หวงจ้งซานสั่งอาหารรสเลิศมาเต็มโต๊ะ เจียงหงหย่วนยังคงพูดน้อยดังเดิม ส่วนใหญ่เป็หวงจ้งซานกับหลิวเฉียงที่คุยกันเสียมากกว่า
ไม่คุยเื่ในค่ายทหารก็เื่ในหน่วยงาน
แต่เป็เื่ที่คนนอกรู้ได้ทั้งหมด
หลังจากเวียนดื่มสุราหลายรอบ ในที่สุดเจียงหงหย่วนก็พูดว่า “ต้าเกอทั้งสอง ไม่ทราบว่าราชสำนักมีเงินรางวัลให้คนที่เข้าร่วมกวาดล้างรังโจรบนูเาหลงเหว่ยหรือไม่?”
ทั้งสองคนผงะ คิดไม่ถึงว่าเจียงหงหย่วนจะถามเื่นี้
“น้องชาย เ้าขาดแคลนเงินหรือ?” แม้หวงจ้งซานจะไม่รู้ว่าเบื้องบนให้รางวัลเจียงหงหย่วนมาเท่าไร แต่เขาก็พอจะรู้ว่าต้องไม่น้อยเป็แน่
“นั่นสิน้องชาย เ้าอย่าคิดไม่ตก ถ้าขาดแคลนเงิน ข้าให้ยืมก่อนก็ได้” หลิวเฉียงพูด อันที่จริงเขาอยากมอบเงินให้เลย แต่ก็รู้ว่าด้วยนิสัยของเจียงหงหย่วนต้องไม่รับเป็แน่
นึกถึงเื่ที่เจียงหงหย่วนขึ้นเขาไปล่าเสือในฤดูหนาว รู้สึกว่าชายฉกรรจ์ผู้นี้คงขาดแคลนเงินจนคลุ้มคลั่ง
แต่แน่นอนว่าพวกเขาเห็นถึงความกล้าหาญเช่นกัน
วีรบุรุษผู้ฆ่าเสือ
“ใช่ น้องชาย ขาดแคลนเงินก็บอก” หวงจ้งซานพูดเช่นกัน รังโจร…โดยเฉพาะโจรบนูเาหลงเหว่ย นั่นเป็งานที่เอาชีวิตรอดกลับมายาก
เจียงหงหย่วนพูดว่า “ทั้งสองท่านบอกข้ามาก็พอว่ามีหรือไม่มีและมีเท่าไรก็พอ หากข้ารู้สึกว่าเหมาะสมก็จะตามพวกท่านไป รู้สึกไม่เหมาะสมก็ถอนตัว ถึงอย่างไรอาชีพนายพรานก็เหมือนเอาชีวิตไปทิ้งอยู่แล้ว… อีกอย่าง หากไม่กำจัดโจรบนูเาหลงเหว่ย เวลาข้าไปล่าสัตว์ก็อันตรายเช่นกันมิใช่หรือ”
“น้องชาย วิธีหาเงินมีตั้งมากมาย พวกเรามาทำธุรกิจร่วมกันดีไหม จริงสิ หรือว่าเ้าจะซื้อที่นาเก็บค่าเช่าดี?” หลิวเฉียงโน้มน้าวต่อ
หวงจ้งซานช่วยพูด “ครั้งก่อนพวกข้าเชิญนายพรานพ่อลูกจากอำเภอเพ่ยเป็คนนำทางเพื่อไปล้อมปราบโจรูเา ตอนนั้นจ่ายเงินให้พวกเขาคนละสองร้อยตำลึง ต่อมาเ้าก็รู้ว่าเกิดกระไรขึ้น ข้ากับพี่น้องหลิวถูกเ้าช่วยชีวิต คนอื่นที่เหลือจบชีวิตที่นั่นหมด ทางราชสำนักไม่ได้เบี้ยวเงินสี่ร้อยตำลึง จ่ายให้ภรรยาและลูกของพ่อลูกคู่นั้น แต่จากที่ข้ารู้มา ภรรยาของพ่อลูกคู่นั้นเอาเงินและลูกไปแต่งงานมีครอบครัวใหม่”
พูดง่ายๆ ก็คือไม่อยากให้เจียงหงหย่วนขายชีวิตเพื่อเงินสี่ร้อยตำลึง
“คนนำทางได้สองร้อยตำลึง หากสังหารโจรเล่า? ได้หัวละเท่าไร?” เจียงหงหย่วนถามต่อ
