“นายจะทำอะไร?” เถารั่วเซียงตบมือของฉินหลางออกแรงๆ
“น้าเถา ขอร้องล่ะ ช่วยให้ความร่วมมือหน่อยได้มั้ยครับ” ฉินหลางพูดด้วยท่าทีจริงจัง “คุณไม่เห็นรึไง นักศึกษาชาย หญิงเ่าั้เดินจับมือกัน เกี่ยวแขน โอบไหล่ หรือบางคู่เดินกอดกันเข้าไปก็ยังเป็เื่ปกติเลย ถ้าเราต่างคนต่างเดินเข้าไป จะต้องโดนคนเขาสงสัยแน่ ชิ ไหนบอกว่าตัวเองเป็มืออาชีพไง ทำไมถึงไม่สังเกตรายละเอียดพวกนี้ล่ะ!”
เถารั่วเซียงแอบโกรธเคืองในใจ ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเ้านี่จงใจแต๊ะอั๋งเธอ แต่ที่น่าเกลียดคือฉินหลางพูดถูก และมีเหตุผลมาก ดังนั้นเธอจึงคว้าข้อมือของฉินหลางไว้ เดินเข้าไปในร้านชวนชวนน้ำปั่น
แม้ภายในร้านจะมีคนอยู่เป็จำนวนมาก ทว่าการปรากฏตัวของฉินหลางกับเถารั่วเซียง ก็ยังดึงดูดความสนใจของผู้คนได้เป็จำนวนมากอยู่ดี
พูดอย่างถูกต้องคือ การปรากฏตัวของเถารั่วเซียง ดึงดูดความสนใจของผู้ชายจำนวนมาก เสน่ห์มหาศาลของเถารั่วเซียงนั้นทรงพลังมาก แต่นั่นมันก็ได้ทำให้ผู้หญิงจำนวนมาก ทั้งพวกที่ทาแป้งจนหนาเตอะราวกับฉาบปูน หรือพวกผู้หญิงที่แต่งหน้าเข้มราวกับจะไปเล่นงิ้วล้วนไม่พอใจ มองเถารั่วเซียงด้วยแววตาอิจฉาริษยาอยู่เป็ระยะๆ
เถารั่วเซียงควงแขนฉินหลาง เดินตรงขึ้นไปบนชั้นสองทันที ชั้นสองนั้นเป็ห้องส่วนตัวสุดหรูหรา ค่าใช้จ่ายก็ต้องแพงขึ้นเป็ธรรมดา ทว่าทั้งคู่ต่างรู้ได้ชัดเจน หากร้านน้ำปั่นนี้มีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลจริงๆ ละก็ มันจะต้องเกิดขึ้นบนชั้นสองแน่นอน
พนักงานเสิร์ฟที่นี่ก็น่าจะเป็นักศึกษาของวิทยาลัยเหมือนกัน เพราะยังดูเด็กมาก ประมาณ 17-18 เท่านั้น พวกเธอเขียนสโมกกี้อายเข้มๆ สวมชุดคอสเพลย์สาวใช้ มองเผินๆ ก็ดู ‘คาวาอี้’ ดี แต่หากสังเกตดีๆ แล้วกลับมีความเป็นักเลงอยู่
“ทั้งสองท่าน จะรับเครื่องดื่มอะไรดีคะ?” พนักงานเสิร์ฟถามขึ้น
“ชาไข่มุกสองแก้ว ผลไม้แห้งด้วย” ฉินหลางสั่งแบบลวกๆ ยังไงซะจุดประสงค์ที่พวกเขามาที่นี่ก็ไม่ใช่ “กิน” อยู่แล้ว
แน่นอนว่าเถารั่วเซียงก็รู้ความจริงข้อนี้ ดังนั้นหลังจากที่ชาไข่มุกมาเสิร์ฟ เธอไม่ได้ลองชิมเลยแม้แต่คำเดียว แต่ที่ทำให้เธอต้องอ้าปากค้างก็คือ ฉินหลาง เ้านี่ดื่มชาไข่มุกรวดเดียวมากกว่าครึ่งแก้ว แล้วยังจะกินผลไม้แห้งที่เขาเอามาเสิร์ฟอย่างสบายใจเฉิบอีก
“นี่ ฉินหลาง นายบ้าไปแล้วรึไง!” เถารั่วเซียงกระซิบเตือนฉินหลาง “นายลืมว่าที่นี่คือที่ไหนแล้วเหรอ?”
