ครึ่งชั่วโมงผ่านไปลูกศิษย์ของผู้าุโหญิงผู้นั้นได้เดินออกมาจากคฤหาสน์สายตาของเขาก็มีแต่ความสงสัยและความงุนงง คิ้วขมวดเป็รอยลึก จากสภาพของเขาดูเหมือนว่าเขาคงไม่ค่อยพอใจกับผลการพิสูจน์ของตนเอง
เมื่อเห็นท่าทางของลูกศิษย์ของตนเองแล้วผู้าุโหญิงจึงได้แต่ส่ายศีรษะอย่างอ่อนใจพร้อมกับถอนหายใจออกมา
และเวลานี้เอง ผู้เฒ่าหลิวจึงได้ลุกขึ้นยืนพร้อมประกาศขึ้น“การทดสอบในเช้าวันนี้สิ้นสุดแต่เพียงเท่านี้ อีก 5 คนที่เหลือจะเริ่มทำการทดสอบตอนบ่าย 2 ครึ่ง่เวลานี้พวกคุณสามารถพูดคุยได้อย่างอิสระ พวกเราไม่รับรองว่าพวกคุณจะไม่มีการพูดคุยเกี่ยวกับการทดสอบพวกคุณอยากคุยอะไรก็คุยได้ตามใจชอบ หากคุณไม่กลัวว่าคู่แข่งของพวกคุณจะรู้ข้อมูลการทดสอบก่อนก็พูดได้เลยแต่จำไว้ให้ดี พวกคุณทั้ง 10 คนนอกจากตัวของคุณแล้วคนอื่นๆ ล้วนเป็คู่แข่งของคุณ เป็คู่แข่งที่คุณต้องเอาชนะหากคุณคิดจะช่วยคู่แข่งของคุณ ผมก็คงจะพูดอะไรไม่ได้ ผมคงพูดได้เท่านี้การทดสอบของเช้าวันนี้สิ้นสุดลงแล้ว ขอเชิญทุกท่านตามเ้าหน้าที่เข้าไปในคฤหาสน์เพื่อรับประทานอาหารกลางวันที่เตรียมไว้อย่างหลากหลายได้เลย”
ผู้เฒ่าหลิวพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อเป็การบอกว่าตนเองพูดจบแล้วหลังจากนั้นจึงทำท่าเชิญให้กับทุกๆ คน
เมื่อได้ยินเช่นนี้หลินเยว่จึงเพิ่งนึกออกว่าเขารู้สึกหิวแล้ว เขาจึงรีบเดินตามอาจารย์ของตนเข้าไปยังภายในคฤหาสน์
หวังเยว่ดึงตัวหลี่เฉียนโจวเอาไว้และพากันเดินไปทางด้านหลังเมื่อเห็นท่าทางของหวังเยว่ที่มองซ้ายมองขวาราวกับว่าเขาไม่้าให้คนอื่นเห็นภาพนี้หลี่เฉียนโจวจึงเข้าใจได้ทันที
เขา้าถามถึงเื่การทดสอบแน่ๆ เลย
หลี่เฉียนโจวส่งยิ้มเล็กน้อยและรีบชิงความได้เปรียบโดยการเอ่ยปากขึ้นมาก่อน “พี่หวัง มีอะไรหรือ? มีเื่ให้ผมช่วยใช่ไหม? พี่เอ่ยปากได้เต็มที่เลยขอแค่ผมสามารถทำได้ ผมต้องช่วยพี่แน่ๆ แต่ว่าพี่หวัง พี่ต้องเข้าใจหน่อยนะว่าความสามารถของผมมีจำกัดอาจจะช่วยอะไรไม่ค่อยได้ หวังว่าพี่หวังจะไม่ทำให้ผมลำบากใจ”
หวังเยว่หัวเราะแห้งๆ ออกมาโอบบ่าหลี่เฉียนโจวพร้อมพูดขึ้น “น้องหลี่เกรงใจเกินไปแล้วพี่จะสร้างความลำบากใจให้น้องได้อย่างไรสิ่งที่พี่พูดต้องเป็เื่ที่น้องหลี่ทำได้อยู่แล้วหวังว่าน้องหลี่จะไม่หวงความรู้ไว้คนเดียว และจะช่วยชี้แนะพี่ด้วย!”
