“ขอบคุณที่เตือน”
น้ำเสียงของฉินหลางนั่งเรียบกว่าปกติมาก เพราะเขารู้ว่าซางคุนอยากเห็นเขาโมโห หวาดกลัวหรือแม้แต่หมดอาลัยตายอยาก เพราะฉะนั้น ฉินหลางจึงเตรียมเอาคืนด้วยวิธีการเดียวกัน เขายิ้มมุมปากมองดูซางคุน “พูดไปแล้ว แกเป็คนแรกที่มาเยี่ยมฉันเลย”
“แกเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า! บิดาเป็คนเอาแกเข้าไปอยู่ในนั้น! เข้าใจรึยัง!” ซางคุนหัวเราะเย็นเฉียบ ห้องกั้นกระจก ทำให้ฉินหลางเห็นท่าทางที่น่ารังเกียจของซางคุนได้อย่างชัดเจน
“ตรงนี้ก็ไม่เลว นอนห้องละแปดคน ไม่ต่างจากหอพักในโรงเรียนเท่าไรนัก” ฉินหลางพูดขึ้นอย่างนิ่งเรียบ “ว่าแต่ซางคุน แกมาที่นี่เพื่อจะอวดแค่นี้เหรอ?”
“ฉันจะชี้ทางรอดให้แก” ซางคุนสบถ “แกอาจยังไม่เข้าใจสถานการณ์ นั่นเพราะแกเพิ่งมาที่แบบนี้ครั้งแรก แต่ฉันสามารถบอกแกได้เลย คืนนี้แกจะต้องลำบากแน่! นายอาจไม่ตาย แต่นายจะต้องอยากตายมากแน่!”
“แล้วทางรอดของนายล่ะ?” ฉินหลางถามขึ้น
“เ้านายฉันค่อนข้างชื่นชมแก ถ้าแกยอมจงรักภักดีต่อเขา นอกจากแกจะไม่มีเื่อะไรแล้ว นายยังไม่ต้องห่วงเื่คดีอีกด้วย” ซางคุนพูดขึ้นเย็นเฉียบ “ความจริง ฉันอยากจะฆ่าแกมาก! ถ้าไม่ใช่เพราะแก ไอ้ปัญญาอ่อนฮานซานฉางคงยอมแพ้ หรือไม่ก็ตายไปตั้งนานแล้ว
“เ้านายแก?” ฉินหลางพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “แกควรพูดว่าเ้าของแก เพราะในสายตาของอันเต๋อเซิ่ง แกเป็แค่หมาตัวนึง!”
“รนหาที่ตาย!” ซางคุนไม่ได้เป็คนดีอยู่แล้ว ตอนนี้ฉินหลางกระตุ้นเขาอีก เขาก็ทนแทบไม่ไหว ใกล้ะเิออกมา
“อยากจัดการฉันเหรอ” ฉินหลางยิ้มอย่างไม่สบอารมณ์ “แกจะเข้ามาถึงตัวกับฉันเหรอ? ฉันว่าแกไม่กล้าหรอก? ได้ยินว่าซางเป้าลูกน้องคนสนิทของแกเป็พวกชอบโดยตุ๋ยตูด แกไม่มีน้ำยาแบบนี้ เป็พวกเดียวกับมันใช่มั้ย?”
“ไอ้หนู แกตายแน่! แต่จะจัดการกับแก บิดาไม่จำเป็ต้องลงมือเอง!” บนใบหน้าซางคุนเต็มไปด้วยความเหี้ยมโหด “คืนนี้ แกจะได้เสียใจที่เกิดมาบนโลกใบนี้แน่! แกต้องเสียใจที่มีเื่กับคนอย่างซางคุน! ไอ้เด็กปัญญาอ่อนแกไม่รู้เหรอใครต่อใครต่างก็อยากจะฆ่าแกกันทั้งนั้น!”
“ช้าก่อน—” เห็นซางคุนกำลังจะจากไป ฉินหลางพูดขึ้นกะทันหันด้วยน้ำเสียงที่แ่เบา
“แกพูดว่าอะไรนะ?” ซางคุนคิดว่าฉินหลางเปลี่ยนใจแล้ว จึงโน้มตัวเข้าไปใกล้โดยสัญชาตญาณ เพื่อให้ได้ยินคำพูดเขาชัดเจนขึ้น
“ฉันบอกว่า…แกมันไอ้ปัญญาอ่อน—”
ทันทีที่พูดจบ ฉินหลางต่อยไปยังกระจกด้านหน้าตัวเองอย่างแรง ถึงแม้กระจกดังกล่าวจะเป็กระจกกันะุ ที่แข็งแรงมาก แต่หมัดเต็มกำลังของฉินหลาง ต่อให้มีโครงสร้างเป็คอนกรีตฝังเหล็กในยังละเอียดได้เลย นับประสาอะไรกับแค่กระจกกันะุธรรมดาๆ แผ่นเดียว ได้ยินเพียงเสียง ปัง! หมัดของฉินหลางผ่ากระจกออกไปกระแทกกับจมูกและปากของซางคุนอย่างจัง จนทำให้ซางคุนกระเด็นไปกองกับพื้น
“โอ๊ย!”