ฉินหลางรู้ว่าเถารั่วเซียงหวังดีกับตน แต่เขารู้ว่าน้ำสองแก้วนี้ไม่มีปัญหาอะไร และต่อให้มันมีปัญหา อย่างเช่น มียาพิษอะไรทำนองนี้ พวกเขาก็คงต้องผิดหวัง เพราะยาพิษทำอะไรฉินหลางไม่ได้หรอก แต่ฉินหลางกลับล้อเล่นกับเถารั่วเซียงว่า “วางใจเถอะครับ ผมเป็ผู้ชาย! ถ้าคลับบ้าบออะไรนั่น้าผู้ชายพรหมจรรย์หล่อๆ ไป ‘รับแขก’ เท่านั้นแหละ ผมถึงจะมีโอกาสโดนวางยา”
เถารั่วเซียงจนปัญญากับฉินหลางแล้วจริงๆ จึงได้เพียงเตือนสติ “นายระวังตัวด้วย สังเกตนักเรียนที่อยู่รอบๆ ตัวว่าพวกเขามีพฤติกรรมอะไรผิดสังเกต หรือแปลกประหลาดบ้างรึเปล่า”
ตอนนี้ตรงกับ่เวลาที่ขายดีที่สุดพอดี ทั้งคู่จึงสังเกตดูอีกครั้ง อย่างละเอียด แล้วพวกเขาก็พบกับปัญหาว่าทำไมนักศึกษาทั้งชายและหญิงของวิทยาลัยศิลปะ ส่วนมากล้วนชื่นชอบน้ำชนิดพิเศษ ที่เรียกกันว่า “ฟองเจ็ดสี” ขอเพียงดื่มน้ำปั่นชนิดนี้เข้าไป ทั้งชายและหญิงเ่าั้ก็จะรู้สึก *hype ขึ้นมาทันที
“น้องครับ เอาฟองเจ็ดสีด้วยหนึ่งแก้ว” ฉินหลางสั่งน้ำฟองเจ็ดสีกับพนักงานเสิร์ฟด้วยความ (แสร้ง) ประหลาดใจ ซึ่งน้ำชนิดนี้มีราคาสูงถึง 50 หยวน
“เก็บตัวอย่างกลับไปด้วย” เมื่อน้ำฟองเจ็ดสีมาเสิร์ฟแล้ว เถารั้วเซียงเอาหลอดทดลองเล็กๆ ออกมา แล้วเก็บตัวอย่างเล็กน้อย
ฉินหลางยกแก้วขึ้นมาดมก่อน แล้วจึงใช้ลิ้นแตะๆ เล็กน้อย ก่อนจะส่ายหัวพลางพูดขึ้น “มีปัญหาเล็กน้อย แต่ไม่ใช่สิ่งที่เรากำลังตามหา ถ้าผมเดาไม่ผิดข้างในมีส่วนผสมของยาอีเล็กน้อยเท่านั้น”
“นายรู้ชัดเจนขนาดนั้นเลย? เมื่อก่อนนายเคยกินเหรอ?” เถารั่วเซียงจ้องฉินหลางตาเขม็ง
“อย่าลืมสิครับ ผมเป็แพทย์แผนจีน แพทย์ที่เป็มืออาชีพมากๆ” ฉินหลางทำได้เพียงใช้ข้ออ้างนี้เท่านั้นๆ เขาตระหนักได้ว่าการคบค้าสมาคมกับผู้หญิงฉลาดนี่ไม่ใช่เื่ง่ายเลยจริงๆ ภายใต้การสแกนจาก “ดวงตาที่เห็นความจริง” ของเธอ สักวันหนึ่งความลับของฉินหลางจะต้องปิดไม่อยู่แน่
เห็นได้ชัดเจนว่า น้ำฟองเจ็ดสียังไม่ใช่สิ่งที่ฉินหลางมองหาอยู่ แต่มันก็เป็กำไรที่เขาไม่คาดคิด แต่ทว่ามีของแบบนี้ในร้าน แสดงว่าเ้าของร้าน—‘พี่ชวนคนนั้น’ จะต้องไม่ใช่คนแน่นอน เฝ้าอีกไม่นาน จะต้องพบเบาะแสแน่นอน
