เื่เมื่อคืน...ลู่เป๋าเหยียนคงทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ?
ถึงบางทีเขาจะนิสัยแย่แตู่เี่อันก็ยังคงเชื่อว่า เขาไม่ใช่คนโรคจิตแบบนั้น
คิดแล้วเหตุการณ์เมื่อวานก็เริ่มลอยเข้ามาในสมองของเธอเหมือนภาพยนตร์ที่ถูกฉายซ้ำ
ริมฝีปากร้อนและจูบอันดุดันของเขาััที่ไม่ยอมให้ใครปฏิเสธ ลมหายใจอุ่น...ทุกอย่างยังคงแจ่มชัดในความทรงจำ
ยังดีที่ตอนสุดท้าย...
ถ้าไม่อย่างนั้นเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ูเี่อันตบพวงแก้มร้อนๆของตนเชิงเรียกสติ ว่าแล้วจึงสวมเสื้อคลุมของเขาพลางจับไว้แน่น และเดินออกไปแต่ที่ต้องแปลกใจคือ ลู่เป๋าเหยียนไม่ได้อยู่ในห้องนอนประตูห้องหนังสือถูกเปิดอยู่ เหมือนเธอจะได้ยินเสียงเขาอยู่ในนั้น
เธอเดินเข้าไปใกล้อย่างระแวดระวังเมื่อถึงหน้าประตูก็ได้ยินเขาพูดขึ้นว่า
“เธอนอนก่อนเลย”
เขากำลังพูดกับเธออย่างนั้นเหรอ?
เห็นหญิงสาวยืนกุมเสื้อไว้แน่นพลางทำหน้ามึนๆอยู่ที่หน้าประตู ลู่เป๋าเหยียนจึงวางเอกสารในมือและเดินไปหาเธอ
ูเี่อันแค่รู้สึกถึงเงาของเขาลมหายใจก็เริ่มติดขัด...
คนที่สูงหนึ่งร้อยหกสิบเจ็ดเิเอย่างเธอไม่นับว่าเตี้ยแต่เมื่ออยู่ใกล้ลู่เป๋าเหยียน เธอกลับเตี้ยกว่าเขามากจนรู้สึกถึงแรงกดดันเล็กๆ
เวลานี้ลู่เป๋าเหยียนพับแขนเสื้อเชิ้ตสีขาว และปลดกระดุมสองเม็ดบนท่อนแขนยาวและแผงอกแกร่งที่เผยให้เห็นทำให้เขาดูเซ็กซี่เย้ายวนสายตาคนมองเหลือเกิน
ลู่เป๋าเหยียนมองคนที่ทำหน้าเหมือนกระต่ายหลงทางอย่างูเี่อัน
“ฉันบอกให้เธอนอนก่อนเลย”
“แล้ว...นายล่ะ”
สายตาของเธอดูตื่นตระหนกเล็กน้อยลู่เป๋าเหยียนคิดว่าเธอคงกำลังคิดถึงเหตุการณ์เมื่อวาน สายตาเขาเข้มขึ้นพลางพูดว่า
“ฉันจะนอนในห้องหนังสือเธอไม่ต้องกลัว”
แววตาของูเี่อันสั่นเล็กน้อย
“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น...”
เธอเริ่มรู้สึกว่าหน้าร้อนขึ้นอีกแล้วจึงสูดหายใจลึกพลางเงยหน้าจ้องตาลู่เป๋าเหยียน
“ฉันแค่อยากถามนายว่านายจะนอนตอนไหน ไม่ใช่จะบอกให้นายไปนอนที่ห้องหนังสือ...”
ลู่เป๋าเหยียนยกมือกอดอกมองเธอยิ้มๆ
“ไม่กลัวฉันจะทำอะไรเธอหรือไง”
ูเี่อันเบ้ปากพลางหันหลังกลับทันที
“ต่อให้อยากทำนายก็ทำไม่ได้หรอก!”