ซางคุนคิดไม่ถึงว่าฉินหลางจะลงมือที่นี่ และยังรุนแรงมากขนาดนี้ด้วย เขาเผลอร้องออกมาด้วยความเจ็บ เืกำเดาไหลไม่ยอมหยุด ในขณะที่ฟันของเขาก็ร่วงลงบนพื้นสองซี่ ถ้าไม่ใช่เพราะกระจกกันะุได้ลดแรงปะทะส่วนมากออกไป คิดว่าแค่หมัดเดียวก็ส่งซางคุนเข้าไปนอนในโรงพยาบาลสองสามเดือนได้สบายๆ แล้ว
“ซางคุนแกเห็นชัดเจนแล้วรึยัง บิดาต่างหากที่เป็พวกนิยมความรุนแรงของจริง! แม่มเถอะ ทำให้บิดาอารมณ์เสีย แกต้องซวยก็สมควรแล้ว! ฉินหลางมองดูซางคุนที่กองอยู่บนพื้น ผ่านกระจกที่แตกร้าวอ่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะยกนิ้วกลางให้เขาแล้วจึงหันหลังจากไป
วันนี้ฉินหลางอารมณ์เสียจริงๆ เพราะเขาที่ช่วยเหลือผู้อื่นอย่างมีคุณธรรมต้องกลายมาเป็ผู้ต้องหาฆ่าคนตาย ยังถูกเถารั่วเซียงมองว่าเป็เดรัจฉานอีก ทำให้ฉินหลางเก็บความโกรธไว้เต็มอก เ้าซางคุนก็เข้ามาเย้ยหยันเขาพอดี ฉินหลางจึงเอาความโกรธทั้งหมดใส่ไว้ในกำปั้น แล้วจึงสอนบทเรียนที่ซางคุนจะจำไปจนวันตาย
หลังจากที่ได้ต่อยหมัดนี้ไปแล้ว ฉินหลางก็อารมณ์ดีขึ้นจริงๆ ด้วย
ทว่าผู้คนทั้งสองเห็นฉินหลางต่อยคนก็พุ่งเข้ามาทันที ้าจะสั่งสอนฉินหลางด้วยกระบอง แต่แล้วยังมาไม่ถึงก็ต้องถอยร่นกลับไปด้วยความกลัว เพราะแววตาที่เต็มไปด้วยความอำมหิตและโเี้ของฉินหลาง เขาพูดอย่างเ็า “ถ้าพวกคุณไม่มีปืนพก ก็อย่าเข้ามายุ่งกับฉัน!”
ผู้คุมทั้งสองอยากเข้าไปสั่งสอนฉินหลาง แต่เมื่อมองดูกระจกกันะุที่แตกเป็รูนั้น จึงทำได้เพียงทนไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปต่อ หนึ่งในนั้นพูดขึ้นเย็นๆ “กลับไปที่ห้องกักกันได้แล้ว!”
สำหรับผู้คนทั้งสองนั้น ตราบใดที่ฉินหลางยังอยู่ในสถานกักกันนี้ พวกเขาก็โอกาสอีกเยอะที่จะจัดการกับฉินหลาง ไม่จำเป็จะต้องเข้าไปหาเื่เจ็บตัว
เมื่อเห็นฉินหลางโอหังมากแบบนี้ ซางคุนโมโหจนตัวสั่น
ผู้คุมอีกคนจึงรีบเดินไปบอกกับซางคุน “วางใจได้ครับ พวกเราเตรียมการทุกอย่างเอาไว้พร้อมหมดแล้ว!”
“ฉันจะให้มันทรมานยิ่งกว่าตาย! ถุย!” ซางคุนพูดตะคอก ก่อนที่จะถุยเืในปากตัวเองทิ้ง
“สบายใจได้ คนที่อยากให้เขาทรมานยิ่งกว่าตายยังมีอีกเยอะ “ผู้คุมพูดต่ออย่างเร่งรีบ “ผมว่าท่านไปหาหมอก่อนดีไหมครับ คนกระจอกๆ แบบนี้ไม่มีค่าพอให้ท่านไปโมโหหรอกครับ เดี๋ยวเขาก็จะรู้ซึ้งถึงความโหดร้ายทารุณของความจริงแล้ว!”
