กุนซือหลิวที่อยู่ตรงข้ามเตะขาเขาจากใต้โต๊ะด้วยความโมโห เ้าพูดสิั้แ่เขาเข้ามาสายตาของเ้ามองที่ตัวเขาไม่หยุด เป็ผู้ใดก็รู้ว่าเ้ากำลังกังวลอยู่น่ะ เฮ้อคนคนนี้ ตอนหนุ่มๆ ยังเป็คนกล้าหาญ เหตุใดพอแก่แล้วจึงเปลี่ยนเป็คนที่ไม่สามารถเก็บความรู้สึกในใจได้กันนะ
โจวอ้าวเสวียนเปิดตู้ออกอย่างไม่รีบร้อนหยิบถุงอาหารตุ๋นออกมาต่อหน้าทั้งสองคน และหยิบออกมาชิมหนึ่งคำ “รสชาติไม่เลวเป็รสชาติที่ข้าไม่เคยทานมาก่อน ครั้งนี้ท่านตาเจออาหารที่ไม่เลวอีกแล้ว”
ตาเฒ่าฝึกตนเมื่อได้รับคำชมหางจึงชี้ขึ้นทันที “แน่นอน ไม่รู้หรือว่าข้าเป็ผู้ใด ข้ามีชื่อเสียงเป็เทพด้านอาหารเชียวอาหารที่มีชื่อเสียงในโลกใบนี้ ที่ใดอร่อยข้าต้องรู้ ข้าจะบอกเ้าให้นะ เ้านี่น่ะพวกนางเพิ่งจะทำกันเป็ครั้งแรก ข้า…”
เขายังคิดที่จะชมต่อแต่กลับถูกกุนซือหลิวที่กำลังโมโหอยู่เตะเข้าไปเต็มแรงอีกหนึ่งที เ้าโง่นี่ เหตุใดถึงได้…โง่เช่นนี้นะ
เมื่อถูกเตะเตือนสติตาเฒ่าฝึกตนถึงได้มองหลานชายจอมเ้าเล่ห์ของตนเองนิ่ง ถึงได้รู้ตัวว่า “อาเื่นี้ เื่นี้ ข้าคิดออกแล้ว อะไรนะ ตอนเย็นข้ายังมีกังฟูยังไม่ได้ฝึกเหล่าสวี่ที่เรือนข้ายังรอข้าอยู่ ข้าต้องไปแล้ว ไปแล้วนะ…”
เขารีบสาวเท้าคิดจะรีบออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดแต่เสียงเนิบนาบของโจวอ้าวเสวียนกลับดังมาจากด้านหลัง “ท่านตา ตอนที่ท่านมาข้าได้รับปากกับท่านยายทั้งสามไว้แล้วว่าจะทำให้ร่างกายของท่านแข็งแรงและผอมลง แต่ท่านมาได้่หนึ่งแล้วกลับดูเหมือนจะไม่ผอมลงเลยแม้แต่น้อย พรุ่งนี้ข้าจะส่งท่านกลับไปเมืองหลวง คงยิ่งสนุกกว่านี้”
สิ่งที่ตาเฒ่าฝึกตนกลัวมากที่สุดคือถูกส่งกลับไปหากกลับไปที่เมืองหลวง มีหรือจะได้สงบสุขอย่างทุกวันนี้
“หลานรักข้าผิดไปแล้ว ผิดไปแล้ว เ้าจะกักบริเวณข้าก็ได้ แต่อย่าส่งข้ากลับไปเลย อย่างน้อยต่อไปข้าจะเชื่อฟังเ้า กินน้อยๆ กินน้อยลงสักหน่อย”
