พลังชั่วร้ายและกลิ่นอายอำมหิตที่ไร้ขอบเขตทำให้ทุกคนรู้สึกหวาดหวั่นจนถึงจิติญญา ราวกับมีเข็มทิ่มแทงศีรษะ พวกเขาเริ่มทรงตัวไม่อยู่ คล้ายกับว่าร่างกายกำลังจะแตกสลาย
ที่ปลายสุดของวังวนขนาดมหึมา ปรากฏเงาร่างอันคลุมเครือขนาดั์
รูปลักษณ์ของเขาไม่อาจมองเห็นได้ชัดเจน เขาแทบไม่ได้ขยับตัวเลย แต่เพียงแค่เปิดใช้ค่ายกลและปลดปล่อยกลิ่นอายออกมาเพียงเล็กน้อย ก็สามารถก่อให้เกิดอาณาเขตอันน่าสะพรึงกลัว ราวกับสามารถทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่าง!
เงาร่างมหึมาปรากฏขึ้นต่อเนื่องกลางท้องฟ้า จิตสังหารอันยิ่งใหญ่แผ่ซ่านไปทั่ว บรรยากาศเย็นะเืและเต็มไปด้วยการทำลายล้างอันโเี้
ในพื้นที่ที่ถูกความมืดปกคลุม แสงแดดและเมฆาขาวได้สลายหายไปหมดสิ้น ที่ใดก็ตามที่สายตาของเขากวาดผ่านไป จะปรากฏอสูรจำนวนนับไม่ถ้วน!
"นั่น… นั่นคือส่วนหนึงของป่่ารกร้างโบราณ อย่างนั้นหรือ…"
ไม่เพียงแค่คนของตระกูลหลิน แม้แต่ตระกูลและขุมอำนาจรอบข้างที่มองดูอยู่จากระยะไกล ต่างก็รู้สึกสิ้นหวัง
มันมากมายเกินกว่าจะคำนวณได้! เหล่าอสูรร้ายเหล่านี้มีจำนวนมากพอๆ กับมด! และแต่ละตัวก็มีพลังที่แข็งแกร่งเกินจินตนาการ แล้วใครกันเล่าที่จะสามารถต้านทานพวกมันได้?
อย่าว่าแต่ตระกูลหลินเลย ต่อให้ทุกขุมอำนาจในเมืองฉีซานร่วมมือกัน ก็ไม่มีทางเป็คู่ต่อสู้ของกองทัพอสูรเหล่านี้ เพียงแค่พวกมันร่วมมือกันโจมตีเป็ระลอก ก็สามารถบดขยี้ทุกสิ่งให้พินาศได้แล้ว!
ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดก็คือ เ้าแห่งหุบเหวยังคงเฝ้าอยู่ที่หุบเหว เขาไม่ได้ลงมือหรือแม้แต่ปรากฏตัวออกมา นี่เป็การแสดงออกถึงการดูแคลนและท้าทายโดยตรง!
‘พวกเ้าไม่คู่ควรที่ข้าจะต้องลงมือ แม้แต่สมุนของข้าเพียงไม่กี่ตนก็เพียงพอจะจัดการกับพวกเ้าได้แล้ว!’
เมื่อเห็นภาพที่อยู่เบื้องหน้า ความหวาดกลัวและความตื่นตระหนกก็พลันพุ่งขึ้นในใจของเหล่าตระกูลและขุมอำนาจรอบข้าง
หลังจากที่เ้าแห่งหุบเหวมืดโจมตีตระกูลหลินแล้ว เขาจะปล่อยให้คลื่นอสูรทำลายล้างทั่วทั้งเมืองฉีซานหรือไม่?
เพียงแค่คิดถึงความเป็ไปได้นี้ หลายตระกูลและขุมอำนาจต่างๆก็รู้สึกเย็นะเืไปทั้งร่าง
พวกเขาไม่กล้าที่จะจินตนาการว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป
"ถ้ามีปัญญาก็ลงมาสู้กัน! ใครกลัวพวกเ้า!"