แต่ในขณะเดียวกันเขาก็แอบด่าอยู่ในใจ“คำพูดประหนึ่งผายลมทั้งนั้น ตอนแรกพูดว่าขอแค่ทำได้ก็จะช่วยแน่ๆ แต่ตอนหลังกลับพูดว่าขอให้ผมอย่าสร้างความลำบากใจให้กับคุณนี่มันเป็การปฏิเสธชัดๆ เลย!ไม่อยากพูดใช่ไหมล่ะ แต่ถึงยังไงผมก็จะทำให้คุณต้องเอ่ยปากออกมา!”
หลี่เฉียนโจวรีบทำท่าทางตกประหม่าขึ้นมาทันทีและพูดตอบ“พี่หวังชมเกินไปแล้ว ผมจะกล้าชี้แนะพี่ได้อย่างไรหากช่วยพี่หวังได้ผมย่อมยินดีช่วยพี่อยู่แล้วแต่ว่ามีบางเื่หวังว่าพี่หวังจะไม่สร้างความลำบากใจให้กับผม เพราะมีบางเื่ถึงแม้ว่าผมอยากจะช่วยแต่ว่าคงช่วยพี่ไม่ได้ ดังนั้น พี่หวังอย่าสร้างความลำบากใจให้กับผมเลย”
“อย่าทำท่าทางลำบากใจขนาดนี้เลยคุณก็รู้ว่าผมมาหาคุณเื่อะไร?” หวังเยว่พูดพร้อมส่งยิ้มออกมาสายตาเริ่มแฝงไปด้วยความโกรธ
“คงต้องให้พี่หวังบอกผมมาเถอะ”
หลี่เฉียนโจวถามด้วยสีหน้าสงสัยแต่ทว่าถึงเขาจะระวังตัวขนาดไหนแต่ท่าทีของเขาก็มีความดูถูกแฝงอยู่
“ฮ่าๆ ไม่ได้เป็เื่ใหญ่อะไร”หวังเยว่หัวเราะแห้งๆ ออกมาอีกครั้ง หลังจากนั้นจึงลดเสียงต่ำลงพร้อมพูดขึ้น“ได้ยินมาว่าการทดสอบในวันนี้ยากมาก เช้าวันนี้น้องหลี่ก็ได้เข้าไปแล้ว ไม่รู้ว่าน้องหลี่รู้สึกอย่างไรบ้าง?บอกกับพี่หน่อยสิ พี่จะได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้ได้ทัน”
เป็ไปตามที่คาดการณ์ไว้จริงๆ!
มาถามเกี่ยวกับการทดสอบจริงๆ!
สายตาของหลี่เฉียนโจวสะท้อนประกายดูถูกมากยิ่งขึ้นเพียงแต่ว่าสายตาเช่นนี้ได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาเพียงชั่วครู่เท่านั้นเอง
“พี่หวัง พี่ถามเช่นนี้แล้วจะให้ผมตอบอย่างไรดี”หลี่เฉียนโจวทำสีหน้าลำบากใจ
เสแสร้ง!
เสแสร้งต่อไปสิ!!!
หลินเยว่ยังพูดได้ แล้วทำไมคุณถึงพูดไม่ได้ล่ะ?
