ทุกคนตะลึงกันไปหมด ิเสวียนในเวลานี้มีแสงพุ่งออกมาจากดวงตาสีแดงก่ำ ผมสีขาวโพลนปลิวไสว ใบหน้าหล่อเหลา สวมชุดดำลายั ทั้งๆ ที่ก็ยังดูองอาจแต่กลับมีกลิ่นของมารปีศาจมากกว่า!
ภายใต้ความประหลาดนั้นมีทั้งความเย่อหยิ่งและความชั่วร้ายอยู่ไม่น้อย!
ในเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็หน้าตาหรือว่าความสง่างาม มันล้วนแต่เปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็หลังมือ ความสามารถของิเสวียนเองก็ก้าวะโไปไกลมากด้วยเช่นกัน!
ลมปราณทั่วทั้งตัวของิเสวียนเพิ่มพูนขึ้นอย่างมาก หัวใจของเขากลายเป็หัวใจเทวะสีแดงเืแล้วซึ่งมันเต็มไปด้วยปราณที่หนาแน่นมาก ทุกครั้งที่หัวใจเต้นจะแรงและมีน้ำหนักอย่างมาก พลังงานในหัวใจเทวะจะแผ่ไปทั่วทั้งร่างกายของเขา
ราวกับว่าพลังงานในหัวใจของิเสวียนเป็ต้นพลังงานและเป็ศูนย์กลางของทุกอย่าง!
ิเสวียนสามารถััได้ว่าดินแดนอสูรว่านโซ่วกำลังเริ่มผลักดันเขาออกไปอย่างรุนแรง เพราะเขามีขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่ง มันเกินกว่าขอบเขตที่ดินแดนอสูรว่านโซ่วกำหนดเอาไว้
ิเสวียนจำเป็จะต้องรีบออกไปจากดินแดนอสูรว่านโซ่ว แต่ก่อนหน้านั้นเขาต้องจัดการสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้านี้ก่อน
ิเสวียนขยับสายตาแล้วจ้องไปที่เสวียปู้หุ่ย
“เมื่อครู่เ้าคิดจะฆ่าข้าอย่างนั้นหรือ” ิเสวียนยิ้ม แต่สายตาสีแดงเืของเขากลับมองไปที่เสวียปู้หุ่ยด้วยความเ็า
ระหว่างที่ิเสวียนกำลังพูดลมปราณรอบตัวก็เริ่มแผ่ออกมา แสงสายฟ้ามีริ้วสีแดงปรากฏฟาดลงไปที่ตัวของเสวียปู้หุ่ย ถึงแม้จะเป็การโจมตีที่ไม่ได้ตั้งใจมาก แต่ก็ทำให้เสวียปู้หุ่ยกระอักเืและเข่าทรุดลงข้างหนึ่งจนเกือบจะล้มกองไปกับพื้น!
“แค่ก ... ข้ามันสมควรตายจริงๆ เพราะข้าไม่อาจสังหารเดรฉานอย่างเ้าได้!”
เสวียปู้หุ่ยใช้ดาบเสี้ยวพระจันทร์ชิงหลงปักบนพื้นเพื่อดันตัวเอาไว้ จากนั้นเขาก็กัดฟันจนหน้าแดงไปหมดพร้อมกับความโกรธแค้นที่อยู่ในใจ
ในเวลากว่าครึ่งปี ิอ๋องทุ่มเทกำลังพลมากมายให้กับิเสวียน และพวกเขาก็ทุ่มเทให้กับหัวใจอสูรระดับสิบไปจำนวนมาก หลายชีวิตต้องมาทิ้งเพราะการต่อสู้ในครั้งนี้
เดิมทีเสวียปู้หุ่ยรู้สึกว่ามันเป็เกียรติยศในชีวิตเขาอย่างมาก แต่ว่าตอนนี้เขากลับพบว่า พวกเขาก็แค่เครื่องมือที่ถูกิเสวียนหลอกใช้เท่านั้น
หากิเสวียนอยากแก้แค้นแทนิอ๋องเพื่อปกป้องราชวงศ์ต้าิ ถ้าเขาคิดจะลงมือด้วยตัวเองคงไม่มีทางดูดพลังงานจากผลึกโลหิตเก้าโคจรแน่!
