มหาภพหลิงเทียน เป็แผ่นดินที่มีกลุ่มดาวลอยอยู่เหนือฟากฟ้าทั่วทุกสารทิศ มีสายน้ำไร้เขตสิ้นสุด และมีพลังดวงดาวหลายร้อยล้านจากระยะไกลคอยเชื่อมประสานนักยุทธ์ทั่วทุกหนแห่ง
ภายใต้มหาภพหลิงเทียน ประกอบด้วย 9 แดนิญญา และ 3,000 อาณาจักริญญา โดยในอาณาจักริญญาได้รวมจักรวรรดิต่างๆ ไว้มากมายนับไม่ถ้วน
ห่างออกไปหลายหมื่นลี้ ทางเหนือของจักรวรรดิถ่าก้ง คือที่ตั้งของสำนักิเจี้ยน
“คุยจี! หลี่จั้นอ๋าว! พวกเ้าเป็สหายรัก และเป็สตรีที่ดีที่สุดของข้า! ไม่คิดเลยว่าพวกเ้าจะร่วมมือกันลอบทำร้ายข้า!”
“หยวนจุน โทษใครไม่ได้หรอกก็เ้ามันโง่เอง! โดนคนรักที่ไว้ใจหักหลังรู้สึกอย่างไรบ้างล่ะ? ฮาฮา!”
“พวกเ้ามันเป็ชายโฉดหญิงชั่ว!”
หยวนจุนตื่นจากความฝันแล้วดีดตัวลุกขึ้นจากเตียง เหงื่อเย็นเยียบบนหน้าผากไหลลงมาบนแก้มขาวซีดราวกับฝนตก
เขาคลายมือออก แววตาเหม่อลอย เมื่อกี้เห็นๆ อยู่ว่าเขาถูกสหายรักกับสตรีอันเป็ที่รักร่วมมือกันฆ่าเขา แต่ทำไมตอนนี้เขาถึงฟื้นขึ้นมาในร่างของเด็กหนุ่มอายุสิบห้าสิบหกปีล่ะ?
เมื่อหยวนจุนระลึกความทรงจำได้ก็ทำให้เข้าใจ เดิมทีเ้าของร่างนี้เป็ประมุขน้อยแห่งสำนักิเจี้ยน มีนามว่าหยวนจุนเช่นเดียวกัน เขาไร้เส้นปราณแต่กำเนิด ด้วยสภาพร่างกายที่อ่อนแอ เมื่อคืนวานเขาจึงเสียชีวิตอย่างกะทันหันโดยที่ไม่มีใครรู้
และร่างนี้ของเขาก็ถูกหยวนจุนในตอนนี้เข้า
เมื่อนึกถึง่ชีวิตสุดท้ายก่อนกำเนิดใหม่ หยวนจุนรู้สึกราวกับอยู่ในฝัน เพราะขณะที่เขากำลังจะบรรลุผ่านระดับสูงสุด ก็ถูกสตรีอันเป็ที่รักทรยศ
หนึ่งในจักรพรรดิของ 9 แดนิญญา ผู้ยิ่งใหญ่ที่มีพลังแข็งแกร่ง และอายุน้อยที่สุดแห่งมหาภพหลิงเทียน สุดท้ายก็ตายอย่างอนาถด้วยน้ำมือของสตรีนางหนึ่ง
“หากวันหนึ่งข้าได้กลับมา ข้าจะฉีกชายโฉดหญิงชั่วอย่างพวกเ้าเป็ชิ้นๆ ด้วยมือข้า!”
แม้หยวนจุนจะพูดด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว แต่ก็ทำใจยอมรับสภาพในตอนนี้ เขาใช้สายตากวาดมองร่างใหม่ พบว่า ร่างนี้เป็คนไร้เส้นปราณแต่กำเนิดจริงๆ ! ไม่มีทางที่จะบ่มเพาะพลังยุทธ์ได้!
พลังยุทธ์เกิดจากการบ่มเพาะของนักยุทธ์ ซึ่งถือเป็อาชีพที่ได้รับการยกย่องในมหาภพหลิงเทียน พลังยุทธ์สามารถดูดซับปราณดาราเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ร่างกายและิญญาได้ รวมถึงสามารถเชื่อมเส้นปราณ และประสานเอ็นกระดูก พลังยุทธ์สามารถทำลายทุกสิ่ง แค่เพียงมือเท้ากวัดแกว่งก็สามารถเปิดทางให้โล่งเตียนได้!