คนในร้านน้ำปั่นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในเวลานี้มีสาวๆ กลุ่มหนึ่ง สวมกระโปรงยาวของชนกลุ่มน้อยและคลุมเสื้อชุดนักเรียนไว้ด้านนอก ดูไปแล้ว ผู้หญิงกลุ่มนี้เพิ่งจะซ้อมเต้นเสร็จ พวกเธอเดินตรงขึ้นมาบนชั้นสอง และนั่งลงบนโต๊ะในห้องส่วนตัวที่อยู่ตรงข้ามฉินหลาง เนื่องจากห้องส่วนตัวบนชั้นสองไม่ได้เป็ห้องที่ปกปิดมิดชิด เพียงแต่กั้นขึ้นเพื่อให้รู้ว่าเป็ส่วนตัวมากขึ้นเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ฉินหลางสามารถมองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ชัดเจนราวกับไม่มีอะไรกั้นอยู่
นักศึกษาวิทยาลัยศิลปะ มองรวมๆ แล้วไม่เลวเลย ทั้งรูปร่างและหน้าตาล้วนมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าโรงเรียนทั่วไป ทว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งในนั้น ที่มีแรงดึงดูดมากเป็พิเศษ แม้เธอจะไม่ได้สูงมาก แต่กลับหุ่นเพรียวและประณีตมาก โดดเด่น เป็ประกาย มองไปแล้วรู้สึกตาลุกวาว รัศมีความสว่างไสวกลบหญิงสาวคนอื่นๆ ราวกับว่าหญิงสาวคนอื่นเป็เพียงใบไม้ที่หนุนให้ดอกไม้อย่างเธอดูสวยงามยิ่งขึ้นเท่านั้น
ไม่รู้ทำไม ในสายตาของฉินหลาง หญิงสาวคนอื่นใส่กระโปรงที่มีกลิ่นอายความเป็ชนเผ่าแบบนี้ เห็นแวบๆ ก็ดูดีอยู่หรอกแต่เมื่อสังเกตดีๆ แล้วไม่ว่าตรงไหนก็ไม่ผ่านไปหมด ทว่าหญิงสาวคนนี้ใส่กระโปรงที่มีกลิ่นอายของความเป็ชนเผ่าแบบนี้นอกจากจะดูเป็กันเอง เข้ากับคนง่าย ทำให้รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
“ช่างเถอะ พวกเธอเล่นกันให้เต็มที่นะ ฉันต้องกลับไปก่อน ตอนหัวค่ำยังมีคลาสทบทวนด้วยตัวเองอีก” หญิงสาวคนนั้นบอกกับผู้หญิงคนอื่นๆ ในกลุ่ม ดูเหมือนเธอกำลังจะออกจากที่นี่
“เจียงเสี่ยวฉิง เธอไม่ใจเลย ถึงเธอจะไม่ได้เรียนอยู่ที่เดียวกับเรา แต่เราทุกคนเห็นเธอเป็เพื่อน เป็พี่น้องให้ใจกับเธอมาตลอดนะ ฉันฟู่หยิงเสี่ยวชวนเธอดื่มน้ำปั่น เธอยังไม่ให้เกียรติฉันเลยเหรอ?” ผู้หญิงอีกคนพูดขึ้น ผู้หญิงคนนี้ดูไปแล้วมีความเป็นักเลงอยู่นิดหน่อย และฉินหลางก็ััได้ว่าบนตัวเธอมีฤทธิ์ของยาอีที่ยังหลงเหลืออยู่ไม่น้อย ดังนั้นจึงให้ความสนใจเธอเป็พิเศษ
เมื่อเถารั่วเซียงเห็นฉินหลางมองด้วยความตั้งใจขนาดนั้น พูดในใจอย่างเหลืออด “เ้านี่เ้าชู้จริงๆ เลย! เห็นผู้หญิงสวยเข้าหน่อยก็สติไม่อยู่กับร่องกับรอยเลยนะ!”