เธอถอดเสื้อคลุมของเขาและนำไปแขวนเอาไว้จากนั้นรีบมุดตัวเข้าใต้ผ้าห่มทันที
ลู่เป๋าเหยียนเห็นดังนั้นก็แย้มยิ้มขึ้นมาจนกระทั่งเสิ่นเยว่ชวนส่งข้อความมาเตือนเขาว่า อีกห้านาทีเขามีวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์เขาจึงเดินกลับห้องหนังสือไป
การประชุมได้ดำเนินไปประมาณชั่วโมงกว่าและอีกไม่ช้าก็คงจะจบลง แต่ตอนนั้นเองลู่เป๋าเหยียนกลับได้ยินเสียงจากในห้องนอนเป็เสียงของูเี่อันที่กำลังละเมอเฉกเช่นเมื่อวาน
ลู่เป๋าเหยียนสีหน้าเครียดเขาทิ้งการประชุมแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนทันที ูเี่อันฝันร้ายอีกแล้วจริงๆ ด้วยเธอขมวดคิ้วขดตัวอยู่ในผ้าห่มพลางงึมงำไม่ได้ศัพท์เมื่อเขาเดินไปใกล้จึงได้ยินชัดเจนว่าเธอกำลังร้องเรียกเขาเสียงแ่เบาที่เต็มไปด้วยความอ้อนวอน
“ลู่เป๋าเหยียน...ลู่เป๋าเหยียน...ช่วยฉันด้วย...”มือบางปัดป่ายไปมาอยู่บนเตียง
ลู่เป๋าเหยียนกุมมือเธอ
“เจี่ยนอัน”
มือของเธอชะงักไปและกุมมือเขาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เหมือนกับเริ่มรู้สึกปลอดภัยขึ้นบ้าง ทว่าคิ้วยังคงขมวดมุ่นและเธอยังคงดิ้นไปมา
ลู่เป๋าเหยียนเอนตัวนอนพลางจับตัวเธอเข้าสู่อ้อมกอดเขาพูดชื่อเธออย่างปลอบโยน จนกระทั่งเธอเริ่มสงบลง ลู่เป๋าเหยียนจึงเริ่มเข้าใจว่าที่แทู้เี่อันกลัวการนอนคนเดียวมากกว่ากลัวเขาจะทำอะไรเธอเสียอีก
เื่ที่ถูกฆาตกรโรคจิตนั่นจับตัวไว้เธอยังคงจำฝังใจ
“ลู่เป๋าเหยียน...”
เสียงของเธอแ่เบาลงลู่เป๋าเหยียนลูบหลังเธอพลางพูด
“ฉันอยู่นี่ อยู่ข้างๆ เธอไม่ต้องกลัว”
ปมคิ้วที่ขมวดแน่นเมื่อครู่เริ่มคลายตัวออกจากนั้นเธอก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาแบบกึ่งหลับกึ่งตื่นพลางมองหน้าลู่เป๋าเหยียนอย่างงุนงงราวกับไม่รู้ว่าตอนนี้ตนเองอยู่ที่ไหน
“ไม่เป็ไรแล้วนะ”ลู่เป๋าเหยียนประทับจุมพิตลงบนหน้าผากเธอ และพูดอย่างปลอบโยน
“นอนเถอะ”
“อืม...”
ูเี่อันไม่รู้ว่านี่คือความฝันหรือความจริงเธอรู้เพียงแค่ว่าเมื่อกี้นี้เธออยู่ในเงื้อมมือของฆาตกรแต่ในตอนนี้เธอได้กลับมาอยู่ในอ้อมกอดของลู่เป๋าเหยียนแล้ว
เขามาหาเธอแล้วใช่ไหมงั้นเธอก็คงปลอดภัยแล้วล่ะ
เธอปิดตาที่สะลึมสะลือลงไม่นานเสียงหายใจก็เริ่มดังเป็จังหวะและดูผ่อนคลายูเี่อันได้เข้าสู่นิทราเป็ที่เรียบร้อย
มือถือของลู่เป๋าเหยียนสั่นขึ้นเป็เสิ่นเยว่ชวนที่ส่งข้อความเข้ามา
ประชุม?
