หมาป่า?
หลงอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็เกิดความรู้สึกสงสัย
“แหล่งแร่นี่มีปราณหยินเข้มข้นมาก ไม่น่าจะมีสิ่งมีชีวิตอะไรอาศัยอยู่ได้ไม่ใช่หรือ ทำไมถึงได้มีหมาป่าอยู่ด้วย?”
“เ้าไม่รู้อะไร หมาป่าเหล่านี้ถูกสร้างมาจากปราณหยินพวกนี้แหละ มีิญญาด้วย”
หลิงหานอธิบายให้ฟัง
“เ้าจะคิดว่ามันเป็ผู้คุ้มกันแร่หยินก็ได้ ผู้ใดก็ตามที่รุกรานเข้ามาในแหล่งแร่นี้ ไม่ว่าจะเป็ผู้ฝึกยุทธ์หรือสัตว์อสูร ล้วนเป็ศัตรูตามธรรมชาติของพวกมันทั้งสิ้น!”
“มีตัวตนแบบนี้อยู่ด้วยหรือเนี่ย!”
หลงอวี้รู้สึกตื่นตะลึง
ปราณหยินก่อตัวขึ้นจนกลายเป็หมาป่าที่มีิญญา รูปแบบเดียวกับยุทธภัณฑ์ก่อเกิดิญญาเลยไม่ใช่หรือ?
“อืม แผ่นดินเทียนอวี้กว้างใหญ่ไพศาล จะมีเื่น่าอัศจรรย์อยู่บ้างก็ไม่แปลก”
หลิงหานมีสีหน้าเคร่งเครียด
“เพื่อจะจัดการหมาป่าเหล่านี้ ทุกปีราชวงศ์จะส่งกองทัพทหารมาจะสามารถกำจัดพวกมันทิ้งได้เป็ส่วนใหญ่ แต่ว่า ปราณหยินในแหล่งแร่นั้นเข้มข้นมาก ผ่านไปสักพักหนึ่งก็จะมีหมาป่าปรากฏตัวขึ้นอีกมากกว่าเดิม ฆ่าอย่างไรก็ไม่มีวันหมด”
“อย่างนี้นี่เอง ข้าขอไปชมหน่อย”
หลงอวี้พยักหน้า จากนั้นก็วาดหอกัปรภพในมือ กระแสลมสายหนึ่งพัดพา เขาดีดขึ้นฟ้าสูงไปนับร้อยจ้าง!
ก้มมองไปทั่วบริเวณ จากนั้นก็มีสีหน้าตึงเครียดทันที
ตรงทิศทางที่พวกเขากำลังจะมุ่งหน้าไปนั้น มีหมาป่าปราณหยินฝูงใหญ่กำลังวนเวียนอยู่ หากพวกเขามุ่งหน้าไปต่อ จะต้องเผชิญหน้ากับฝูงหมาป่าแน่!
หรือบางทีพวกมันอาจจะจับััถึงพวกเขาได้แล้วก็เป็ได้ มีหมาป่าหลายตัวเลยกำลังวิ่งตะบึงมาทางพวกเขา!
พอหลงอวี้โรยตัวลงมาจากบนฟ้าแล้วก็รีบพูดทันที
“ทุกคนระวังตัวด้วย มีหมาป่าหลายตัวกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้!”
“สหายหลง อันที่จริงพวกเราไม่ต้องกังวลมากเกินไปก็ได้ แม้หมาป่าพวกนี้จะมีจำนวนเยอะ แต่พวกมันล้วนมีพลังระดับวิถียุทธ์เพียงขั้นห้าหรือขั้นหกเท่านั้น น้อยมากที่จะมีตัวตนที่แกร่งกว่านั้นปรากฏ”
หลิงหานพูดต่อไป
“ด้วยพลังของพวกเราแล้ว สามารถใช้กำลังฝ่าเข้าไปได้เลย ข้ากังวลแค่ว่าตอนที่เรากำลังบุกอาจจะโดนผู้ฝึกยุทธ์คนอื่นลอบโจมตีเอาได้มากกว่า”
“เ้าประมาทพวกมันมากเกินไปแล้ว”
หลงอวี้มีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมา
“เท่าที่ข้าเห็น มีหมาป่าที่สร้างิญญาแท้ได้อยู่หลายตัวที่เดียว สถานการณ์เลวร้ายกว่าที่เ้าคิดว่ามาก!”