“น้องเจียง เหตุใดเ้าดื้อรั้นถึงเพียงนี้?” หลิวเฉียงเห็นเขายังถามต่อทั้งที่หวงจ้งซานพูดเช่นนี้ก็ร้อนใจ
หวงจ้งซานมองเจียงหงหย่วน เห็นเขาทำสีหน้าแน่วแน่ก็ถอนหายใจ “หยาเหมินประจำจังหวัด[1]บอกว่าให้หัวละยี่สิบตำลึง แต่ที่หน่วยเชียนหู่คิดเงินรางวัลอีกแบบ หากเ้าสนใจสมัครเป็ทหาร เช่นนั้นจำนวนที่ฆ่าได้จะสะสมเป็ผลงาน ฆ่าได้สิบคนเป็หัวหน้าหน่วย สามสิบคนเป็หัวหน้ากอง ส่วนตำแหน่งนายร้อยต้องสังหารศัตรูครบร้อยคนและต้องผ่านการทดสอบจากกองทัพ พี่น้องหลิวเกิดในตระกูลขุนนาง แต่เข้ากองทัพแล้วก็ต้องเริ่มจากเป็หัวหน้าหน่วย ถึงกระนั้นเขาก็มีผู้มีอำนาจให้พึ่ง ไม่มีผู้ใดกล้าขโมยผลงาน ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้เลื่อนขั้นเร็ว”
เจียงหงหย่วนคิดแล้วถามว่า “ในกองทัพมีคนขโมยผลงานด้วยหรือ?”
ตอนนี้หลิวเฉียงเริ่มรู้สึกกระไรแล้ว “เ้าอยากเข้ากองทัพ?”
เจียงหงหย่วนพยักหน้า “พอจะคิดไว้อยู่ แต่ยังไม่ตัดสินใจ”
“เ้าไม่อยากทำงานในบ่อนแล้ว?” หวงจ้งซานถาม เขาคงรู้สึกเสียดายหากเจียงหงหย่วนออกจากบ่อน แต่ด้วยความสามารถของเจียงหงหย่วน ไม่แน่ว่าเข้ากองทัพแล้วจะสร้างชื่อได้
ดังนั้นหากเจียงหงหย่วนจะเข้ากองทัพ เขาจะไม่ห้ามเช่นกัน
เจียงหงหย่วนพูดว่า “ข้าเดาว่ากว่าราชสำนักจะกวาดล้างรังโจรอีกครั้งก็คงอีกสองสามปี ไม่มีผู้ใดรู้ว่าอีกสองสามปีจะเกิดสิ่งใดขึ้น ก่อนที่ราชสำนักจะลงมือ ข้าจะตั้งใจทำหน้าที่ในบ่อน เมื่อก่อนข้ารู้สึกว่าแค่ก้มหน้าก้มตาหาเงินก็พอแล้ว… แต่ตอนนี้เพิ่งตระหนักได้ว่า มีเงินแต่ไม่มีอำนาจก็ไม่ต่างกระไรกับเนื้อติดมันที่ผู้ใดก็อยากกิน”
เมื่อชาติก่อน ราชสำนักทำการกวาดล้างรังโจรบนูเาหลงเหว่ยครั้งที่สามในอีกสามสี่ปีข้างหน้า
ชาตินี้ เจียงหงหย่วนจะคิดหาวิธีมาใช้พวกหลิวเฉียงเร่งให้ราชสำนักกวาดล้างรังโจรเร็วขึ้น
“เหตุใดเล่า มีคนปองร้ายเ้าหรือ?” น้ำเสียงหวงจ้งซานไม่เป็มิตรขึ้นมาทันที
ตอนนี้เขามองเจียงหงหย่วนเป็คนกันเองจากใจจริง
“ผู้ใดหน้าไหนมันอยากตายกัน? น้องเจียง บอกเกอมา เกอจะฆ่าพวกเขาให้”
เจียงหงหย่วนประสานมือคารวะทั้งคู่ “วางใจเถิด เื่แค่นี้ข้ายังพอจัดการเองได้ หากไม่ไหวจริงๆ ค่อยขอความช่วยเหลือจากต้าเกอทั้งสอง!”
