมล์" สายตาคมมองเห็นสัญญาณมือของไวท์ว่าไม่อยากให้ลงโทษขั้นเด็ดขาดเลยเปลี่ยนแปลงอะไรเล็กน้อยเพื่อให้น่าสนุกยิ่งขึ้น อยากจะรู้ผลที่ตามมาเหมือนกันว่าจะเป็เช่นไร
"ในฐานะที่คนที่ได้รับความเดือดร้อนในทีนี้คือไวท์ ข้าจะให้คุณชายริค ไวท์เป็ผู้ตัดสินในความผิดของพวกเ้าทั้งสองคน ที่กระทำการเกินกว่าเหตุเช่นนี้" สีหน้าของไวท์หนักใจขึ้นมาทันทีเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะทำแบบนี้ แถมยังมีสีหน้าที่สนุกสนานอีกต่างหาก ท่าทางกำลังเหมือนเล่นเกมส์อะไรสักอย่างอยู่เลยนะ
"ถ้าเช่นนั้นแล้วยังมีวิธีการลงโทษที่แม้ไม่ใช่ความตาย แต่ก็สามารถทำให้ทั้งสองคนอยากตายเลยล่ะ" ใบหน้าหวานมีสีหน้าเ้าเล่ห์ขึ้นมาทันทีทำให้แวมไพร์ทั้งสองสะดุ้งทันที ถึงจะไม่รู้ว่าเป็อะไรแต่ท่าทางจะน่ากลัวไม่ใช่น้อย
"ไม่ทราบว่าวิธีที่คุณชายจะใช้ลงโทษพวกเขาทั้งสองคนคืออะไรหรือขอรับ" เฟลิกซ์ถามด้วยสีหน้าเป็กังวล ไม่เคยรู้ว่าเวลาลูกครึ่งัยิ้มแบบนี้มันรอยยิ้มพิฆาตมากกว่าจะเป็รอยยิ้มอ่อนโยนแบบที่เคยเห็นดั่งเช่นทุกวัน
"เนื่องจากที่นี่การถือยศค่อนข้างอ่อนไหวมาก เพราะต้องรักษาหน้าตาของตระกูลเอาไว้ บทลงโทษมีทั้งหมดสามข้อที่เมื่อได้ฟังครบทุกข้อ แทบอยากจะตายแต่ก็ตายไม่ได้ เพราะว่าข้าไม่อยากให้ตาย" แวมไพร์ทั้งสองกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะต้องมาหวาดกลัวลูกหลานของตาแก่อีกครั้งหนึ่งจนได้
"ข้อแรก ถอดยศของทั้งสองคนออกเป็เวลาหนึ่งสัปดาห์ จากนี้ไปเวลาไปไหนมาไหนตำแหน่งคือข้ารับใช้ภายในวังเท่านั้น ไม่มีสิทธิมีเสียงอะไรในการออกความคิดเห็น มีหน้าที่ทำตามเท่านั้น"
"ข้าขอถามว่าคุณชายลงโทษแบบนี้แล้วจะได้อะไรหรือขอรับ" เมล์ถามด้วยความสงสัย การถอดยศเพียงชั่วคราวไม่ใช่บทลงโทษร้ายแรงแต่ทำไมถึงยังสั่งลงโทษแบบนี้กัน
"เป็คำถามที่ดีครับ เพราะว่าทั้งสองเป็ที่นับหน้าถือตาของแวมไพร์และลูกครึ่งแวมไพร์ ชอบทำอะไรเกินหน้าที่ของตนเองโดยไม่จำเป็ การลดยศนั้นทำให้รู้ว่าต่อไปควรสงบปากสงบคำมากกว่านี้" แค่เหตุผลแรกก็ทำให้แวมไพร์ทั้งห้าสะดุ้งกันเป็แทบ ช่างเป็เหตุผลที่เฉียบขาดและซับซ้อนมาก
"ข้อสอง หน้าที่ของข้ารับใช้ของทั้งสองคนจะต้องทำความสะอาดครัวตอนนี้ ทำอาหาร ตัดหญ้าในสวน ดูแลสวนดอกไม้ สวนผัก ความสะอาดภายในวังทั้งหมดโดยจะไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้นจากผู้อื่น หากพบเห็นจะถูกสั่งลงโทษแบบเดียวกันทั้งสามข้อและระยะเวลาเริ่มนับจากวันที่กล้าลองดี" งานบ้านถือเป็บทลงโทษสุดโหดสำหรับผู้ชายในจักรวรรดิ การทำแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับลงโทษทั้งเป็