“อะไรนะ!”
หลิงหานกับหลิงอีเยว่ต่างตื่นตะลึง
หมาป่าที่สร้างิญญาแท้ได้แล้ว?
“หมาป่าระดับิญญาแท้ ปกติแล้วมันแทบจะไม่ปรากฏตัวเลยด้วยซ้ำ ทำไมตอนนี้ถึงได้โผล่ออกมาพร้อมกันหลายตัว!”
เห็นได้ชัดว่าหลิงอีเยว่ไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไรนัก
แต่หลิงหานกลับขมวดคิ้ว
“หรือว่าเป็เพราะเศษชิ้นส่วนจันทรากำลังจะปรากฏ เลยทำให้หมาป่าพวกนี้มันสร้างิญญาแท้ขึ้นได้?”
“ไม่ว่าอย่างไรพวกเราก็ต้องลุยกันสักตั้งแล้วล่ะ พวกมันเข้ามาแล้ว”
หลงอวี้ััได้ว่ามีหมาป่าหลายตัวส่งจิตสังหารเย็นะเืหลายสายมาจากไม่ไกลนัก จึงรู้ได้ทันทีว่าพวกเขาถูกพวกมันเพ่งเล็งแล้ว
หากคิดจะเปลี่ยนเส้นทางตอนนี้ก็เป็ไปไม่ได้แล้ว
“ในที่สุดก็ถึงทีข้าลงมือบ้างแล้ว!”
หลู่กวนิเผยสีหน้าตื่นเต้น ตอนที่เขาชมหลงอวี้ฆ่าสังหารเซี่ยโฮ่วเทียนเจี๋ยเมื่อครู่นี้ เขาก็คันไม้คันมืออยู่นานแล้ว
ในที่สุดเขาก็ลงมือได้สักที เขาไม่สนหรอกว่ามันจะเป็สิ่งมีชีวิตจริงๆ หรือแค่สิ่งเกิดขึ้นจากปราณหยิน แค่ให้เขาฝึกฝีมือก็พอแล้ว!
หลิงอีเยว่เองก็รู้สึกอยากแสดงฝีมือเช่นกัน นางอยากให้หลงอวี้รู้ว่า นางไม่ใช่ตัวถ่วงที่ทำอะไรไม่ได้
เพียงแต่ตอนที่หมาป่าหลายตัวพุ่งเข้ามา ใบหน้าอันน่ารักของนางก็แข็งเกร็งทันที
หมาป่าที่นำหน้าอยู่นั้นมันสร้างิญญาแท้เป็เงารูปกรงเล็บแห่งจันทรา ลอยอยู่ด้านหลังของหมาป่าตัวนั้น แผ่กลิ่นอายอันชั่วร้ายออกมา!
ส่วนหมาป่าอีกหลายตัวที่เหลือก็ล้วนมีพลังระดับวิถียุทธ์ขั้นแปดขั้นเก้าทั้งสิ้น แม้จะมีทั้งหมดแค่หกตัว แต่พลังต่อสู้โดยรวมของพวกมันนั้นแข็งแกร่งกว่าพวกหลงอวี้สี่คนหลายเท่า!
“ลุย!”
หลงอวี้ไร้ซึ่งความกลัว ถือหอกัปรภพพุ่งทะยานออกไปอย่างเกรี้ยวกราด!
“ลายเส้นปรภพ จงตื่น!”
“เงาหอกกระหน่ำแทง!”
นี่เป็การต่อสู้ที่ตัดสินความเป็ความตาย หลงอวี้จึงไม่คิดจะออมมือ อีกทั้งการจัดการกับพวกสิ่งมีชีวิตประหลาดที่เกิดขึ้นจากปราณหยินเหล่านี้ ก็ไม่จำเป็ต้องใช้สมองอยู่แล้ว
แค่งัดทุกอย่างที่ใช้ได้ออกมาตรงๆ ก็พอแล้ว!
“ฆ่า!”
เงาร่างของหลงอวี้เคลื่อนตัววูบวาบด้วยร่างกายที่เบาดุจสายลม พริบตาเดียวได้ทะยานไปอยู่ตรงหน้าของหมาป่าปราณหยินตนหนึ่งแล้ว
หมาป่าปราณหยินตนนี้เกรงว่าน่าจะมีพลังระดับวิถียุทธ์ขั้นเก้า ถ้ามันยืนจะมีขนาดเท่าหลงอวี้ พอเห็นหลงอวี้โจมตีก็พลันตะปบกรงเล็บเข้าใส่เขาจนเกิดสายลมอันเชี่ยวกรากขึ้น!