เผชิญหน้ากับฝูงอสูรร้ายที่คุ้มคลั่ง ผู้คนในตระกูลหลินไม่ได้สนใจความเป็ความตายอีกต่อไป
พวกเขารู้สึกเพียงว่าผู้เป็เ้าแห่งหุบเหวนั้นน่าขุ่นเคืองนัก! ก่อนหน้านี้เขาเปิดรอยแยกมิติ จากนั้นก็ออกประกาศิตและผนึกพวกเขาไว้ และตอนนี้ก็ส่งสมุนของตนออกมาโดยที่ยังไม่เผยร่างจริง!
คิดว่าตระกูลหลินไม่มีใครงั้นหรือ? นี่เป็เื่ที่ทำให้พวกเขาโกรธแค้นอย่างมาก!
ในขณะนั้นเอง เสียงะเิดังสนั่นพลันกึกก้องขึ้น! วังวนขนาดมหึมาสีดำและขาวพุ่งมาถึงแนวหน้าของสนามรบในพริบตา! พื้นที่โดยรอบสั่นะเือย่างรุนแรง พื้นดินแตกร้าวเป็เสี่ยงๆ!
หลินเป่า, ซวนชางหลิน, เป่ยเฉินจ้าน และหลินฮ่าว ก้าวขึ้นมายืนแนวหน้า! พวกเขาะเิพลังปราณออกมาเพื่อขัดขวางคลื่นพลังอันน่าสะพรึงกลัว และทำให้พายุทำลายล้างหยุดลงตรงนั้น!
ทว่า… สิ่งมีชีวิตในห้วงลึกของหุบเหวกลับยังคงไม่ย่างกรายออกมา มีเพียงเสียงแค่นหัวเราะเ็าดังออกมา ซึ่งทำให้ฟ้าดินสั่นสะท้าน!
นอกจากนี้ เหล่าอสูรร้ายที่เบียดเสียดกันอยู่บนท้องฟ้าก็ดูราวกับหอคอยเหล็ก ตั้งตระหง่านด้วยกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัว
"แค่พวกเ้าคิดจะท้าทายนายท่านของพวกเรา? ช่างน่าขัน!"
ภายในรอยแยกมิติสีดำ เสียงเ็าของ 'ซวนหนี่' ดังขึ้น
จากนั้น ร่างของซวนหนี่ก็ปรากฏออกมา ร่างกายของมันถูกปกคลุมด้วยเปลวเพลิงสีดำ มันมีาแเก่าอยู่ทั่วร่าง ทว่าแววตาของมันกลับลึกล้ำดุจเหวลึกไร้ก้น
"แค่ตระกูลหลินของพวกเ้า ยังคิดว่านายท่านของเราจะต้องออกจากหุบเหวมืดมาสู้ด้วยตัวเอง? น่าขันสิ้นดี!"
เื้ัซวนหนี่ มีเงาดำมากมายยืนเรียงรายอยู่ พวกมันดูคล้ายเงาปีศาจ ไม่มีใครมองเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของพวกมันได้ แต่พลังอำนาจที่แผ่ออกมากลับทำให้จิตใจของผู้คนสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว
"หากพวกเ้ายอมคุกเข่าอ้อนวอนตอนนี้ ข้ายังอาจไว้ชีวิตให้พวกเ้าได้"
เสียงของซวนหนี่เต็มไปด้วยความเย้ยหยันและดูแคลน
"นายท่าน ข้าว่าอย่าสิ้นเปลืองคำพูดกับพวกมดปลวกไร้ปีกเหล่านี้เลย!"
ทันใดนั้นเอง เงาดำขนาดมหึมาเท่าูเาตัวหนึ่งพลันเปล่งเสียงออกมา น้ำเสียงของมันเต็มไปด้วยจิตสังหารและความโอหัง
"พวกเ้า… กล้าสู้กับข้าหรือไม่?"