ตอนนี้ซางคุนไม่มีกะจิตกะใจเก๊กหล่อ หรือทำเท่อีกแล้ว กลับออกไปจากสถานกักกันด้วยความเ็ป ทว่าในใจเขากำลังจินตนาการฉากต่างๆ ที่ฉินหลางถูกทารุณอย่างุ์แล้ว
ตึง!
ประตูสถานกักกันถูกปิดลงอีกครั้ง
“ไอ้หนู แกโอหังมากนะ! ทว่ามาถึงที่นี่แล้ว ต่อให้แกจะเป็เสือ ก็จะต้องนอนหมอบอยู่บนพื้นเหมือนแมวให้บิดา! อยู่ที่นี่ มันเป็ถิ่นของพวกเรา! หลังจากประตูสถานกักกันปิดลง ผู้คุมที่ยืนอยู่นอกประตูก็เริ่มอวดดีขึ้นมาทันที
ฉินหลางไม่ได้สนใจผู้คุม หันหลังเดินเข้าไปในมุมมืดของห้องขัง เขาแบมือออก ในมือมีกระดาษเล็กๆ แผ่นหนึ่งที่นักโทษแอบยัดไว้ในมือเขาตอนที่เขาเดินผ่านห้องขัง
“พี่ฉางบอกว่า อันเต๋อเซิ่งกับซางคุนกำลังหาคนมาเล่นงานคุณ ระวังตัวด้วย” บนกระดาษมีข้อความแค่นี้
ดูไปแล้ว นักโทษคนเมื่อกี้เป็คนของฮานซานฉาง อยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ฮานซานฉางไม่ได้มาเยี่ยมฉินหลาง แสดงว่าเขาเองก็กำลังเจอปัญหาอยู่เหมือนกัน หรือไม่ก็ผู้คุมได้รับคำสั่งจากข้างบน ไม่อนุญาตให้ฮานซานฉางมาเยี่ยมฉินหลาง
แล้วยิ่งตอนนี้ ซางคุนเข้ามาประกาศศักดาแล้วด้วย สถานการณ์ตอนนี้ของฉินหลาง บอกได้คำเดียวว่า
บรมซวยบัดซบ!
แต่หลังจากได้ปล่อยหมัดเมื่อกี้นี้ออกไป ความรู้สึกร้อนรนในใจก็ถูกระบายออกไปแล้ว ตอนนี้เขากลับมานิ่งเรียบดังปกติ ถึงแม้สถานการณ์ตอนนี้จะอันตรายมาก แต่ฉินหลางจะไม่เป็ปลาที่วางอยู่บนเขียงเด็ดขาด
ทว่าั้แ่ฉินหลางก้าวเท้าเข้ามาในห้องขังแล้ว บรรยากาศภายในห้องก็ตื่นเต้นขึ้นมา
“เพื่อนร่วมห้องขัง” ทั้งเจ็ดคนนี้ของฉินหลาง ล้วนเป็การตระเตรียมของผู้คุม อาจจะเป็คำสั่งของซางคุน หรืออาจจะเป็คำสั่งของอันเต๋อเซิ่ง แต่ไม่ว่าอย่างไรทั้งเจ็ดคนนี้ล้วนเป็ผู้กระทำความผิดทางอาญาอย่างรุนแรงแน่นอน หัวโจกเป็ชายหัวโล้น บนหัวยังมีรอยมีดยาวๆ ใส่เสื้อแจ็กเกตสีดำ เผยให้เห็นกล้ามเนื้อและรอยสักับนแขนทั้งสองข้าง ดูไปแล้วโเี้มาก อีก 6 คนที่เหลือต่างก็เรียกเ้าหัวโล้นนี้ว่า “พี่ขุย”
เวลานี้ ลูกน้องทั้งหกคนของพี่ขุยต่างก็บริหารมือไม้เสร็จกันหมดแล้ว พี่ขุยสั่งแค่คำเดียว พวกเขาก็พร้อมลงมือทันที
“ไอ้หนู แกก็คือฉินหลาง?” ตอนแรกพี่ขุยนั่งอยู่บนขอบเตียง แต่ตอนนี้เขาเด้งตัวลุกขึ้นมาแล้ว กำปั้นทั้งสองสลับกันชก มีเสียงป๊อกๆๆๆ ของข้อนิ้วและข้อมือดังขึ้น “บิดาคิดว่าจะเป็คนเจ๋งๆ ซะอีก คิดไม่ถึงว่าจะให้จัดการเด็กนักเรียนตัวเล็กๆ อย่างแก!”
“เด็กนักเรียนแล้วจะทำไม?” พี่ขุยไม่ได้อยู่ในสายตาของฉินหลางด้วยซ้ำ “รีบลงมือเถอะ อย่ารบกวนเวลานอนของฉัน”