แต่วินาทีต่อมา เงาหอกกระหน่ำแทงก็ได้ถาโถมพร้อมกับแรงกดทับจากมหาพลังสยบฟ้า เพียงพริบตาเดียวก็ได้บดขยี้หมาป่าปราณหยินตนนั้นจนแหลกเป็ชิ้นๆ ทันที
ต่อจากนั้นปลายหอกของเขาก็ได้วกกลับมา มหาพลังสยบฟ้าไปครอบคลุมไปทั่วบริเวณ ทำให้ความเร็วของหมาป่าที่เหลืออีกห้าตัวนั้นถูกสะกดจนช้าลงทันที
“ศิลาผู้พิทักษ์ ย้าก!!!”
หลู่กวนิหัวเราะลั่น ยกมือขึ้น พริบตานั้นก็ควบคุมก้อนหินั์หลายชิ้นที่อยู่รอบๆ บังคับให้มันพุ่งไปปะทะกับหมาป่าปราณหยินทั้งหลาย!
หลู่กวนิและหลิงหานล้วนมีพลังระดับวิถียุทธ์ขั้นแปดทั้งสิ้น แต่หลิงอีเยว่กลับมีวิถียุทธ์เพียงขั้นหก
ด้วยเหตุนี้เอง หลังจากหลู่กวนิลงมือ หลิงหานก็ได้ใช้ปราณขาวไพศาลทันที ต่อสู้ฆ่าฟันกับเหล่าหมาป่าไปพลาง คุ้มกันหลิงอีเยว่ไปด้วย
ด้วยระดับพลังของหลิงอีเยว่ในตอนนี้ หากถูกหมาป่าปราณหยินเข้าประชิดตัวได้ จะต้องถูกฆ่าตายอย่างแน่นอน!
“เงาหอกกระหน่ำแทง!”
หลงอวื้ถือหอกไว้ในมือ ฟันออกไป บีบให้หมาป่าห้าตัวที่กำลังบุกเข้ามาต้องล่าถอย
โดยหมาป่าจันทราที่สร้างกรงเล็บเล็บจันทราในกลุ่มนั้นเพียงถอยไปครู่หนึ่งเท่านั้น จากนั้นมันก็พุ่งกลับมาหาหลงอวี้อีกครั้ง ปราณหยินอันเข้มข้นได้ครอบตัวเขาไว้
“หมาป่าที่เกิดขึ้นจากการอัดแน่นของปราณหยิน แม้จะสร้างิญญาแท้ได้แล้ว แต่พอสู้กันจริงๆ พวกมันจะเอาชนะยอดฝีมือระดับิญญาแท้จริงๆ ได้หรือ”
หลงอวี้ไม่ได้หวาดกลัวพวกมัน เขาพลันเหวี่ยงหอกัปรภพไปทางหมาป่าปราณหยินที่พลังระดับวิถียุทธ์ขั้นเก้าตัวหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ ทันที
ปราณปรภพอันน่ากลัวที่แฝงอยู่ในหอกได้บดขยี้หมาป่าตัวนั้นจนสลายหายไปในอากาศ
ต่อจากนั้นเขาก็กำหมัดแล้วหวดชกออกไปทางหมาป่าจันทราตัวนั้นหนึ่งหมัด
“หมัดัปรภพ จำลองเส้นทางปรภพ ย้าก!”
หลงอวี้ชกหมัด แต่ก็ต้องตะลึงไปเมื่อพบว่าหมาป่าจันทราตัวนี้มันไม่ถูกปราณปรภพข่มขวัญเลย!
‘มันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตจริงๆ ด้วย แต่พลังของหมัดนี้น่าจะทำให้เ้าาเ็ได้ไม่น้อย!’
หลงอวี้คิดในใจ ในที่สุดหมัดของเขาก็ปะทะเข้ากับิญญาแท้กรงเล็บจันทราของอีกฝ่าย
หลังเกิดเสียงะเิดังสนั่น หลงอวี้ถึงกับเซถอยหลังไปหลายก้าว ความต่างของพลังพื้นฐานทำให้เขาตกเป็ฝ่ายเสียเปรียบในการปะทะครั้งนี้
แต่หลังจากนั้นหมัดของเขาก็ชกลงพื้นต่อทันที
“คลื่นะเิปรภพ!”