โจวอ้าวเสวียนไม่สนใจเขาแต่ไปนั่งตรงข้ามกุนซือหลิว “ท่านอาจารย์ ให้ข้าเล่นหมากรุกเป็เพื่อนท่านเถิด”
ตาเฒ่าฝึกตนทำหน้าสลดเดินมาอยู่ตรงหน้าทั้งสองคนตั้งใจยื่นหน้าไปอยู่ตรงหน้าโจวอ้าวเสวียน ซึ่งคนถูกยื่นหน้าใส่กลับเบี่ยงไปทางซ้ายเขาจึงย้ายไปทางซ้ายตาม
ถึงคราที่สบตามองหน้ากันตาเฒ่าจึงพยายามแย้มรอยยิ้มที่น่ารักที่สุดออกไป เขาเป็เช่นนี้ ทำเอากุนซือหลิวที่มองอยู่ถึงกับปิดตา ตาแก่น่าขายหน้าคนนี้เขาไม่มีทางบอกผู้ใดว่ารู้จักเด็ดขาด ขายหน้าเกินไปแล้ว อายุปูนนี้ยังทำท่าทางน่ารักแบบเด็กๆไม่รู้ว่าไปเลียนแบบผู้ใดมา
โจวอ้าวเสวียนถูกตอแยจนหมดหนทางทำได้เพียงถอนหายใจออกมา แล้วผายมือ “ท่านตา ข้าไม่เข้าใจเสียจริง ทั้งที่ความสัมพันธ์กับท่านยายทั้งสามคนของข้าก็ดีมากแท้ๆเหตุใดเพียงพูดว่าจะกลับไปเมืองหลวง ท่านกลับทำท่าทางทรมานแบบนั้นเล่า? มีหญิงงามอยู่ข้างกายยังไม่ดีอีกหรือ?”
สีหน้าของตาเฒ่าฝึกตนเปลี่ยนอีกครั้งชายชราทำหน้าบูด “เฮ้อ หลานเอ๊ย เ้าต้องฟังคำคนแก่เช่นข้านะ สตรีน่ะ แต่งคนเดียวก็พอแล้วหากแต่งมามากจะน่ารำคาญนัก ช่างเถิด ไม่พูดแล้ว อย่างไรข้าจะยอมอยู่ที่นี่แต่ทานน้อยลงสักหน่อยไม่ต้องกลับไปเป็ที่ระบายอารมณ์ของพวกนาง”
พูดถึงที่ตาเฒ่าฝึกตนไม่ยอมกลับไปอยู่กับฮูหยินทั้งสามแม้แต่กุนซือหลิวเองยังรู้สึกแปลกใจ เขาจ้องไปยังชายชราตรงหน้า “จริงหรือ หากท่านไม่ชอบจะแต่งพวกนางเข้าเรือนมาเพื่อเหตุใด? ข้าได้ยินมาว่าฮูหยินทั้งสามคนของเ้าเป็ศิษย์น้องของเ้าแต่ทั้งสามคนกลับเป็แฝดสาม เฮ้อ แฝดสามน่าประหลาดใจเช่นนี้ล้วนแต่กลายเป็ฮูหยินของเ้า โชคเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาง่ายๆ นะ เหตุใดถึงกลายมาเป็เ้าที่คล้ายโดนลงโทษอย่างทรมานเช่นนี้เล่า?”