นั่นก็หมายความว่า ิเสวียน้าพลังนี้เอาไว้คนเดียวแต่แรกอยู่แล้ว เขา้าความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าิอ๋อง เป้าหมายของเขามันทะเยอทะยาน เขา้าชิงบัลลังก์ เป็ผู้ปกครองสูงสุดของราชวงศ์ต้าิอย่างแท้จริง!
“ิเสวียน เ้าได้เกียรติและความเคารพอันสูงสุดไปแล้ว อยู่เหนือคนนับหมื่น อยู่ใต้คนๆ เดียว แต่เ้ากลับไม่รู้จักพอ ความทะเยอทะยานและคามโลภของเ้ามันทำให้ข้ารู้สึกสะอิดสะเอียน!”
เสวียปู้หุ่ยถือดาบแล้วชี้ไปที่ิเสวียน สายตาของเขาเต็มไปด้วยการตำหนิอย่างรุนแรง ดวงตาของเขาเหมือนมีไฟพุ่งออกมา แต่ภายใต้สายตาแบบนี้ ิเสวียนกลับเหมือนมองไม่เห็น ไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย
เขาค่อยๆ กวาดสายตาไปทั่ว เมื่อมองเห็นองครักษ์หน้าพระที่นั่งห้าคนร่างแหลกสลายก็ไม่ได้รู้สึกใ กลับกัน พอเขาหันกลับมามองเสวียปู้หุ่ยสายตาของเขาก็เปลี่ยนไป
“แม่ทัพเสวีย ข้ารู้ว่าท่านจงรักภักดีมาก”
ผมขาวของิเสวียนปลิวไสว ใบหน้าของเขาเรียบง่าย “หากเ้ายอมสวามิภักดิ์ต่อข้า บัญชาการทหารแปดแสนคนมารับใช้ข้า ข้าจะไม่เอาโทษที่ผ่านมาและทำการต่อแขนให้ท่านใหม่ ทุกอย่างจะยังเหมือนเดิม ท่านจะยังเป็ขุนพลสร้างแผ่นดินเหมือนเดิม แค่เปลี่ยนนายใหม่มาเป็ข้าเท่านั้นเอง”
เสวียปู้หุ่ยเป็ขุนพลสร้างแผ่นดิน เขามีอำนาจการทหารแปดแสนนาย หากเสวียปู้หุ่ยยอมสวามิภักดิ์ ถ้าอย่างนั้นเขาก็จะได้อำนาจการทหารแปดแสนคนมาอยู่ในมือ ทุกอย่างหลังจากนั้นก็จะราบรื่นขึ้นไปอีก
“จะฆ่าจะแกงแล้วแต่เ้า แต่ข้าจะไม่ยอมให้ทหารแปดแสนนายไปรับใช้เ้าแน่นอน!”
น้ำเสียงของเสวียปู้หุ่ยหนักแน่นมาก เขารู้ดีว่าอย่างไรวันนี้เขาก็หนีไม่พ้น แต่ความซื่อสัตย์ในใจของเขาไม่มีทางแตกกระเจิงไปแน่นอน
“เพื่อปกป้องสิ่งที่เชื่อมั่นในใจแล้วต้องตายอนาถอยู่ที่นี่ ไม่มีใครจดจำเ้าได้หรอกนะ ไม่มีใครรู้ว่าเ้าหยิ่งในศักดิ์ศรีแค่ไหน เ้าต้องตายอย่างไร้ค่า”
น้ำเสียงของิเสวียนเหมือนไม่พอใจ “ข้าจะให้โอกาสสุดท้าย สวามิภักดิ์ต่อข้า หรือว่า ตาย”
“ิเสวียน เ้าไม่เข้าใจความหมายของข้าเลย เ้ามันก็แค่หนอนน่าสงสารที่ลุ่มหลงในอำนาจ ที่เ้าคิดว่าข้าจะตายอย่างไร้ค่าเพราะในใจของเ้าไม่มีความศรัทธา เ้าไม่มีวันเข้าใจหรอกว่าพลังของคนที่มีความเชื่อมั่นศรัทธามันแข็งแกร่งแค่ไหน”
“เราสามารถถูกทรมาน ทนรับความเ็ปแสนสาหัส เพื่อเกียรติยศของต้าิ เพื่อประชาชนต้าิกว่าหลายล้านคน หรือแม้แต่เสียสละชีวิตของตัวเอง! การตายแบบนี้มันไม่ใช่เื่คุ้มค่า แต่ ... แต่มันคือเกียรติที่มีความสุข”
สายตาของเสวียปู้หุ่ยเหมือนได้ตัดสินใจอย่างแน่นอนแล้ว “ดังนั้น ข้าไม่มีวันยอมสวามิภักดิ์ต่อฏอย่างเ้าแน่นอน ต่อให้ข้าต้องร่างกายแหลกสลาย ใจข้าก็ไม่เสียใจเลย!”
