ลู่เป๋าเหยียนเองก็กำลังถูกทดสอบ
ทุกครั้งที่เข้าใกล้ร่างนุ่มนิ่มในอ้อมแขน เขามักจะได้กลิ่นกายหอมอ่อนๆ จากดอกคามิลเลียลอยออกมาเตะจมูก แต่สิ่งที่ทำให้เขาแทบบ้าคือ มือที่ััผิวเนียนนุ่มของเธอโดยตรงไร้สิ่งขวางกั้นนั้นช่างรู้สึกดี ความอบอุ่นหอมหวานเต็มอ้อมกอด ส่วนเว้าส่วนโค้งอันงดงามของเธอที่เขาได้ััมันช่างยอดเยี่ยม...
ไหนจะขนตางอนยาวที่กะพริบขึ้นลงคู่นั้น รวมถึงดวงตาคู่งามใสบริสุทธิ์ดุจน้ำค้างนั่นอีก ในโลกนี้คงไม่มีใครเกลียดเธอได้ลง
ั้แ่เกิดมาลู่เป๋าเหยียนไม่เคยรู้สึกสับสนแบบนี้มาก่อน และไม่เคยเลยที่เขาจะต้องใช้ความพยายามในการควบคุมตัวเองไม่ให้คิดเลยเถิดมากขนาดนี้
ด้านล่างของอพาร์ทเมนต์ เสิ่นเยว่ชวนไม่มีอะไรทำจึงชวนเหล่าลูกน้องคุยกันเื่อาซ้อของพวกเขา หัวหน้าแก๊งเป็คนแรกที่เห็นลู่เป๋าเหยียนอุ้มูเี่อันออกมา เขาใอ้าปากค้าง แล้วรีบสะกิดให้ทุกคนหันไปมอง
เสียงคุยเสียงหัวเราะที่ดังอยู่เมื่อครู่ ค่อยๆ เงียบลงในทันใด
ลู่เป๋าเหยียนปกติเป็คนอย่างไร?
ทั้งไร้อารมณ์ทางเพศ ไม่หลงมารยาหญิง สำหรับเขาผู้หญิงกับผู้ชายคือเพศเดียวกัน แถมคำว่าอ่อนโยนยังสะกดไม่เป็
แต่คนแบบนั้นกลับอุ้มหญิงสาวลงมาจากตึก? ด้วยท่าทางสุดแสนจะ...ทะนุถนอมเนี่ยนะ!
ให้ตาย พวกเขาช็อกจนพูดไม่ออก
ูเี่อันไม่คิดเลยว่าข้างล่างจะมีคนอยู่เยอะขนาดนี้ แต่ละคนใช้สายตาเหมือนเจอสิ่งมหัศจรรย์ของโลกจ้องมองมาที่เธอ เธอจึงได้แต่เอาหน้าซุกลงกับอกของลู่เป๋าเหยียนอย่างเขินอาย
“พวก พวกเขาคือใคร” น่าอายชะมัด...
แก้มของคนในอ้อมกอดเขาแดงก่ำ น้ำเสียงดูสั่นๆ เหมือนปีศาจน้อยที่เพิ่งเจอเื่น่าใ ลู่เป๋าเหยียนพูดปลอบเสียงอ่อน “พวกบอดี้การ์ด ไม่ต้องไปสนใจหรอก”
เมื่อเหล่า “บอดี้การ์ด” เรียกสติตัวเองกลับมาได้ ก็ทำท่าเหมือนตนไม่เห็นอะไรทั้งนั้น แล้วจึงขึ้นตึกไปจัดการกับสองพี่น้องตระกูลเส้า ส่วนเสิ่นเยว่ชวนก็รีบเปิดประตูรถฝั่งที่นั่งข้างคนขับให้ลู่เป๋าเหยียน
หลังลู่เป๋าเหยียนจัดการใหู้เี่อันนั่งบนรถเรียบร้อยแล้วจึงปิดประตู และได้ยินเสิ่นเยว่ชวนถามขึ้นมา
“สองพี่น้องนั่น นายจะให้จัดการยังไงดี”
“แล้วแต่นาย ฉันไม่อยากเห็นหน้าพวกมันในเมืองนี้อีก” พูดจบลู่เป๋าเหยียนก็ขึ้นรถขับออกไป
ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงทางด่วน ลู่เป๋าเหยียนขับรถหน้านิ่ง ส่วนูเี่อันก็นั่งอยู่ข้างๆ แอบมองเขา
เขาขับรถค่อนข้างความเร็ว แสงจากไฟข้างทางที่ส่องเข้ามาสะท้อนลงบนหน้าของเขาเป็เวลาสั้นๆ ดวงแล้วดวงเล่า
ทุกครั้งที่เธอมองเขา เธอรู้สึกเหมือนถูกมนตร์สะกด ใบหน้าของเขาในตอนนี้กลับไปเ็าเหมือนอย่างเคย อย่างกับว่าผู้ชายแสนอ่อนโยนคนเมื่อกี้ เป็แค่ภาพลวงตาที่เธอเข้าใจผิดไปเอง