เมื่อเผชิญหน้ากับดวงตาสงสัยสองคู่ตาเฒ่าซิวเหมือน้าพูดแต่พูดไม่ออก สุดท้ายจึงก้มหน้าทำเพียงมองโจวอ้าวเสวียนอย่างน่าสงสาร “เสวียนเอ๋ย หลานคนดีเ้ารับปากให้ข้าอยู่ด้วยแล้ว อย่าส่งข้าไปเลย ต่อไปข้าจะเชื่อฟังแต่เ้า ไม่วิ่งหนีไปที่ใดส่งเดชไม่ทานส่งเดชอีกแล้ว”
ตอนนั้นเองกุนซือหลิวที่นั่งอยู่ตรงข้ามไอออกมา“แค่ก…” ตาเฒ่าฝึกตนรู้สึกใจเย็นวาบ มีความรู้สึกแปลกๆ อย่างรุนแรง
“เสวียนเอ๋ยเื่น่ะไม่ต้องทำสิ่งใดให้มากเกินนักหรอก ไม่ว่าอย่างไร ข้านับเป็พี่น้องที่ดีที่สุดของตาเ้ามาเจอเ้าครั้งนี้ เขาได้ดูแลเ้าเหมือนหลานแท้ๆ เ้าน่ะ จะทำสิ่งใดมากเกินไม่ได้ดูตาเฒ่าผู้นี้สิ สู้เ้ารับปากเขาไปเถิด”
มีกุนซือหลิวช่วยพูดตาเฒ่าฝึกตนจึงรีบพยักหน้า แล้วมองไปทางโจวอ้าวเสวียนด้วยท่าทางน่าสงสารอีกครั้งแต่กลับหันหลังให้กับกุนซือของเขา ซึ่งกำลังทำปากให้กับโจวอ้าวเสวียนว่า “ความลับ!”
โจวอ้าวเสวียนให้ความร่วมมือโดยการทำท่าทางตั้งใจพิจารณาก่อนจะพยักหน้า “มีกุนซือหลิวช่วยพูดให้ เช่นนั้น ท่านตาอยู่ที่นี่ได้ แต่ท่านพูดเองนะว่าจะฟังคำของข้าจะทานน้อย ยังมี ท่านต้องบอกมาว่าเหตุใดแต่งท่านยายสามคนแล้วท่านยังไม่ชอบหากไม่พูดเื่นี้ เฮ้อ ข้าคงทำได้แค่พาท่านไปส่งด้วยตนเอง และถามพวกนางอีกครั้ง”
ตาเฒ่าฝึกตนถึงกับนิ่งค้างไปต่อมาก็ตบโต๊ะ “เ้าจะทำอย่างไรก็ทำไปเถิด อยากรู้ไปเพื่อเหตุใดว่าข้าไม่ชอบอยู่ในเรือนต่อให้ตีข้าให้ตายข้าก็ไม่พูด เหอะ เ้าจะทำอะไรได้ เ้าจะมัดข้าส่งกลับเมืองหลวงหรือ? ข้าจะบอกให้เ้าฟังนะเสวียนเอ๋อร์ เื่นี้เ้าทำไม่ได้ ั้แ่นี้ต่อไป ข้าจะอยู่ที่นี่ ข้าไม่ไปเหอะๆ มันเป็ความลับ พวกเ้าทั้งสองจะคนใดก็รู้ไม่ได้ทั้งสิ้น”
หลังจากตะคอกออกมาตาเฒ่าฝึกตนก็เดินออกไป
กุนซือหลิวมองโจวอ้าวเสวียนที่นั่งตรงอยู่ตรงหน้าด้วยท่าทางคล้ายยิ้มแต่กลับไม่มีรอยยิ้ม“ดูเหมือนว่า เื่ของตาเฒ่าซิวกับฮูหยินทั้งสามคนจะมีเื่ที่คนอื่นรู้ไม่ได้จริงๆ ยิ่งเขาเป็เช่นนี้ ข้ายิ่งอยากรู้ เฮ้อ ทั้งๆที่รู้ว่าความขี้สงสัยจะทำให้แมวตาย แต่ข้ากลับควบคุมมันไม่ได้ เ้าคนนี้กลัวถูกส่งกลับไปมากที่สุดแต่ตอนนี้กลับยอมมีเื่เพียงเพราะเื่ของสามฮูหยิน โดยไม่คิดเสียใจ แปลกๆ นะ ประหลาดจริงๆ”