เขาจึงพิมพ์ตอบกลับไปสามคำ
‘เลิกประชุม’
จากนั้นก็กดส่งข้อความและปิดเครื่องในทันที
ความเงียบเข้าปกคลุมค่ำคืนอันมืดมิดสิ่งเดียวที่ยังคงได้ยินคือเสียงลมหายใจของคนในอ้อมกอด ใบหน้าของเธอแนบอยู่กับหน้าอกของเขานิ้วมือเรียวยาวจับเสื้อเขาเอาไว้แน่นใบหน้าของคนที่กำลังหลับลึกยังคงแสดงความหวาดกลัวออกมาอยู่บ้าง
ลู่เป๋าเหยียนลูบแก้มเธอแ่เบาเขาเองก็เริ่มง่วงแล้ว จึงหลับตาลงและนอนหลับไปทั้งอย่างนั้น
หลังจากที่เธอโดนฆาตกรกักตัวไวู้เี่อันก็มักจะฝันร้ายถึงเหตุการณ์เดิมๆดวงตาโเี้ของฆาตกรที่กำลังถือมีดแกว่งไปมาอยู่บนตัวเธอทำท่าเหมือนจะสลักลวดลายลงมาบนนั้น จากนั้นก็จับเธอแยกชิ้นส่วน
บางครั้งเธอก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาทันทีแต่บางครั้งเธอก็หลับไปทั้งอย่างนั้น พอตื่นมาในวันรุ่งขึ้นแผ่นหลังของเธอก็มักจะชุ่มไปด้วยเหงื่อ
น้อยครั้งที่จะสามารถนอนหลับได้อย่างสบายใจแบบเมื่อคืน
แต่มีอะไรบางอย่างผิดปกติเหมือนเธอจะฝันร้ายก่อนที่จะหลับสนิทไปนี่นา
เธอลืมตาขึ้นทั้งๆ ที่ยังคงสงสัย
ฟ้าสว่างแล้ว
แต่ที่เธอคาดไม่ถึงก็คือสิ่งแรกที่เธอมองเห็นในเช้าวันนี้จะเป็ ลู่เป๋าเหยียน
เขากำลังหลับสนิทหายใจแ่เบา อกแกร่งขยับขึ้นลงอย่างเป็จังหวะเธอเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าขนตาของเขายาวจัง
ในยามปกติเธอมักสนใจมองแต่ดวงตาเรียวคู่นั้นแต่เมื่อเผลอสบตาเขา เธอก็มักไม่กล้ามองต่อที่แท้ขนตาของเขางอนสวยขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย
แต่ว่าทำไมเขายังใส่ชุดเดิมเมื่อวานอยู่ล่ะ? เธอหนุนแขนเขาแทนหมอนมือข้างหนึ่งของเขาโอบเอวเธอ เธอในตอนนี้นอนพิงอกแกร่งของเขา แถมยังเอามือเกาะเสื้อเขาไว้อีก
มันเกิดเื่อะไรขึ้นเนี่ย! พวกเรา...
ว่าแล้วูเี่อันก็นึกขึ้นได้ว่าสงสัยเมื่อคืนเธอจะฝันร้ายจริงๆ หลังจากนั้น...
หลังจากนั้นลู่เป๋าเหยียนก็โผล่มาเขาดึงเธอเข้าสู่อ้อมกอด ตอนที่เธอกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่นั้น ลู่เป๋าเหยียนได้จูบเธอแถมยังบอกเธอว่า ไม่เป็ไรแล้ว ให้เธอนอนเถอะ
เพราะอ้อมกอดและคำพูดของเขาทำให้เธอหลับสบาย
ในตอนนั้นเขาทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยยิ่งว่าใคร ถ้ามองไม่ผิด สายตาและน้ำเสียงทุกการกระทำของเขาแลดูอ่อนโยน
ความอ่อนโยน ที่ทำให้เธอเสพติด
หากเป็เพียงแค่ความฝันเธอก็ขอนอนหลับไปโดยที่ไม่ต้องตื่นขึ้นอีก
ถึงแม้ลึกๆ แล้วเธอจะไม่อยากให้มันเป็เพียงแค่ฝันก็ตาม เธออยากให้ทุกอย่างเป็เื่จริง
เธอยื่นมือออกไปเพื่อจะััใบหน้าเขาแต่ในตอนนั้นเอง ขนตาของลู่เป๋าเหยียนก็เริ่มขยับ
เขากำลังจะตื่น!