แปลกทีู่เี่อันเริ่มรู้สึกผิดหวังขึ้นมา ทว่าเธอมีเื่หนึ่งที่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องบอกเขา
“ลู่เป๋าเหยียน ขอบใจนะ”
“ูเี่อัน เธอโง่หรือเปล่า” ลู่เป๋าเหยียนมองเธอแวบหนึ่งด้วยสายตาเ็า “เพราะฉันเธอถึงโดนจับตัวไปไม่ใช่เหรอไง ยังจะมาขอบคุณฉันอีก”
“แต่ตอนหลัง ฉันเองที่ยอมให้เส้าิจงพาออกไปนี่”
ตอนที่เธอโดนจับเป็ตัวประกันอยู่ในห้องจัดเลี้ยง ูเี่อันแอบขยับมือเล็กน้อย ซึ่งหากเป็คนอื่นอาจจะไม่ได้สังเกตว่าเป็เื่ผิดปกติอะไร แต่ที่จริงแล้วมันคือสัญญาณมือลับของสถานีตำรวจ ที่แปลความหมายได้ว่า ให้ลู่เป๋าเหยียนเลือกปล่อยตัวหานรั่วซี
ตอนแรกเธอก็ไม่ค่อยมั่นใจว่าลู่เป๋าเหยียนจะเข้าใจหรือเปล่า แต่จากสีหน้าของเขาที่แสดงออกมาบอกเธอว่า เขาเข้าใจ แต่ว่า...
“ปกติแล้วสัญญาณมือลับจะมีเพียงแค่คนในสถานีตำรวจเท่านั้นที่รู้ ทำไมนายถึงเข้าใจล่ะ”
“คำถามนี้ควรจะถามเธอมากกว่า เธอเป็แค่แพทย์นิติเวชพิเศษ ไม่จำเป็ต้องออกภาคสนามเหมือนคนอื่น แล้วทำไมถึงรู้เื่พวกนี้ได้”
หากเป็เวลาปกติ ูเี่อันคงไม่โดนคนอื่นเปลี่ยนหัวข้อไปได้ง่ายๆ แบบนี้ แต่วันนี้อาจเป็เพราะโดนอิทธิพลจากบรรยากาศรอบกายของลู่เป๋าเหยียน เธอจึงลืมไปว่าตัวเองเป็คนถามคำถามเขาก่อน
“ตอนอยู่ที่ทำงาน เวลาเบื่อๆ ฉันให้เจียงเส้าข่ายสอนให้”
เกือบทุกคนในสถานีตำรวจต่างรู้ภาษามือพวกนี้ ทำไมต้องให้เจียงเส้าข่ายสอน?
ลู่เป๋าเหยียนหรี่ตาด้วยความไม่พอใจ เขาเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วของรถให้มากขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
ด้านูเี่อันเองไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงนั้นเลยสักนิด ยังคงพูดต่อไปว่า
“ฉันเป็คนตัดสินใจจะออกไปกับเส้าิจงเอง เพราะฉะนั้นมันเป็การเลือกของฉันไม่เกี่ยวกับนาย เพราะฉะนั้นต้องขอบคุณนายที่มาหาฉันในตอนหลัง”
คำว่า “ไม่เกี่ยวกับนาย” ทำไมมันช่างบาดหู เขาถามเสียงเย็นออกไปว่า “เธอไม่กลัวตายหรือไง”
ูเี่อันตอบอย่างมั่นใจ “เจียงเส้าข่ายเคยสอนศิลปะป้องกันตัวให้ฉัน พี่น้องสองคนนั้นดูก็รู้ว่าไม่ใช่พวกเก่งกาจอะไร แล้วทำไมฉันต้องกลัวพวกเขาด้วย แต่ถ้าคนที่ถูกจับไปเป็หานรั่วซี เธอคงไม่มีทางสู้พวกนั้นได้แน่ กว่าจะช่วยออกมาได้ก็คงลำบาก”
“...”
ลู่เป๋าเหยียนเงียบไม่พูดจา ความสนใจทั้งหมดของเขาหยุดอยู่ที่ต้นประโยคของเธอ สรุปแล้วเจียงเส้าข่ายสอนอะไรให้เธอบ้างกันแน่
ูเี่อันเห็นลู่เป๋าเหยียนไม่พูดไม่จา จึงยกมือลูบจมูกแล้วนิ่งเงียบไปเช่นกัน
ความรู้สึกของคนบางคนช่างคาดเดายาก เธอนอนหลับไปเลยเสียจะดีกว่า