โจวอ้าวเสวียนทำหน้ากระอักกระอ่วนตาเฒ่าฝึกตนผู้นี้มีนิสัยดื้อดึง หากจะทำตัวแกล้งเกียจคร้านจริงๆเขาก็ไม่สามารถส่งอีกฝ่ายกลับไปได้จริงๆ เขายกมือขึ้นมาลูบจมูกตัวเองกดความอยากรู้อยากเห็นเื่ของตาเฒ่ากับฮูหยินทั้งสามลงไปก่อนหันไปมองกุนซือหลิวตรงหน้าอย่างจริงจัง“ท่านอาจารย์ กิจการที่เมืองหลวงของพวกเรา ถูกจวนอ๋องเจ็ดกดเอาไว้ จากข้อมูลที่ลูกน้องไปสืบหามาได้ร้านค้าที่อยู่ตรงข้ามของพวกเรา เกี่ยวข้องกับอ๋องเจ็ด เพียงแต่ลึกลับมากนอกจากจะต้องทำเื่ใหญ่ที่จำเป็จึงจะเข้าไปเกี่ยวข้องของอ๋องเจ็ด และครั้งนี้เพราะการต่อสู้ของพวกเราดุเดือดเกินไป ดังนั้นพวกเขาจึงใช้ความสัมพันธ์ของจวนอ๋องเจ็ดหากครั้งนี้แพ้ ฐานหลักที่เมืองหลวงของพวกเราถือว่าถูกทำลาย…”
เมื่อฟังจบสีหน้าของกุนซือหลิวเคร่งขรึมขึ้นมา ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันนั้นเป็ความลับทางการค้า…
หลังจากนั้นโจวอ้าวเสวียนก็ตามหาตาเฒ่าฝึกตนเจอ
ภายใต้การใช้ทุกวิธีมาตอแยตาเฒ่าฝึกตนจึงสามารถใช้เงินยัดใต้โต๊ะแก่ท่านอ๋องห้าจนได้
“ั้แ่วันนี้ไปเื่ของข้า เ้าไม่สามารถยุ่งได้แล้ว ไม่เช่นนั้นข้าจะไปบอกกับเสี่ยวอู่ได้ว่าเ้าดูแลข้าไม่ดี”
ในตอนนั้นเองตาเฒ่าฝึกตนได้ใจมากภายในคำพูดเต็มไปด้วยคำข่มขู่ สามารถทำให้โจวอ้าวเสวียนเป็เบี้ยล่างได้ เป็สิ่งที่ดีมาก
ซึ่งโจวอ้าวเสวียนให้ความร่วมมือมากรีบพยักหน้าหงึกๆ อย่างตั้งใจ “ข้าเคยควบคุมท่านตาหรือ? คล้ายจะไม่มีนะขอรับท่านตา เหมือนท่านจะเข้าใจผิดมาตลอดเลย คนที่ควบคุมท่านคือคนที่เหล่าท่านยายส่งมาคนนั้นไม่ใช่ข้า”
คำพูดนี้เมื่อตาเฒ่าได้ยินก็หน้าขาวซีด สายตากวาดมองไปนอกเรือน เขากลัวจะเห็นใบหน้าตึงเครียดถมึงทึงขององครักษ์จริงๆแม้จะเป็เพียงองค์รักษ์คนหนึ่ง แต่คนคนนั้นถูกฮูหยินสามคนส่งให้มาจับตาดู เฮ้อมีฮูหยินมากแล้ว เป็เื่ที่ทรมานเสียจริง!