"พวกเ้ากล้าคุยว่าเป็เผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก? ข้าไม่รังเกียจที่จะให้พวกเ้ารู้ถึงความแตกต่างที่แท้จริง!"
"เผ่ามนุษย์ร่างกายอ่อนแอ พร์ต่ำต้อย อาศัยเพียงจำนวนและความสามารถในการขยายเผ่าพันธุ์เพื่อคงอยู่ ในยุคโบราณ พวกเ้าเป็เพียงเสบียงอาหารของพวกเราเท่านั้น คิดหรือว่าพวกเ้ามีสิทธิ์จะท้าทายเรา?"
ร่างลึกลับอีกตนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน ดูถูกไม่เพียงแต่ตระกูลหลิน แต่รวมถึงเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมด
"ตระกูลเล็กๆ เช่นพวกเ้า ยังกล้าขัดขืนอีกหรือ? กล้าขโมยสมบัติของนายท่านข้า? ข้าแค่บอกให้พวกเ้าถวายตัวเป็อาหารแท้ๆ ยังกล้าขัดขืน? บังอาจเกินไปแล้ว!"
"ส่งตัวอัจฉริยะของพวกเ้ามาเสีย! การเรียกเขาว่า ‘บุตรศักสิทธิ์’ ช่างเป็เื่น่าขบขันสิ้นดี!"
เสียงเย็นเยียบและโอหังดังขึ้นจากร่างลึกลับอีกตน
เมื่อคนของตระกูลหลินได้ยินเช่นนั้น พวกเขาก็โกรธแค้นเป็อย่างมาก!
เสบียงอาหารงั้นหรือ? จากน้ำเสียงของอสูรเหล่านี้ ต่อให้ไม่มีเื่แท่นบูชาห้าสี พวกมันก็คงไม่ยอมปล่อยตระกูลหลินไป!
การกล่าวหาว่าถูกขโมยสมบัตินั้นเป็เพียงข้ออ้างเท่านั้น!
"พวกเ้ากล่าวหาว่าพวกเราขโมยสมบัติของแดนรกร้าง แต่พวกเ้าเคยฟังตัวเองบ้างหรือไม่ว่าพวกเ้าช่างหยิ่งผยองและกดขี่เพียงใด?!"
หลินฮ่าวจ้องมองไปด้วยสายตาเ็า เอ่ยขึ้นอย่างโกรธแค้น
"พวกเ้าทำลายบ้านของข้า สังหารประชาชนของข้า ทำลายอนาคตของข้า แล้วพวกข้ากลับไม่มีสิทธิ์ต่อต้านงั้นหรือ?!"
"ข้าบอกแล้ว ว่าพวกเ้าเป็เพียงอาหารของพวกเราเท่านั้น! บรรพชนของมนุษย์ที่พวกเ้ากราบไหว้นั้น เคยคลานอยู่แทบเท้าของพวกเราหวังเพียงเอาชีวิตรอด ต้องใช้พิธีเซ่นบูชาโลหิตเพื่อแลกเปลี่ยนกับทักษะวิชาปราณและวิถีบำเพ็ญตบะเพื่อวิวัฒนาการมาจนถึงวันนี้ แต่ในฐานะลูกหลานของพวกมัน พวกเ้ากลับคิดจะต่อต้านพวกเรา?"
ขณะนั้นเอง อสูรั์หกขาก้าวออกมาจากด้านหลังของซวนหนี่ มันมีหัวสิงโตและเขาวัว เปี่ยมไปด้วยพลังอำนาจอันมหาศาล
"ในเผ่าของข้า ข้าก็เป็เพียงตัวธรรมดา แต่ข้าก็สามารถสังหารพวกเ้าได้!"