ูเี่อันรีบปิดตาลงแกล้งทำเป็นอนหลับอยู่ในทันที
เมื่อลู่เป๋าเหยียนลืมตาขึ้นอย่างแรกที่เขาทำคือก้มลงไปมองคนในอ้อมกอด แต่เพราะไม่มีอะไรผิดปกติเขาจึงคิดว่าเธอยังคงหลับอยู่ เขาค่อยๆ ลุกขึ้นพลางดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้เธอระหว่างนั้นเหมือนเขาจะชะงักไปชั่วขณะโดยไม่รู้สาเหตุแต่เขาจัดการห่มผ้าให้เธอต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเสร็จแล้วจึงเดินเข้าห้องน้ำไป
เมื่อเสียงฝีเท้าของลู่เป๋าเหยียนเริ่มไกลออกไปคนที่แกล้งหลับอย่างูเี่อันก็ลืมตาขึ้นพลางลอบถอนหายใจอยู่ใต้ผ้าห่ม
มีแต่เธอที่รู้ว่าตอนที่ลู่เป๋าเหยียนห่มผ้าให้เธอ เธอเกร็งไปหมดทั้งตัว เกร็งไปยันปลายนิ้วเท้า
ว่าแต่ว่าเื่ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเมื่อคืนเป็เื่จริงใช่ไหม?
คิดไปคิดมาูเี่อันก็พลิกตัว จู่ๆ ภาพของลู่เป๋าเหยียนก็เข้ามาสู่สายตาเธอเขายืนล้วงกระเป๋าพิงอยู่หน้าประตูห้องน้ำ เสื้อเชิ้ตและกางเกงที่ดูยับนิดๆ กลับยิ่งทำให้เขาดูหล่อกว่าเดิมเขายกมุมปากพลางยิ้มน้อยๆ สายตาเข้มเหมือนกำลังมองมาอย่างสำรวจ
ูเี่อันหายใจสะดุดสมองเริ่มคิดหาทางเอาตัวรอดอย่างรวดเร็ว
เธอจะให้เขารู้ไม่ได้เด็ดขาดว่าเมื่อกี้เธอแกล้งหลับ!
ว่าแล้วจึงรีบทำท่าบิดี้เีอย่างแเี
“อ้าวนายตื่นั้แ่เมื่อไร”
“ตื่นก่อนเธอแป๊บเดียว”
“...”ูเี่อันนิ่งแข็งเป็หิน โลกนี้กำลังเล่นตลกกับเธอใช่ไหมเนี่ย
รอยยิ้มของเขากว้างขึ้นกว่าเดิมขณะเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างอารมณ์ดีูเี่อันกัดผ้าห่มอย่างหงุดหงิดปนอับอาย
ว่าแต่ทำไมเขาถึงรู้ว่าเธอกำลังแกล้งหลับกันนะ? แอคติ้งของเธอไม่น่าจะห่วยขนาดนั้นนี่!
ยัยโง่...
คนที่กำลังยืนแปรงฟันอยู่อย่างลู่เป๋าเหยียนอดบ่นในใจไม่ได้
ก่อนที่จะห่มผ้าให้เธอเขาไม่รู้สึกถึงความผิดปกติเลยก็จริง แต่ตอนหลังเธอตัวเกร็งซะขนาดนั้นเขาจะดูไม่ออกได้อย่างไร
อยู่ๆ เขาก็คิดถึงเื่เมื่อคืนขึ้นมาตอนที่เขาจูงมือเธอเดินอยู่ในสวนสาธารณะ มือของเธอก็เกร็งขึ้นแบบนี้
แค่ััเธอมันทำให้เธอตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?