ขณะเดียวกัน เถารั่วเซียงก็แอบรู้สึกแปลกใจ “ทำไมเ้าหมอนี่จ้องผู้หญิงตาไม่กะพริบ แล้วฉันต้องโมโหด้วยล่ะ?”
เวลานี้ดูเหมือนผู้หญิงที่ชื่อเจียงเสี่ยวฉินจะปฏิเสธได้ยาก ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ฟู่หยิงเสี่ยว ฉันจะไม่ให้เกียรติเธอได้ยังไง เพียงแต่ ฉันดื่มน้ำแก้วนี้แล้ว ก็ต้องรีบกลับไปเข้าคลาสทบทวนบทเรียนตอนหัวค่ำ เธอก็รู้นี่”
“ก็ได้ พวกเรารู้ว่าเธอขยันเรียน อยากจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ เธอสบายใจได้ ดื่มน้ำสักแก้ว พวกเราก็ให้เธอกลับไปแล้ว” ผู้หญิงที่ชื่อฟู่หยิงเสี่ยวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แล้วหันไปส่งสายตาให้กับพนักงานเสิร์ฟ “เอาน้ำฟองเจ็ดสีมาให้พวกเราคนละแก้ว ส่วนของเธอเป็น้ำเย็นๆ ก็แล้วกัน จะได้ไม่ต้องรบกวนเวลาหาความรู้ของเด็กมัธยมที่ขยันเรียนของเรา”
“ฉันเป็ไม่ได้เป็เด็กมัธยมที่ขยันเรียนสักหน่อย” เจียงเสี่ยวฉิงพูดขึ้นอย่างเขินอาย
ไม่นานนักพนักงานเสิร์ฟก็เอาเครื่องดื่มของเจียงเสี่ยวฉิง ฟู่หยิงเสี่ยวและพวกมาเสิร์ฟ
เจียงเสี่ยวฉิงเพียง้ารับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว เมื่อเห็นน้ำเย็นที่พนักงานเสิร์ฟยกมา ก็อยากจะยกขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด
ในเวลานี้เอง จู่ๆ ฉินหลางก็โผล่ออกมา หยิบน้ำเย็นที่อยู่บนถาดในมือพนักงานเสิร์ฟไปเสียก่อน ยกดื่มรวดเดียวจนเกือบหมด ก่อนจะบอกกับพนักงานเสิร์ฟ “ฉันสั่งน้ำเย็นไปตั้งนาน มาเสิร์ฟช้าจริงๆ เลย รอนานขนาดนี้เพิ่งจะเอามา!”
พูดจบ ฉินหลางก็ไม่สนว่าพนักงานเสิร์ฟกับฟู่หยิงเสี่ยวจะมีอาการตอบสนองอะไรรึเปล่า เดินถือแก้วในมือกลับมายังที่นั่งของตัวเองทันที
*hype : มีความสุข เฮฮาร่าเริง สนุกสนาน ตื่นเต้น ครึกครื้น กระปรี้กระเปร่า