วันต่อมาโจวอ้าวเสวียนมาถึงห้องที่ใช้โดยเฉพาะของโรงเตี๊ยมห่ายเทียน ที่นั่นมีหัวหน้าฟางซึ่งทำหน้าที่บริหารมารออยู่ก่อนแล้ว
“ไปทำงานเถิดข้าแค่มาเดินดู” อย่างเช่นปกติ โจวอ้าวเสวียนมาที่นี่เพื่อผ่อนคลายจิตใจ
ในสถานที่นี้ของตนคนอื่นรู้แค่ว่าเ้าของที่นี่คือหัวหน้าฟางแต่ไม่รู้ว่าคุณชายห้าคนนี้ต่างหากที่เป็คนควบคุมอยู่เื้ัที่แท้จริง
ฐานะที่มาที่นี่ทุกครั้งภายนอกเขาเป็คุณชายท่านหนึ่งที่มาเที่ยวเล่นตามใจชอบเท่านั้น
เขาในตอนนี้ด้านหลังมีสาวใช้หลายคนเดินตามขึ้นไป้า
ภายในห้องพนันแต่ละคนต่างเล่นการพนันอย่างคึกคัก มีโต๊ะหนึ่งถึงขั้นเอาลูกสาวของตนเองมาเป็ของพนัน
เมื่อเห็นผู้คนมากมายที่นี่โจวอ้าวเสวียนทำเพียงยิ้มเย็น
เดินไปตรงจุดที่ไม่ไกลจากโถงพนันจู่ๆ เห็นร่างที่คุ้นเคยร่างหนึ่ง โจวอ้าวเสวียนมองไปทางนั้นด้วยความสงสัยมุมปากยกยิ้มเ็า ไม่คาดคิดเลยว่าพี่ชายแสนดีของเขาเองก็มาที่นี่
อู่เอ๋อร์ที่อยู่ข้างกายรายงานเสียงเบา“่นี้คุณชายใหญ่ชอบมาที่นี่มาก แต่การเงินของเขาหนามาก ดวงถือว่าไม่เลว่นี้เขาชนะพนันมากมาย”
“ดีบอกกับผู้ดูแลหลัว ให้เขาได้ผลประโยชน์บ่อยๆ”
อู่เอ๋อร์รับคำเบาๆแน่นอนว่าเขารู้ถึงความขัดแย้งของคุณชายกับคุณชายใหญ่ รวมถึงคนอื่นๆอีกเป็อย่างดี ความจริงแล้วคุณชายอยากจะจัดการพวกเขา ขอแค่ล่อคนพวกนี้มาที่นี่เื่ก็เป็ไปตามที่ปรารถนา
ขณะกำลังจะออกไปโจวอ้าวเสวียนปรายตามองไปยังพี่ชายใหญ่ของตนที่หลงจมอยู่ในการพนัน สายตาเต็มไปด้วยความเ็าของที่พี่ชายใหญ่พรากไปจากเขาในตอนแรก เขาจะเอามันกลับมาให้หมด
ชั้นหนึ่งสอง สามล้วนแต่เป็สถานที่พนันทั้งหมด
อีกตึกหนึ่งเป็หอเริงรมย์ซึ่งเป็หอที่มีชื่อเสียงมาก สถานที่แห่งนี้มีสตรีหน้าตางดงามมากมายหลายคน
พวกนางมีทั้งนั่งเป็เพื่อนมีทั้งดูแลคนที่ใช้เงินมือเติบโดยไม่คิดเสียดาย
บรรดาสตรีผู้มีชื่อเสียงหลายนางนี้กลับไม่มีสักคนที่ขายตนเอง
หญิงงามทั้งห้ารับผิดชอบเพียงแค่อยู่เป็เพื่อนแขก ดีดพิณ แต่เงินที่เรียกกลับแพงกว่าขายตัวมาก
แน่นอนหญิงงามทั้งห้าคนนี้ทำให้ทุกคนหวั่นไหว โดยเฉพาะคนที่มีนามว่าหนิงเซียง เป็หญิงที่มีเสน่ห์มากในบรรดาหมู่สตรีหลังจากสตรีคนนี้มาทำงานเมื่อสามปีก่อน ก็ทำให้โรงเตี๊ยมห่ายเทียนโด่งดัง
เหล่าแขกที่เคยเจอนางในตอนแรกต่างถูกความงดงามของนางทำให้ตกตะลึง โดยเฉพาะดวงตางามของสตรีคนนี้ยิ่งดึงดูดใจคนแค่นางมองด้วยรอยยิ้มสดใส กลับมีความรู้สึกคล้ายดวงตาคู่นั้นกำลังเอ่ยถ้อยคำออกมา
