จากความทรงจำชาติก่อนของข้าเกี่ยวกับการฝึกบำเพ็ญ ขั้นตอนต่างๆ ในการฝึกบำเพ็ญนั้นไม่ใช่แค่เพียงนั่งสมาธิอย่างเดียวถึงจะก้าวข้ามขีดจำกัดได้ การหาสถานที่ที่มีพลังปราณอุดมสมบูรณ์เพื่อเข้าฌานนั้นเป็พื้นฐาน อีกทั้งยังต้องเสริมด้วยเม็ดยาลูกกลอนบำรุงมากมาย นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นขณะก้าวข้ามขีดจำกัดอาจดึงดูดผู้ที่มีเจตนาร้ายเข้ามาได้ ดังนั้น ผู้ที่มีอำนาจและทรัพยากรมักจะหาเพื่อนร่วมทางที่ไว้ใจได้มาช่วยคุ้มกัน
ความรู้เหล่านี้ส่วนใหญ่ได้มาจากนิยายหรือเกม แน่นอนว่าขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ของแต่ละโลกด้วย บางเื่ก็มีผู้บำเพ็ญระดับปราณก่อกำเนิดเต็มไปหมด บางเื่แม้แต่ผู้บำเพ็ญระดับสร้างรากฐานยังหายากเต็มทน ส่วนโลกนี้เป็แบบไหน ต่อไปต้องหาทางศึกษาเพิ่มเติม แต่จากข้อมูลที่ข้ามีอยู่ในปัจจุบัน แม้แต่สำนักขนาดกลางอย่างสำนักอาทิตย์อัสดงยังมีผู้บำเพ็ญระดับแก่นพลังปราณอย่างน้อยสามสี่คนคอยเฝ้าระวัง แสดงว่าพลังปราณของโลกนี้ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์
แต่เห็นได้ชัดว่า เขาอาทิตย์อัสดงแห่งนี้นอกจากจะเป็สถานที่เหมาะแก่การฝึกบำเพ็ญแล้ว เงื่อนไขอื่นๆ ข้าก็ไม่มีเลย อีกทั้งยังอันตรายมากด้วย
พูดถึงเขาอาทิตย์อัสดง พื้นที่กว้างใหญ่ พลังปราณอุดมสมบูรณ์ ในป่าลึกมีสัตว์อสูรและสัตว์ิญญาระดับต่ำอาศัยอยู่มากมาย สำนักอาทิตย์อัสดงจะส่งศิษย์ไปกำจัดทุกๆ สองสามเดือนเพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์อสูรขยายอาณาเขตมากเกินไป
การเข้าไปปะปนกับพวกสัตว์อสูรก็เป็หนทางหนึ่ง แต่นั่นหมายความว่าต่อไปนี้ข้าจะต้องต่อสู้กับศิษย์สำนักอาทิตย์อัสดงอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านั้น ข้าต้องหาทางฝ่าด่านผู้บำเพ็ญระดับสร้างรากฐานที่เฝ้าอยู่เสียก่อนจึงจะเข้าไปในอาณาเขตของสัตว์อสูรได้ เข้าไปง่ายแต่จะออกมายาก นี่จึงเป็สาเหตุที่ข้าไม่เสียเวลาไตร่ตรองมากoyd
ด้วยความกังวลหนักอึ้ง ข้าจึงแปลงร่างเป็สุนัขชั่วคราว ตอนนี้พลังปราณของข้าใช้ได้เพียงครึ่งชั่วยาม ข้าจึงต้องหาูเาห่างไกลผู้คนเพื่อหลบซ่อนเสียก่อน รอจนกว่าพลังปราณจะฟื้นฟูแล้วค่อยหาทางอื่น
เช้าวันรุ่งขึ้น เถียนหรูชิงถูกผู้บำเพ็ญชุดแดงคนหนึ่งและผู้บำเพ็ญชุดน้ำเงินอีกคนนำตัวไปคุมขัง ข้าที่ติดตามพลังจิตของนางไปแปลงร่างเป็หนูซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้า เห็นเหตุการณ์นี้ทั้งหมดอย่างชัดเจน