ถึงแม้ว่าในใจของหวังเยว่จะคิดเช่นนี้แต่เขาไม่ได้แสดงอะไรออก สีหน้าของเขากลับมีแต่ความประหลาดใจหลังจากนั้นจึงถามขึ้น “ตอบอย่างไร? ก็ตอบตามความจริงเท่านั้นเอง”
“พี่หวัง ตอนนี้พวกเราเป็คู่แข่งกันนะถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้อยากเป็คู่แข่งของพี่หวัง และผมยอมรับว่าผมไม่ใช่คู่แข่งของพี่หวังเลยแต่ว่าพี่หวังจะมาทำให้ผมลำบากใจเช่นนี้ได้อย่างไร เดิมทีความสามารถระหว่างผมกับพี่หวังก็แตกต่างกันมากอยู่แล้ว หากผมบอกการทดสอบกับพี่ถ้าเช่นนั้นก็ยิ่งเป็การสร้างความแตกต่างที่มากยิ่งกว่าเดิมน่ะสิ! พี่หวัง นี่เป็การบีบให้ผมเดินไปสู่ทางตันเลยนะและเื่นี้พี่หวังก็น่าจะรู้อยู่แล้ว หากผลการทดสอบของผมดีไม่มากพอแล้วจะเอาไปข่มหลินเยว่ได้อย่างไรถ้าเช่นนั้นแผนของอาจารย์ผมก็คงถูกทำลายจนหมดน่ะสิ”
หลี่เฉียนโจวทำหน้าตาทุกข์ใจราวกับว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับความลำบากอย่างที่สุด
หวังเยว่ได้ฟังเช่นนี้ก็เกิดอาการงงไปชั่วขณะ ทำไมฟังแล้วดูเหมือนว่ามันจะมีเหตุมีผลแต่ทำไมยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆ ล่ะ
และเวลานี้เอง หลี่เฉียนโจวพลันพูดขึ้น “พี่หวังขอโทษด้วย โทรศัพท์ผมสั่น มีสายเข้าน่ะ ผมขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อน”
ขณะที่พูด เขาก็ไม่ได้รอดูท่าทีของหวังเยว่แต่กลับวิ่งไปอีกทางเพื่อรับโทรศัพท์
“ฮัลโหล! อืม! อืม! ผมคือหลี่เฉียนโจว......”
เมื่อมองท่าทางที่ดูใของหลี่เฉียนโจวจากทางด้านหลังหวังเยว่พลันเข้าใจได้ทันที เขาถ่มน้ำลาย “ถุย” ออกมาเสียงดังพร้อมด่าขึ้น“ถูกไอ้นี่หลอกเข้าแล้ว หากผลการทดสอบของคุณไม่ดีก็จะข่มหลินเยว่ไม่ได้?ผลการทดสอบของคุณจะดีหรือไม่ดีแล้วมันเกี่ยวกับผมตรงไหนล่ะ?ข่มหลินเยว่ได้หรือไม่ได้มันเกี่ยวกับผมตรงไหน? ขอแค่คุณทำได้ดีกว่าหลินเยว่ก็พอแล้วไม่ใช่หรือ?แล้วทำไมจะบอกการทดสอบกับผมไม่ได้ล่ะ? ทำลายแผน? ทำลายแผนบ้านแม่คุณน่ะสิ!”
“จิ้งจอกเฒ่าคนหนึ่งสอนจิ้งจอกเด็กออกมาอีกคน! พวกนี้เอาแต่วางแผนร้ายแล้วยังคิดจะไปสู้กับอาจารย์ของหลินเยว่อีก ผมว่าพวกคุณกำลังเพ้อฝันไปเองมากกว่า!”
“ถุย!”
หวังเยว่ถ่มน้ำลายเสียงดังหลังจากนั้นจึงเดินมุ่งหน้าเข้าไปยังคฤหาสน์ แต่ขณะที่กำลังเดินอยู่นั้นเขาพบว่าสายตาของหลี่เฉียนโจวที่กำลังโทรศัพท์อยู่ห่างๆ นั้นเอาแต่เหลือบมองมาที่เขาเป็ระยะๆ
หรือว่าโทรศัพท์สายนี้เกี่ยวข้องกับผม?
แต่ขณะที่หวังเยว่เห็นความนัยจากสายตาของหลี่เฉียนโจวที่แอบซ่อนอยู่เขาพลันเข้าใจได้ในทันทีและอดไม่ได้ที่จะด่าอยู่ในใจ “โทรศัพท์แม่คุณสิ โทรศัพท์สั่นแม่คุณสิมันเป็เื่โกหกทั้งนั้น! ไอ้หลี่เฉียนโจว! ผมหวังเยว่ไม่มีทางเป็พวกเดียวกันกับคุณอีกแล้ว!!! คอยดูนะ! ผมจะคอยดูตอนที่คุณเข้ามาขอร้องผมถึงตอนนั้นคุณก็คอยดูละกันว่าผมจะทำอย่างไรกับคุณ!”