ร่างกายแหลกสลาย ใจข้าก็ไม่เสียใจเลย!
ิอู่กับิเยวี่ย และคนที่เหลือที่อยู่ด้านหลังพอได้ยินคำพูดที่หนักแน่นของเสวียปู้หุ่ยแล้ว พวกเขาก็มีความรู้สึกไม่ต่างจากเสวียปู้หุ่ยเลย
“หนวกหู”
สีหน้าท่าทางของิเสวียนนิ่งมาก เขายื่นมือขวามาข้างหน้า ปลายเล็บของเขามีแสงสีแดงเืออกมา จากนั้นก็ปล่อยมันไปที่หน้าอกของเสวียปู้หุ่ย ทั้งๆ ที่เป็สายฟ้าเพียงเส้นเล็กๆ แต่กลับะเิหน้าอกของเสวียปู้หุ่ยออกได้!
สายฟ้าสีเืพุ่งเข้าสู่ร่างกายของเสวียปู้หุ่ยแล้วะเิชีพจรของเขาจนฉีกขาด เสวียปู้หุ่ยล้มลงกับพื้น พลังชีวิตของเขาลดลงอย่างรวดเร็ว
สำหรับิเสวียนแล้ว ทหารแปดแสนนายจะทำให้แผนการของเขาเป็ไปได้อย่างราบรื่น แต่ต่อให้ไม่มี เขาก็แค่ต้องลงแรงมากขึ้นเท่านั้นเอง
“ท่านแม่ทัพเสวีย!”
ิอู่ร้องะโออกมา เมื่อเห็นเสวียปู้หุ่ยล้มลงจมกองเืดวงตาของเขาก็แดงก่ำ
ตอนนี้ิเสวียนแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม เขามีร่างนักรบที่แข็งแกร่งมากที่สุดในราชวงศ์ต้าิอยู่แล้ว ในเวลานี้ทะลวงระดับไปจนถึงขอบเขตอมฤตได้ เขาเดินไปสู่เส้นทางสายมารอย่างเต็มตัว ฆ่าคนเหมือนผักปลาโดยไม่มีความลังเลใดๆ เลย
ความสามารถของเขาไปสู่ระดับใหม่แล้ว มันเหนือกว่าผู้คนทั้งหมดที่มีอยู่
ิเสวียนเอามือไขว้หลัง ผมขาวของเขาสยายพาดบ่า มีลมปราณสายฟ้าสีเืแผ่กระจายออกมาตามร่างกายราวกับเป็ผู้ปกครองสูงสุดของโลกใบนี้
เซิ่นเจิ่นโหวเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากด้านข้าง เขารีบเดินมาข้างกายของิเสวียนแล้วคุกเข่าลงข้างหนึ่ง แล้วพูดเสียงเข้มว่า “ยินดีด้วยพะยะค่ะองค์ชายเก้าที่ทะลวงระดับสำเร็จ ความสามารถของท่านไร้เทียมทานแล้ว หลังจากกลับวัง ขอแค่ทรงบัญชาเราจะเริ่มแผนการของเราทันที”
ทุกคนได้ยินดังนั้นก็รู้สึกใอย่างมาก คิดไม่ถึงเลยว่าิเสวียนจะวางแผนล่วงหน้าเอาไว้แล้ว แม้แต่ในวังหลวงก็มีคนคอยสนับสนุนเขาอยู่
กลับวังหลวงไปในครั้งนี้ จะต้องเกิดการนองเืครั้งใหญ่ขึ้นอย่างแน่นอน
ิเสวียนออกคำสั่งให้เซิ่นเจิ่นโหวจับคนที่เหลือกลับวัง เห็นสภาพเสวียปู้หุ่ยนองเือย่างอนาถทุกคนก็ไม่มีใครกล้าขัดขืน ยอมเชื่อฟังกันหมดและตามิเสวียนเดินทางไปยังทางออกดินแดนอสูรว่านโซ่ว
ิอู่กับิเยวี่ยรู้สึกสิ้นหวังมาก พวกเขารู้ว่าิเสวียนกลับวังไปแล้วจะต้องเกิดการนองเืครั้งใหญ่ขึ้นแน่นอน!