ดวงตาที่หลุบครึ่งของเถียนหรูชิงดูเศร้าหมอง ผู้บำเพ็ญชุดแดงซึ่งเดินนำมานั้นอยู่ในระดับแก่นลมปราณ เขาพาคนทั้งสองไปยังห้องขังที่อยู่ข้างคอกไก่ ยกมือขวาไปที่ประตูห้องขังและปล่อยพลังปราณ ประตูเหล็กหนาหนักค่อยๆ เปิดออก มองเห็นเพียงบันไดที่ทอดยาวลงไปเบื้องล่าง บรรยากาศในห้องขังอับชื้นและมืดมิด ชวนให้รู้สึกไม่ปลอดภัย มวลอากาศยังอบอวลด้วยกลิ่นของมูลไก่จากเล้าไก่ที่อยู่ไม่ไกล สำหรับหญิงสาวที่ยังไม่มีคู่ครองอย่างนาง นับได้ว่าเป็ความอัปยศอย่างยิ่ง
"ศิษย์หลาน เชิญ" ผู้บำเพ็ญชุดแดงผายมือ เถียนหรูชิงกัดริมฝีปากเบาๆ ดูท่าทางจะไม่ยอมเชื่อฟังง่ายๆ "อาจารย์ลุง...ช่วยไปขอร้องท่านเ้าสำนักให้หน่อยไม่ได้หรือเ้าคะ? ดูสิเ้าคะ...ที่นี่อยู่นอกสำนัก สภาพแวดล้อมสกปรกเพียงนี้...จะให้ฝึกบำเพ็ญได้อย่างไร?"
เพื่อให้ผู้ที่ถูกลงโทษได้ัักับความยากลำบากในการฝึกบำเพ็ญ ห้องขังของสำนักอาทิตย์อัสดงจึงสร้างไว้ใต้ดินใกล้กับคอกสัตว์ นอกจากจะต้องทนกับเสียงไก่แล้ว ยังมีกลิ่นมูลไก่และหนู แม้ว่าการใช้พลังปราณกั้นจะเป็วิธีหนึ่ง แต่ผู้บำเพ็ญระดับต่ำไม่สามารถทำเช่นนี้เป็เวลานานได้ ในที่สุดก็ต้องกลับไปสู่สภาพเดิม
เห็นเถียนหรูชิง้าใช้สิทธิพิเศษ ผู้บำเพ็ญชุดแดงจึงมองไปยังผู้บำเพ็ญชุดน้ำเงินด้วยความรู้สึกผิด รีบยกมือขึ้นห้ามเถียนหรูชิง "ศิษย์หลานที่รัก อย่าทำให้ข้าลำบากใจเลย หากท่านเ้าสำนักปล่อยผ่านง่ายๆ กฎระเบียบของสำนักจะเหลืออะไร?"
เถียนหรูชิงก้มหน้าไม่พูดอะไร เดินไปตามทางที่ผู้บำเพ็ญชุดแดงชี้ไป ผู้บำเพ็ญชุดแดงถอนหายใจแล้วพูดว่า "ตอนนี้ห้องขังว่างเปล่า เลือกอยู่ห้องที่ถูกใจเถอะ อู้หยาง ไปตักน้ำสะอาดมาสักโอ่งซิ"
ลูกศิษย์ชุดน้ำเงินนามว่าเถียนอู้หยางโค้งคำนับรับคำสั่งแล้วจากไปทำหน้าที่ เมื่อเห็นว่าเขาลับตาไปแล้ว ผู้บำเพ็ญชุดแดงจึงกระซิบว่า "ปกติแล้ว ศิษย์ที่ถูกจองจำต้องอดอาหารและฝึกตนเอง แต่...อย่าห่วงเลย ข้าจะให้อู้หยางส่งอาหารอร่อยๆ มาให้ทุกวัน ดีหรือไม่?"
ที่แท้เป็คนชอบกินนี่เอง แถมยังช่างเลือกอีกต่างหาก! ไม่แปลกใจเลยที่ชอบบ่นเื่กลิ่นเหม็นเขียวในยาบำรุงจิต นางควรจะมาเรียนรู้กับข้า แม้แต่เนื้อเน่าและแมลงยังกินได้อย่างเอร็ดอร่อย นี่มันส้มหล่นชัดๆ ไม่ใช่หรือ?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้