"เ้ามันก็แค่อสูรต่ำต้อยตัวหนึ่ง! หากจะส่งคนมา ก็ส่งตัวที่เก่งกว่านี้มาเถอะ!" เป่ยเฉินจ้านกล่าวเย้ยหยัน
"ตระกูลเป่ยเฉินจากเมืองฉีซาน? พวกเ้าไม่ได้อยู่ในเมืองฉี ซานยังกล้าก้าวก่ายเื่นี้อีกหรือ? อยากตายหรือไร?" ซวนหนี่ตะคอกด้วยความโกรธ
"เ้าคิดจะฆ่าข้า? หึ!" เป่ยเฉินจ้านแค่นเสียงเยาะ
เขารู้ดีว่าซวนหนี่ตนนี้อยู่ขั้น5ของขอบเขตแก่นทองคำ
แม้ว่าเขาจะเพิ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตแก่นทองคำ แต่เขาก็พกสมบัติศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลเป่ยเฉินมาด้วย มันเป็อาวุธมนุษย์รูปร่างคล้ายหุ่นเชิด ว่ากันว่าใช้เศษเสี้ยวของ์มาหลอมสร้างขึ้น
ด้วยอาวุธนี้ เป่ยเฉินจ้านมั่นใจว่าเขาสามารถสู้กับซวนหนี่ได้!
"เ้าอย่างนั้นหรือ? เ้ายังไม่คู่ควร!" ซวนชางหลินกล่าวเยาะเย้ย "คิดจะกดขี่พวกเราหรือ? เลิกฝันกลางวันเสียเถอะ!"
"ดี! เผ่ามนุษย์ช่างบังอาจนัก!"
ภายในหมอกดำ อสูรตนหนึ่งคำรามออกมา!
หมอกดำพวยพุ่ง ร่างเ่าั้ปรากฏตัวออกมาอย่างสมบูรณ์!
พวกมันมีระดับที่สูงส่ง โลหิตแผ่ซ่านไปทั่ว!
เมื่อพวกมันก้าวออกมา ราวกับว่าแดนรกร้างโบราณลงมาสู่โลกมนุษย์!
"ข้าไม่้าเสียเวลากับพวกเ้ามากเกินไป ในครั้งนี้ ข้าจะทำลายความหยิ่งผยองของพวกเ้าจนหมดสิ้น! จะได้ดูเสียว่าพวกเ้าจะยังกล้าหาญยืนหยัดอยู่อีกหรือไม่!"
เงาร่างหนึ่งก้าวออกมา พร้อมกับเอ่ยเสียงเย็นเยียบ "ข้าบำเพ็ญมา 30,000 ปีแล้ว… ใครกล้าสู้กับข้า?"
ทุกคนสามารถััได้ว่าร่างนี้มีพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวเป็อย่างยิ่ง!
"ข้ากล้า!"
ผู้าุโผู้หนึ่งก้าวออกมาจากตระกูลหลิน เขาดูแข็งแกร่งและสง่างาม ดวงตาเปล่งประกายเรืองรอง
เหล่าผู้สังเกตการณ์จากกองกำลังต่าง ๆ ถึงกับหรี่ตาลงเล็กน้อย พวกเขารู้จักบุคคลผู้นี้ดี แม้ว่าเขาจะไม่ใช่บรรพชนของตระกูลหลิน แต่เขาก็มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน
ยิ่งไปกว่านั้น ในบรรดาผู้ที่อยู่ในรุ่นเดียวกับเขา เขาถือเป็อัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุด รุ่งโรจน์และเปล่งประกายราวกับดาวตกที่ส่องสว่างบนท้องฟ้า
พวกเขาเคยคิดว่าเขาตายไปนานแล้ว แต่ไม่คาดคิดเลยว่าเขายังมีชีวิตอยู่!
"ข้ามีนามว่า หลินเฟิง!"
"ข้าบำเพ็ญตบะมา 9,000 ปี!"
"ไม่นานนัก…"
"แต่ก็เพียงพอที่จะฆ่าเ้า!"