เขาไม่อยากใช้น้ำใจของสองคนนี้โดยสิ้นเปลือง
ต้องเอาไปใช้เื่ที่จำเป็ที่สุด
มิหนำซ้ำ ไม่ว่าจะเื่ในหมู่บ้านหรือเื่บ้านผู้ช่วยนายอำเภอ เขาก็เตรียมการใกล้เสร็จหมดแล้ว
“เ้าคิดถูกแล้ว มีทรัพย์สมบัติก็ต้องมีอำนาจด้วย มิเช่นนั้น…ความร่ำรวยจะกลายเป็บ่อเกิดหายนะ” หวงจ้งซานยกจอกสุราขึ้น หลิวเฉียงกับเจียงหงหย่วนยกขึ้นตาม ทั้งสามดื่มหมดจอก
“ขอรับ เมื่อก่อนข้าเป็แค่นายพราน แม้การล่าสัตว์จะหาเงินได้ ทว่าน้องชายคนรองป่วยเป็โรคมานาน เงินส่วนใหญ่ที่หามาได้จึงถูกใช้ไปกับค่าโอสถ ฐานะทางบ้านยากจนมาก แต่ปีนี้อาการป่วยของน้องรองดีขึ้น ไม่ต้องเสียเงินซื้อโอสถแล้ว ข้าจึงมีเงินสร้างบ้าน บวกกับงานที่หวงต้าเกอช่วยแนะนำก็ช่วยข้าหาเงินได้มากเช่นกัน… แต่ทั้งที่มีแค่นี้ก็ยังถูกคนหมายปอง อยากเห็นข้าบ้านแตกสาแหรกขาดจะได้ยึดบ้านที่เพิ่งสร้างเสร็จกับเงินที่หามา… หากไม่ได้รู้โดยบังเอิญว่ามีคนกำลังวางแผนยึดบ้าน…ข้าคงไม่ตาสว่างไวเช่นนี้” เจียงหงหย่วนพูดเสียงทุ้ม
“หากมีกระไรให้พวกข้าช่วยก็บอก” หวงจ้งซานวางจอกสุราลงแล้วตบบ่าเจียงหงหย่วน
หลิวเฉียงพูดเช่นกันว่า “ไม่ต้องทำเป็เข้มแข็ง อย่าเกรงใจพวกข้าเด็ดขาดถ้าเจอปัญหาที่แก้ไม่ได้”
เจียงหงหย่วนยกจอกขึ้น “ขอบคุณต้าเกอทั้งสอง!” เขาดื่มสุราหมดจอก หวงจ้งซานกับหลิวเฉียงดื่มตาม “เลิกคุยเื่พวกนี้เถิด หากต้าเกอทั้งสองมีเวลา ข้าขอเรียนเชิญมาร่วมงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ในวันที่เก้าเดือนสิบสอง”
“ได้ ข้าหวงจ้งซานไปแน่”
“ข้าเองก็จะไป น้องเจียง หากเ้าอยากร่วมกองทัพ ข้าอาจไม่กล้ารับประกันอย่างอื่น แต่รับประกันได้ว่าจะไม่ให้ผู้ใดมาแย่งผลงานของเ้าไป!”
หลิวเฉียงอยากให้เจียงหงหย่วนเข้ากองทัพมาก ด้วยความสามารถของเจียงหงหย่วน…ไม่แน่ว่าอาจได้แต่งตั้งตำแหน่งทันที
แต่เส้นทางสายนี้ต้องเอาชีวิตเข้าสู้
เชิงอรรถ
[1] หยาเหมิน(衙门) ที่ว่าการท้องถิ่น เป็สถานที่ที่ชาวบ้านจะมาฟ้องร้องกัน จะว่าเป็ศาลก็ไม่ใช่ สำนักมือปราบก็ไม่เชิง หน้าตาคล้ายที่ว่าการอำเภอ หยาเหมินในระดับท้องถิ่นจะมีหน้าตาคล้ายกัน มีประตูหน้าลานและห้องโถง(ส่วนใหญ่ทำหน้าที่เป็ศาล) สำนักงาน ห้องขัง ห้องเก็บของ รวมไปถึงที่อยู่อาศัยสำหรับเ้าหน้าที่และครอบครัว