ส่วนเจียงซืออี่ก็ใอึ้งอยู่กับที่ มันทำให้นางเข้าใจทุกอย่างว่าทำไมิอวี่ถึงต้องชิงหัวใจสิงโตเพลิงจินเหยียน ทำไมเขาถึงได้ทำมันอย่างเงียบๆ ที่แท้เขาน่าจะรู้แผนการของิเสวียนนานแล้ว เพียงแต่เขาไม่พูดเพราะกลัวทุกคนต้องเดือดร้อน!
ทุกคนคิดว่าิอวี่ทรยศ แต่ตอนนี้เจียงซืออี่ถึงได้เข้าใจว่าิอวี่ต่างหากที่เป็คนที่คิดจะปกป้องราชวงศ์ต้าิ!
แต่ว่าตอนนี้พูดไปแล้วจะมีประโยชน์อะไร? ิอวี่ถูกอสูรตาเดียวกินไปแล้ว เขากลับมาไม่ได้อีกแล้ว ...
ต้าิจบสิ้นแล้ว
ทุกคนจากไปด้วยความสิ้นหวัง ทำให้บรรยากาศเงียบลงไปหมด เหลือเพียงเสวียปู้หุ่ยคนเดียวที่นอนจมกองเือยู่
ฝนตกลงมาอย่างหนักเหมือนเดิม มันตกหนักและยังหนาวเย็นราวกับว่ากำลังระบายความคับแค้นใจออกมา
“ตู้ม!”
เสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าดังขึ้นเรื่อยๆ ฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก แต่หากสังเกตดีๆ ก็จะพบว่า สายฟ้าทุกสายเหมือนกำลังมุ่งไปด้านหน้า ราวกับกำลังเพาะบ่มอะไรบางอย่าง ...
แล้วสถานที่ที่สายฟ้าเ่าั้มุ่งไปมันก็คือป่าที่หยามู่นั้นอยู่!
สายฟ้าพวกนี้พุ่งไปยังชายหนุ่มที่อยู่กลางป่า!
.......
ย้อนกลับไปเมื่อสิบห้าวันก่อน ในร่างกายของหยามู่ ดินแดนสีเื
ในโลกที่ไร้ขอบเขตที่สิ้นสุด ิอวี่ต่อสู้กับิญญาอสูรอย่างต่อเนื่อง ิญญาอสูรที่พ่ายแพ้ให้กับเขานั้นมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ !
ิอวี่เริ่มต่อสู้กับิญญาอสูรเมื่อสองเดือนก่อน ถึงแม้อสูรระดับสิบจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ความสามารถของิอวี่ก็แข็งแกร่งมากขึ้นด้วยเช่นกัน!
เขาอยู่ฝึกฝนในดินแดนนี้อย่างต่อเนื่อง เขาดูดซับพลังฟ้าดินอย่างบ้าคลั่งและสลายให้เป็ลมปราณในตัวเองหล่อเลี้ยงร่างกายอย่างต่อเนื่อง
และในการต่อสู้ของิอวี่ เขาก็สลับพลังหยินและหยางสูงสุดไปมาอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้เขาคุ้นชินกับการใช้พลังทั้งสองอย่างแล้ว
เพราะการต่อสู้ไม่หยุดทำให้ความเข้าใจในศาสตร์การต่อสู้ของิอวี่ไปสู่อีกระดับ เขาสามารถเข้าถึงทักษะการต่อสู้ทั้งหมดได้อย่างลึกซึ้ง
ในระยะเวลาประมาณสองเดือนพลังของิอวี่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เขาต่อสู้อยู่ตลอดเวลา ิญญาและร่างกายของเขาเข้ากันได้อย่างลึกซึ้ง ยิ่งได้เืของาาอสูรมาเสริม พลังของิอวี่ก็เลยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตลอดระยะเวลาสองเดือน!
ตอนนี้ิอวี่มีพลังเทียบเท่าราชสีห์เก้าพันแปดร้อยตัวแล้ว!
ในเวลานี้ ิอวี่สู้กับิญญาอสูรระดับสิบไปแล้วเก้าสิบเก้าตัว ตอนนี้เขากำลังต่อสู้กับิญญาอสูรตัวสุดท้ายอยู่
ิญญาอสูรตัวนี้มีความสูงกว่าห้าสิบเมตร รูปร่างเหมือนคน มีตาเดียว พูดให้ตรงก็คือิญญาอสูรหยามู่นั่นเอง
ิญญาอสูรดวงนี้เป็ิญญาอสูรที่แข็งแกร่งที่สุดที่าาอสูรสร้างขึ้นมา!
ตามลำดับที่าาอสูรสร้างกลไกขึ้นมา ขีดจำกัดสูงสุดในการต่อสู้ของเขาคือิญญาอสูรระดับสิบเก้าสิบเก้าตัว แล้วตอนนี้ิอวี่กำลังต่อสู้กับิญญาอสูรหยามู่ตัวที่หนึ่งร้อยอยู่ และเป็ตัวที่บ้าเืที่สุดด้วย
ในเวลานี้ิอวี่สู้กับอสูรหยามู่มาสามวันสามคืนแล้ว แต่เขาก็ยังไม่แพ้
าาอสูรตั้งสติและจับจ้องไปที่ิอวี่ เขาเห็นความเติบโตของิอวี่ตลอดสองเดือนที่ผ่านมา และเขาก็กำลังเข้าใกล้การสืบทอดพลังมากขึ้นแล้ว
ิอวี่จะเลยจุดสูงสุดของเขาไปได้ไหมนะ?
“ตู้ม!”
อสูรหยามู่โจมตีเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง แต่ิอวี่พลิกตัวหลบได้ หลังจากนั้นหยามู่ก็เงยหน้าขึ้นมา ดวงตากลมโตดวงเดียวของมันล็อคไปที่ลมปราณของิอวี่
จากนั้นมันก็พุ่งตัวเข้าโจมตีิอวี่อย่างรวดเร็ว แขนทั้งสองข้างของมันมีลายเส้นกล้ามเนื้อขึ้นมาแล้วซัดหมัดเข้าใส่ิอวี่
ิอวี่ถือกระบี่หวงฉวนในมือ ขณะที่กำลังป้องกัน ลมปราณแห่งความตายในกระบี่ก็ถูกดึงออกมา หนึ่งพันสาย สองพันสาย จนกระทั่งรวบรวมพลังแห่งความตายได้ทั้งหมดสามพันสาย
ิอวี่ฟันกระบี่ออกมา ลมปราณสามพันสายจากกระบี่หวงฉวนบีบจนหยามู่ต้องล่าถอยไป แต่หยามู่เหมือนไม่ได้รู้สึกเ็ปเลยและยังโต้กลับมาอีกด้วย!
แต่ครั้งนี้ิอวี่ไม่ได้หลบ เขาเปลี่ยนมาจับกระบี่มือซ้ายและทับด้วยมือขวาอีกครั้ง เขาเอียงกระบี่ไปทางด้านขวาเล็กน้อยและรักษาท่าทางการชี้ปลายกระบี่ออกไปแบบนี้!
“ฮือ ... ”
ด้านหลังของิอวี่ปรากฏเงาโครงกระดูกสีขาวขึ้นมา เงานั่นมีความสูงประมาณสามสิบเมตร ถึงแม้ตัวของิอวี่จะเล็กมากเมื่ออยู่ใต้เงาโครงกระดูกสีขาว แต่ว่าเขากลับเป็ศูนย์กลางจิตใจของเงาโครงกระดูกนี้!
ิอวี่แทงกระบี่ออกมา โครงกระดูกด้านหลังเขาก็ส่งเสียงออกมาอย่างน่าสะพรึงและทำการซัดกรงเล็บออกมา
ิอวี่แทงกระบี่หวงฉวนก็เหมือนการที่เงาโครงกระดูกสีขาวซัดกรงเล็บขวา ท่าทางเหมือนกันไม่มีผิด มันพลังเทียบเท่าราชสีห์เก้าพันแปดร้อยตัวและปะทะเข้ากับหมัดขวาของหยามู่เต็มๆ !