ดังนั้นนักยุทธ์จึงต้องบ่มเพาะพลังยุทธ์ตามระดับขั้นอย่างเคร่งครัด ซึ่งมีทั้งหมด 6 ระดับใหญ่
6 ระดับใหญ่ เรียกว่า ระดับตะวันจันทราดาราสามประสาน ได้แก่ สองระดับใหญ่ในระดับดารา ระดับจันทรา และระดับตะวัน 6 ระดับ โดยต้องบรรลุ 9 วงแหวน ซึ่งแต่ละวงแหวนจะมีวงแหวนใหญ่ และวงแหวนเล็ก จึงจะผ่านสองระดับ!
แน่นอนว่าหากไม่มีนักยุทธ์ชี้แนะก็ไม่มีทางที่จะบ่มเพาะพลังถึงระดับสูงสุด
ชาติก่อนหยวนจุนกำลังจะผ่านระดับตะวันวงแหวนใหญ่ขั้น 9 อีกแค่ก้าวเดียวเขาก็จะบรรลุผ่านระดับสูงสุดเข้าสู่แดน์!
แน่นอนว่าพลังแข็งแกร่งเช่นนี้ไม่ได้หาได้ทั่วไป แม้ว่าร่างนี้ที่เขาอยู่จะไม่มีเส้นปราณ แต่ก็ไม่ถึงกับอับจนหนทาง อย่างน้อยในภายภาคหน้า หากเขาได้รับชิ้นส่วน์ก็มีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้
“ดูท่าประมุขสำนักิเจี้ยนจะรักเ้าของร่างนี้เป็พิเศษ ถ้ายาสารพัดโรคนี้ใช้ได้กับคนทั่วไป พวกเขาก็คงเป็นักยุทธ์ยอดฝีมือนานแล้ว”
หยวนจุนพยายามกลั่นปราณดาราด้วยวิธีปกติอยู่ในห้อง แต่ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย เขาจึงทำได้เพียงยอมแพ้แล้วพูดว่า “บางทีคงต้องเสี่ยงด้วยวิธีนั้นแล้ว”
วิธีที่เขาคิดออกเป็วิชายุทธ์พลังภายในที่อยู่ในความทรงจำ ตอนแรกที่ได้ตำรายุทธ์พลังภายในมานั้น หยวนจุนคิดว่ามันไม่ธรรมดาจึงตั้งใจศึกษาอย่างไม่ลังเล
ตอนนี้เขาทำได้เพียงให้ยาแก่ม้าตาย[1] ใช้วิชายุทธ์นั้นลองเสี่ยงดู ไม่ต้องมีเส้นปราณก็สามารถกลั่นปราณดาราออกมาได้!
พลังภายในนี้เรียกว่า อักษรลับเก้าตะวัน หากนักยุทธ์ธรรมดาที่้าจะบ่มเพาะพลัง จำเป็ต้องทำลายเส้นปราณในกายก่อนจึงจะบ่มเพาะได้ กล่าวได้ว่าร่างกายของหยวนจุนตอนนี้เหมาะสมพอดี
หลังจากพยายามมาสักพัก แม้เขาจะล้มเหลวในการสร้างกระแสปราณดาราภายใน แต่ตอนนี้ที่จุดตันเถียน[2] ของเขากลับปรากฏปราณดาราบางๆ ออกมาแล้ว
เมื่อปราณดาราปรากฏก็ทำให้หยวนจุนอารมณ์ดีขึ้น เขารู้ว่าร่างชั่วคราวนี้รับปราณดาราได้ไม่มาก จึงไม่รีบร้อนทำให้สำเร็จ
เมื่อเขาลุกออกไปก็เจอกับชายชราที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ชายชราผู้นี้เดินตรงมาหาเขาด้วยท่าทางสง่าผ่าเผย
แม้ชายชราผู้นี้จะอายุมากกว่าห้าสิบปีแล้ว แต่ร่างกายก็ยังดูแข็งแรง แม้ยามเดินก็เดินด้วยท่าทางน่าเกรงขาม จึงทำให้หยวนจุนรู้ทันทีว่านี่คือ หยวนฉางเทียน ประมุขของสำนักิเจี้ยน และปู่ของเขา
เมื่อเห็นหยวนจุนกำลังจะออกไป หยวนฉางเทียนก็เร่งฝีเท้า ใบหน้าชราอันสง่างามปรากฏรอยยิ้มขึ้นทันที “จุนเอ๋อร์ รู้สึกไม่สบายหรือเปล่า?”