หนึ่งหมัดชกลงพื้น ราวกับได้เชื่อมต่อกับปรภพ พลันมีคลื่นะเิปรภพสายหนึ่งพวยพุ่งจากพื้น กลืนหมาป่าจันทราตัวนั้นเข้าไป!
ปราณหยินที่อัดแน่นจนกลายเป็หมาป่าจันทราถูกคลื่นปรภพพุ่งทะลวงจนสลายไปในพริบตา หลังจากหมาป่าจันทราถูกคลื่นะเิปรภพทำลายแล้ว ิญญาแท้กรงเล็บจันทราที่สร้างขึ้นก็ได้สลายกลายเป็ผุยผงตามไปด้วย
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หลงอวี้สังหารตัวตนอันทรงพลังระดับิญญาแท้ได้ ตอนนี้เขาถึงขั้นเชี่ยวชาญในการต่อกรกับศัตรูระดับนั้นแล้ว!
ตอนที่ทำการฆ่าสังหารหมาป่าจันทราตนนั้น หมาป่าปราณหยินที่เหลืออีกหลายตัวเองก็ถูกหลู่กวนิร่วมมือกับหลิงหานฆ่าสังหารเช่นกัน
วิชาศิลาผู้พิทักษ์ที่บรรลุขั้นผันแปรที่หลู่กวนิใช้มีพลังป้องกันทรงพลังสูงสุดขีด พลังโจมตีเองก็ทรงพลังไม่ธรรมดาเช่นกัน
เพียงแต่สิ่งที่ทำให้เขาฆ่าหมาป่าเหล่านี้ได้นั้น สุดท้ายแล้วไม่ใช่วิชาศิลาผู้พิทักษ์ แต่เป็กระบวนท่าฝ่ามือเหล็กไหลพิชิตมาร
หลงอวี้รู้ว่าหลู่กวนิเป็ลูกศิษย์ของอวี้สุ่ยอวิ๋น เขาย่อมต้องรู้ถึงข้อดีของการฝึกวิชากายาพิชิตมารอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงเลือกที่จะฝึกวิชากายาพิชิตมารตามหลงอวี้ด้วยเช่นกัน
สำหรับหลู่กวนิ กระบวนท่าฝ่ามือเหล็กไหลพิชิตมารใช้ต่อกรกับหมาป่าปราณหยินทั้งหลายได้ดีสุดขีด
ส่วนหลิงหานนั้นใช้วิชาปราณขาวไพศาลแทน ซึ่งมีผลดีเหมือนกับของหลู่กวนิ แม้เขาจะมีวิถียุทธ์เพียงขั้นแปด แต่ก็สามารถฆ่าสังหารหมาป่าปราณหยินได้ง่ายดายราวกับหมูหมา
‘ข้าคงไม่จำเป็ต้องใช้ฝ่ามือพิชิตมารแล้ว แม้กระบวนท่านี้จะมีผลในการสะกดข่มธาตุหยินและสิ่งชั่วร้าย แต่อานุภาพของเทียบกับหอกัปรภพกับหมัดัปรภพไม่ได้อยู่ดี’
หลงอวี้คิดในใจ ตอนนี้เขาเพิ่งจะวิถียุทธ์ขั้นเก้าเท่านั้น ย่อมไม่มีทางใช้ฝ่ามือเหล็กไหลพิชิตมารสังหารหมาป่าจันทราระดับิญญาแท้ได้แน่
เขายังต้องใช้ท่าไม้ตายเฉพาะตัวอยู่ดี!
“สหายหลง ภายในตัวของหมาป่าเหล่านี้มันล้วนมีโอสถปราณหยินอยู่หนึ่งเม็ด และเพราะมันเป็สิ่งที่เกิดขึ้นจากการอัดแน่นของปราณหยิน ดังนั้นภายในนั้นจึงมีปราณอสูรแฝงอยู่เป็ส่วนใหญ่”
ฝูงหมาป่าทั้งหมดถูกกำจัดไปแล้ว หลิงหานได้เดินเข้ามาหาพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้ม
“หากดูดกลืนโอสถปราณหยินที่ได้จากหมาป่าพวกนี้ ผลลัพธ์ของมันไม่ได้ด้อยไปกว่าการกลืนกินโอสถขั้นสูงหนึ่งเม็ดเลย!”
หลงอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้า มองไปรอบๆ เมื่อครู่นี้พวกเขาได้ฆ่าหมาป่าปราณหยินไปทั้งหมดหกตัว มีโอสถปราณหยินตกอยู่บนพื้นทั้งหมดหกเม็ด
ยิ่งหมาป่าปราณหยินแข็งแกร่งมากเท่าไร ขนาดของโอสถก็ยิ่งใหญ่มากขึ้นเท่านั้น และแน่นอนว่ามันต้องส่งผลดีต่อการยกระดับพลังอยู่แล้ว
“โอสถปราณหยินเหล่านี้ พวกเ้าเก็บไว้ก่อน กลับไปแล้วค่อยๆ ดูดกลืนทีหลัง”
หลงอวี้ัักับโอสถปราณหยินเม็ดที่ใหญ่ที่สุด หรือก็คือเม็ดที่ได้มาจากหมาป่าจันทรา มันน่าจะมีผลดีกว่าโอสถขั้นสูงเล็กน้อย
ผลลัพธ์แค่นี้ ไม่พอให้เขาสร้างิญญาแท้ได้อยู่แล้ว จึงไม่จำเป็ต้องเสียเวลาดูดกลืนตอนนี้
หลิงหานเองก็รู้ว่าเวลาค่อนข้างบีบคั้น จึงเก็บโอสถทั้งหกเม็ดไปทั้งหมด
จากนั้นทั้งสี่คนก็ออกเดินทางไปยังจุดหมาย
ภายในแผ่นดินเทียนอวี้นี้ แม้ผู้ฝึกยุทธ์จะสามารถพึ่งพาการใช้โอสถในการยกระดับพลังให้เร็วขึ้น แต่โอสถชนิดเดียวกันนั้นหากใช้เป็ครั้งที่สองจะได้ผลลัพธ์ที่แย่ลง อาจจะได้ไม่ถึงครึ่งของครั้งแรกเลยด้วยซ้ำ
โอสถปราณหยินทั้งหกเม็ดนี้เองก็เช่นกัน
หลังจากกินไปหนึ่งเม็ดแล้ว เมื่อใช้ครั้งที่สองจะมีประสิทธิภาพแย่ลงไปอย่างมาก หากไม่เป็เช่นนั้น การยกระดับพลังขึ้นในแผ่นดินเทียนอวี้ก็คงจะไม่ได้ยากเย็นอะไรขนาดนี้
และด้วยเหตุนี้เอง หลงอวี้ที่มีความสามารถในการดูดกลืนพลังทั้งหมดจากโอสถด้วยพลังของสัญลักษณ์ัปรภพจึงดูเก่งกาจกว่าคนทั่วไป
โอสถชั้นยอดหนึ่งเม็ด เมื่ออยู่ในมือเขาจะมีผลเท่ากับสามเม็ดเลยทีเดียว ได้เปรียบกว่าคนอื่นอย่างมหาศาล!
ทั้งสี่คนที่กำลังมุ่งหน้าเดินทางพลันััได้ถึงปราณหยินอันเข้มข้นสายหนึ่งแผ่กระจายมาจากที่ไกลๆ
“ตำแหน่งที่เศษชิ้นส่วนจันทราจะปรากฏขึ้นอยู่ไม่ไกลแล้ว แต่ข้างหน้ากลับมีหมาป่าเฝ้าอยู่มากมาย พวกเราจะผ่านไปได้อย่างไร?”
เป็ภาพแบบเดียวกับที่หลงอวี้ได้เห็นก่อนหน้านี้ ข้างหน้ามีฝูงหมาป่าปราณหยินเดินเพ่นพ่านไปมาอยู่นับร้อยตัว
ลำพังแค่พวกเขาสี่คนไม่มีทางผ่านไปได้แน่!
และในตอนที่พวกเขากำลังครุ่นคิดหาทางกันอยู่นั่นเอง รอบๆ ตัวพวกเขาก็ได้มีเงาร่างหลายสายปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน หลังจากนั้นก็ได้ทะยานออกไปคลุกวงในกับพวกฝูงหมาป่าทันที
“นั่นไป๋หัง!”
“หั่วฝู่ด้วย!”
พวกยอดฝีมือระดับิญญาแท้ขั้นสองถึงสี่คนที่ร่วมมือกันเปิดฉากโจมตีเพื่อที่จะสังหารเหล่าหมาป่าฝูงใหญ่ตรงหน้า!