หวังเยว่มองไปทางคฤหาสน์อย่างโกรธแค้น
เมื่อเห็นว่าหวังเยว่เดินไปแล้วหลี่เฉียนโจวจึงผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก
ในที่สุดเขาก็สะบัดไอ้พวกใช้แต่กำลังแต่ไร้สมองออกไปได้สักทีไอ้เวรเอ๊ย! น่าเบื่อจริงๆ!หากไม่ได้เป็เพราะอีกฝ่ายโง่เง่าเขาคงจะหลุดออกมาจากอีกฝ่ายไม่ได้ง่ายๆ อย่างนี้หรอก
ผมแค่ทำเป็ชมคุณว่าคุณเก่งกว่าผมคุณก็คิดว่าคุณเก่งกว่าผมจริงๆ อย่างนั้นหรือ? โง่ได้ที่จริงๆ!
ห้องรับรองแขกที่จัดขึ้นเพื่อเป็สถานที่สำหรับรับประทานอาหารกับห้องที่ทำการทดสอบไม่ได้อยู่ในตึกเดียวกันถึงแม้ว่าจะเป็ตึก 2 ตึกที่ติดกันแต่ทั้ง 2 ตึกนี้ก็ไม่มีทางเชื่อมต่อกันดังนั้น จึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนแอบเข้าไปดูเครื่องเคลือบที่ใช้ทดสอบก่อน
การรับประทานอาหารครั้งนี้ไม่ได้เป็การทานพร้อมกันทุกคนแต่เป็การจัดตามความพอใจของแต่ละคน ซึ่งทางจิ่งเต๋อเจิ้นจัดไว้เช่นนี้ก็เป็เพราะพวกเขา้าให้ทุกคนสามารถจัดการเวลาได้ตามอิสระมีบางคนอาจจะ้าสอนลูกศิษย์ของตนเองก่อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกลูกศิษย์ที่จะเข้าทดสอบในตอนบ่าย พวกเขาย่อม้าสั่งสอนชี้แนะบางอย่างให้กับลูกศิษย์ของตนเอง
เวลานี้ เฮ่อฉางเหอ เจี่ยเหวยเกิ่งและจวงตงเฟิงผู้าุโทั้งสามท่านนี้ไม่มีสิ่งใดที่ต้องกังวลแล้ว พวกเขาจึงนั่งข้างๆผู้เฒ่าหลิวและเริ่มดื่มด้วยกัน ทำให้มีเสียงหัวเราะจากพวกเขาดังออกมาเป็ระยะๆ
หลินเยว่ก็นั่งเป็เพื่อนอยู่ด้านข้างนอกจากจะดื่มเหล้าแล้วเขาก็ได้แต่ยิ้มอย่างถ่อมตัวเท่านั้น เพราะว่าผู้าุโทั้ง 4ท่านมักจะพูดถึงเขาอยู่บ่อยๆเมื่อพูดถึงเขาก็เอาแต่พูดชื่นชมตลอด ทำให้เขารู้สึกอึดอัดขัดเขินจริงๆ และในขณะเดียวกันเขาก็จะได้รับสายตาที่มองอย่างเป็ศัตรูจากจวงเมิ่งเตี๋ยที่นั่งตรงกันข้ามกับเขาอีกด้วย
หลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว หลินเยว่ก็ไม่ได้รอคนอื่นทดสอบที่คฤหาสน์แต่เขากลับขออนุญาตจากอาจารย์ของตนเพื่อไปพิพิธภัณฑ์อีกครั้ง และเขาก็รับรองกับอาจารย์ของตนว่าเขาจะกลับมาที่นี่อีกครั้งก่อนที่การทดสอบในบ่ายวันนี้จะสิ้นสุดลง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้