เื่นี้เป็อะไรที่ไม่เลวเลยทีเดียว
เช้านี้ลู่เป๋าเหยียนรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาอย่างประหลาด
ขณะที่กำลังกินอาหารเช้าลู่เป๋าเหยียนก็ยื่นหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งให้กับูเี่อัน
ูเี่อันชอบอ่านนิตยสารก็จริงแต่เธอไม่ได้ติดนิสัยต้องอ่านหนังสือพิมพ์ตอนเช้า จึงรับมาอย่างงงๆ
“มีอะไรเหรอ”
“ดูหน้าข่าวอาชญากรรม”
ูเี่อันเปิดไปหน้าที่เขาบอกก็เห็นพาดหัวข่าว
“เฮ่อเทียนิฆาตกรโรคจิตเมือง A ถูกตัดสินโทษ”
เนื้อข่าวเขียนไว้ว่าเมื่อวานเฮ่อเทียนิได้ถูกศาลตัดสินโทษปะาชีวิตตัวเฮ่อเทียนิเองไม่ได้ยื่นอุทธรณ์ ส่วนการปะาจะมีขึ้นในอีกสองเดือนข้างหน้าในข่าวได้มีการวิเคราะห์สาเหตุของความวิปริตของฆาตกรไว้ด้วยและตอนท้ายก็ได้เขียนถึงชีวิตในคุกของเฮ่อเทียนิใน่นี้ว่าหลังจากที่เขาถูกนำตัวเขาคุกก็โดนรุมซ้อมจนาเ็สาหัสทุกวันนี้ได้แต่นอนบนเตียงโดยไม่มีใครแยแส
เขาพรากสองชีวิตของผู้บริสุทธิ์ไปอย่างโเี้แถมยังลักพาตัวแพทย์นิติเวชอีกสองคน ทำให้ไม่มีใครคิดสงสารเขาทั้งนั้นนี่คงเป็อย่างที่ทุกคนชอบพูดกันว่า “กรรมตามสนอง”
ูเี่อันคืนหนังสือพิมพ์ให้ลู่เป๋าเหยียน
“ทำไมถึงให้ฉันอ่านข่าวนี้?”
ลู่เป๋าเหยียนไม่ตอบและถามย้อน“่นี้เธอมักจะฝันร้ายใช่หรือเปล่า”
“อืม...”ูเี่อันตอบอย่างแปลกใจ
“ทำไมนายถึงรู้ล่ะ”ต่อให้เมื่อวานเขาเห็นเธอนอนฝันร้าย แต่คงไม่รู้ถึงขนาดว่าเธอฝันร้ายแบบนี้ทุกคืนล่ะมั้ง?
“สองวันมานี้เธอฝันร้ายทุกคืน” ลู่เป๋าเหยียนอธิบาย
“เธอเคยเรียนจิตวิทยาคงรู้ดีกว่าฉันว่านี่คืออาการ PTSD1”
“เพราะฉะนั้น นายเลยเอาข่าวนี้ให้ฉันอ่านเพราะคิดว่าถ้าฉันรู้ว่าเขากำลังจะถูกปะาชีวิต ฉันจะเลิกฝันร้าย?”
ลู่เป๋าเหยียนถอนหายใจแล้วพูดขึ้นว่า
“ไม่ใช่อย่างนั้นฉันแค่อยากบอกเธอว่า ตอนนี้ฆาตกรอยู่ในการควบคุมของตำรวจแถมเธอกับเจียงเส้าข่ายยังเป็คนช่วยให้ตำรวจตามจับเขาได้ตอนนี้เขาใช้ชีวิตในคุกอย่างทุกข์ทรมาน และในอีกสองเดือนเขาก็หายไปจากโลกนี้จะทำร้ายใครไม่ได้อีก”
“เพราะฉะนั้นเจี่ยนอัน เธอไม่ต้องกลัวอีกต่อไป”
***********************
1 Post-Traumatic Stress Disorder “โรคเครียดหลังประสบเหตุการณ์ะเืใจ”
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://health.kapook.com/view97511.html