พูดไปสองไพเบี้ย เขารู้ว่าหากพูดมากไปอาจเผยพิรุธออกมา ดังนั้นหยวนจุนจึงทำได้เพียงปิดปากและส่ายหัว
เมื่อเห็นเช่นนี้ หยวนฉางเทียนจึงหัวเราะเบาๆ และเอ่ยขึ้นว่า “ในเมื่อเ้าไม่เป็อะไร เช่นนั้นก็ไปโถงรับแขกกับข้า วันนี้ประมุขเสวี่ยเจี้ยนส่งศิษย์มาเยี่ยมเยียน จะได้ถือโอกาสขอยาที่สำนักิเจี้ยนกลั่นได้ที่เดียวด้วย แล้วเ้าก็จะได้ออกไปพบปะผู้คนบ้าง”
หยวนจุนไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรกับปู่ที่มาหาเขาอย่างกะทันหัน แต่เมื่อนี่เป็ผลดีต่อตัวเขา เขาจะปฏิเสธเจตนาดีของหยวนฉางเทียนได้อย่างไร?
ทันทีที่หยวนจุนตอบกลับ หยวนฉางเทียนจึงหยุดพูด และค่อยๆ นำทางไป
เมื่อศิษย์ในสำนักเห็นพวกเขาสองคนต่างก็แสดงความเคารพ แม้ว่าหยวนจุนจะไม่สามารถบ่มเพาะพลังยุทธ์ได้ แต่ก็ถือว่าเขาอยู่ในตำแหน่งสูง และคุ้นเคยกับศิษย์ในสำนักเหล่านี้เป็อย่างดี
ขณะเดินตามหลังประมุข หยวนจุนก็อดไม่ได้ที่จะสนใจชายชราตรงหน้า เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อพบว่าชายชราผู้นี้ก็เป็ยอดฝีมือระดับตะวันวงแหวนใหญ่ขั้นหนึ่ง!
แม้เขาจะด้อยกว่าหยวนจุนในชาติที่แล้วอยู่เล็กน้อย แต่ในจักรวรรดิถ่าก้งถือว่าเขาเป็นักยุทธ์ที่มีชื่อเสียงพอสมควร
เมื่อหยวนจุนหันมองรอบๆ โถงรับแขก ทั้งด้านในและด้านนอกเต็มไปด้วยศิษย์ในสำนักที่ยืนอยู่ก่อนแล้ว รวมถึงผู้าุโสามคนที่กำลังยืนสนทนากันอยู่ ซึ่งหนึ่งในผู้าุโทั้งสาม มีผู้หนึ่งอายุรุ่นราวคราวเดียวกับหยวนฉางเทียน นั่นคือผู้าุโของสำนักิเจี้ยน
โอกาสพิเศษเช่นนี้ไม่ได้มีบ่อยครั้ง แต่เนื่องจากเป็การต้อนรับศิษย์สำนักเสวี่ยเจี้ยนจึงได้เห็น
ในความทรงจำของหยวนจุน ศิษย์สายตรงของประมุขเสวี่ยเจี้ยนเป็อัจฉริยะในบรรดาจักรวรรดิทั้งหมด และเป็ความภาคภูมิใจที่สุดของสำนักเสวี่ยเจี้ยนในรอบหลายพันปี
หยวนจุนยืนอยู่ตรงหน้าเขา ชายหนุ่มรูปงามข้างๆ ที่สูงกว่าประมาณหนึ่งศีรษะยิ้มทักทาย
ถึงจะไม่ได้หันไป แต่หยวนจุนก็เห็นการดูถูกและเหยียดหยามในสายตาของเขา
ชายหนุ่มผู้นี้ชื่อ วั่นเฮ่าซิง เป็หลานชายของผู้าุโอันดับหนึ่งวั่นชางกู่ ฐานะในสำนักไม่ต่ำต้อย ทั้งยังเป็นักยุทธ์ระดับดาราวงแหวนเล็กขั้นแปด! ในสายตาคนทั่วไปเขาเป็อัจฉริยะที่หาได้ยากคนหนึ่ง!
แม้หยวนจุนจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขามากนัก แต่ก็รู้ว่าตนเองต้องเป็ตัวปัญหาของเขาแน่นอน
หยวนจุนรู้สึกว่ามีสายลมอ่อนๆ จึงอดไม่ได้ที่จะเดินตามฝูงชนไปที่ประตูห้องโถง หญิงสาวปรากฏตัวตรงหน้า กระโปรงยาวงดงาม อรชรอ้อนแอ้นน่าทะนุถนอม ซึ่งทำให้นางดูเหมือนเทพธิดา
[1] ให้ยาแก่ม้าตาย (สำนวน) หมายถึง แม้มีความหวังเพียงริบหรี่ ก็จะพยายามให้ถึงที่สุด
[2] จุดตันเถียน คือ จุดศูนย์กลางของพลังงานภายในร่างกาย อยู่เหนือสะดือ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้